ถวายความรู้เรื่องบล็อกให้พระที่มหาจุฬาฯ(2):พระและอาจารย์ของมจร.


อบรมบล็อก

 ขอเขียนต่อจากบันทึกนี้นะครับ ปกติผู้เขียนเป็นคนที่คุ้นกับพระ เนื่องจากว่าสมัยเด็กๆเป็นเด็กวัด ประมาณว่า บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ปรึกษาหารือ ไม่ต้องเสียสตางค์ แถมตอนเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ก็ได้อาศัยอยู่กับพระอาจารย์นริศ ที่วัดวิเศษการ แถวโรงพยาบาลศิริราชในกรุงเทพฯด้วย

 

  ตอนหลังได้ข่าวว่าอาจารย์นริศ ไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดเขาแก้ว จังหวัดสงขลา ผู้เขียนยังไม่มีเวลาได้ไปเยี่ยมท่านเลย…นั่นคือประสบการณ์ที่อยู่กับพระรวมถึงตอนไปถือปิ่นโตตามพระบิณฑบาต แถวๆตลาดรถไฟบางกอกน้อยด้วย…(ทำไมตอนนั้นไม่เจออังศุมาลิน เนอะ เผื่อจะได้เป็นโกโบริบ้าง555)

 

 

 ตอนไปจัดกิจกรรมให้พระและอาจารย์ที่มหามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตามคำเชิญของ ท่านผศ.ดร.พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส

 

 ต้องขอบคุณทีมงานของUsableLabs และสมาชิกที่คอยต้อนรับพระและอาจารย์ที่เขียนบันทึกวันนั้น ซึ่งมีหลายท่านมาก กิจกรรมที่ผู้เขียนจัดให้พระและอาจารย์คือ กิจกรรมก่อนการเขียนบันทึกเป็นเรื่องเล่าสมัยเด็ก เช่นเล่าว่าทำไมถึงมาบวช หรือมีความประทับใจอะไรสมัยเด็กๆ(ต้องขอบคุณมะปรางเปรี้ยวที่แจ้งท่านผศ.ดร.พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ว่าควรมีกิจกรรมก่อนการเขียนบันทึกและแนะนำผู้เขียน ทำให้ท่านอาจารย์ติดต่อผู้เขียน)

 

 

       ท่านดร.แม่ชีกฤษณา รักษาโฉม ท่านเล่าว่าตอนเด็กๆตามคุณยายไปวัด เลยชอบวัดนอกจากนี้ยังชอบฝนตก เมื่อตอนอากาศเย็นหรือเจอฝนจะชอบนั่งสมาธิ(คำพูดเล่านี้ท่านพระครู ถ่ายทอดให้พวกเราฟัง) กิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจก่อนการเขียนบันทึก ตอนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันปรากฏว่า พระและอาจารย์แซวกันว่า อาจารย์บางท่านมีแรงบันดาลใจอะไรที่สึกจากพระมาเป็นอาจารย์ (เพราะอาจารย์ก่อนสึกบวชมาไม่น้อยกว่า 10 ปี)

 

 

  ตอนผู้เขียนบรรยายพบว่า ในห้องประชุมมีพระและอาจารย์จบปริญญาเอกแล้ว 8 ท่าน อีก 11 ท่านเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในส่วนของพระนั้นส่วนใหญ่เป็นพระครูเกือบทั้งหมด  ตอนผู้เขียนเรียนนั้น เราพูดกันเล่นๆๆว่า คนที่สอนยากนั้นคือ ครู คนที่สอนยากกว่าครูคือพระ แต่ที่สอนยากกว่าครูและพระ ท่านคิดว่า คือใคร …(แล้วจะมาเฉลยครับ 555)

 

   ผู้เขียนเองนั้นเห็นศักยภาพของผู้เข้ารับการอบรมแล้วพบว่า อาจารย์และพระหลายๆท่านนั้นเก่งมาก แต่จะทำอย่างไรให้พระและอาจารย์ได้นำเอาความรู้ที่มีเอาออกมาเขียนได้  ผู้เขียนพยายามเอาเรื่อง Theory U ของ Otto Scharmer ตามที่ได้อ่านมาจากหนังสือของอาจารย์หมอประเวศ วะสีเป็นเอกสารที่ สรพ แจกให้นานมาแล้ว

 

 

  แต่ผู้เขียนมาพบว่าคุณหมอวิธาน ฐานะวุฑฒ์ เอามาใช้ในการอบรมสำหรับการเขียนอันดับแรกเราอาจเขียนจากความเคยชินเป็นข้อมูลธรรมดาเหมือนความเคยชินเดิมๆเป็นขั้น downloading อันดับที่สองคือขั้นการเขียนแบบ Seeing from the outside อันดับที่สามเป็นการเขียนแบบ sensing from the whole ในอับสุดท้ายก้นของตัว U คือเรื่อง Presenting from source  (ในภาษาบาลีน่าจะมีคำพวกนี้อยู่ ท่านใดทราบบ้างครับ…) คำพูดที่ผู้เขียนชอบในเรื่องนี้คือ Open mind , open heart และ  open will  การเขียนทำให้มีการเปิดใจด้วยเช่นกัน…

