โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก


เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการของข้าราชการ

“ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก”

โสภณ เปียสนิท

...................................................

 

(2)

                ระหว่างการสัมมนาทางวิชาการบ่ายวันนั้น ผู้เข้าร่วมสัมมนามีหลายลีลาแห่งอารมณ์ หลายคนตั้งใจฟัง เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการของข้าราชการผู้หวังจะเลื่อนระดับขั้นเงินเดือนของตนให้สูงขึ้น หลายคนมีท่าทีเบื่อหน่ายแหงนมองเพดาน ก้มลงมองใต้โต๊ะเหมือนหาบางสิ่งที่หายไป หลายคนทำท่าทีนั่งตัวตรง แต่ดวงตาหรี่ปรือเคลิบเคลิ้มใกล้สู่นิทรารมณ์เต็มที หลายคนมองไปด้านหน้าประตู ที่นั่นมีของว่าง น้ำชา กาแฟ ขนมเรียงรายอยู่บนโต๊ะตัวยาวพร้อมน้ำร้อนในถังคูลเลอร์สแตนเลส

 

                เมื่อสัญญาณการหยุดพักเริ่มขึ้น หลายคนตรงรี่เข้าห้องน้ำ หลายคนรีบเดินออกไปที่ประตูเข้าแถวรอรับอาหารก่อนผู้อื่น ผมรับโทรศัพท์จากพี่ชายจากเมืองกาญจน์แจ้งมาตามสายว่า “กลับบ้านด้วยแม่มีธุระ” คุยคำอื่นอีกสองสามคำก่อนพี่ชายขอตัววางสายไป เดาว่าพี่อาจมีงานเร่งด่วนที่ต้องทำจึงมีท่าทีเร่งรีบจนผิดสังเกต ระหว่างการดื่มกินของว่าง ความคิดคำนึกของผมวนเวียนเกี่ยวกับบ้านแม่ริมแควใหญ่ที่เมืองกาญจน์ เหมือนกลิ่นหอมกรุ่น และไอควันความร้อนเหนือถ้วยกาแฟหลังเที่ยงวัน

                คำว่า “กลับบ้าน” ทำให้ความคิดย้อนกลับไปสู่วัยเยาว์อันยาวนานที่ผ่านมาไกลพอควรด้วยความผูกพัน ชีวิตของผมเกิดบนเรือต่อลำใหญ่ริมท่าของหมู่บ้านท่ามะนาว บนสายน้ำแควใหญ่เมืองกาญจนบุรี เจริญเติบโตช่วงต้นบนเรือต่อลำนี้จนอายุ11-12 ปี ครอบครัวจึงย้ายมาอยู่บนบกติดทางลงท่าน้ำแห่งนั้น

 

 

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก9
ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก8

ไทยปะทะเขมร-เกียรติประวัติรัฐบาลไทย

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก7

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก6

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก5

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก4

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก3

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก2
ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก
หมายเลขบันทึก: 434776เขียนเมื่อ 10 เมษายน 2011 00:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2014 21:09 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • ท่านเคยไปวางศิลาฤกษ์ เปิดตึกอาคารใหม่ ที่โรงพยาบาลป่าติ้ว ราวปี  2539 - 2541
  •  จากนั้นมีข่าวคดีฉาว....ขึ้น ....
  • ยังจำได้.......ค่ะ

Ico48เรียนคุณอุ้มบุญครับ

คุณรักเกียรติพบทางตรงในชีวิตแล้วครับ

ตอนนี้เดินตามเส้นทางสายธรรมแล้ว

สังเกตดูจริยวัตรที่เขียนไว้

สวดมนต์มาก

นั่งสมาธิมาก

ทำวิปัสสนามาก

แค่นี้แหละ.........ชีวิตท่านดีกว่าคนไม่เคยติดคุกแน่นอน

การอ่านเป็นพื้นฐานของความรู้

ความรักการอ่านเป็นเรื่องยาก

ต้องค่อยๆปลูกฝังเหมือนปลูกต้นไม้ใหญ่

เติบใหญ่แล้วจึงรู้ว่า "รู้อย่างนี้อ่านหนังสือตั้งแต่เด็กดีกว่า"


บางคนกล่าวว่า "พระรักเกียรติคือองคุลิมาลยุคปัจจุบัน"

เพราะเป็นสัญลักษณ์ของผู้ทำผิดแล้วกลับใจ

ยอมรับโทษ ตั้งใจทำความดีในส่วนที่เหลือของชีวิต

ภาพพระรักเกียรติขณะให้สัมภาษณ์

แก่พิธีการในรายการเจาะใจ

เบื้องลึกเบื้องหลังของชีวิต

อย่างผู้สำนึกผิด

 


ภาพสะท้อนจิตสะกิดใจ

จากนักการเมืองผู้ประสบความเร็จตั้งแต่อายุ 26 ปี

เป็น สส. 7 สมัย เป็นรัฐมนตรีอีก 6 ครั้ง

กลายเป็นนักโทษติดคุก

ถูกยึดทรัพย์ และสุดท้าย กลายเป็น "พระ" 

ในพระศาสนานี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท