โอ้..แอ่นบินเล่นลมชมไปมา...
เหม่อมองฟ้าดาราหลบหลีกหนี...
เด่นดวงเดือนเลื่อนลอยคอยฤดี...
บุญเรามีคงพบประสบกัน...
เกริ่นกลอนกล่าวเล่าความตามจิตคิด...
มองมิ่งมิตรคิดไปในใจฉัน...
คนเกิดมาต่างก่อข้อผูกพัน...
เธอกับฉันมั่นเกลียวเกี่ยวก้อยเดิน...
ตาต่อตาใจต่อใจให้เธอแล้ว...
ไม่คลาดแคล้วรักมั่นแสนสรรเสริญ...
แขนเกี่ยวแขนแฟนใจให้ดำเนิน...
แสนเพลิดเพลินเพลงรักประจักษ์มี...
เรารักกันสรรสร้างทางกุศล...
เสรีมสร้างผลบุญมากเป็นศักดิ์ศรี...
รักกันเถิดเกิดเป็นไทยสามัคคี...
เมืองไทยนี้จะคงอยู่คู่โลกา...
ถ้าเราแตกแยกคิดคนละทาง...
ก็ไม่ต่างเกลียดกันฉันว่าหนา...
รักกันเถิดพี่น้องผองประชา...
ขอวันทากราบลง...ตรงใจ...เอย.
ฮา ๆ เอิก ๆ
นี้ถ้าผมยังไม่แต่งงาน ผมจะขอกลอนของอาจารย์ไปจีบสาวบ้างแล้วละ
อาจารย์ค่ะหนูคิดว่าความสามัคคี ความรักมันเกิดได้กับคนทุกคน แต่จิตใต้สำนึกของคนบางคนที่ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ความวุ่นวายสับสนมันจึงมี ความรักทำให้โลกสวยงาม และทำให้ชีวิตดับวูบได้ ฉนั้นจึงควรมีสติสิ่งใดควรหรือไม่ควร การมีเรื่องเดือดร้อนอยู่แล้วไม่สงบแล้วยังเพิ่มความแตกแยกวุ่นวายเพิ่มอีกเป็นคนแบบใหนกัน
เปิดบันทึกเห็นคุณจารุวัจน์...
อยู่จังหวัดยะลาพาใจหาย...
เสียงระเบิดตูมตามอยู่ไม่วาย...
อันตรายจงอย่ามีแก่คนดี...เอย
ขอบคุณครับ
คุณตุ๊กตาต่อเติมเสริมความคิด...
มาจากจิตใค้สำนึกรักผู้อื่น...
สามัคคีสติมาปัญญาคืน...
สุขสดชื่นจึงมีทุกผู้คน...เอย...
ขอบคุณครับ
อรฎา นาคฤทธิ์จิตจดจ่อ...
อ่านกลอนต่อสื่อรักเป็นไฉน...
เธอเฉลยนั่นคือ...รักชาติไทย...
อวยพรให้มีสุขทุกวันเอย...
ฮา ๆ เอิก ๆ
ขอบคุณครับ