ทำไมปีนี้สินค้าเกษตรช่างตกต่ำเสียเหลือเกิน…ผมในฐานะผู้บริโภคที่เป็นลูกเกษตรกรคนหนึ่ง เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วค่อนข้างตกใจเป็นอย่างมาก และสงสารพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะคนที่ไม่มีทางเลือก เพราะราคาสินค้าเกษตรแต่ละตัว ตกต่ำมาก ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก ผลไม้ แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้พี่น้องเกษตรกรจะอยู่กันอย่างไร? ใครตอบได้ช่วยทีครับ สำหรับวันนี้มีสิ่งหนึ่งที่อยากมาเล่าสู่กันฟังก็คือว่า ในเรื่องของการทำเกษตรกรรมแบบประณีตนั่นซิครับ ถึงแม้จะมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาก็ไม่วายที่จะต้องเจอกับปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกเช่นเคย ครั้นจัดการในเรื่องของกระบวนการผลิตได้แล้วก็มาพบกับปัญหาด้านการตลาดตามมาเช่นเคย
ปัญหาด้านการตลาดอย่างไร? ก็คงเป็นคำถามที่ต้องหาทางออกนะครับ และคงต้องยอมรับโดยสดุดีเช่นกันครับว่าพี่น้องเกษตรกรเราโดยส่วนใหญ่มีความรู้ด้านการตลาดน้อย แต่นั่นก็ยังพอทุเลา สำหรับประเด็นที่ไม่กล้าที่จะไปขายนี่ซิครับมันหนักหนาสาหัสที่เราจะต้องมาช่วยกันแก้ไขสำหรับคนที่จะไปช่วย หรือที่มักเรียกตัวเองว่านักพัฒนา แล้วพอมีทางออกบ้างไหม? ก็คงเป็นโจทย์ที่ให้เราได้ขบคิดกันต่อนะครับ...จากปัญหาที่ไม่กล้าไปขายผมได้เริ่มศึกษากับพี่น้องเกษตรกรใน 3 จังหวัดใน 2 ปีที่ผ่านมาคือ จังหวัดร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ ผลปรากฏว่าเริ่มเห็นร่องรอยของความสำเร็จอยู่บ้าง
โดยกระบวนการของเราก็เริ่มจากการไปหนุนแนวคิด และกระบวนการที่พี่น้องเกษตรกรอยากจะทำ แล้วลงไปเป็นเพื่อนคู่คิด และร่วมวางแผนในกระบวนการผลิต แล้วลงมือผลิตครั้นผลผลิตออกมาก็มาทำตลาดชุมชน เพื่อให้แต่ละคนเอาผลิตภัณฑ์ออกมาขาย โดยกระบวนการวัดกึ๋นการผลิต (เพื่อประชันความสามารถในเรื่องของการจัดการความรู้ด้านการผลิต) และมีการประชาสัมพันธ์ตลาดชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกของการเริ่มต้นของการตลาด ผลผลิตของเรายังมีน้อยอาจจะกำหนดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก่อน ครั้นผลผลิตมากออกสม่ำเสมอค่อยขายทุกวัน ครั้นผลผลิตของตนเองได้เปลี่ยนสภาพเป็นเงินสดก็ทำให้เกิดความ กล้า และความอยากที่จะผลิต และขายตามมา
ตลาดชุมชนให้ความรู้ นับเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในกิจกรรมการตลาดของชุมชน เพื่อเชิญชวน และชักชวนให้ผู้จับจ่ายใช้สอยทั่วไปมาที่ตลาดของเรา โดยในหนึ่งสัปดาห์เราจะมีการถ่ายทอดความรู้ในเรื่องต่างๆ ฟรี ซึ่งอาจจะเป็นการอบรม หรือการสาธิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเรื่องที่จะมาถ่ายทอด ให้ความรู้สำหรับผู้ที่มาจับจ่ายซื้อของ ในตลาดเราซึ่งผู้มาก็จะได้รับความรู้กลับไปด้วย แล้วทีมงานก็จะมีการประเมิน และครั้งต่อไปสนใจเรื่องอะไรเราก็สอบถามจากผู้ที่มาในครั้งนั้นๆ เลย
จากแนวทางการขับเคลื่อนดังกล่าว ผมคิดว่าน่าจะเป็นทางออกหนึ่งในการที่จะช่วยจัดการกับปัญหาในเรื่องของการจัดการผลผลิต การไม่กล้าที่จะไปขายผลผลิตของพี่น้องเกษตรกร ครั้นมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้เกิดความมั่นใจทั้งในการผลิต และการขายอันจะส่งผลถึงความอยู่ดีกินดีของพี่น้องเกษตรกรต่อไปในอนาคต
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
16 มิ.ย. 50
สวัสดีครับอาจารย์ อุทัย อันพิมพ์
โอ้...สุดยอดของกระบวนการเลยนะครับนี่
ขอบคุณมากครับทุกๆ ท่านที่มาให้กำลังใจ
อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องมุ่งมั่นในการศึกษาหาความรู้
เกี่ยวกับกระบวนการเพิ่มศักยภาพการเป็นผู้ขาย (พ่อค้า) ที่ดีในชุมชน และระดับที่สูงขึ้นต่อไป