สิ่งที่นักเรียนต้องเรียนรู้ในการออกเสียงภาษาอังกฤษ
What a student needs to know in English pronunciation.
ผลการวิจัยด้านการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ (EFL) บ่งชี้ว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของนักเรียนคือ...การออกเสียง
ด้วยเหตุนี้...ทำให้นักเรียนจำนวนมากไม่ประสบความสำเร็จในการสื่อสารด้วยภาษาพูด
ทั้งนี้เพราะ...การออกเสียง..คือ..วิญญาณของการสนทนา (Pronunciation is the soul of Conversation.)
ครูอ้อยได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับการสอนการออกเสียงเมื่อคราวที่แล้วชื่อบันทึก คือ สิ่งที่ต้องเรียนรู้ในการออกเสียงภาษาอังกฤษ (2)ซึ่งได้กล่าวถึง...การลงเสียงเน้นหนักในคำ
ในบันทึกนี้ จะกล่าวถึง จังหวะ ในการพูดภาษาอังกฤษ ต้องมีจังหวะ จะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามได้เลยค่ะ
4. จังหวะ (Rhythm) จังหวะในภาษาพูดของภาษาอังกฤษ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของพยางค์ที่ Stressed และ Unstressed
การลงจังหวะที่ถูกต้องเป็นส่วนสำคัญของความเข้าใจ นักเรียนจะต้องออกเสียงแต่ละพยางค์ให้มีความยาวแตกต่างกัน คือ ลงเสียงหนัก (Strong Form) ให้ถูกต้องแล้ว ให้ส่วนที่เหลือเป็นเสียงเบา (Weak Form)
จังหวะในคำคือ Word Stress ส่วนจังหวะในประโยคที่เรียกว่า Sentence Stress
5. จังหวะในประโยค (Sentence Stress) คือ ตำแหน่งคำที่ผู้พูด ต้องการเน้นในโครงสร้างประโยค จะประกอบด้วยคำ 2 ประเภท คือ คำที่เป็นเรื้อหา หรือ ข้อมูลสำคัญ เรียกว่า Content Word และคำทางไวยากรณ์ เรียกว่า Structure Word
- จังหวะในประโยค มักจะอยู่ตรงคำที่เป็นเนื้อหา (Content Word) เช่น คำนาม (Noun) คำกริยาหลัก (Main Verb) กริยาช่วยที่เป็นปฏิเสธ (Negative Auxiliary) คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) และคำนามวิเศษณ์ (Adjective)
- โดยปกติ จะไม่เน้นคำทางไวยากรณ์ (Structure Word) เช่น Pronoun , Preposition , Article . กริยา to be , Conjunction , Auxiliary Verb
จังหวะในประโยคจึงจบลงเท่านี้ และจะกล่าวถึง การย่อคำ การรวบคำ ในภาษาเขียนในอันดับต่อไป
สำหรับบันทึกนี้ขอจบแค่นี้ หากเขียนต่อ ท่านผู้อ่านจะสับสน
พบกันใหม่ในบันทึกถัดไป......
เข้ามาอ่านข้อครูอ้อยแล้ว... ต้องบอกเลยว่า ดี ทีเดียวค่ะ
คราวหน้า มาอีก จะเข้าากวาดความรู้ไปให้เกลี้ยงเลยค่ะ
ขอบคุณน้าค้าา
งง อ่านไม่เข้าใจ ทำคิปเสียงดิ