(คนวาด -รูปวาด-คนถูกวาด)
ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในโลกของG2K ความจำผมพลิกคว่ำพลิกหงายนึกอะไรไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะชื่อนามสกุลจริงของญาติธรรมทั้งหลาย ในพื้นที่ตามล่าลายแทงความรู้แห่งนี้ เป็นสนามการเรียนรู้ที่ไม่เป็นทางการ มีความเป็นส่วนตัวได้สูง เราเขียนแบบกันเอง แทบจะเรียกว่าตามใจไทยแท้ ไม่ต้องไปยึดถือกฎเกณฑ์อะไรให้มากนัก ถ้ามือใหม่หัดเขียนBlogเข้าใจตรงนี้ จะไม่เกร็งไม่กังวลว่าตนเองเขียนเข้าท่ารึเปล่า เหมาะรึเปล่า ตัดสินใจเขียนเร็วเท่าไหร่ เราจะได้ฝึกทักษะให้ตนเองได้มากและเร็วขึ้นเท่านั้น ถ้าอยากให้ตัวเองเป็นคนน่ารัก..ขอแนะว่าให้รีบเขียนBlog อ่านเรื่องนี้จบก็ไปเขียนเถิดนะ เขียนยังไงละ อ้าว! ก็เขียนตอบความเห็นเรื่องนี้ยังไงละ..
สะท้อนคิดตรงๆออกมาได้มากที่สุดต่างหาก ที่เป็นเสน่ห์ของการเขียนอธิบายเรื่องราว เราสามารถพบคำว่าอิสระ คำว่าส่วนตัว คำว่าคุ้นเคย และไม่ได้อยู่ที่คำว่า คำว่า..เท่านั้น แต่มันแฝงความรู้สึกที่ดีงามออกมาได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่สามารถทำได้ง่ายๆในการเขียนรายงานเชิงวิชาการหรือสไตล์ทางราชการ
การเปิดเส้นทางขยายวิธีเรียนรู้ให้มีความลื่นไหล ตรงกับวิถีชีวิตจิตใจของคนให้มากที่สุด จึงเป็นเส้นทางใหม่ในการที่จะชี้ชวนให้สังคมไทยสนใจการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มากขึ้น ตรงนี้เองที่เล่าฮูแสวงตีความว่า เป็นการเรียนรู้แบบอิงระบบ หรือแบบKMธรรมชาติ การเปิดเส้นทางคู่ขนานเดินเคียงคู่ดูแลกันไปมาได้ ถ้าไม่เถรตรงหรือบ้าวิชาการจนเกินไป ให้ทุกคนกำหนดได้เองว่าจุดพอดีพอเหมาะของตัวเขาอยู่ตรงไหน สังคมแห่งการเรียนรู้ของประเทศนี้ก็จะระเบิดเทิดเทิงเป็นจริงได้มากขึ้น
ถ้าเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ มาช่วยกันออกแบบกระบวนการในกิจกรรมต่างๆ โดยแทรกเรื่องน้ำจิตน้ำใจไมตรี เอาวัฒนธรรมตะวันออกที่เป็นกันเอง เอื้ออาทร และมีความคุ้นเคยส่วนตัวมาเป็นจุดแข็ง กระบวนการจัดประชุมจัดสัมมนาสไตล์ไทยๆ ก็จะมีโอกาสได้รับใช้คนไทยมากขึ้น การใช้ทฤษฎีตะวันตกไม่เสียหาย แต่ก็ควรมีการปรับแก้ให้เหมาะสมเสียก่อน ถ้าเอามาใช้ทั้งดุ้นก็คงไม่ต่างกับแนะให้คนไทยกินทุเรียนทั้งเปลือก แล้วก็พยายามเค้นและเข็นไปสู่กระบวนการที่ไปเอาของคนอื่นมาถ่ายทอด ตอนไปเรียนมาก็อย่างหนึ่ง ตอนเอามาใช้ก็ควรเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง เรามีปัญหาเรื่องการใช้ความรู้จากภายนอกรึเปล่าไม่รู้นะ
จุดการเรียนรู้แบบKM ธรรมชาติ ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน ยกตัวอย่างเรื่องชื่อหรือนามแฝงที่เราใช้กัน ใช้ไปใช้มาก็จำได้แต่ชื่อนิคเนมในบล็อก ถึงคราวจำเป็นจะต้องรู้จักชื่อจริงนั่งคิดยังไงก็คิดไม่ออก อย่างคำว่า “แก่นจัง” ถ้าบังเอิญมีคนถามว่า..ชื่อจริงเธอเป็นอย่างไร ผมใบ้กินแน่ๆ ก็รู้จักและเขียนถึงแต่เจ้าแก่น เจ้าแก่น หรือ ลูกหว้า ราณี ตูน ฯลฯ มีคราวหนึ่ง จำเป็นต้องรู้จักชื่อจริงครูอ้อย ผมลองไม่ค้นใช้วิธีนั่งทบทวนนานสองนาน สุดท้ายก็ขอสารภาพว่า..ผมเคยรู้จักชื่อจริงครูอ้อยรึเปล่า ก็..ตั้งแต่รักและคุ้นเคยกันมา ก็มีแต่ครูอ้อยๆๆ ยังดีที่ไม่มีรายการไหนเอาชื่อจริงไปทายรางวัล ผมตกม้าตายหงายผึ่งแน่ๆเลย
ไม่เหมือนเราอ่านงานวิชาการที่เขาระบุชื่อนามสกุลจริง แสดงว่าแต่ละเรื่องก็มีดีไปคนละแบบ แต่ผมก็ยังชอบอย่างในBlogนี่แหละ ดูมันมีโช๊คอัพดี สามารถเขียนแบบมีลูกเล่น หรือที่อาจารย์ใหญ่นพ.วิจารณ์ พานิช เรียกว่าเป็น”เป็นมวย” ซึ่งก็มีคู่ขนานอีกนั่นแหละ..จะเลือกเป็นมวยแบบวิชาการ หรือ เป็นมวยแบบวิชาเกิน
ส่วนชื่อนามสกุลจริงของพวกลูกๆทั้งหลาย เอาไว้มีใครมาสู่ขอ.. ค่อยค้นดูที่หลังก็ยังไม่สาย ใช่ไหมตาหวาน อิอิ.
