"ดอกไม้เบ่งบานในใจ" ในสนทนาวงน้ำชา ปัญหาบ้านเฮา : เมืองปายครั้งที่ ๑
ใกล้จะถึงเวลาสี่โมงเย็น ผมรีบขับรถออกจากบ้านเพื่อไปเตรียมตัว วงน้ำชา สนทนาปัญหาบ้านเฮา : วันนี้นัดเเรกที่เมืองปาย ที่เราได้นัดแนะกันไว้ แต่ผมต้องไปที่โรงพยาบาลปายก่อน เพื่อเตรียมประเด็นกับคุณหมอรอน เรื่องราวที่จะเสวนาในเย็นย่ำวันนี้ น้องหมอสุพัฒน์ยังง่วนกับคนไข้ที่มารับบริการถึงคิวที่ ๑๘๐ เวลาใกล้เลิกงานแล้วคนป่วยยังเต็มโรงพยาบาล...นี่คงเป็นสัญญาณหนึ่งของการสุขภาวะของคนบ้านเรา
ผมโทรศัพท์ติดต่อป้าอาภรณ์ยืนยันเรื่องเวลา และผู้เข้าร่วมสนทนาวงน้ำชาเรา ก่อนที่ผมกับหมอรอน และผู้นวยการโรงพยาบาลคนใหม่ จะเดินทางไปที่ บาบาน่าเฮาส์ สถานที่เรานัดแนะกันสำหรับกิจกรรมเย็นนี้
ความจริงผมจะ Online MSN เพื่อจะได้บันทึกการสนทนาเพื่อให้ผู้สนใจข้างนอกได้แลกเปลี่ยนอีกทางหนึ่ง แต่ต้องรอ นพ.สุพัฒน์มาเซตโน้ตบุกกับ GPRS ให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มสนทนาแบบออนไลน์
ที่บาบาน่าเฮาส์ มีผู้ร่วมสนทนามารออยู่ก่อนแล้ว ผมดีใจครับนอกจากบุคคลที่ผมได้เชิญมาร่วมส่วนหนึ่งแล้วทาง ป้าอาภรณ์ท่านก็มีบุคคลสำคัญของอำเภอปายที่ผมคุ้นหน้าเข้ามาร่วมด้วย ตอนนี้มาครบครันแล้ว มีปราชญ์เมืองปายพ่อครูจัน อินทสาร ป้าอาภรณ์ แสงโชติ ประธานภาคประชาสังคมปาย แม่ครูดวงจันทร์ อรัญภูมิผู้ประกอบการดวงเกสเฮาส์ คุณครูเพ็ญศรี ผู้ประกอบการ PTTM นวดแผนไทย ผอ.สมพร ชวฤทธิ์ อดีต ผอ.โรงเรียนมัธยม อดีต ผญบ.อนันต์ แสนมะริด พี่บัวลม พยาบาลจากโรงพยาบาลปาย พี่หมอรอน ใจกันทา หัวหน้าฝ่ายเวชปฏิบัติฯ โรงพยาบาลปาย มาพร้อม นพ.สราวุฒิ ผอ.รพ.ปาย คนใหม่ น้องรณฤทธิ์ นิติกรจาก เทศบาลตำบลปาย และตามมาล่าสุดคือหมอสุพัฒน์ ใจงาม KMsabai ของเรานั่นเอง ครบผู้สนทนาแล้ว การพูดคุยก็เริ่มขึ้น Online MSN ก็เตรียมพร้อม
เราใช้สถานที่หน้าบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศโปร่ง โล่งสบาย กับสายลมเย็นๆช่วงค่ำ MSN ใช้การได้ดี ผมเองคงต้องเป็นผู้ดูแลการสนทนาวงน้ำชาวันนี้ แต่ด้วยเป็นเวทีธรรมชาติผมก็เป็นผู้สังเกตการณ์เงียบๆพร้อมกับรัวนิ้วพิมพ์รายละเอียดคำต่อคำเพื่อแลกเปลี่ยนกับคนนอก ที่เข้าร่วมสนทนากับเราครั้งนี้ ได้แก่ พ่อครูสุทธินันท์ ท่านพลโทเอกชัย ศรีวิลาศ คุณ Conductor และคุณเม้งสมพร ช่วยอารีย์ ช่วยในการเก็บ log file และเก็บประเด็นในครั้งนี้
การสนทนาเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นกันเอง โดยพ่อครูจัน อินทสาร ท่านพูดเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองปายที่น่าสนใจ ท่านเล่าถึงประเพณีอันดีงาม เช่น ประเพณีกาดหลู่ ประเพณีแห่ส่างกาน ที่สืบสานต่อเนื่องกันมาของพี่น้องไทยใหญ่ และปัจจุบันนี้ถูกละเลยในรายละเอียดของกิจกรรมไป พ่อจันบอกว่าน่าเป็นห่วงมาก ที่ประเพณีเหล่านี้ถูกลูกหลานมาแปรเปลี่ยนกิจกรรมที่ไม่เคารพฮีตฮอย(จารีต)เดิมที่สืบต่อกันมา
หมอรอนเปิดประเด็น ประเพณีกาดหลู่ที่เปลี่ยนแปลงไป (ประเพณีกาดหลู่เป็นประเพณีไทยใหญ่ที่ทำกันในช่วงออกพรรษาของทุกปี) นับวันจะวิกฤติมากขึ้นทุกปี มุมมองของหมอรอนก็ไปโพกัสอยู่ที่การที่วัยรุ่นดื่มสุรา ทะเลาะ ตีกันในประเพณีกาดหลู่ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญทางพุทธศาสนาซึ่งไม่สมควร
การเปิดประเด็นของหมอรอนครั้งนี้ ตามมาด้วยการนำเสนอประเด็นปัญหาของปายเพิ่มเติมหลายๆประเด็น ผมสังเกตว่าทุกคนมีประเด็นปัญหาที่คล้ายๆกัน แสดงว่าสิ่งที่เราเห็นและเป็นห่วงเป็นประเด็นที่คล้ายคลึงกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้น(พูดคุยในวงน้ำชา) ในเมืองปายที่ประมวลได้มีดังนี้
- ปัญหาการกลายพันธุ์ของวัฒนธรรม ใช้ประเพณีดั้งเดิมมาแปรเปลี่ยนเพื่อธุรกิจ
- ปัญหาอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ตลอดจนการขัดแย้งของกลุ่มคนในพื้นที่
- ปัญหาความเสื่อมโทรมของสภาพสิ่งแวดล้อม และการรุกของนักธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมกับคนท้องถิ่น
- ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน
- ปัญหาอื่นๆ เช่น ปัญหาอาญชกรรมทางเพศ,ปัญหาการซื้อขายที่ดิน,ปัญหาสุขภาพ,การช๊อคทางวัฒนธรรม
แต่ประเด็นที่คุยกันมากคือ วัฒนธรรมดั้งเดิมของพี่น้องชาวปายที่หลากหลาย กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโปรโมทเพื่อรายได้ไม่เป็นธรรมจากผู้ที่ไม่เข้าใจ แต่ในเนื้อหากิจกรรมถูกบิดเบือนจากประเพณีดั้งเดิมจนคนท้องถิ่นรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกปี
นายแพทย์สราวุฒิ ได้ให้ข้อเสนอแนะน่าสนใจถึง วาระสำคัญเร่งด่วนของเมืองปาย คือ “การกอบกู้วัฒนธรรม” โดย ได้ให้ความเห็นว่า ยากที่จะต้านทานอำนาจใหญ่ๆที่ครอบงำตอนนี้ สิ่งที่เราต้องคิดใหม่ก้คือ ทำอย่างไรให้เราเข้มแข็ง เริ่มจากจุดเล็ก ใช้ “ศรัทธา” นำ ส่วนในเรื่อง ถนนคนเดินของปายนั้นอาจต้องปล่อยไป อาจมีการแยกโซนเพิ่มโซนวัฒนธรรมปายขึ้นมา
ในวงสนทนาคุยกันเข้มข้นอีกครั้งต่อเนื่องจากประเด็นที่ ผอ.รพ.ปาย กล่าวทิ้งไว้ พ่อจันบอกถึงประเพณีไทยใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ คือ ประเพณีส่างกานเครือ (ทานผ้าเหลือง) น่าจะเป็นประเพณีที่แสดงพลังของพี่น้องไทยใหญ่อีกครั้ง ท่าน ผอ.สมพร ได้ให้ข้อเสนอเรื่องการการให้ความภูมิใจกับคนท้องถิ่น การนำเสนอตัวตนของปายที่ชัดเจนต่อนักท่องเที่ยว
ตลอดเวลาที่สนทนาผมเปิดสายโทรศัพท์พร้อมกันไปด้วย ปลายทางที่กรุงเทพฯ ท่านพลโทเอกชัย จะได้ยินเสียงการสนทนาโดยตลอด และเป็นส่วนหนึ่งของวงสนทนาแบบสนทนาผ่านลำโพงโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นการสื่อสารที่น่าตื่นเต้น เพราะมีการสนทนาโต้ตอบให้ทุกคนในวงได้ยินเสียงที่ชัดเจน และการได้ตามติดประเด็นอย่างต่อเนื่อง ท่านเอกชัยจึงขอขมวดความคิดของท่านเสนอต่อที่ประชุมตอนท้าย ผมจับใจความได้ดังนี้
“ปายมีทุนทางวัฒนธรรมและทุนทางทรัพยากรมาก แต่ขาดทุนทางปัญญา มาบริหารจัดการ ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เราต้องโทษตัวเอง มากกว่าที่จะโทษข้างนอก อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็ให้ผ่านไป แต่เอาปัญหา หรือวิกฤตินั้นเป็นโอกาสในการทำงานพัฒนาเมืองปาย”
- - -
“ผมคิดว่าที่ไหนก็ตามหากเราได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน แล้ว ความสัมพันธ์ทางสังคมแบบนี้จะช่วยให้เครือข่ายเข้มแข็ง”
- - -
“อยากให้ใช้ปัญญานำ มากกว่าตัวเงิน คนปายต้องอยู่บนความหลากหลายอย่าทำให้ ทุกกลุ่มชาติพันธุ์ เหมือนกัน ศึกษาประวัติศาสตร์ของแต่ละกลุ่มเผ่าพันธุ์นำของดีมาตีแผ่ แต่ละกลุ่มให้กำลังใจกัน ทำทุกอย่างให้มีชีวิตเช่นสะพานสงครามโลก หลักเมืองปาย ภาษาท้องถิ่น ใช้ยุทธศาสตร์ ป่าล้อมเมือง มาเที่ยวปาย ที่ถนนคนเดินไปที่ ตรอกข้าวสารดีกว่า เอาเด็กๆมาช่วยเป็นมัคคุเทศก์น้อยสร้างความรักท้องถิ่น เราน่าจะมีถนนสายวัฒนธรรม ใช้พลังทางปัญญาในการขับเคลื่อนงานพัฒนา ผมคิดว่าเรื่องงบประมาณไม่ใช่เรื่องสำคัญเร่งด่วน แต่ทำอย่างไรให้เรารู้ตัวเอง ค้นหาตัวตนให้ชัด และนำทุน หรือจุดแข็งเหล่านี้นำมาเป็นทุนในการพัฒนา แก้ไขวิกฤติ”
ท่านเอกชัยกล่าวสรุปได้อย่างจับใจ ผ่านลำโพงเล็กๆของโทรศัพท์ ซึ่งผมรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า พังเสียงจากโทรศัพท์มือถือเล็กๆของผมนั้นทรงพลังอย่างอัศจรรย์ เสียงกังวานดังก้องทั่วบริเวณ ทุกท่านในวงสนทนานั่งนิ่งฟังเสียงนั้นอย่างตั้งใจ
คุณ conductor ได้ให้ข้อคิดเห็นผ่าน MSN ผมได้อ่านข้อความนั้นให้ทุกท่านในวงสนทนาทราบ หลังจากท่านเอกชัยพูดจบ คุณเม้งสมพร เป็นผู้ช่วยในการเก็บข้อมูลผ่านการพิมพ์ผ่านการสนทนาของผมในรูป log file และกระจายให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้อง น้องหมอสุพัฒน์คอยดูการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและ การหยิบจับโทรศัพท์เพื่อให้รับเสียงผู้สนทนาได้ทั่วถึง น้องรณฤทธ์ เป็นช่างภาพในการสนทนาครั้งนี้
การสนทนาของเรายังปิดท้ายด้วยการชื่นชมยินดี(AI)แก่กันในวงสนทนา และทุกคนบอกว่าควรจะมีการสนทนาน้ำชาลักษณะนี้บ่อยๆ บรรยากาศดีๆแบบนี้ผมแอบสังเกตเห็น บางคนเสียงสั่นเครือ ด้วยความปิติ ผมเห็นรอยยิ้มของทุกคน ผมเห็นดอกไม้แห่งความหวังและกำลังใจที่กำลังเบ่งบานในใจทุกคน
ผมในฐานะผู้ประสานงานและผลักดันให้เกิดวงน้ำชา สนทนาปัญหาบ้านเฮา วันนี้ขึ้น ผมความสุขและสุขมากขึ้นเมื่อเห็นจิตสาธารณะคนรักเมืองปายทุกคน นับเป็นภารกิจที่ทำให้ผมหัวใจพองโตกับการเริ่มต้นในครั้งนี้ ในฐานะคนเมืองปาย
ผมบอกให้ทุกท่านแล้วว่า เป็นการเริ่มต้นที่ดี และจากนี้ต่อไปเราจะร่วมกันพัฒนาบ้านเกิดของเรา อย่างไม่หยุดยั้ง
ความเห็น (37)
อ่านแล้ว น่าสนใจมาก
สิ่งที่คนปายทำเมื่อวานนี้ มีความหมายและความสำคัญดังนี้.
- คนปายเริ่มคิดได้ว่า ถ้าไฟไหม้ที่ปาย จะให้ใครมาดับ และจะไปเอาน้ำที่ไหน
- จะไปเอาน้ำที่กรุงเทพมาดับอย่างที่ผ่านมาอย่างนั้นหรือ
- เรื่องของพื้นที่ไหน ควรให้คนในพื้นที่นั้นมีอำนาจในการบริหารการหลัก
- ส่วนอื่นๆเป็นเพียงเสี่ยวอ้อ
- ไม่ควรมาแสดงบทพระเอกแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
- มันพัฒนาอะไรไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมวางความอวดโง่ แต่เข้าใจว่าตนเองเก่งเลยอวดเก่ง อิอิ
- คนปายกำลังจะชี้ให้เห็นว่า..มันต้องทำอย่างนี้โว้ย!! เจ้าต๋อย ทั้งหลาย
- ดังนั้นวงสนทนานี้ควรทำการบ้านให้ ได้คำตอบ
- ตอบสั้นๆ เจ้าก็ต่อว่า เลยต้องตอบยาวๆๆอิอิ
ผมขอบคุณผู้ร่วมด้วย ช่วยก่อการดี
พี่หมอรอน สำหรับการให้กำลังใจ ช่วยประสานงาน และจิตสาธารณะของพี่นั้น ยิ่งใหญ่มาก
น้องหมอสุพัฒน์ คนเมืองช้าง และใจกว้างใหญ่เท่าช้าง ให้กำลังใจที่ดี ช่วยออนไลน์ MSN
น้องอ๋อง รณฤทธิ์ หนุ่มเมืองปาย สายเลือดเข้ม คนฮักบ้านเกิด
แม่อาภรณ์ จิตใจแม่นั้นยิ่งใหญ่ ศูนย์รวมใจคนทำงานเพื่อเมืองปาย สถานที่ พร้อมน้ำชาและเค้กอร่อยๆในเย็นเมื่อวาน
ท่าน ผอ.สราวุฒิ ท่านได้เปิดตัวอย่างสง่างามกับภาคประชาสังคมเมืองปาย หลังจากทำงานได้เพียง ๕ วัน
และ ผู้เข้าร่วมวงสนทนาน้ำชาทุกท่าน
ขอบคุณ พ่อครูบาสุทธินันท์ ท่านพลโท เอกชัย พี่ Conductor คุณเม้ง สมพร พี่ อ.ขจิต ที่มีส่วนร่วมในวงน้ำชาของพวกเรา
และขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจที่ไม่ได้เอ่ยนามครับ
- มาเคารพและศรัทธาในผู้ก่อการดี
- พี่เห็นว่าประเด็นที่น่าจะรีบทำคือ
- ปัญหาการกลายพันธ์ของวัฒนธรรม ใช้ประเพณีดั้งเดิมมาแปรเปลี่ยนเพื่อธุรกิจ
- ปัญหาอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ตลอดจนการขัดแย้งของกลุ่มคนในพื้นที่
- ปัญหาความเสื่อมโทรมของสภาพสิ่งแวดล้อม และการรุกของนักธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมกับคนท้องถิ่น
- ขอเอาใจช่วยให้ประสบผลสำเร็จ
- ขอบคุณครับผม
ขอบคุณคุณพ่อครูบาสุทธินันท์
ครับที่มาเจิมบันทึกและติดตามการสนทนาครั้งนี้อย่างจดจ่อตั้งแต่เริ่ม
"การเริ่มต้นที่ดี สำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง"
"แค่มารวมกัน ก็ประสบความสำเร็จแล้ว"
ภารกิจที่เราจะขับเคลื่อนพัฒนาบ้านเราต่อไป มีมากมาย ผมต้องขอข้อคิด คำปรึกษา จากพ่อด้วยครับ
ดีใจจริง ๆที่ "นางสาวเมืองปาย" เริ่มยินยอม
ยินยอมไปพบแพทย์วินิจฉัยโรค
บรรรยากาศดีจริง ๆ
สวัสดีครับ อ.ขจิตขจิต ฝอยทอง
ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาวงน้ำชาเมื่อวานนี้ ที่ได้ช่วยประสานงานร่วมด้วย
บรรยากาศดีมากครับ บรรยากาศชื่นมื่น ตลอดกระบวนการ ผมมองว่าการมาเจอกันแบบนี้เป็นจุดเริ่มของการสานสัมพันธ์การทำงานระหว่างบุคคล เครือข่าย ในเวทีต่อไปผมคิดว่าจะมีผู้เข้าร่วมสนทนาหลากหลายมากขึ้น
ขอบคุณข้อเสนอแนะครับ
สวัสดีครับ Mr. Kraton Pai
ต้องขอบคุณมากครับสำหรับพี่ หมอรอน ในการประสานงาน ผลักดันให้เกิดการรวมตัวกันเป้นกลุ่มเล็กๆในช่วงเริ่มต้น
จุดยืนของพวกเรา คือ อยู่บนความถูกต้องอิงระบบ ดีงาม สายกลาง และ ต้องการทำงานเพื่อพัฒนาบ้านเราอย่างแท้จริง ไม่มีการเมืองเกี่ยวข้อง ใช้ปัญญาเพื่อพัฒนาบ้านเฮา
เลือดคนเมืองปายเข้มข้นมากครับ
ผมขอให้พี่หมอช่วยผลักดันและให้กำลังใจต่อไปครับ
สวัสดีค่ะคุณเอก
อ่านแล้ว ชื่นชมนะคะ
ปายโชคดีที่มีกลุ่มคนรักเมืองปาย ที่ไม่ยอมนิ่งเฉย ดูดายกับสิ่งที่จะมาทำร้ายวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ไม่เพียงแค่บ่นๆๆ โดยไม่เริ่มคิด หรือ เริ่มลงมือทำอะไรเลย
เราอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเสียจนกระทั่ง คุณค่าที่แฝงมากับวัฒนธรรม ก็เป็นเรื่องหนักที่จะพยายามค้ำยันให้ดำรงอยู่เหมือนเดิม โดยไม่มีอะไรมาแปดเปื้อน
เอาใจช่วย และเป็นกำลังใจให้นะคะ เพราะวัฒนธรรมคือระบบความสัมพันธ์ทางสังคม
ความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้นจึงย่อมกระทบต่อความสัมพันธ์ทางสังคมของผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ต้นเดือนธันวา จะพาหลานไปเที่ยวเชียงใหม่ ยังไม่กล้าพาไปเที่ยวปาย เพราะยังเด็กไป ปีหน้าคงได้ไป อยากพาเขาไปเห็น ไปเรียนรู้ วัฒนธรรมต่างๆ ของประเทศเราทีละเล็กละน้อยค่ะ
สวัสดีครับพี่ศศินันท์sasinanda
ต้องขอบคุณที่มาเยี่ยมให้กำลังมาโดยตลอด โดยเฉพาะพี่รอนท่านได้พูดถึงพี่ศศินันท์บ่อยๆครับ
เราอยู่ในกระแสของการเปลี่ยนแปลง ที่เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย และยากมากหากอาจหาญไปต้านกระแสเหล่านั้น...นั่นเป็นเรื่องของโลก
และเรื่องของท้องถิ่น เราก็มี องค์กรภาครัฐที่พัฒนาตามนโยบาย เรามีนักธุรกิจที่ไม่พยายามเข้าใจชุมชน กลุ่มที่เอาเปรียบและหวังผลประโยชน์เพื่อตนเอง จนลืมผู้อื่น ทำร้ายชุมชน เราก็ต้านทานยาก เอาใบก้อนฉีดก็ไม่ตาย (สำนวนคุณ conductor)
เราทำได้ก็คือ "ทางสายกลาง" เข้าใจ รับรู้ ตามจริง ผสานผลประโยชน์ อยู่ให้ได้กับความหลากหลาย ไม่ต้านทานแต่ใช้เหตุผล (แต่ก็ยาก)
ทำงานอิงระบบอย่างที่เราทำกัน เป็นทางเลือก ทางรอด
ที่สรุปกันในเวทีนั้น พี่เอกชัย(พลโทเอกชัย)บอกได้จับใจและผมชอบมากครับ
“อยากให้ใช้ปัญญานำ มากกว่าตัวเงิน คนปายต้องอยู่บนความหลากหลายอย่าทำให้ ทุกกลุ่มชาติพันธุ์ เหมือนกัน ศึกษาประวัติศาสตร์ของแต่ละกลุ่มเผ่าพันธุ์นำของดีมาตีแผ่ แต่ละกลุ่มให้กำลังใจกัน ทำทุกอย่างให้มีชีวิตเช่นสะพานสงครามโลก หลักเมืองปาย ภาษาท้องถิ่น ใช้ยุทธศาสตร์ ป่าล้อมเมือง มาเที่ยวปาย ที่ถนนคนเดินไปที่ ตรอกข้าวสารดีกว่า เอาเด็กๆมาช่วยเป็นมัคคุเทศก์น้อยสร้างความรักท้องถิ่น เราน่าจะมีถนนสายวัฒนธรรม ใช้พลังทางปัญญาในการขับเคลื่อนงานพัฒนา ผมคิดว่าเรื่องงบประมาณไม่ใช่เรื่องสำคัญเร่งด่วน แต่ทำอย่างไรให้เรารู้ตัวเอง ค้นหาตัวตนให้ชัด และนำทุน หรือจุดแข็งเหล่านี้นำมาเป็นทุนในการพัฒนา แก้ไขวิกฤติ”
อ่านบันทึกที่เกี่ยวข้องที่นี่ครับ
บันทึกของคุณหมอรอน ใจกันทา หรือ "นายกระท้อน"
เรื่องเล่าของคนทำงาน » พา"นางสาวเมืองปาย"ไปพบแพทย์วินิจฉัยโรคครั้งที่ 1
แต่ทำอย่างไรให้เรารู้ตัวเอง ค้นหาตัวตนให้ชัด.....
- รู้ตนเอง รู้เป้าหมาย...ก็สามารถรู้วิธีการนำไปสู่เป้าหมายไม่ยาก
- ดีค่ะ...มีกลุ่มรักปาย...กลุ่มรักบ้านเกิด.....ฯลฯ
- และกลุ่มรัก GotoKnow
- ความรักมีอานุภาพจังค่ะ
- แวะมารักเมืองปายด้วยคะ
- แอบมาบอกว่าเจอสาวปายแล้วนะน่ารักมีเขี้ยว 2 ข้าง ไซส์มินิด้วยละ
- อิอิ...น้องเอกเราอยู่บ้านใกล้กันอีกด้วย
- ไหงไม่เคยเจอสัญญาแล้วว่าจะไปบุกที่บ้านเลย..ฮ่าๆ..จะขอไปกินข้าวเย็นเพราะบ้านพี่ไม่มีข้าวกิน...
- ขอบคุณสำหรับหนังสือ 2 เล่ม พี่ได้รับแล้วจ้า
- รับรองจะดูแลอย่างดีนะคะ(เห็นถูกใช้งาน.......ตรึมเลยน้องใหม่ก็งี้ละ..อิอิ...)
- มาช้ากว่าพี่สาวเรา
- อิอิอิๆๆ
- สวัสดีครับ
- อ่านแล้วรู้สึกดีจัง ที่การพัฒนาเริ่มจากประชาชน และมาจากการคิดวิเคราะห์ปัญหาของตนเอง เพื่อการหาคำตอบให้แก่ชุมชนของตนเอง
- ปัญหาเรื่องของวัฒนธรรมเป้นปัญหาที่ต้องรีบแก้ครับเพราะเป็นปัญหาที่แข่งกับเวลา วันก่อนได้ยินคนแถวบ้านบอกกับลุกหลานว่าวิชาต่างๆจะรีบมาเรียนก็เรียนซะนะ หากแก่กว่านี้เดี๋ยวลืมคาถาหมด ฟังแล้วก็ขำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าหากไม่มีคนรับช่วงจากรุ่นต่อรุ่นคงหมดแน่ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
- ขอบคุณครับสำหรับเรื่องราวดีๆ
สวัสดีครับคุณครูรัตน์ (แอบรู้ชื่อมา) Gutjang
แน่นอนครับความรักมีอานุภาพ โดยเฉพาะคนรักถิ่นเกิด ผมคิดว่า การที่ทุกคนมีความรักบ้านเกิดเป็นทุนเดิม เราเลยมารวมตัวกันก่อการดี
ข้อชี้เเนะจากหลายๆท่านที่ห่วงใย มีคุณค่ามาก รวมถึงกำลังใจที่ให้มา เราจะขับเคลื่อนงานพัฒนาไปอย่างเต็มกำลังครับ
ขอบคุณครับผม
คนไปเที่ยวปายเพราะปายคือปาย ถ้าไปแล้วรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ก็อยู่บ้านดีกว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องถ่อไปปายเลยนะครับ แต่จัดโซนก็ดีเหมือนกันนะครับ
ธรรมชาติของนักธุรกิจก็แสวงหากำไรเป็นธรรมดา และปายก็มีดีอยู่เสียด้วย นักการเมืองท้องถิ่นก็ต้องการภาษีไปพัฒนาท้องที่ เขาจะได้อยู่นานๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปปฏิเสธธรรมชาติ
ถนนสายวัฒนธรรม น่าจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งชาวบ้านและนักธุรกิจ เป็นบ่อน้ำที่ตักไม่หมด ไม่จำเป็นต้องแบ่งฝ่ายเป็นคนละขั้วหากเห็นเป็นประโยชน์ร่วมกันนะครับ ปัญหาของท้องถิ่น ก็ต้องแก้ไขด้วยความร่วมแรงร่วมใจกัน ทั้งน้ำ ทั้งวัฒนธรรม ทั้งคุณภาพชีวิต
ถ้าทำได้ ควรมองหาประโยชน์ร่วมกันที่ยั่งยืน เพราะว่าเมืองปายเป็นบ้านของคนปาย ไม่ได้เป็นเหมืองหรือไร่เลื่อนลอยที่ใช้ประโยชน์จนหมดแล้วก็ย้ายไปที่อื่นต่อนะครับ
ขอแก้คำผิดใน #10 ครับ ไบก้อน เป็นยี่ห้อของสารเคมีเชื้อชาติเยอรมันที่เอาไว้ฉีดบรรดาตัวก่อความรำคาญครับ
สวัสดีครับพี่นารีnaree suwan
ต้องขอบคุณที่แบ่งใจให้เมืองเล็กๆนี้นะครับ แสดงว่าเจอสาวน้อยเมืองปายแล้วสิครับ ผมได้ฝากหนังสือ CBT Guide book ไปให้ไว้เป็นคู่มือการเที่ยวนะครับ เทียบกับซิดนีย์ดูนะครับ ว่าที่ไหนน่าอยู่กว่ากัน (อิอิ)
ฝากดูแลสาวน้อยเมืองปายด้วย เห็นเธอบอกว่าเบื่ออาชีพที่กำลังทำอยู่ด้วยครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่
นอกจากดูตัวแล้ว ฝากดูใจด้วยครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ขจิต ฝอยทอง
ขอบคุณที่นำข่าวคราวมาบอก แต่ช้าไปกว่าพี่นารีนิดหนึ่งครับ แสดงว่าพี่นารีเจอสาวน้อยเมืองปายแล้ว
ขอเติมนิดเดียว
หลังจากคุยกันแล้ว
- ใครจะช่วยทำ "กระพรวน" ที่ไม่หนักเกินไป สวย และ "แมว" ชอบ
- ใครจะอาสาเอา "กระพรวน" ไปแขวนคอแมว
- ถ้าแมวมาเป็นเพื่อนกับเรา ใครจะอาสาดูแล และเป็นเพื่อนกับแมว
คงไม่หนักเกินไปนะครับ
และขออนุญาต นำเรื่องการประชุมครั้งนี้ไปนำเสนอในห้องเรียนที่ ม ขอนแก่น ในวันพรุ่งนี้เช้าครับ
ขอบคุณครับ
- ไปปายคราวนี้มีของติดมือคือความทุกข์คลาย
- เห็นประกายไฟเกิดขึ้นในหัวใจคนปาย
- แต่ก่อนคนปายคิดว่าห่างไกลไม่มีใครสนใจ ไปไหนไปไหนพบแต่ปัญหา
- คนที่สำเร็จโดยไม่ผ่านปัญหามีน้อย
- เคยไปอัมพวากับพ่อครูประยงค์ รณณรงค์ คนพูดปัญหามากมายต่อว่าต่อขานว่าคนภายนอกว่าไม่มีใครมาช่วยแก้ปัญหา ครูยงค์ว่ามีทุกอย่างแต่ไม่สามารถดูแลรักษาของตัวเองเอาไว้ได้
- ต่างพื้นที่ก็ต่างปัญหา ต่างวิธีแก้ไข
- ตัวเองคิดว่ารู้ตัวเองยังไม่รู้ตัวเองเลย
- อยากเอาตัวแบบเมืองปายไว้เป็นห้องเรียนและบทเรียนในหลักสูตรที่เปิด จะนำไปสู่รูปแบบการแก้ปัญหาโดยมุมมองท้องถิ่น
สวัสดีเจ้า อ้ายเอก
มาเก็บบรรยาการพูดคุยที่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดีดี
คอยเป็นกำลังใจเน้อเจ้า
---^.^---
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเหมือนชื่อบันทึกเลยค่ะ
เป็นการรวมพลังและปัญญา ที่มาจากความหลากหลาย ขอให้ประสบความสำเร็จ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาจากจุดเริ่มที่เล็ก มั่นคงและขับเคลื่อนด้วยความรักและเห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ
พอดีวันนั้นผมได้กลับไปก่อน เพราะมีคนไข้ที่นัดไว้ทำผ่าตัด
ผมเองอยากเห็นการสนทนากันที่มีผู้คนหลากหลายมากขึ้นเพราะประเด็นอย่าวนี้น่าสนใจมาก กำลังรู้สึกขนลุกลุกเหมือนว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน...ไม่นานเกินรอแน่แน่ ผมเชื่อมั่นในวงเมื่อเย็นวันนั้นครับ
