พอได้ข่าวว่าครูบาจะพาสาวๆไปชมวิถีชีวิตของมดแดง (เพื่อจะได้รู้ว่ามดแดงกินอยู่อย่างไร จึงทำให้ทรวดทรงเป็นที่อิจฉาของสาวๆ ที่ว่าไม่มีมดแดงตัวไหนลงพุงแม้แต่ตัวเดียว ไม่ว่าจะกินอยู่อุดมสมบูรณ์ขนาดไหนก็ตาม) -ว่าที่จริงผมก็อิจฉาเหมือนกันครับ รู้ทั้งรู้ก็ยังอดกินไม่ได้ ก็มันหิวนี่ครับ
การที่จะไปดูหรือแหย่ไข่มดแดงนั้นต้องรู้ที่อยู่ของมดแดงเสียก่อน ว่าชอบอยู่กับต้นอะไรบ้าง ที่ไหน สูงต่ำแค่ไหน จะได้เตรียมไม้สอยได้ยาวพอดี ถ้ายาวไปก็เลย สอยไม่ได้ สั้นไปก็ไม่ถึง จึงต้องมีการสำรวจเบื้องต้นก่อนการเตรียมการครับ และบางทีต้องมีไม้สำรองไปด้วย หรือตัดเอาใหม่ ที่ต้องเสียเวลาและก็หนักครับ ดังนั้นรังมดแดงที่ต่ำไปหรือสูงไปก็มักจะแคล้วคลาดจากการสอยเสมอ
เวลาที่จะไปสอยก็ต้องดูฤดูกาลที่มดแดงมีไข่เต็มรังพอดี หรือมีตัวแม่เป้งที่เราอยากกินพอดี หรือจะเอาตัวมาทำยำมดแดงก็แล้วแต่ คือต้องกลับมาดูวัตถุประสงค์ของการแหย่ จังหวะเวลาที่เหมาะสมแบบสอดคล้องกันพอดีในเชิงเทคนิคการสอยนั้นต้องเริ่มดูว่ารังไหนโตพอที่จะมีไข่จึงจะสอย ยามที่มดแดงส่วนใหญ่พักผ่อนอยู่ในรัง มีไข่เต็มรัง ถ้าไม่มีไข่ก็ต้องรอจังหวะให้มีไข่พร้อมจะสอยเสียก่อน ที่จะสังเกตจากรังมีน้ำหนัก
การสอยก็ต้องมีจังหวะการแหย่รังให้ไข่ร่วงลงมา ไห้หล่นลงในที่รองรับ ที่มักจะเป็นหวดนึ่งข้าวที่มีรูปทรงปากกว้างพอเหมาะพอดี ที่ไข่มดแดงและมดแดงจะไม่หลุดร่วงลงดิน และอาจต้องป้องกันการไต่ออกของแม่เป้ง(นางพญามด)และตัวมด ที่อาจใช้ถังที่ลื่นที่มดไต่ออกไม่ได้ หรือจะใช้น้ำใส่ถังรอไว้
พอมดร่วงลงมาในหวดก็รีบเอาใส่ถังน้ำไว้ก่อน
เทคนิคการแช่น้ำกันมดคาบไข่หนีนั้น มดและไข่จะตายและเน่าเสียได้ง่าย แต่ก็มีวิธีลดความเสียหายโดยการเอามาผึ่งให้แห้งเร็วที่สุด หรือแยกไข่แยกตัวออกก่อนแช่น้ำ แล้วเอาไข่ไปคลุกกับแป้งข้าวจ้าว หรือแป้งมันให้แห้งไว้ตลอดเวลาก็จะไม่บูดเน่า เอาตัวไปแช่น้ำเพียงอย่างเดียว
การสอยก็ต้องรีบทำ ก่อนที่มดแดงจะแตกรังคาบไข่หนีเสียก่อน ก็จะไม่ค่อยได้ไข่มดตามที่ตั้งใจไว้ (โดยเฉพาะในระบบราชการที่หวงความรู้กันเหลือเกิน ไม่รู้มีใครไปบอกเขาว่า ข้อมูลคือเงิน)
