และแล้ววันแห่งความภาคภูมิใจที่สุดก็มาถึง ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมากับความตั้งใจและเหน็ดเหนื่อยปริญญาตรีจากรั้วเหลือง- แดง ใบแรกก็สามารถคว้ามาได้ เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ผู้คนมากมายแห่กันมาร่วมชุมนุมพร้องเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย ส่งผลให้มหาวิทยาลัยที่โดยปกติเล็กอยู่แล้ว ยิ่งเล็กและแคบลงไปอีก
และหนึ่งในบรรดาของขวัญที่ทำให้ตัวผู้เขียนรู้สึกดีก็คือ หนังสือ เข็มทิศชีวิต ของฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งตอนแรกก็งงว่าหนังสืออะไรกันทำไมถึงพิมพ์มาแล้วจำนวนถึง 46 ครั้ง พออ่านแล้วก็รู้สึกว่าแค่ครั้งที่46 ยังน้อยไปอยากให้พิมพ์เพิ่มต่อไปเรื่อยๆเพราะเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่งทีทุกคนควรอ่าน ซึ่งเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตทางโลกได้ค่อยข้างสมบูรณ์และมีแนวทางทำความเข้าใจ กำหนดรู้เท่าทันจิตตัวเองในเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี
สำหรับตัวผู้เขียนบทที่ชอบมากอ่านแล้วรู้สึกโดนเลยก็คือ ตอนลิงกำถั่ว วันนี้ทุกปัญหาทุกข์ความทุกข์ที่เกิดขึ้น เราก็เปรียบเสมือนกับลิงกำถั่วที่กำความคิดความอยาก ความยึดว่านี่เป็นของเรา ต้องเป็นอย่างใจเราเอาไว้เป็นแน่นหนา ไม่มีอะไรที่สร้างปัญหาให้กับเราได้นอกจากใจเราเอง เราทุกข์เพราะเราอยากให้มันเป็นอย่างใจเรา เมื่อเราไม่รู้ทันใจตัวเอง เรายึดความคิดและความต้องการของเราอย่างหนาแน่น สร้างเงื่อนไขขังตัวเองจนลืมมองทางออกรอบตัว มองให้เห็นทันความอยากในใจเรา เมื่อความอยากถูกปล่อยไปใจจะเห็นความอยากตามความเป็นจริง มีปัญญามองทะลุไปถึงต้นตอของปัญหา
ความระลึกได้รู้ทันใจเป็นเข็มทิศนำทางความคิด คำพูด การดำเนินชีวิตของเราไม่ให้ไหลไปตามสถานการณ์ จนชีวิตบิดเบี้ยวหลงทางโดยที่เราไม่รู้ตัว
อยากให้ลองอ่านกันดูนะคะว่าเผื่อบางทีอาจจะเจอคำตอบที่ทุกคนกำลังแสวงหากันอยู่ก็ได้
ปัญหาส่วนมากที่เกิดขึ้นมาจากการสร้างเงื่อนไขขึ้นใน "ใจ" ของเรา อยากได้นั้น นี่ โน้น ไม่ยอมปล่อยวาง แต่เมื่อไม่ได้อย่างทีหวังก็เป็นทุกข์ ตามเหตุปัจจัยที่ต้องการ ยิ่งต้องการมากก็ทุกข์มากทุกข์เพราะความอยาก ความโลภ หากแต่ไม่ใช้สติ ไม่ยอมปล่อยวาง ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่เราต้องเป็นทุกข์ ทุกข์อย่างอยู่ที่ "ใจ"
"จงปล่อยวางกับสิ่งที่มากระทบ...จงสานใจกับสิ่งที่เราตั้งใจ
จงรู้ค่าของตน เมื่อมีภัยมา ....ถึงตัว จงอย่ากลัวคำว่า "อุปสรรค" จงมีใจที่หนักแน่น...แล้วปัญหาจักจางหาย.....
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคะ กับคุณ น. เมืองสรวง ที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างทีเกิดขึ้นนั้นเราจะต้องรู้จักปล่อยวางคะ การไม่ยึดติด คือก้าวแรกแห่งการปลดปล่อยตัวเองออกจากบ่วงของกิเลศคะ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ จะได้ละกิเลส งัยครับ
งั้นจะไปอ่านบ้างค่ะ
อ่านมาแล้วประมาณ 50 ครั้ง ใน 1 ปี ติดเหมือนยาดม ดมเมื่อไร หอมเมื่อนั้น
อยากให้เพื่อนชาวไทยได้อ่าน ลองดูนะค่ะ
ยอดเยี่ยมมาก
จงปล่อยวางและเข้าใจ มีจุดยืนของตัวเอง และปล่อยให้ทุกสิ่งเดินไปตามทางของมัน ไม่มีสิ่งใดที่เราเป็นเจ้าของนอกจากใจของเราเอง