วันนี้ได้มีโอกาสเปิดเข้ามาอ่าน KM ในblog แต่เช้า เลยได้อ่ายความรู้ง่าย ๆ ที่เหมือนไม่ใช้ความรู้เรียกว่าเป็นแนวทางในการ เขียนแลกเปลี่ยนดีกว่า แต่ก็อีกนั้นแหละเป็นมือใหม่ยังงัยก็ยังคิดวิธีการเขียน การสื่อ ที่คิดว่าดีไม่ได้ แต่อยากเขียนมาก ๆ เพราะคิดว่าความรู้ตัวเองก็มีพอมีบ้าง ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยนะ หยั่งงี้ละกัน ใครมีปัญหาเกี่ยวกับบ้านช่องที่อยู่อาศัย เกี่ยวกับข้อกฎหมายนะ ไม่ใช้การซ่อมแซมบ้าน ก็ถามเข้ามาเลยถ้าตอบได้จะตอบให้กระจ่างแต่ถ้าเกินกว่าที่รู้ก็จะเปิดตำราอ่านแล้วตอบให้ จะดีกว่า ถ้าท่านใดมีเทคนิคในการเขียนที่ง่าย ๆ ช่วยชี้แนะด้วย ขอบคุณล่วงหน้านะต่ะ
แข็งนอกอ่อนใน
เริ่มทำเป็นแล้วละ....ตอนแรกเขียนแล้วกลับไปดู แอ้....ทำไม่เราไม่มีรูปขึ้นอย่างคุณหมอนักวิ่งหว้า ก็เลยลองเข้าระบบดู อ้อ! เข้าใจแล้วว่าทำยังงัยถึงมีรูปขึ้นได้เวลาอยากแสดงความคิดเห็น ขอบอก....!ว่าทำเป็นเพิ่มขึ้นแล้ว มือใหม่ก็งี้แหละ เงอะ ๆ เงิน ๆ เหมือนคน........(แก่)
นี่ยังไงละ ..หัวไวใจสู้
แป๊บเดียวก็รู้แล้ว เรียนจนรู้ จะสนุกๆๆ
ขอให้มีความสุขในการทำหน้าที่บริการความรู้ อิอิ
ปล. ขออนุญาต ปล.นะคะ จะรอถามปัญหา ข้อกฎหมายจากคนแข็งนอกฯค่ะ /ขอบคุณค่ะ
คุณป้าน่ารัก
ว่างตอนไหน มาตอนนั้น
ที่สำคัญมายอกันเองให้ เขิน แต่เช้านี่สิ
สงสัยวันนี้จะอารมณ์ไปจนข้ามคืน
สุดท้ายก็เฉลยแล้ว ลูกสาวคนเล็กชื่อ
วรรณาภรณ์ เทียรท้าว วรรณาภรณ์ เทียรท้าว วรรณาภรณ์ เทียรท้าว วรรณาภรณ์ เทียรท้าว
เกิดมีคนมาขอ..บอกไปว่าชื่อเจ้าแก่น..เกรงว่าเขาจะสะดุ้ง อิอิ รู้ชื่อที่จำยากๆ จนท่องไว้บ้างก็ดี
สวัสดีค่ะครูบาฯ
รออยู่ค่ะ...อิอิ ..เอิ๊กเอิ๊ก
สวัสดีค่ะพ่อครู
อ่านแล้วก็โดน เหมือนโดนกระทบค่ะ แฮะๆ แบบพวกเค้นยากอะค่ะ คิดถึงแต่เขียนไม่เก่งค่ะ พูดไม่เก่ง อ้อนบ่เก่ง เลยเป็นพวกชอบอ่าน เกือบถูกเขาให้กินทุเรียนทั้งลูกเหมือนกันค่ะ ดีแต่ไหวตัวทัน อิอิ
ราณีจะบอกว่าชื่อราณีนี่คือรู้จักเพราะเป็นชื่อเล่นจริง ๆ แต่ชื่อ-สกุลจริง ประมาณว่า ๓ วา นามสกุล๘ ศอกค่ะ เลยไม่ค่อยมีใครเรียกชื่อจริงค่ะ ชื่อมีภรณ์ คล้าย ๆ แก่นจังอ่ะค่ะ ชื่อ-สกุลจริงของราณีมีนามว่า ศุภราภรณ์ พุทธพจน์มงคล เป็นไงค่ะยาวถึงกรุงเทพไหมค่ะ ราณีเป็นพวกวิชาเกินค่ะ วันนี้อ่านบันทึกนี้ได้อะไรไปคิดเพียบเลยค่ะ สุดยอด ไม่รู้โยงเรื่องได้ไง ลงตัวจริง ๆ พ่อเรา อิอิ
