หนูนิดและพี่หน่อย ดอกแก้ว - มิตรภาพที่เริ่มต้นเพียงเสี้ยววินาที


ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการเริ่มต้นมิตรภาพที่สนิทสนมแน่นแฟ้น

ในสังคมปัจจุบัน หลายคนเจอหน้ากันบ่อย แต่กลับรู้จักกันเพียงผิวเผิน เพราะไม่สนใจ ใส่ใจที่จะทำความรู้จักกับบุคคลอื่นอย่างแท้จริง หากไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มีอยู่ไม่กี่คนที่พึ่งจะได้พบกัน แต่เหมือนกับคนที่รู้จักคุ้นเคยกันมานาน และมิตรภาพได้เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่วินาทีนั้น เมื่อมองให้ลึกลงไปมากขึ้น บุคคลทั้งสองที่ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการเริ่มต้นมิตรภาพที่สนิทสนมแน่นแฟ้น อาจจะมีหลายสิ่งที่คล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอ , บุคลิก วิธีคิด, อารมณ์, ความรู้สึก ที่เพียงแค่มองตาก็รู้สึกว่า คนนี้เป็นคนคอเดียวกัน





หนูนิดและพี่หน่อย ดอกแก้ว มีโอกาสเจอกันครั้งแรกเมื่อ 17 มี.ค.2550 ที่บ้านพ่อครูบาสุทธินันท์ เพียงเสี้ยวนาทีที่พบหน้า ก็เหมือนคนที่คุ้นเคยกันมานาน เดินเข้าไปหากัน และนอนพักด้วยกัน และโทรพูดคุยติดต่อกันอยู่บ่อยๆนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เพิ่มความสนิทสนมเป็นกันเองให้แน่นแฟ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

หลายคนมักจะเอากรอบมาครอบตัวเอง อาจเพราะผู้คนรอบข้างที่ได้พบเจอ สัมผัสจากสถานที่อยู่ ที่ทำงานนั้น มุ่งแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว หรือสวมหน้ากากมากเกินไป ทำให้การที่จะคบมิตรใหม่ ต้องระวังตัวพอสมควร บางคนยังคงมองการสื่อสารกับบุคคลที่รู้จักทาง Internet ในแง่ลบตามกระแสข่าวจากสื่อสารมวลชนที่ได้ยินมา

บางคนจึงได้แต่อ่านบันทึก สงวนท่าที ความคิดเห็นในการแสดงความคิดเห็น แต่ความเป็นจริง ในสังคมมีทั้งดีและไม่ดี บุคคลที่รู้จักทาง Internet ก็มีความรู้สึก ชีวิต จิตใจเช่นคุณ

หลายคนได้ชมภาพแห่งมิตรภาพของหนูนิดและพี่หน่อยแล้ว บ้างอิจฉา อมยิ้ม ชื่นชมในมิตรภาพที่เกิดขึ้น แต่ลองมองย้อนกลับมาที่ตนเอง ซึ่งมีโอกาสได้รับรู้ข้อมูล อ่านบันทึกใน gotoknow เหมือนกับคนทั้งคู่

น่าคิดว่า

  1. ทำไมทั้งหนูนิดและพี่หน่อย ดอกแก้ว จึงใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการเริ่มต้นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น
  2. แล้วทำไมหลายท่าน จึงไม่ได้สัมผัสกับมิตรภาพภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที จนสิ่งเหล่านี้งอกงามไปตามช่วงเวลาแต่ละวันและนาทีที่ผ่านไป บ้างหนอ?







หมายเลขบันทึก: 105030เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน 2007 00:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • อิจฉาจัง  อยากมีเสี้ยววินาทีแบบนี้ด้วย   ที่มีความอบอุ่น  จริงใจ

ขอบคุณค่ะ  คุณบอนที่มีเรื่องเล่าที่มีความสุขค่ะ

  • ในความเรียบๆง่ายๆของพี่หน่อยมีความจริงใจที่สามารถสัมผัสได้ด้วยความรู้สึก และความจริงใจอันนี้พี่หน่อยได้มอบให้ผู้คนรอบข้างได้ตลอดเวลา..สังเกตุได้จากบันทึกที่พี่หน่อยเขียนทุกอย่างที่บันทึกไว้แม้จะเป็นเรื่องราวทั่วไปๆ แต่ก็ได้บ่งบอกถึงการให้ความสนใจ  ...ใส่ใจดูแล..ให้ความสำคัญกับเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ธรรมดา
  • ก็ไม่รู้เหมือนกันนะค่ะ..มันเป็นความรู้สึกที่ลึกๆ ซึ่งที่ได้สัมผัสถึงความอ่อนโยนในตัวของพี่หน่อยซึ่งคนใกล้ตัวใกล้ใจพี่หน่อยคือพี่จืดที่จะอธิบายได้มากกว่านี้

