ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก7
“ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้าอาตมาคงไม่ติดคุก2”
โสภณ เปียสนิท
...................................................
“พ่อเห็นด้วยที่รักเกรียนติจะอยู่ร่วมกับท่านมนตรี สร้างพรรคกิจสังคมต่อไป ถือว่าเป็นคนกตัญญูรู้บุญคุณคน จะทำให้ได้รับความสำเร็จทางการเมืองต่อไปในภายหน้า” เป็นคำกล่าวที่เน้นความกตัญญูที่พระสอนว่า “เป็นเครื่องหมายของคนดี” คุณรักเกียรติจึงเป็นพยานยืนยันได้ว่า หลักคุณธรรมเรื่องความกตัญญูกตเวทีที่พระสอนนั้นเป็นความจริง
และยังยืนยันเพิ่มเติมอีกว่า “คำกล่าวที่ชาวบ้านพูดกันว่า เลือกตั้งทีต้องสะสมกระสุนไว้ยิงนั้น เป็นความจริง” สะท้อนระบบเลือกตั้ง ส.ส. ของประเทศไทย จากมุมมองของนักเลือกตั้งตัวจริงเสียงจริงว่า มีพัฒนาการไปทางด้านลบ ถึงวันนี้การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ผู้เข้าร่วมแข่งขันต้องใช้เงินครั้งละจำนวนมาก “พรรคการเมืองจะออกรบก็ต้องเตรียมกระสุนดินดำ คือเตรียมเงิน เตรียมทุนให้ลูกพรรคไปใช้หาเสียง เพื่อให้ชนะเลือกตั้งพรรคที่มีความพร้อมก็จะได้ สส.จำนวนมาก” คุณรักเกียรติไม่ได้พูดแบบลอยๆ แต่ยกตัวเป็นอุปกรณ์เพื่อยืนยันให้เห็นเด่นชัด “อย่างเมื่อปี 2526 อาตมาได้เงินจากพรรค 100,000 บาท”
ยังไม่เพียงพอ แถมด้วยยืนยันให้หนักแน่นมากยิ่งขึ้น “ต่อมาปี พ.ศ. 2529 พรรคเริ่มมีการแบ่งเกรดผู้สมัคร คือถ้าเป็น ส.ส.เกรดเอ ลงสมัครเลือกตั้งแล้วได้แน่ๆ พรรคจ่ายเงินสนับสนุน 2.5 ล้านบาท” มีเหตุผลประกอบด้วยว่า ที่ท่านผู้แทนต้องทำเช่นนั้นด้วยเหตุผลอะไร “นี่คือความจำเป็นของการใช้เงินหาเสียงเลือกตั้ง เป็นค่าใช้จ่ายทางการเมืองที่พรรคต้องหาเงินมาสนับสนุนผู้สมัคร เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการบริหารประเทศ”
เหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองพลิกผันไปในทางเลยร้ายมากยิ่งขึ้น เพราะมีสถานการณ์ที่ “เรียกว่าเป็นบล็อกโหวต เพราะอยู่ในพรรคที่เขาเลี้ยงดูจะแหกคอกไม่ได้” ผู้แทนฯหลายราย แม้ต้องการจะคัดค้านกับมติพรรคการเมือง แต่ไม่อาจทำได้ เพราะอาจถูกไล่ออกจากพรรค หรือไม่ส่งเข้ารับการเลือกตั้งอีก
ความเห็น (12)
."มีการบล๊อคโหวต เพราะอยู่ในพรรคที่เขาเลี้ยงดู จะแหกคอกไม่ได้"
เห็นภาพเลยค่ะอาจารย์ การเมืองเป็นอย่างนี้เอง
สงสารประเทศไทยจัง
เช่นนั้นเองครับ สวัสดีครับอาจารย์
เรียนครูดาหลาครับ
เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนจริงๆ ทางการเมืองนะครับ เพราะตัวบุคคลนี้เอง คือนักการเมืองตั้งแต่อายุ26 ปี เขาย่อม "เข้าใจการเมืองประดุจนิ้วบนฝ่ามือ" เลยเชียว
นักการเมืองมักคิดว่า "คนไทยอย่างไรต้องไปเลือกพวกเขา" ตามหน้าที่ ส่วนพวกเขาจะ "เข้าไปแล้วทำอย่างไรบ้าง" เป็นเรื่องของพวกเขาเอง
