ผู้เขียนได้อะไรจากอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนานักวิจัยสถาบัน ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 (ช่วงที่ 1) บ้าง
IRDA ได้เชิญ รศ.ดร.รัตนะ บัวสนธ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาเป็นวิทยากรประจำโครงการ อาจารย์พูดตลกและเข้าใจง่าย บ้างช่วงผู้เขียนเองก็แอบหลับไปบ้าง เพราะฤทธิ์ยาลดน้ำมูก ทำให้ง่วง อิอิ อาจารย์ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับวิจัยสถาบันซึ่งอาจารย์บอกว่า
วิจัยสถาบัน คือการค้นหาความจริงด้วยวิธีการที่เป็นระบบเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน หรือผลการปฏิบัติงานตามภารกิจของหน่วยงาน องค์สถาบัน เพื่อนำผลที่ได้ไปพัฒนา ปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงาน องค์กร หรือสถาบันนั้นๆ และได้ยกตัวอย่างหัวข้อวิจัยสถาบัน รายละเอียดตาม http://gotoknow.org/blog/nulow-oil/148648
หลังจากพักรับประทานอาหารว่าง (ผู้เขียนแอบไปซื้อลูกอมอมแก้ง่วง อิอิ) มีวิทยากรประจำกลุ่มวิจัยคือ อ.สิริพร ปาณาวงษ์ ได้ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวิจัยสถาบันและการเขียนโครงการวิจัย แล้วอาจารย์ก็ให้ผู้เข้าอบรมได้คิดหัวข้อพอดีอาจารย์ให้คิดในหัวความคิดผู้เขียนกำลังคิดว่าจะทำวิจัยเกี่ยวกับหน่วยวิจัยหรือห้องอ่านหนังสือฯดี เพราะรับผิดชอบ 2 งาน แต่สุดท้ายเรื่องที่อยู่ในความคิดจะเป็นงานห้องอ่านหนังสือหัวข้อที่คิดได้จะมี
จากนั้นก็เดินไปปรึกษาอาจารย์สิริพรให้แนะนำ ว่าควรเลือกหัวข้อไหนเหมาะสมที่สุด อาจารย์สิริพร แนะนำว่า ถ้าเลือกข้อ1 เรารับทราบผลที่ได้ แต่เป็นเพียงแค่รับทราบเท่านั้น ไม่สามารถนำไปแก้ปัญหาได้ ซึ่งจะเป็นไปได้ยากต่อการนำมาแก้ปัญหา เพราะว่ามันเป็นภาพรวม แต่ถ้าระหว่างข้อ 2 กับข้อ 3
ข้อ 2 น่าจะดีที่สุด เพราะว่าสามารถนำมาแก้ไขและพัฒนาในคณะของเราได้โดยตรง โดยนำผลที่ได้เสนอต่อผู้บริหารให้รับทราบ
มาถึงตรงนี้ผู้เขียนเองก็มานั่งคิดเค้าโครงการวิจัย(ตามแบบฟอร์มที่อาจารย์ให้มา) มีดังนี้
บทที่ 1 บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของการวิจัย
วัตถุประสงค์การวิจัย
สมมติฐานการวิจัย (ถ้ามี)
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ขอบเขตของการวิจัย
- ประชากร
- กลุ่มตัวอย่างตัวแปรที่ศึกษา
- ตัวแปรต้น
- ตัวแปรตาม
- เนื้อหา
- ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย
- นิยามศัพท์เฉพาะ
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
งานวิจัยในประเทศ
งานวิจัยต่างประเทศ
บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
- ประชากร
- กลุ่มตัวอย่าง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิเคราะห์สถิติที่ใช้ในการวิจัย
พอผู้เขียน เขียนเรียบร้อย (ยกเว้นบทที่ 2 ยังไม่ได้เขียน เอาไว้ไปค้นคว้านอกรอบ อิอิ) ก็เอาไปให้อาจารย์สิริพรช่วยดู อาจารย์บอกว่าใช้ได้
ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาเพียงแค่ 1 วัน ผู้เขียนเองก็ดีใจที่สามารถคิดหัวข้อโครงการวิจัยและเขียนโครงการวิจัยออกมาได้โดยมีวิทยากรคอยให้คำชี้แนะ ถือว่าเป็นความสำเร็จก้าวแรกของผู้เขียนด้านการทำวิจัย
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนหนักใจที่ก็คือ ไม่มีประสบการณ์ในด้านการทำวิจัยมาก่อนเลย
แต่ที่เบาใจก็คือ ดีใจที่ IRDA ได้จัดโครงการนี้ขึ้น อย่างน้อยเวลาเรามีปัญหาอะไร ก็มีวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิค่อยช่วยชี้แนะเราให้ทำวิจัยได้ถึงที่ฝันได้ อิอิ เผลอๆ อาจจะมีชื่อผู้เขียนอยู่ในงานนเรศวรวิจัยครั้งที่ 4 ก็ได้ อิอิ จะพยายามนะคะ เพื่อมหาวิทยาลัยของเรา
ได้เข้าร่วมอบรมเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีรึป่าว เพราะไม่เคยทำเหมือนกัน ขนาดให้คิดหัวข้อวิจัยยังคิดไม่ค่อยจะออกเลย อิอิ แต่ก็สู้สู้
สู้ต่อไป ประเทศไทยจงเจริญญญญญญญญญญญญญ
ขอให้นักวิจัยทำหน้าที่ต่อไปเพื่อวิทยาการใหม่ๆ เพื่อพัฒนาองค์กร และพัฒนาประเทศต่อไป