อ้ายเอกครับ ผมลืมไปอีกเรื่องคือว่า เรื่องของการขับเคลื่อนบางทีอาจต้องใช้สื่ออะไรบางอย่าง เช่น โปสเตอร์ แผ่นพับ ใบปลิว การเปิดเวทีแบบกว้าง หรือว่าสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ตรงนี้ไม่รู้ว่าเห็นเป็นยังไงครับ
นับถือคนประสานงานจัดการ คุณเอกผู้เล่า และสมาชิกทุกท่านที่เข้าประชุมค่ะ
น่าสนใจมาก
เทคนิกหลายๆอย่างน่าจะเอามาทำซ้ำได้เลย
สวัสดีครับทุกท่าน
ช่วงนี้กระผม อยู่ที่ จ.แพร่ เพื่อมาประเมินภาพรวมของเครือข่าย ภาคีสร้างสุขภาคเหนือ ๑๖ จว. และการจัดงานในครั้งนี้ ในทีมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เห็นป้ายบอกว่า มางานนี้สุขทั้งปี
ผมจะนำความสุขนั้นมาแบ่งปันทุกท่านด้วยครับ
จตุพร
----------------------------------
ขอบคุณอาจารย์ ดร.แสวงดร. แสวง รวยสูงเนิน
ช่วงนี้ บลอกผมกระฉูดผิดปกติ น่าจะเป็นนักศึกษาจากขอนแก่นที่เข้ามาเรียนรู้ หากมีประเด็นใดที่จะแลกเปลี่ยนในมุมมองที่ต่าง กระผมยินดีมาก
สำหรับประเด็นที่ฝากไว้ ผมขอนำไปขบคิดต่อ
ยินดีอย่างยิ่งครับสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับน้อง นศ. และ ท่านอาจารย์ครับ
--------------------------
สวัสดีครับ พี่เอกชัย
กระผมและเครือข่ายประชาสังคม คนรักษ์เมืองปายต้องขอขอบคุณพี่เอกมากครับ ที่กรุณาให้ข้อคิดเห็น พร้อมกำลังใจที่มีคุณค่ายิ่ง
ผมคิดว่า หากเราไม่ลุกขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาของเราเอง แล้วใครจะมาแก้ไข เราต้องช่วยตัวเองก่อนครับ
และการเชื่อมต่อเครือข่ายภาคีข้างนอกก็เป็นเรื่องสำคัญ ผมจะเป็นผู้ประสานงานเรื่องเหล่านี้ต่อไป และขอกำลังใจจากทุกท่านด้วยครับ
---------------------------
สวัสดีครับ คุณแหววพชรวรัตถ์ แสงทองชนาพงศ์
นานพอสมควรครับ ที่คุณแหววหายไป
บันทึกนี้เกิดจากใจอันเเช่มชื่นหลังจากการเปิดเวทีเล็กๆธรรมชาติ "วงน้ำชา" ของพวกเรา
ผมมีความสุขมาก และเชื่อว่าทุกคนมีความสุขด้วย นำมาเขียนเพื่อ ลปรร. และให้กำลังใจกันครับ
----------------------
ขอบคุณน้องพิมพ์ดีด
มาเก็บบรรยากาศผมก็แบ่งปันบรรยากาศดีๆไป และขอบคุณกำลังใจที่มีให้เสมอมาครับ
--------------------
ขอบคุณน้องแก้วครับ สบายดีนะครับ ต้องขอบคุณทั้งข้อเขียนและอีเมล กำลังใจครับ
มีความสุขด้วยครับที่ทราบว่าอาจารย์ ยุวนุช (คุณนายดอกเตอร์) รู้สึกดีมากกับบันทึกนี้
เหมือนเป็นการเริ่มต้นที่เราพึงพอใจ แลพวกเราก็มีความสุขมากเช่นกัน
คิดว่าจะมีวงน้ำชาแบบนี้ทุกเดือนครับ
"เป็นการรวมพลังและปัญญา ที่มาจากความหลากหลาย ขอให้ประสบความสำเร็จ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาจากจุดเริ่มที่เล็ก มั่นคงและขับเคลื่อนด้วยความรักและเห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ"
ขอบคุณครับผม
สวัสดีครับ หมอ สมคบ
เป็นความสุขและความดีใจประการหนึ่งก็คือ ท่าน ผอ.ใหม่ ของ รพ.ปาย มาร่วมสนทนาวงน้ำชาหลังจากมาทำงานได้ ๕ วัน
เป็นนิมิตรหมายที่ดีมาก
เป็นการเปิดตัวกับภาคประชาสังคมปายได้ดียิ่งครับ เราต้องการท่านและภูมิใจที่ท่านมาช่วยเมืองปาย ในฐานะคนทานด้านสุขภาพและพัฒนาสังคม
เรื่องการโปรโมทคิดว่า ต่อไปน่าจะมีการสื่อสารมากขึ้น ผมคิดว่าการนำเสนอตัวตนออกทางสาธารณะจะทำให้สังคมรู้ว่าพวกเราทำอะไรชัดเจนมากขึ้น และแสวงหาแนวร่วมได้เป็นอย่างดี
มีเวลาเรามานั่งคุยกันอีกนะครับ
ขอบคุณมากครับ
------------------------
สวัสดีครับ อ.หมอพญ รวิวรรณ หาญสุทธิเวชกุล
ทางเชียงรายน่าจะหนาวพอๆกับปาย แต่ที่ปายแม้จะหนาวก็อบอุ่นด้วยมิตรภาพที่เริมถักทอ
กระบวนการแบบนี้ผมเรียกว่า "เล็กนั้นงาม" และเราจะพยายามทำงานเพื่อบ้านเกิดของเราอย่างดีที่สุดครับ
เรารักและผูกพันบ้านเกิดครับ
ขอบคุณมากครับอาจารย์ครับ
สวัสดีครับคุณเอก จตุพร ที่คิดถึง
งานภาคประชาสังคมเป็นงานที่ยาก และที่ยากยิ่งกว่าก็คือการรวมใจคนทำงานเพื่อทำงานขับเคลื่อนเชิงประเด็น
คุณเอกเป็นคนทำหน้าที่นี้ได้ดี และได่เห็นผลงานมาโดยตลอด ชื่นชมมากและมีโอกาสขอทางผมและ นศ.เข้าไปเรียนรู้ร่วมด้วย
ปัญหาที่ปาย ก็คงเหมือนปัญหาที่อื่นๆ เพียงแต่ว่า ปายเป็นเมืองที่น่าสนใจ และ เมืองเล็กๆที่สวยงามแห่งนี้ มีกลุ่มคนที่มีจิตสาธารณะที่เข้มแข็ง รักบ้านเกิด ถิ่นฐาน
ไม่แปลกหรอกครับที่เราจะแสดงถึงปัญหาที่หลากหลายที่นี่ เพื่อให้ทุกคนทราบและแก้ไข ทุกที่ที่ผมเรียนรู้งานพัฒนาทชมีปัญหาไม่น้อยกว่าปาย แต่กลไกการทำงานลักษณะประชาสังคมไม่เกิด
ให้กำลังใจ คุณเอก จตุพร ในการเชื่อมประสานงานพัฒนา และ ให้กำลังใจการวางแผนทำโครงร่างปริญญาเอกที่กำลังทำอยู่ด้วยครับ
ยินดีที่ได้มาเยี่ยมมาอ่านความเป็นไปของคุณเอก และ เมืองปายเมืองเล็กๆที่สวยงามแห่งนี้
สวัสดีครับ คุณหมอสมคบ
ผมนอนคิดเรื่อง การประชาสัมพันธ์ ผมคิดว่าเป็นกระบวนการสร้างจุดยืนของภาคประชาสังคมปายได้เป็นอย่างดี ส่วนกระบวนการโดยละเอียดนั้นผมคิดว่าเราคงต้องมานั่งพูดคุยกันอีกครั้ง
ผมเชื่อมั่นในพลังของ ประชาสังคม ที่ปาย และ ผมคิด ในอนาคตนั้นยุทธศาสตร์ที่ขับเคลื่อนคงต้องชัดเจนมากขึ้นครับ
เมื่อวานคุยกับอาจารย์หลายท่านจาก มช. ก็คุยประเด็นนี้ด้วยครับ
สวัสดีครับเอก
8 พ.ย. พี่ไปร่วมเวทีเครือข่าย+ชนเผ่า ok เลยนะ!!
มีการดำเนินการอะไรบางอย่างกับงานด้านวัฒนธรรมที่น่าดีใจ(การตั้งคณะอนุกรรมการ"กลั่นกรอง"กิจกรรม)ที่จะจัดที่ปาย
9 พ.ย. ประชุมผังเมืองชุมชนปาย น่าสนใจที่จะมีการทำคล้ายๆกับเป็นนวตกรรมใหม่
กลับมาเมื่อไรคงได้เล่ากันแหลกไปข้างนะ!?!
สวัสดีครับพี่
Mr. Kraton Pai
เรื่องราวของเวทีที่เกิดขึ้นที่ปาย เป็นการต่อเนื่องของการทำงานภาคประชาสังคม และคิดเอาเองว่าเราเดินมาถูกทาง รวมถึงการแก้ไขปัญหาต้องระดมพลังมากขึ้นจากเดิม
เมื่อก่อนคุยกันก็คุยไปเรื่อยๆไม่ลง Action แต่ก็อาจมีปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้อง อาจต้องคุยกันในรายละเอียด
ขอบคุณพี่มากครับที่มาเล่าความเป็นไปที่ต่อเนื่อง
สวัสดีครับ พี่อำพัน
คือผมอยากให้พี่เข้ามาร่วมพูดคุยกันด้วยดีมั้ยครับผมมองว่าอยากได้ผู้รู้ คนเก่งมาร่วมในการขับเคลื่อนครั้งนี้ ผมเองก็ทรายมาบ้างว่าเคยมีการพูดคุยกันมานานแต่ไม่มีการปฏิบัติ ที่เห็นรูปธรรม และเรื่อง การเชื่อมประสานผมช่วยตรงนี้ได้ทั้งเชื่อมภายใน ภายนอก
เรื่อง ผังเมืองก็น่าสนใจมากๆครับ เห็นว่าเป็นความสำเร็จของภาคประชาสังคมเมืองปาย ตรงนี้ ต้องถอดบทเรียนนำมาบอกกล่าวเพื่อแลกเปลี่ยนกัน
ทุกอย่างผมทำเองไม่ได้ แน่นอนว่าเป็นเพียงกลไกเล็กๆในการขับเคลื่อนครั้งนี้เองเวทีต่อไปเรียนเชิญพี่อำพันเข้าร่วมคุยด้วยกันนะครับ ผมจะประสานเวทีอีกครั้งครับ
ยินดีมากๆครับ เมื่อรู้ว่าพี่อำพันติดตามอ่านบันทึกผมตลอดเวลา นี่อาจเป็นเวทีหนึ่งที่เราใช้ในการจัดการความรู้ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาบ้านเราครับ
เมื่อ อ. 06 พ.ย. 2550 @ 15:49
448102 [ลบ]