ถึงเวลาเลือกตั้งอีก เขาก็ต้องไปเลือกอยู่ดี ไม่ฝ่ายโน้นก็ฝ่ายนี้ ดังนั้น "เอาเงินล่อใจเสียเลย แล้วเอาเงินจากไหนดี ก็จาก โครงการต่างๆ นั่นแหละดี จับไม่ได้ เพราะเอาเป็นร้อยละ จากพ่อค้าผู้รับเหมา" แค่นี้ก็หลุดทุกคดี
คุณรักเกียรติ ปรับตัวไม่ทันเลยติดคุก นะครับ
สวัสดีครับอาจารย์โสภณ
ผมว่าเรื่องที่น่าขันของ 'บล็อกโหวต' ก็คือ
คำคำนี้ถูกนำไปรวมเป็นเนื้อเดียวกับคำว่า 'มารยาททางการเมือง'
ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าผู้ทรงเกียรติท่านใดใช้คำนี้เป็นคนแรก
แต่ที่แน่ๆ มารยาทเช่นนั้นดูไม่น่าเอาเป็นแบบอย่างเสียเลย
เพราะในความเป็นจริงบล็อกโหวตคงเป็นได้แค่เพียง 'มารยา(ท)ทางการเมือง' เท่านั้นเอง
ขอบพระคุณกำลังใจจากอาจารย์ที่กรุณามอบให้มานะครับ
เรียนคุณโรจน์ครับ
อยากขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันคิดและวางแผนกระจายความคิดอย่างเป็นบบในหมู่พวกเรา ที่ใกล้ชิดกัน ให้รู้ทันนักการเมือง
หรือว่าจะปล่อยประเทศให้คนเหล่านั้นดูแลอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็ดูจะน่าสงสารประเทศเกินไป
"เหมือนเราเห็นเด็กตัดสายไฟฟ้าหมู่บ้าน แต่เราก็มองว่า อย่าไปว่าเด็กเลย เดี๋ยวมันขวางหลังคาบ้านเอา"
ผลจะเป็นประการใดครับ
เรียนคุณพรายพิลาศครับ
นักการเมืองของแท้ เอานักการเมืองมาแฉกันเอง
เราคนฟังในฐานะเจ้าของประเทศก็หาความรู้เข้าไว้
รู้สึกอย่างไรกับนักการเมืองปัจจุบัน
รู้สึกอย่างไรกับคนรับจ้างเฝ้าร้านที่หาทางงุบงิบเงินเจ้าของร้าน โดยยุทธวิธีอันแยบยล มานานแสนนาน เจ้าของร้านส่วนมากก็ไม่สนใจ
โกงได้โกงไป เดี๋ยวมันก็อิ่มเองแหละ
พ้นโทษออกมา หลังจากการถูกจองจำ ด้วยความสำนึกผิด
- หนักใจค่ะ แต่คงไม่เท่าหนักแผ่นดินเหมือนตัวอย่างที่ท่านอาจารย์โสภณยกมา
- ขอบคุณมากค่ะสำหรับคมความคิดดี ๆ ผ่านบันทึกนี้ค่ะ
เรียนคุณSila Phu-Chaya ครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยือนกัน
นักการเมืองท่านนี้ทำแล้วสำนึกแล้ว
ยังมีนักการเมืองผิดพลาดอีกมาก
แต่ยังไม่สำนึกครับผม
สวสัดีครับอาจารย์
โดยส่วนตัวผมเองเริ่มที่ตัวเองเป็นต้นเหตุแห่งการก่อการดีเท่าที่เป็นไปได้ ด้วยความเป็นข้าราชการผมพยายามรับใช้ประชาชนให้เต็มที่ ในส่วนการเมืองส่วนตัวผมอาจไม่ถูกจริตกับนักการเมืองไม่ว่าประเภทไหนเพราะรู้สึกว่า มิน่าใช่กัลยาณมิตรในทางธรรม เห็นจะเลือกมีส่วนร่วมเมื่อจำเป็นเท่านั้นละครับ ในทางการเมือง ผมยืนแบบไหน ผมมองเป็นเรื่องๆ เป็นประเด็น ไม่ all black all white
ผมเชื่อในความเพียรทำดีตามแบบอย่างในหลวงครับ ทำเล็ก ทำจริง ทำนาน แต่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน (เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม)
เรียนท่านอาจารย์ครับ
เห็นด้วยตามที่ว่ามาครับ
สำหรับผมแล้ว มีอีกความรู้สึกคือ
อยากรู้ว่าทำอย่างไรนักการเมือง จึงจะไม่โกงจนเพื่อนพ้องชาวไทยของเราเดือดร้อน แต่ก็ได้แต่คิดเท่านั้นเอง
อนิจจังอนิจจัง