สวัสดีค่ะ

คุณหน่อยเข้ามาให้ความเห็นไว้ในบันทึกดิฉันเรื่องหนึ่งค่ะ ซึ่งเป็นการconfirmแนวคิดปลอดภัยในชีวิตไว้ก่อน คือการใช้เงินด้วยความระมัระวัง พยายามออมไว้บ้าง เท่าไรก็ได้ ในแต่ละเดือน และให้ทำลืมไปเลย เอาไว้ฉุกเฉินจริงๆ ค่อยนำออกมา

ดิฉันก็ประทับใจในการให้ความเห็นของคุณหน่อยค่ะ

และไม่แปลกใจ ในมิตรภาพของคุณทั้งสอง ที่มีความอบอุ่นและจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง

ความเห็นของคุณหน่อย---จริงๆคะ ไม่ประมาท ดีที่สุด ...สมัยก่อน ดิฉัน ไม่เห็น ความสำคัญของการทำประกัน หรือการออมเลย...

    แต่ตอนนี้ คนในโครงการ ต้องทำทุกคน.

การตั้งข้อสังเกตของบอน ต่อ สังคมปัจจุบัน ก็น่าสนใจนะ....คนเรา เจอกัน แรกๆ ก็ไม่รจะแสดงออกอย่างไร หรือ คุยอะไรกันดี

หรือเปิดเผยได้แค่ไหน

   แต่ มันไม่ใช่เรื่องผิด ที่ มนุษย์เราจะเป็นอย่างนั้น

เพราะเรามาจากต่างภูมิหลัง ต่างความพื้นเพ

   มันก็พูดยากนะ  แต่เราก็ต้องเรียนรู้นะ  แต่เราจะเปิด

โอกาส ให้ตัวเราเอง เรียนรู้ ผู้คน เรียนรู้ความรัก เรียนรู้มิตรภาพ เรียนรู้สิ่งดีๆ ได้อย่างไร

   แต่ก่อน พี่หน่อย ก็เป็นคนขี้กลัว ผู้คน อาย เหมือนกันท ี่จะรู้จัก เพื่อนใหม่ คนที่ไม่คุ้นเคย

   แต่ พอเราก้าวข้าม ความรู้สึก แบบนี้มาได้ มันจะรู้สึก สบายๆ มากเลย

   เหมือนที่ใครหลายคน ก็ข้ามมาได้แล้ว

   ก้าวข้ามมาด้วยใจ ที่ต้องการ ความรู้สึกดีๆ เพราะเราก็ เปิดเผย ความรู้สึกดีๆ ที่แท้จริง

   ความดี ความแท้จริง ความเคารพในกันและกัน

แ ม้จะอ่อนกว่า ก็ตาม

 

ขอบคุณสำหรับมิตรภาพและความจริงใจค่ะพี่หน่อย

สวัสดีครับครูอ้อย
   แหม นายบอนว่าครูอ้อยมีเสี้ยวเวลาแบบนี้บ่อยไปนะครับ แต่อาจจะไม่รู้ตัวก็ได้นา

สวัสดีครับ หนูนิด
    ได้อ่านความเห็นจากคนที่ก่อมิตรภาพเพียงเสี้ยววินาทีแล้ว อือม ทึ่ง ปลื้ม ยิ้ม กับสิ่งที่ถ่ายทอดอย่างตรงๆ

สวัสดีครับ sasinanda
    ความคิดเห็นที่ละเมียดละไมของพี่หน่อยนั้น สื่อออกมาจากหัวใจได้อย่างตรงไปตรงมาครับ แม้แต่บันทึก ข้อความที่สื่อออกมาอย่างธรรมดาๆ แต่เติมความจริงใจลงไป ก็ทำให้หลายคนเกิดความประทับใจอย่างมากมาย

สวัสดีครับ พี่หน่อย
   นึกว่าจะไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเสียแล้ว เมื่ออยู่ๆเจอคนมาวิเคราะห์วิจารณ์พี่หน่อยถึงเพียงนี้ แต่เห็นด้วยกับที่ว่า การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ และการก้าวข้ามความรู้สึกจากเขินอาย จนสามารถเปิดเผยความรู้สึกดีๆออกมาได้อย่างเต็มที่

  อย่างที่พี่หน่อย เจอะหน้าหนูนิด แหม เข้ากันได้อย่างกลมกลืนจริงๆนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท