ในทุกคราวครั้งของพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย ท่ามกลางความหน่วงหนักของภารกิจที่มีต่อสถาบัน ผมจะพร่ำบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า "ห้วงเวลาของการพระราชทานปริญญาบัตรจะนำพาสิ่งดี ๆ มาเยือนชีวิตผมเสมอ" ....
ก่อนหน้านี้ร่วมสองสัปดาห์ผมได้มีโอกาสรับสายโทรศัพท์ข้ามฟากมาไกลโพ้นจาก คุณเสกสรร หาญคำหล้า (อดีตแกนนำชมรมอาสาพัฒนาและกลุ่มนิสิตช่อราชพฤกษ์) ซึ่งกำลังจะกลับคืนสู่สถาบันแห่งนี้ในฐานะ "บัณฑิตใหม่" เราไม่ได้คุยกันยาวนานนัก แต่ก็แจ่มชัดในเจตนารมณ์ของ "เจ้าเสก" ที่ขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการระดมทุนเพื่อมามอบเป็น "ทุนการศึกษา" แก่น้องนิสิตที่กำลังใช้ชีวิต และเรียนรู้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัย
ห้วงแรกของการสดับฟังเรื่องดังกล่าว, ผมรู้สึกตื้นตันและอบอุ่น อีกทั้งยังถือว่าเป็น "เรื่องดี ๆ" ที่กำลังย่างกรายมาเยือนในเทศกาลอันสำคัญของมหาวิทยาลัย
ถัดจากนั้นเรายังคงพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวกันบ้างแต่ก็ไม่บ่อยครั้ง กระนั้น ผมก็เชื่อมั่นว่า "เรื่องดี ๆ " ที่ว่านั้นจะปรากฏเป็นความจริงได้อย่างไม่ยากเย็น ยิ่งก่อเกิดขึ้นจากแนวคิดของอดีต "ผู้นำกิจกรรม" เช่นนี้ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจมากเป็นทวีคูณ !
มันเป็นภาพสะท้อนอันง่ายงามของ "อดีตผู้นำกิจกรรม" ที่มีต่อมหาวิทยาลัยอย่างเต็มเปี่ยม รักและเทิดทูนสถาบัน ตระหนักในบุญคุณของมหาวิทยาลัย และห่วงใยต่อ "น้องนิสิต" ที่กำลังเดินทางเสาะแสวงหาความหมายของชีวิตเฉกเช่นพวกพี่ ๆ ที่เคยกระทำมาเมื่อหลายปีก่อน
กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๙ เจ้าเสกดุ่มเดินมาพบผมที่กองกิจการนิสิต พร้อมด้วยเอกสารชุดหนึ่งที่เจ้าตัวเขียนถึงบัณฑิตเพื่อเชิญชวนร่วมระดมทุนเป็น "ผ้าป่าทุนการศึกษา" ซึ่งรบเร้าให้ผมปรับแก้สำนวน แต่ผมปฏิเสธเพราะเห็นว่า ทุกถ้อยคำมีชีวิตและมีความชัดเจนในกระบวนความอยู่แล้ว
...เจ้าตัวแสดงความวิตกอยู่มากโข เพราะกลัวเกรงว่าจำนวนเงินที่จะได้มานั้นคงไม่มากนัก แต่ผมก็ยังยืนยันและให้กำลังใจว่า คุณค่าของสิ่งที่เจ้าตัวกำลังทำอยู่นั้นมิได้ชี้วัดที่ "มูลค่าของเม็ดเงิน" และยืนยันว่า "ผ้าป่าทุนการศึกษา" ที่กำลังระดมทุนนั้น เท่าที่จำได้สืบมาตั้งแต่ครั้งที่เป็น มมส ก็ยังไม่เคยมีบัณฑิตรุ่นใดร่วมกันรังสรรค์ขึ้นในวันพระราชทานปริญญาบัตร ..
ก่อนแยกจากกันในวันนั้น, ผมไม่ลืมที่จะนัดหมายพิธีมอบทุนการศึกษาดังกล่าว โดยไม่สนใจที่จะรออยู่ก่อนว่าจำนวนเงินที่ระดมมานั้นจะมากน้อยสักกี่บาทกันแน่ อีกทั้งยังย้ำกับน้องผู้ร่วมชะตากรรมในถนนสายกิจกรรมว่า นี่คือ "ปรากฏการณ์ครั้งแรกที่บุกเบิกโดยอดีตผู้นำนิสิตที่อาจนำพาไปสู่การเป็นวัฒนธรรมอันดีสืบไปอย่างไม่รู้จบในห้วงวันเวลาของพิธีพระราชทานปริญญาบัตร"
จวบจนเวลาประมาณ ๐๘.๓๐ นาฬิกาเศษของวันที่ ๑๗ ธันวาคม พิธีมอบทุนการศึกษาในนามผ้าป่าทุนการศึกษาจึงเกิดขึ้นตามเจตนารมณ์ โดยเจ้าอี๋ (นายธนิกพนธ์ เชื้อแก้ว : อดีตผู้นำประชุมเชียร์และประธานรุ่นเสือดาว ๘) เป็นผู้แทนบัณฑิตขึ้นมอบทุนการศึกษาดังกล่าวต่อท่านอธิการบดีด้วยจำนวนเกือบ ๓ หมื่นบาท ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่นาทีผมต้องวิ่งเต้นหาซองจดหมายมาให้เจ้าอี๋แทบไม่ทัน ทั้งยังต้องทำหน้าที่พิธีกรในการมอบทุน และเร่งรีบลงจากเวทีไปดูแลการตั้งแถวของบัณฑิตฯ ที่กำลังรวมตัวหน้าตึกคณะบัญชีฯ
นี่คือ บันทึกเรื่องดี ๆ ที่มาพร้อมกับวันเวลาอันทรงเกียรติของมหาวิทยาลัย และเป็นเรื่องดี ๆ ที่เป็นเสมือน "กระจกเงา" ที่ส่องสะท้อนให้เห็นความสำนึกรักที่ดีของบัณฑิตที่มีต่อสถาบัน โดยเฉพาะในแง่มุมของสายกิจการนักศึกษาอย่างเรา ๆ ก็ยิ่งอิ่มเอมและภาคภูมิใจเป็นที่สุดเพราะผ้าป่าทุนการศึกษาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก่อเกิดขึ้นจากนิสิตผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเรียกตนว่า "นักกิจกรรม" เคยถูกวิพากษ์จากคนรอบข้างว่าเป็น "เด็กดื้อ" ที่เหลวใหลใช้ชีวิตอยู่กับการทำกิจกรรมอย่างเปล่าประโยชน์ แต่วันนี้กลับเป็นผู้ที่ดิ้นรนและเพียรพยายามมอบกำนัลสิ่งดี ๆ หรือเรื่องดี ๆ คืนกลับให้มหาวิทยาลัยอย่างไม่เคอะเขิน
มันเป็นครั้งแรกที่บัณฑิตระดมทุนเป็นผ้าป่าทุนการศึกษามอบในโอกาสการกลับมารับปริญญาบัตร
เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นจากการริเริ่มของนิสิตที่เคยเรียกตนเองว่า "นักกิจกรรม" และกลับมาในบทบาทของ "บัณฑิตที่เป็นอดีตผู้นำกิจกรรม" รอเพียงการ "ต่อยอด" ไปสู่การเป็น "วัฒนธรรม" เท่านั้นเอง
สำหรับผมแล้ว...ยืนยันอีกครั้ง นี่คือเรื่องดี ๆ ที่มาพร้อมกับสายลมหนาวในห้วงแห่งการรับปริญญาบัตร ปี ๒๕๔๙
(และเป็นเสมือนของขวัญปีใหม่ที่อดีตผู้นำกิจกรรมนำมามอบให้ในฐานะคนคุ้นเคย)
เป็นเรื่องดีๆที่ มมส.
ผมชื่นชมในความตั้งใจดีๆ ของคนกลุ่มหนึ่ง ผมมองว่า ไม่ว่าเราจะได้กี่มากน้อยเท่าไหร่ คงไม่สำคัญ ที่สำคัญอยู่ที่ว่าเราได้คิด ได้ทำ และในสุด หากเป็นประเพณีในช่งรับปริญญาได้ คงจะดียิ่งๆขึ้นไป
และหวังเหมือน พี่หนิง นะครับ จะเป็น วัฒนธรรมที่ดีงามสืบไป
ให้กำลังใจครับ
เป็นครั้งแรกของการเขียนบันทึก เลยไม่เข้าใจกระบวนการตอบบันทึก จึงล่วงมายาวนาน
คนเหล่านี้ คือวัฒนธรรมอันดีงามที่ควรยึดปฏิบัติ..เงินกองทุนนี้ล่าสุดมอบแก่ผู้นำนิสิตไปแล้วเมื่อวันขอบคุณนักกิจกรรมที่ผ่านมา ...
ยืนยันอีกครั้ง นี่คือเรื่องดี ๆ ที่มาพร้อมกับสายลมหนาวในห้วงแห่งการรับปริญญาบัตร ปี ๒๕๔๙
ตามมาอ่านเรื่องดี ๆ ในสายลมหนาว แห่งปี๒๕๔๙ ;p