หลังจากนั้นก็เป็นการบริโภคไข่มดแดงแล้วครับ จะกินเองก็มีทั้งเจียวไข่ หมก ยำ แกงผักหวาน ทำได้สารพัดชนิด หรือจะนำไปขายก็มีทั้งขายสดที่อาจแยกชนิด หรือผสมกันก็ตามใจลูกค้าจะชอบแบบไหน หรือจะส่งร้านอาหาร ภัตตาคารก็ได้ และทำกับข้าวขายเองแบบต่าง ๆ
เห็นไหมครับ การแหย่ไข่มดแดง ก็ต้องมีการจัดการความรู้ ในทุกด้านการเตรียมการแหย่ไข่มดแดงก็จะเหมือนการสร้างโครงการ KM ของมหาชีวาลัย ที่จะต้องรู้ว่าแหล่งความรู้อยู่ที่ไหน ใกล้ ไกล สอยยาก สอยง่าย ที่จะต้องเตรียมแนวทางและวิธีการที่เหมาะสม
เมื่อจะสอยก็อย่าไปทำให้ชุมชนแตกตื่นตกใจคำว่า KM ขวัญหนี ดีฝ่อ จนถึงกับวิ่งหนีตกบ่อ ตกน้ำตายกันไปหลายคน จนโครงการแทบจะล้ม(นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดของเรา เช่นเดียวกับหน่วยราชการที่มีการต่อต้านอยู่ภายในระบบ)
ดังนั้นการทำ KM จะต้องนุ่มนวลให้เขาทำโดยธรรมชาติ โดยไม่รู้ว่ากำลังทำ KM และต้องทำเมื่อทุกคนพร้อม และมีความรู้พอที่จะลงขันกันมาจัดการ ไม่ใช่ทำกันในความว่างเปล่ามีแต่คนตัวเปล่าๆ ไม่ได้ชุดความรู้ที่เป็นประโยชน์ (ที่เทียบกับได้ตัวมดมากินเปรี้ยวๆ ไม่ได้กันไข่มันๆ)
(สังเกตว่า การแหย่ไข่มดแดงในที่นี้ คุณกิจก็คือปลายไม้สอย คุณอำนวยก็คือตัวไม้สอยที่สั้นยาวพอดี คุณประสานก็คือคนสอย คุณลิขิตก็คือระบบรองรับไข่ ระบบการเก็บคือระบบข้อมูล ระบบตลาด คือการใช้และแลกเปลี่ยนข้อมูล- สำหรับคนที่ต้องกินปลาทูวันละสามเวลาที่อาจตีโจทย์นี้ไม่ออก เพราะไม่มีปลาทูของอาจารย์ประพนธ์เลย)
เมื่อได้ความรู้มาก็ต้องรีบเก็บให้เหมาะ ที่ต้องมีคุณลิขิตคอยจัดการเรื่องนี้ โดยทำงานร่วมกับคุณประสาน จึงจะมีการแปรรูป และเก็บรักษาให้อยู่ในรูปที่บริโภคได้โดยง่าย
ดังนั้น เทคนิคการแหย่ไข่มดแดงจึงน่าจะดีนะครับ แต่เรามักจะมีการทำให้มดแตกตื่น ใช้ไม้สั้นไป ยาวไป ที่รองรับไข่ก็รั่ว ไข่หล่นเสียหาย แหย่แล้วก็ไม่แยก เก็บไว้จนไข่มดเน่าเสีย หรือไม่ทำความสะอาด เลยไม่มีใครอยากกินหรืออยากซื้อต่อ หรือทำดีแล้วแต่ปรุงไม่เป็น ก็เลยไม่อร่อยน่ากิน แค่ สคส. มองมาแต่ไกลๆ ก็เบือนหน้าหนีแล้ว แบบนี้เราต้องไปปรับกระบวนกันในมหาชีวาลัยอีกหลายเรื่องเลยนะครับ
เอ้า....นักศึกษามหาชีวาลัยทั้งหลาย พร้อมจะไปแหย่รังความรู้ในชุมชนกันหรือยังครับ ใครได้ยินแล้วตอบด้วย ไม่ต้องรอคนยังนอนหลับฝันหวานอยู่หรอกครับ ใครไปก่อนได้กินก่อน อิ่มก่อนครับ คนที่นอนหลับไม่มีวันได้กินอิ่มหรอกครับ