รักษาสุขภาพและอย่าลืมออกกำลังกายนะค่ะ
เรียน ท่านพี่สุทธินันท์
ศุภราภรณ์ พุทธพจน์มงคล ศุภราภรณ์ พุทธพจน์มงคล ศุภราภรณ์ พุทธพจน์มงคล ศุภราภรณ์ พุทธพจน์มงคล ศุภราภรณ์ พุทธพจน์มงคล
เช้านี้อากาศเปลี่ยน เกรงว่าเห็ดโคนจะออก จึงไปเดินท่อมๆดู ยังไม่โผล่ คิดว่า2-3 นี้คงได้เก็บเห็ดโคนแน่ๆ
รู้ตัวไหม เชื่อเล่น ราณี น่าจะเป็นชื่อจริงที่สุด ได้กลิ่นอายที่สะท้อนหน้าเป็นอาวุธ แต่เมื่อมีชื่อจริงอย่างนี้แล้ว ก็ท่องๆๆสิ เดี๋ยวใครมาถามชื่อลูกสาวหน้าแตก..อิอิ
ไปชิมแล้ว ต้มโคล้ง ปลากรอบๆ
เป็นของชอบเหมือนกันใฝ่ฝันถึง
รีบรับชวนไม่รอห้อตะบึง
กลับมาผึ่งพุงพลุ้ยคุยอิอิ.
เรียน ท่านพี่สุทธินันท์
พ่อค่ะ
พี่องุ่นคนสวย : นางธนภัทร หิรัญบริรักษ์
สิงโต : สิริมงคล หิรัญบริรักษ์
เจ้าของนามสกุล: นายสิริ หิรัญบริรักษ์
ส่วนความจำชำรุดตั้งแต่แต่งงาน ครูเสืองอนให้เป็นปี เพราะเขียนนามสกุลไม่ถูกซักที อิอิ
สวัสดีครับท่านพ่อครูบาฯ
ครูอ้อย...มาบอกว่าชื่อ...
สวัสดีครับพ่อครูบา
ผมใช้ชื่อ "อัยการชาวเกาะ" แต่ไม่รู้ผิดพลาดยังไงกลายเป็นชื่อบล๊อก ตัวคนเขียนเลยกลาย เป็นนายบัณฑูร-ทองตัน เลยไม่ต้องปลอมตัว แฮ่ๆ
แรกๆผมก็เขียนเรื่องกฎหมายในละคร เขียนไปเขียนมาเป็นเรื่องวดภาพกับถ่ายภาพไปแล้วครับ จะมีบทความใหม่เรื่องเมื่อลูกถูกหมากัด ไว้ฟ้องเจ้าหอยโข่ง งับ
บอกได้คำเดียวว่า..สุดยอด
เมืองไทยอนาถาความรู้ ถ้าผู้รู้มาแบ่งปันกัน ก็จะเกิดชุดความรู้ฉบับสังคมไทยใหม่
ทุกครั้งที่อ่าน สนุก เหมาะกับชาวเฮฮา
แฟนตรึมเลยใช่ไหมละ ท่าน อัยการ อิอิ
สวัสดี ครับ ครูบา
หลังจากที่ผมตั้งใจเงื้อง่าราคาแพงจะเขียนขอบคุณครูบา ที่ได้ไปให้กำลังใจมือใหม่อย่างผม จนเมื่อยแขนแล้ว ถ้าเป็นนักมวยก็เป็นมวยหนักหมัด ง้างอยู่ได้ พออ่านBlog ของครูบาที่เขียนบอกว่าไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกร็ง นั้นใช่เลยครับ
เป็นความรู้สึกนั้นจริง ๆครับ
ผมต้องหัดเป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว แล้วละครับ วันนี้ก็เลยลงมือเขียนอย่างไม่รีรอเลยครับ
เกือบลืม ขอบคุณครูบาที่เขียนให้กำลังใจที่บล็อกผมนะครับ
ได้เลย เขียนมาเถอะ เจอะกันแน่