วันที่ 1 มิถุนายน 2550 มีการประชุมเกษตรอำเภอประจำเดือนพฤษภาคม ที่เลื่อนมาจากวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามข้อตกลงที่ให้อำเภอ เจ้าภาพ DW ได้นำเสนอกระบวน นำ Km ไปใช้ ลปรร. ในพื้นที่ จึงเริ่มด้วย
อำเภอพุนพิน โดย คุณกัมปนาถ สุวารักษ์ เกษตรอำเภอ ได้เล่าให้ฟังว่า โครงการ Food Safety ที่กำหนดให้เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ มาสมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งอำเภอพุนพินมีเป้าหมาย 720 ราย 26 กลุ่ม แต่จากการประชาสัมพันธ์โครงการ ให้เกษตรกรผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ ปรากฎว่า ไม่มีเกษตรกรสนใจมาสมัครเข้าร่วมโครงการเลย
อำเภอจึงใช้กระบวนการ KM ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระหว่างเจ้าหน้าที่กับ
คณะกรรมการบริหารศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล จากการ ลปรร. ร่วมกันทำให้คณะกรรมการศูนย์ ฯ ได้นำไปขยายผล และรับสมัครสมาชิกเข้าร่วมโครงการได้ครบตามเป้าหมาย
อำเภอเคียนซา โดยคุณทวีป อรรถพรพงษ์ เกษตรอำเภอ เล่าว่า อำเภอได้ใช้กระบวนการ KM โดยใช้รูปแบบการดำเนินงาน เหมือนกับวิธีการที่ใช้ในเวที DW โดยดำเนินการในศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง ศูนย์หลัก ตำบลพ่วงพรหมคร กิจกรรมพืชผักและเลี้ยงสัตว์ ศูนย์เครือข่ายตำบลบ้านเสด็จ กิจกรรมการปลูกยางพารา ตำบลเคียนซา กิจกรรมการปลูกปาล์มน้ำมัน นำกระบวนการ KM มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เกษตรกรให้ความสนใจค่อนข้างสูง
อำเภอกาญจนดิษฐ์ โดยคุณธวัชชัย ชุมวระ เกษตรอำเภอ เล่าถึงกระบวนการ ขั้นตอนในการทำ KM ในเวที DW เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ที่ผ่านมา
จากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนกัน
คุณพัชรินทร์ รักษาพราหมณ์ เกษตรอำเภอท่าฉาง ได้เล่าถึงการรับสมัครเกษตรกรในศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียงของอำเภอว่า หลังจากคัดเลือกเกษตรกรที่เป็นจุดศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียงได้แล้ว จึงได้นัดประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์บริการฯ และผู้สนใจใน ตำบลท่าเคย เพื่อชี้แจงรายละเอียด โดยนำเกษตรกร จากศูนย์เรียนรู้ฯที่จะดำเนินการ มาเล่าประสบการณ์และกิจกรรมที่ได้ดำเนินการอยู่ ให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบด้วย จากนั้นจึงเปิดรับสมาชิกผู้สนใจที่จะเข้าร่วมการ ลปรร. ซึ่งจะมีขึ้นประมาณ 5 ครั้ง มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง แล้วกว่า 50 ราย
CKO. ท่านเกษตรจังหวัด คุณเหมวงศ์ ประกอบบุญ ได้เพิ่มเติมว่า ให้ทุกคนเปิดใจในการ ลปรร. ตามที่ได้ตั้งวิสัยทัศน์ไว้ การช่วยกันแชร์ความรู้ จะช่วยแก้ปัญหาของเราได้ ให้เราเป็นผู้อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ กับอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกร เกษตรอำเภอก็อำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ สุดท้ายจะได้ Best Practice ของแต่ละส่วน แต่ละงาน เพื่อนำมาพัฒนางาน คน และองค์กรของเราต่อไป
ซึ่งพอจะมองเห็นภาพการเริ่มต้น การจัดการความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในเวทีต่าง ๆ ตามระบบส่งเสริมการเกษตรของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้บ้างแล้ว สำหรับความเคลื่อนไหวต่าง ๆ จะนำเสนอในโอกาสต่อไป
บันทึกมาเพื่อ ลปรร. ครับ
ชัยพร นุภักดิ์เรียนพี่หนุ่ม ร้อยเกาะ