ครับ
ตอนนี้ผมก็กำลังเป็นโรค ภูมิปัญญาไทย ขึ้นสมองครับ
ทนสักพัก เด๊ยวก็ชินครับ
ขอบคุณครับครูบาที่มาต่อยอดให้ครับ
ผมนำเสนอเทคโนโลยีพื้นบ้านครับ
แต่ก็น่าสนใจนะครับ ที่คุณกิจและคุณอำนวยเป็นคุณลิขิตไปในตัว ส่งข้อมูลถึงคุณประสาน (กรองผ่านคุณอำนวย) เข้าสู่ระบบคลังข้อมูลของคุณประสานโดยตรง ที่พร้อมจะส่งให้คุณเอื้อต่อได้เลย
สคส จะสนใจไหมนี่
หรือ อาจารย์ประพนธ์จะยังให้เราใช้ปลาทูแหย่ไข่มดแดงอยู่อีกนั่นแหละ
โมเดลนี้ดีกว่าไม้ไผ่แหย่ไข่มดแดงธรรมดาเสียอีก
สุดยอดเลยครูบา
วันหลังเราลองเอาโมเดลตัวนี้ไปแข่งกับปลาทูของอาจารย์ประพนธ์ดีไหมครับ
ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยต้องเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแน่นอน แล้วเราจะทดสอบกันในมหาชีวาลัยก็น่าจะได้
จะเรียกว่าอะไรดี
ท่อแหย่ไข่มดแดง เป็นไงครับ
หรือเราจะจัดประกวดโมเดล KM ซะเลยดีไหม เผื่ออาจารย์ประพนธ์ยังจะยืนยันส่งปลาทูเก่าๆแห้งๆมาเข้าประกวดอีก เราได้เฮกันแน่เลยครับ
โทษที ผมตื่นเต้นจริงๆ ครับ
อร่อยค่ะเคยทาน แหะๆ แต่ต้องทอดใส่ไข่นะคะ
เป็นไข่เจียวไข่มดแดงค่ะ อร่อยมากๆๆ
เรียนคุณผู้รู้ทั้งหลาย ผมอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับไข่มดแดงมากกว่านี้ รวมถึงอยากสอบถามในสิ่งที่อยากรู้ครับ รบกวนขอที่ติดต่อและเบอร์โทรหน่อยได้ไหมครับ ผมจะโทไปสอบถามเองครับ ไม่ต้องให้ท่านผู้รู้ต้องเสียเงินเลยครับ ขอบพระคุณครับ
นี่เบอร์โทรสตังค์ครับ 081-792-7202
ขอขอบพระคุณที่เอื้อเฟื้อเมตตาแก่กระผมครับ
สตังค์...ขอบคุณครับ
สงสารมดแดงจังเลยค่ะ แต่ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติที่สัตว์เล็กย่อมเป็นอาหารของสัตว์ใหญ่
ขอบมากค่ะที่ได้พบข้อมูลของอาจารย์ เพราะจะนำความรู้ไปให้นักเรียนประกอบอาชีพในชุมชนค่ะ
หนูชอบบทความนี้มากเลยค่ะ หนูได้มีโอกาสไปแหย่ไข่มดแดงแล้วกับคุณแม่ แต่หนูรู้มาว่าที่เอาแป้งใส่เพราะต้องการให้มดแดงไต่ออกจากไข่ค่ะ และถ้าจะกินแม่เป้งให้อร่อยต้องกินเป็นเมี่ยงค่ะ คือเอาใบกระโดนที่อ่อนพอดีๆ มาห่อ ใส่ตะใคร้ซอย ขิงหั่นบางๆๆแล้วก็ห่อเป็นคำ ขอบอกว่าแซบมากๆๆคะ ^^