 

  ผู้เขียนคิดว่าผู้อ่านคงเข้าใจว่าที่มหามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยของพระ   จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ ฆารวาสหรือ คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักบวช หรือแม่ชีก็เรียนได้ ซึ่งที่มหามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่กรุงเทพและที่วังน้อย อยุธยา เปิดเรียนตั้งแต่ปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก(แถมค่าเล่าเรียนถูกกว่าที่อื่นๆด้วย)

 

  ขอบคุณสมาชิกหลายๆท่านที่ไปช่วยจัดกิจกรรม ขอบคุณสมาชิกที่ทักทายพระและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ลองไปทักทายพระและอาจารย์ที่นี่นะครับ…

 

บล็อกเกอร์

 

http://km.mcu.ac.th/blog.php?page=1

http://km.mcu.ac.th/blog.php?page=2

http://km.mcu.ac.th/blog.php?page=3

 

 ช่วงนี้งานวิจัยยุ่งมาก อาจมาตอบช้านะครับ…ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน…

 

ขอบคุณข้อมูล

 http://www.ottoscharmer.com/

 http://www.ha.or.th/ha2010/th/home/index.php

 

 

หมายเลขบันทึก: 437868เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2011 17:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2013 21:03 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

สวัสดีค่ะท่านพี่ฯ

มาส่งกำลังใจให้คนของประชาชน ว้าว ตอนนี้มีเพิ่มอีกกลุ่มเป้าหมายนะคะ :)

แหม คำถามยากจัง ขอเดาว่า คนที่บอกว่ารู้แล้ว ๆ .. สุขสันต์เช่นเคยนะคะ

ขอบคุณน้องปู 555 มาตอบเลยครับ...

สอนยาก คือ พระครู นิ

มาลงทะเบียนเรียนค่ะ

สอนยากน้อยกว่าพระครูนิดนึงนะ

วันนี้ อ.ขจิตถวายความรู้ให้พระ

วันนี้ ครูภาทิพ ถวายภัตตาหาร (วันนี้วันพระ)

สู้ สู้ ค่ะ อาจารย์ ไม่มีอะไรยากเกิน ดร.ขจิต อิอิ

สวัสดีค่ะอาจารย์ดร.ขจิต

มาเยี่ยมชมทักทายอาจารย์ เห็นอาจารย์ตั้งใจสอน พวกเราคณะครูอาจารย์ มจร.มีความสุขที่ได้เรียนกับอาจารย์

ขอให้อาจารย์มีความสุขนะคะ

แวะมาขอบคุณที่เข้าไปให้กำลังใจที่บันทึก

ตอนนี้กำลังพยายามทำให้ใจสบายๆค่ะ...

เรียนท่านอาจารย์

  • คนแก่ใจร้อน อยากฟังคำเฉลยเร็วๆค่ะ
  • ขอบคุณท่านอาจารย์หมอ JJ
  • 555 ถูกต้องครับ
  • ขอบคุณพี่ครูภาทิพ
  • สาธุๆๆด้วยคนครับ
  • ขอบคุณครูทองใหม่
  • ที่ไปช่วยกิจกรรม
  • สนุกมากๆๆ
  • ขอบคุณมากครับ
  • ท่านแม่ชี
  • ดีใจนะเนี่ย
  • ที่แม่ชีเข้ามาอ่าน
  • มาเขียนเรื่องการสอนที่ท่าพระจันทร์บ้างนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • พี่ครูชุติมา
  • ขอให้พี่สบายใจดีไวๆนะครับ
  • สังขารคนเราไม่แน่นอนครับ
  • ขอบคุณคุณยาย
  • ไปทักทายคุณยายไม่ได้
  • มัน error แง

สวัสดีค่ะอ.ขจิต

...ถ้าอ.ขจิตไม่มัวแต่เรียนมากขนาดนี้ ก็คงได้เจอกับ อังศุมาลิน แล้วหล่ะ 55555

...ได้ถวายความรู้แก่เหล่าพระอาจารย์ทั้งหลาย คงได้บุญโขเลยนะคะ สาธุ

...ขอบคุณที่ไปเยี่ยมหลานๆ เล่นน้ำที่ทะเลค่ะ

สาธุ....

มาบอกว่ายังคิดถึงอยู่นะคะ

มาเยี่ยมชมกิจกรรมดีๆ มีบุญกุศลแรงค่ะ..

  • ขอบคุณพี่ปิ่น
  • สงสัยเรียนมากจริงๆๆ
  • 555
  • ขอบคุณมากครับ
  • พี่ครูอรวรรณ
  • พี่หายไปนานมากๆๆ
  • ขอบคุณมากครับ
  • พี่ใหญ่
  • งานยังยุ่งอยู่เลย
  • อยากแปลงร่างได้ครับ

เพิ่งรู้ว่าอ.เป็นเด็กวัดนะเนี่ย

อาตมาเองก็อาศัย อ.ท่านอยู่เช่นกัน

เจริญพร

นมัสการหลวงพี่จาตุรงค์ สบายดีนะครับ

ขอบคุณคุณทิมดาบ โกโบริ เอ้ย ผมสบายดีครับ 555

สวัสดีค่ะอาจารย์

ถ้าตอบถูก..จะได้อะไรคะ ?

