โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก9


อ่านแล้วเกิดแง่คิดมุมมองทางธรรมว่า ชีวิตเป็นไปตามโลกธรรม

          

“ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก9”

โสภณ เปียสนิท

...................................................

 

 

แต่เหมือนโชคร้าย หรือเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เขาถูกตัดสินลงโทษ และตัดสินใจหลบหนีคดีอยู่ตามซอกหลืบของเมืองใหญ่กรุงเทพมหานคร บันทึกไว้ว่า “ช่วงหนึ่งปีที่หลบหนีถือว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง จากที่เคยสุขสบาย มีเกียรติ ต้องหลบหนีซ่อนตัว อาศัยอยู่ตามบ้านญาติแฟลตของลูกหลานที่เรียนหนังสืออยู่ในกรุงเทพฯ” อ่านแล้วเกิดแง่คิดมุมมองทางธรรมว่า ชีวิตเป็นไปตามโลกธรรม “มีลาภเสื่อมลาภ” บันทึกไว้ว่า “ตอนนั้นใช้เงินวันละไม่เกิน 100 บาท กินข้าวราดแกงมื้อละไม่เกิน 30 บาท ร้านที่ไปกินเป็นจุดที่แท็กซี่นั่งกินกันเยอะๆ เพราะราคาถูก”

ช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองผ่านมาแล้วก็จากไป หล่นร่วงสู่หุบเหวแห่งความทุกข์ยาก “การหลบหนีเป็นเรื่องทรมานมาก โทรศัพท์หาเพื่อนักการเมืองด้วยกัน เขาบอกว่าโทรมา เดี๋ยวเขาแท็ปสาย หรือดักฟังโทรศัพท์เขาจะซวยไปด้วย” นึกถึงคำโบราณว่า “มีเงินนับว่าน้อง มีทองนับว่าพี่ ยากจนเงินทองพี่น้องไม่มี” เขาสะท้อนเรืองราวให้อ่านกัน

ความทุกข์ยากระหว่างการหลบหนีทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิม ผิดจากความรู้สึกของคนทั่วไป “ตอนที่ถูกควบคุมตัวแทนที่อาตมาจะเศร้าใจ หรือเสียใจ แต่กลับมีความรู้สึกโล่งอกโล่งใจ เหมือนยกภูเขาออกจากอก” เมื่อทำใจได้ยอมรับโทษทัณฑ์ เขามองเห็นหนทางสายใหม่ทอดยาวสู่แสงสว่างแห่งชีวิตอยู่ไม่ไกลจนเกินไป “เพราะถ้าประพฤติตัวดีจะได้รับพระราชทานอภัยโทษได้ลดโทษ ได้พักโทษ อาตมาเกิดกำลังใจขึ้นมาทันที กำลังใจที่จะอยู่ทำความดี เพื่อมีโอกาสได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนเช่นทุกวันนี้”

เขาฝากแง่คิดให้ผู้อ่านซึมซับไว้ในความคิดว่า “ถ้าคุณทำความผิด ถึงจะหนีคำพิพากษาของศาลได้ หนีคุกได้แต่คุณไม่สามารถหนีนรกในใจของคุณได้” จิตใจของผู้ประกอบทุจริตต่อหน้าที่ ทรยศต่ออุดมการณ์ของตน ต่อความหวังของชาวบ้านที่ยากจนทนรอ ในที่สุดแล้วย่อมต้องรับกรรมอันเผ็ดร้อนเจ็บปวด

 

ผู้ประกอบกรรมทุจริตคดโกงหลายคนอาจไม่สำนึกต่อการกระทำของตน แต่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ มองตรงข้ามเขามุ่งก้าวเดินสู่ทางสายใหม่ เพื่อแก้ไขชีวิตให้กลับมาสู่ความถูกต้องเที่ยงตรงต่อหลักธรรมในพระศาสนา พระนำเรื่องมาสอนไว้ให้คิด “หันมาสร้างกรรมใหม่ เป็นกรรมดี เพื่อเป็นเสบียงไว้ใช้ชาติหน้ากันดีกว่า อาตมาอยากแนะนำคนที่หลบหนีคดีว่ามาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ทำใจยอมรับสภาพของโทษที่ทำให้ได้” (โปรดติดตาม)

หมายเลขบันทึก: 437016เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2011 22:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2014 21:09 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • มากล่าวคำทักทาย ครูค่ะ
  • งานวิจัย ที่ส่งสวรส. ส่วนที่รับผิดชอบ  4  เรื่อง ส่งไปเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้จะส่งให้ครู ช่วยวิพากษ์บ้าง
  • แต่ต้องช่วย น้องๆอีก หลายเรื่อง ยังไม่แล้วเสร็จ
  • วันนี้เตรื่ยมเรื่องการนำเสนอไป  ชวน  เชียร์  โรงพยาบาลลืออำนาจ ทำ R2R บ้าง ....
  • สิ้นเดือนจะมาเข้าเรียนต่อค่ะครู ในบันทึกที่ยังไม่แวะมา

Ico48เรียนคุณอุ้มบุญครับ

เห็นแล้วน่าปลื้มใจจริงๆ

ทำหน้าที่ได้แข็งแรงดีเหลือเกิน

ช่างน่านิยมนัก

ขอให้ทุกเรื่องสำเร็จดังประสงค์

สำหรับผมเองทำงานสำเร็จหนึ่งชิ้น เป็นงานบุญ งานแรกที่ทำได้ แอบภูมิใจนิดๆ ว่า "เราทำได้" แอบดูได้ที่นี่ ว่างแล้วค่อยดูนะ 

ภาพหลวงพ่อรักเกียรติ สุขธนะที่บวชพระรับใช้พระศาสนา


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท