อีกหน้าที่หนึ่งของมหาวิทยาลัย.... คือการให้บริการวิชาการแก่สังคม... สำหรับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดตั้ง ศูนย์บริการวิชาการ เพื่อดำเนินการในด้านนี้... ทั้งเป็นผู้ให้บริการวิชาการโดยตรง และเป็นผู้ประสานงานและจัดสรรงบประมาณที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยให้กับคณะวิชาเพื่อบริการวิชาการแก่สังคม ชุมชน และประเทศ
จากการสัมมนา เรื่อง นวตกรรมการบริการวิชาการ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2549 ณ ศูนย์บริการวิชาการ มข.... ท่าน ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ...ได้ให้เกียรติบรรยายพิเศษ ซึ่งสรุปได้ดังนี้
o มหาวิทยาลัยต้อง...ตอบสนอง ชี้นำ เตือนสติ และเป็นที่พึ่งแก่สังคม....โดยผ่านงานด้านบริการวิชาการ การสอน และการวิจัย
o งานบริการวิชาการ ควรมี 2 ลักษณะ ที่ต้องให้สมดุลกัน คือ...บริการวิชาการแก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม...และบริการวิชาการที่ใช้งบประมาณจากหน่วยงานอื่น รวมถึงการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาต่างๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับหน่วยงานได้
o การตอบสนองความต้องการของสังคม....ต้องเป็นหลักในการทำงานบริการวิชาการ.....
o สิ่งที่เรียกว่า “นวตกรรมการบริการวิชาการ” คือ
vการบริการวิชาการที่เป็น สหวิทยาการ เป็นการทำงานร่วมกันของอาจารย์จากหลากหลายสาขาวิชา
v บูรณาการ การเรียน การสอน และการวิจัย คือ บริการวิชาการผ่านการวิจัย และการสอน
o ความต้องการของท้องถิ่น คือ สุขภาพอนามัยของประชาชน และการศึกษาที่มีคุณภาพ
o “วิจัยเรื่องที่สอน....สอนและบริการวิชาการ จากเรื่องที่วิจัย”
o สร้างงานบริการวิชาการ....จากเรื่องที่วิจัย
o งานจากการบริการวิชาการ...นำมาใช้ในการเรียนการสอน
นอกจากนี้ท่านยังมีข้อคิดดีๆ
พุทธ : คนพูดเท็จ ไม่ทำบาป ไม่ทำชั่ว ไม่มี
จีน : ภาษีกับการค้า เป็นของคู่กัน อย่าเล่นเล่ห์ให้ได้กำไรงาม
ยิว : คนชั่วที่น่ากลัว คือ คนฉลาดที่ไม่ถ่อมตัว
ปีใหม่นี้ ข้อคิด หรือ คติ เตือนใจ ที่ท่านใช้ในการดำเนินชีวิต คือ อะไร บ้างค่ะ?
สวัสดีปีใหม่ครับ
อะไรทำได้ก่อน...ลงมือทำเลย...
ทำเพื่อธรรม...
อยากจะเจาะกลางใจชาว ม.ข.
เพื่อจะต่อต่อมแต้มความรู้ใหม่
พัฒนาวิชาการงานวิจัย
ช่วยแก้ไขปัญหาชะตากรรม
คนอีสานน้ำตาตกยกโขยง
ทิ้งเรือนโรงเข้ากรุงไม่เป็นส่ำ
อนาคตหดหู่อยู่ประจำ
ม.ข.ทำยังไงใคร่ถามเอย.
เรียนท่านครูบาสุทธินันท์
ขอขอบพระคุณ
เกื้อหนุน ม.ข
พวกเราไม่ย่อ
ร่วมรวมพลัง
ขอเพียงมีจิต
มวลมิตรร่วมสรรค์
มอ ขอ ร่วมพลัง
สร้างสรรค์ เพื่อ ไทย
สวัสดีปีใหม่ค่ะท่านอาจารย์ paew
ในระหว่างวันที่ 19 – 21 ธันวาคม 2549 ที่อาจารย์ได้มาจัดการอบรม การจัดการความรู้ (Knowledge Management) ให้กับบุคลากรวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น พร้อมด้วยทีมวิทยากรจาก ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รศ.นพ.จิตเจริญ ไชยาคำ และน้องพิชซ่า ถนอมเสียง ผู้เข้ารับการอบรมประทับใจมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน แต่แฝงสาระมากมายที่และชวนให้ติดตาม หลงใหลในเสน่ห์ของ KMKM จึงเป็นเครื่องมือในการพัฒนางาน พัฒนาคนที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง รูปแบบที่คณะวิทยากรได้นำมาใช้ในการฝึกอบรมครั้งนี้คือ ให้ทุกคนได้ใช้วงสนทนาที่เรียกว่า Dialogueในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้รับ แล้วนำไปปฏิบัติ พัฒนาต่อยอดความรู้ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือที่เรียกว่า BLOG ในการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในชุมชนนักปฏิบัติ เพื่อสร้างแนวปฏิบัติที่ดีเลิศ (Best Practice) ที่เป็นฐานความรู้ที่จะพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ
ขอเพิ่มเติมนะคะอาจารย์ paew
วันนี้วันแรกที่ได้สมัครสมาชิกและเข้ามาใช้ ยังไม่ค่อยชำนาญในการใช้ เขียนยังไม่จบเลย ไปบันทึกซะแล้ว แต่ก็จะพัฒนาต่อไปค่ะ
ตอนนี้วิทยาลัยได้รับการประเมินโรงเรียนพระราชทานแล้ว เริ่มจะพอมีเวลาจึงนำความรู้ที่อาจารย์ได้ถ่ายทอดมาใช้ สิ่งที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำคือ การให้ความรู้ด้านวิชาชีพแก่ชุมชน ในรูปของหลักสูตรระยะสั้น คงจะเริ่มที่มีการสำรวจความต้องการของชุมชน อาจารย์มีข้อเสนอแนะอะไรมั้ยค่ะในการดำเนินการในฐานะที่อาจารย์ทำงานในส่วนของศูนย์บริการวิชาการ
ปีใหมีนี้ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณ แผ่นดิน
สวัสดีปีใหม่ค่ะ อาจารย์ปภังกร วงศ์ชิดวรรณ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ อาจารย์umi ทะเล
อะไรทำได้ก่อน...ลงมือทำเลย...ทำเพื่อธรรม...
ขออนุญาตต่อเติมนะค่ะ
......มีคุณธรรม.....ทำทันที..คุณน่ะทำ.....
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ JJ ค่ะ ที่รับปาก ท่านครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ว่า
เราชาว มข
เกื้อหนุน ม.ข
พวกเราไม่ย่อ
ร่วมรวมพลัง
ขอเพียงมีจิต
มวลมิตรร่วมสรรค์
มอ ขอ ร่วมพลัง
สร้างสรรค์ เพื่อ ไทย
สวัสดีปีใหม่ค่ะ อาจารย์กาญจน์
ชาว มอขอ เริ่มต้นที่ ใจ ก่อนเลยค่ะ มีใจ แล้ว พลังตามมา สร้างสรรค์สังคมค่ะ ค่อยๆร่วมกันค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณใบบุญ
ค่ะเรามา ร่วมใจ สร้างพลัง สร้างสรรค์สังคม ร่วมกันนะค่ะ
ตอบครูบาสุทธินันท์
ปัจจุบันถูกกำหนดโดยอดีต
อิสานซีดถูกสูบจนซูบเหลือง
แต่ครั้งขอมวิไลใหญ่รุ่งเรือง
ถูกกดขี่ต่อเนื่องนับพันปี
ทั้งแรงงานป่าไม้ทำลายสิ้น
แปลงเป็นศิลป์ปราสาทพินาศกลิ้ง
ดินเป็นทรายสายฝนก็ทอดทิ้ง
สังคมนิ่งคนเนาว์เอารอดตัว
ยามยุคใหม่คนไทยใจละโมภ
ทำด้วยโลภย่ำเหยียบแสวงหา
ความร่ำรวยส่วนตนบนน้ำตา
ของประชาชนชาวอีสานทรมานใจ
ข้าราชการนักการเมืองชาวอีสาน
พ่อค้าแพทย์ครูพยาบาลก็หลากหลาย
เคยพลีชีพช่วยญาติสักเท่าใด
มข.ไซร้ เพียงเม็ดทรายในกองดิน