คนที่สอนยากว่า ครู/พระ ... คิดว่าตัวเราเองนี่แหละค่ะ สอนยากสอนเย็นเหลือเกิน 555

ขอบพระคุณค่ะ

สงสัยถ้าอยากเจออังศุมาลิน คงต้องเกิดในสมัยสงครามโลกด้วยล่ะมั้งคะพี่แอ๊ด 555

ขออนุโมทนาด้วยครับอาจารย์

  • สวัสดีค่ะ
  • แต่ที่ว่าสอนยาก อาจารย์ขจิตก็สอนได้มาแล้วใช่ไหมคะ
  • เริ่มเพาะต้นเพกาแล้วนะคะ
  • คนที่บ้านบอกว่าจะขึ้นรึ...เพราะว่าเมล็ดแฟบมาก.....
  • ขอบคุณคุณแจ่มใส
  • มากครับ
  • อ้าวตัวเองสนอยาก 555
  • ขอบคุณมากครับ
  • น้องดาว
  • อดเจออังสุมาลินเลย
  • 555
  • เกิดช้าไปหน่อย
  • ขอบคุณอาจารย์นุ
  • สาธุๆๆครับ
  • สบายดีไหมครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • พี่ลำดวน
  • ดีใจจังเลยว่า พี่ปลูกต้นไม้แล้ว
  • เย้ๆๆๆ
  • คาดว่าไม่นานต้นไม้ก็ขึ้นครับ
  • เมล็ดเพกามันเบาแบบนั้นเองครับ

สวัสด่ค่ะอาจารย์Ico64 ขจิต

พี่เห็นด้วยกับน้องปิ่นธิดานะ หากไม่มัวเรียน ป่านนี้ได้พบอังศุมาลินแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ

ขอตอบคำถามสักนิด ไม่รู้ถูกป่าวนะคะ ผู้ที่สอนยากกว่าครู และพระ น่าจะเป็นการสอนตัวเองมั้ง ฮ่าๆๆๆๆ 

ขอบคุณที่อาจารย์ไปทักทายกัน และยังระลึกถึงกันนะคะ

พี่ก็คิดถึงอาจารย์เสมอค่ะ ไปนครปฐมก็ไม่มีโอกาสไปหา  วันนั้นไม่ได้ขับรถไปเองค่ะ..ไว้โอกาสหน้าจะไปเยือนอีกครานะคะ

คิดถึงๆๆๆๆๆ จร้า...

ขอบคุณพี่ครูใจดี ใช่ๆๆสอนตัวเองยากมากๆเลยครับ...

  • เห็นด้วยกับคุณครูใจดี คุณแจ่มใส ค่ะว่าคนที่สอนยากที่สุดคือ 'สอนตัวเอง' ค่ะ สอนย๊าก สอนเย็นจริงๆ ^^"

ขอบคุณคุณณัฐพัชร์ จริงด้วยครับ

ขอบคุณอาจารย์สุรกิจ อาจารย์พบเพื่อนๆที่มาจากมหาจุฬาฯบ้างไหมครับ

อาจารย์ครับ

ผมไม่รู้ว่าจะบรรยายอะไรมากมายกับบันทึกนี้ครับ

รู้ว่าไปวัดแล้วสบายใจ...เวลาในตัวผมก็ช้าลง

มีความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นที่วัด...

และอาจารย์ก็จะนำความรู้ที่วัด ผ่านพระและแม่ชี

เพื่อให้ทุกคนเรียนรู้ร่วมกัน

เรียนรู้เพื่ออยู่ต่อ...

ต่อลมหายใจของชีวิตครับ

แวะมาส่งกำลังใจให้คนทำงานค่ะ.... อบรมทีหนึ่งก็เหนื่อยหน่อย แต่ อิ่มใจมากมายนะคะ....ขนาดคนอ่านยังอิ่มใจไปด้วยเลยค่ะ...

ขอบคุณคุณทิมดาบ อยู่วัดได้ฝึกจิต ฝึกสมาธิ ทำให้ชีวิตช้าลงได้ครับ

ขอบคุณพี่สา หายไปนานเลย ไปเขียนหนังสือเล่มใหม่นี้เอง สบายดีนะครับ...

สวัสดีค่ะ

สบายดีไหมคะ  ไม่เจอกันนาน

แต่งเสื้อสีชมพูหล่อและน่ารักจัง  ใครซื้อเสื้อให้คะ  หรือว่าแฟนคุณพ่อ

สวัสดีครับอาจารย์

ผมไม่ค่อยได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเหมือนกับท่านอื่น แต่ว่าชอบอ่านมากกว่าครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความรู้ในเบื้องต้นเกี่ยวกับการทำบล็อก gotoknow จากการเข้าร่วมอบรมที่ มจร. นี่แหละครับ ขอให้อาจารย์ได้ตำแหน่งทางวิชาการไว ๆ นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท