จากบล็อก gotoknow.org/blog/pipat ของ ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ให้ข้อมูลผลการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 12 มิถุนายน 2550 ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง 2 ประการ คือ
ประการแรก ครม. เห็นชอบการจัดตั้ง “สถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
ประการที่สอง ครม. เห็นชอบการจัดตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนและประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”
ซึ่งในบล็อกมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกมาก
สิ่งที่เราสนใจคือ ข้อความที่ว่า
“สถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายใต้มูลนิธิพัฒนาไท ดำเนินการโดยคณะกรรมการสถาบันฯ มีวาระครั้งละ 4 ปี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการมูลนิธิพัฒนาไท”
คำถามคือ มูลนิธิพัฒนาไทคือใคร เพราะมีความสำคัญในการ “แต่งตั้ง” กรรมการสถาบันแห่งใหม่แห่งนี้ ได้ข้อมูลจาก เวบไซด์ http://pattanathai.nesdb.go.th ว่า
“มูลนิธิพัฒนาไท ก่อตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2539 โดย สภาพัฒน์ หรือสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสนับสนุนให้มีการก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาไทขึ้นอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2540 เพื่อเป็นกลไกคู่ขนานกับสภาพัฒน์ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ
"ตั้งแต่ช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 เป็นต้นมา ได้มุ่งเน้นบทบาทภารกิจในการแปลงนโยบายสู่ภาคปฏิบัติแนวคิดใหม่ การพัฒนาแบบองค์รวมที่เน้นคนเป็นศูนย์กลาง ยึดแนวทางการทำงานภายใต้การร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ เรียนรู้ร่วมกันกับภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในทุกมิติให้พึ่งตนเองได้และพึ่งพากันเองได้"
"ตัวอย่าง ผลงานที่มูลนิธิพัฒนาดำเนินงานร่วมกับภาคีพัฒนา เช่น การดำเนินงานตามแผนความร่วมมือไทย - สหประชาชาติ ปี 2540 -2543 แผนปฏิบัติการเร่งรัดการสร้างเศรษฐกิจพอเพียงและประชาสังคม ปี 2541 - 2546 โครงการสร้างสรรค์พลังแผ่นดิน ปี 2545 - 2546 โครงการธนาคารสมอง ปี 2543 - ปัจจุบัน รวมทั้งโครงการศึกษารูปแบบการบริหารการพัฒนาระดับพื้นที่ที่เอื้อต่อการแก้ปัญหาความยากจนแบบมีส่วน ปี 2546 โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการสรุปบทเรียนการดำเนินงานเมืองน่าอยู่ ชุมชนน่าอยู่ ปี 2546 และต่อเนื่องมาถึงโครงการขับเคลื่อนโยบายเมืองน่าอยู่ ชุมชนน่าอยู่ ในปี 2547 - 2549 ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://pattanathai.nesdb.go.th ”
ถ้าเช่นนั้น สถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แห่งใหม่นี้ ก็คงทำงานคู่ขนานไปกับสภาพัฒน์ฯ ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง “โดยสถาบันฯ จะเสนอแผนงานและกิจกรรมเพื่อเสนอขอการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นรายปี”
“สถาบันฯ จะแบ่งการบริหารงานออกเป็น 4 ส่วนหลัก คือ ส่วนงานด้านการศึกษาวิจัยและประสานเครือข่าย ส่วนงานด้านฝึกอบรมและพัฒนา ซึ่งรวมถึงกิจกรรมทางด้านการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ ส่วนงานด้านการบริหาร วางแผน งบประมาณและกิจการต่างประเทศ และส่วนงานด้านการติดตามประเมินผล”
ยังไม่ชัดเจนว่า สถาบันฯจะมีส่วนผลักดันในเชิงนโยบายออกมาได้มากน้อยเพียงใด เพราะ ผู้ “กำหนดยุทธศาสตร์ นโยบายแนวทางและมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแก่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน” คือคณะกรรมการขับเคลื่อนและประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ ครม. เพิ่งให้ความเห็นชอบจัดตั้งในวันที่ 12 มิย. นี้ โดยยังไม่เห็นมีการระบุว่า “คณะกรรมการขับเคลื่อนและประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” กับ “สถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ที่เห็นชอบจัดตั้งขึ้นมาพร้อมกัน จะมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ดูเหมือนคำว่า “สถาบันวิจัยและพัฒนา..” จะแปลว่า หน่วยงานใหม่อาจจะทำงานเชิงวิชาการเสียมากกว่า
เห็นด้วยค่ะว่าเรามีหน่วยงานทำเรื่องนี้เยอะแยะมาก แข่งกันทำดีก็อาจจะดีนะคะ แต่อย่าให้เป็นทำดีเพื่อเอาหน้า ไม่ขัดแขนขัดขากันอย่างที่ว่า ก็คงจะดีนะคะ