หนึ่งในวันสำคัญของชีวิตผม


วันที่ 4 พฤศจิกายน 2550

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ สุดสัปดาห์ของสัปดาห์ที่ 26 นับถอยหลังร่นต่อไปก็จะคงเหลือ 10 วันแล้วครับท่านที่รัก <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>                และเนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ผมก็เลยตื่นซะ 10 โมงครึ่งเลย แม่เจ้า ก็เมื่อคืนนอนไม่หลับเลยครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ก่อนนอนผมดูหนังทางทีวี เรื่อง Unfaithful ซึ่งริชาร์ด เกียร์แสดงกับนางเอกชื่ออะไรผมไม่รู้ รู้แต่ว่าเธอสวยชะมัด เนื้อหาของหนังก็คือ ครอบครัวพระเอกนางเอกที่อยู่กันอย่างมีความสุขมายาวนานถึง 11 ปี มีลูกชาย 1 คน วันหนึ่งนางเอกไปซื้อของแล้วเจอลมพายุ เรียกรถแท็กซี่ไม่ได้ แล้วหอบของพะรุงพะรังไปชนกับชายหนุ่ม (กว่า) คนหนึ่งซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสที่มาใช้ชีวิตไปๆมาๆอยู่ที่อเมริกา แล้วเกิดอารมณ์เสน่หากันและกัน หนังดำเนินเรื่องไปอย่างเร็ว แล้วเขาก็เป็นชู้กัน นางเอกกลายเป็นคนติดเซ็กซ์ไปเลย (ตามการวินิจฉัยของผม) เขาเดินเรื่องได้อย่างดีจนผมรู้สึกอึดอัด เพราะไม่ชอบเรื่องแบบนี้เป็นทุนเดิม (เรื่องที่ครอบครัวมีปัญหา) แต่จะปิดก็ไม่ได้ เพราะพี่พิชัยก็ดูอยู่ แอบหลับตาหูมันก็ได้ยิน ท้ายที่สุดสามีรู้เรื่องจึงตามไปที่บ้านหนุ่มคนนั้น แล้วเกิดเมาจนคุมสติไม่อยู่เผลอเอาแท่งแก้วทุบลงไปที่กลางหัวของหนุ่มน้อยตายคาที่ เรื่องก็อึดอัดเข้าไปอีก ที่พระเอกต้องอำพรางศพ (ผมอยากจะบ้าตาย) ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็รู้ด้วยกันว่า ต่างคนต่างทำความผิด เมียก็รู้ว่าตัวเองทำผิด เมียก็รู้ว่าสามีตนก่อเรื่องจนตำรวจมาสืบถึงที่บ้าน หนังไม่ได้แสดงให้เห็นว่าพระเอกถูกจับหรือไม่ เพราะท้ายที่สุดเขาแสดงให้เห็นว่า ถึงเมียจะนอกใจไปมีชู้ สามีเขาก็ให้อภัย ผมนี่โล่งใจสุดๆ แต่กลับนอนไม่หลับครับ กลิ้งไปกลิ้งมาก็ปาเข้าไปตีหนึ่งครึ่ง ตีสองแล้วก็ยังตาแข็ง หลับไปกี่โมงก็ไม่แน่ใจนัก <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>                สายวันนี้อดรนทนไม่ไหวจึงได้โทรไปหาจิ๋ม เมียแสนรักของผม น่าประหลาดใจเหลือเชื่อที่จิ๋มบอกว่า เมื่อคืนเธอก็นอนไม่หลับทั้งคืนเหมือนกัน ลูกสาว 2 คนกลิ้งไปกลิ้งมา แม่ก็ต้องคอยแบกไปนอนประจำที่ของแต่ละตัว เอ้ย คน กว่าจะได้เริ่มหลับดีๆก็ปาเข้าไปเกือบรุ่ง เลยเคลิ้มหลับฝันเห็นผม จิ๋มฝันว่าเราไปเที่ยวที่ไหนด้วยกันสักแห่งแล้วเราไปทะเลาะกับบริกร ไม่ทันจะได้รู้เรื่องพี่แป้งก็มาปลุกซะก่อนตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง ก็วันนี้เป็นวันอาทิตย์นี่นา วันที่เธอจะไปเรียนภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งอีกคน <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>                เรื่องเรียนพิเศษของลูกนี่ ผมยังคงความคิดที่เหมือนเดิม คือไม่สนับสนุน แต่นี่เรากำลังจะให้ลูกเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ภาษาที่จะมีความสำคัญต่อชีวิตลูกในอนาคต ตอนแรกเธอไม่ยอมเรียน ผมก็พาไปดูที่ที่เขาเรียนกัน ก็ได้เห็นครูฝรั่งนั่งเล่นนั่งคุยกับเด็กๆอยู่ เลยบอกลูกไปว่า นี่ไม่ใช่เรียน แต่มาเล่นกับครู แล้วถ้าลูกพูดภาษาอังกฤษได้ดี พ่อจะพาไปเที่ยวฮ่องกงปีหน้า (ไปฮ่องกงก่อน เพราะไม่แพงมาก ฮ่าฮ่า) เธอจึงตกลง แล้วก็ต้องไปถึงวันสัมภาษณ์เพื่อจัดระดับเรียนเมื่อเดือนที่แล้ว คืนก่อนหน้านั้น ผมก็นอนคุยกับเมียว่า สงสัยลูกเราต้องเรียนกับน้องๆแน่เลย เพราะเธอไม่กล้าแสดงออก ปรากฏว่าเมื่อผมกลับสิงคโปร์ ที่บ้านก็โทรมาเล่าว่า ผ่านฉลุย ครูฝรั่งออกมาถามว่า ลูกเราเรียนโรงเรียน 2 ภาษาเหรอ สำเนียงดี ฟังรู้เรื่อง แค่นี้ก็เล่นเอาพ่อมันนอนยิ้มเหงือกแห้งอยู่ที่สิงคโปร์ทั้งคืน <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>                จนวันที่ไปเรียน เมื่อพี่เปิ้ลรู้ว่าพี่แป้งจะไปเรียน ก็เลยลงร่องปล่องชิ้นกัน แตงกวาลูกสาวคนโตของเธอก็เรียนค้างอยู่นานแล้ว ไม่ได้ไปเรียนที่นี่ต่อเพราะอะไรก็ไม่รู้ เมื่อเธอรู้ก็ตื่นเต้น มาเรียนพร้อมกับน้องแป้งเลย เรียกว่าโชค 2 เด้งครับ แล้วเมื่อเรียนไปได้ครั้งหนึ่ง ครูก็มาบอกกับจิ๋มอีกว่า ยังไม่ต้องซื้อหนังสือ เพราะสงสัยต้องเลื่อนชั้นขึ้น เพราะว่าลูกของผมและของพี่เปิ้ลรู้มากกว่าชั้นที่เรียนอยู่ในปัจจุบัน เล่นเอาผมเหงือกแห้งไปอีกรอบ นี่ก็ยิ่งทำให้ผมมั่นใจในระบบการเรียนการสอนของโรงเรียนเล็กๆและใหม่ที่เราเสี่ยงให้ลูกเข้าเรียนเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาแล้วครับ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>                มื้อเที่ยงผมพาพี่พิชัยไปกินข้าวมันไก่ ที่ปั้นข้าวเป็นก้อนๆ ร้านที่ผมฝากท้องเป็นประจำข้างที่พัก มันก็ไม่ได้อร่อยมากมายนักหนา แต่พอฝากท้องได้ แล้วผมก็ขึ้นมานอนหลับต่ออย่างไร้สาระจน 3 โมงเย็น (ท่านเชื่อหรือไม่) ตื่นขึ้นมาล้างหน้าล้างตา นั่งเล่นต่อ ส่วนพี่พิชัยออกไปวิ่ง พักหนึ่งผมก็ลงตามไป นัดกับพี่เขาไว้ที่สถานีรถไฟฟ้า Little India เพื่อจะพาไปกินข้าวที่ตลาดสดแถว Outram Park ที่ที่ผมไปกินหลายครั้งจนเจ้าของร้านจำหน้าได้แล้ว วันนี้นั่งรอนานมาก แต่ก็คุ้มค่าความอร่อยจริงๆ ปลาหมึกผัดน้ำพริกเผา Sotong คือชื่อมัน กินกับผัดผักคะน้า ชื่นใจครับ เล่นเอาท้องบวม <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">ชีวิตในวันนี้ก็หมดลงไปอีกวัน ผมมีความสุขมาก สุขที่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกร่วมกันระหว่างผมกับเมีย 12 ปีที่รักกัน 10 ปีที่แต่งงานกัน 7 ปีที่มีลูกด้วยกัน พรุ่งนี้ 5 พฤศจิกายน เป็นวันครบรอบแต่งงานปีที่ 10 ของเราครับ เชื่อหรือไม่ครับ ว่าผมรักเมียผมมากจริงๆ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal"></p>ครอบครัวของผม

หมายเลขบันทึก: 144472เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2007 07:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • สวัสดีค่ะ
  • ตามมาอ่าน
  • ปีนี้จะไปฉลองครบรอบฯที่ไหนเอ่ย
  • อิอิอิ
  • ลืมไป  ลืมชม 
  • คุณ ภรรยา น่ารักขนาดนี้
  • ไม่รักไม่ได้แล้วค่ะ
  • อิอิอิอิ

ทำไงดีเนี๊ยะ มดขึ้นโน้ตบุ๊คผมเต็มเลย (ฮาฮา บันทึกนี้หวานจนมดมาดมเต็มเลย)

ขอให้มีความสุขสดชื่นตลอดไปครับ

คุณกุ้งกาแฟไทยครับ P

ปีนี้ผมฉลองวันครบรอบแต่งงานที่ Clarke Quay ครับ ฮ่า ฮ่า  ส่วนภรรยาฉลองโดยการนอนเล่านิทานให้ลูกสาวฟังท่านกลางสายฝนกระหน่ำหลังคาที่บ้านครับ (จ๋อย)

อาจารย์จารุวัจน์ครับ P

อาหารหวานไป เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน

อ่านทันทึกหวานไปไม่มีความเสี่ยงเรื่องเบาหวานหรือความอ้วนครับ เสี่ยงอย่างเดียวคือโรคอ๊วกครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท