ช่วงที่ 2 เป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดการจัดการความรู้และประสบการณ์การจัดการความรู้ในหน่วยงานของแต่ละคน (นักศึกษามีความรู้เรื่องแนวคิด KM มาแล้ว) โดยผู้เขียนได้โยนคำถามไปว่า
“ตามความเข้าใจของแต่ละคน สามารถสรุปได้หรือไม่ว่า การจัดการความรู้ คืออะไร?” (จริงๆ แล้วไม่ได้ต้องการคำตอบที่ชัดเจน แต่ต้องการดูว่า นักศึกษามีแนวโน้มในเรื่องของการจัดการความรู้มากน้อยเพียงใด และเป็นไปในทิศทางใด)
และต่อไปนี้คือ คำตอบของนักศึกษาคะ
- การนำความรู้ของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยนกัน
- การนำความรู้จากแต่ละคน มาใช้ในองค์กร
- การจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน
- การที่แต่ละคนในองค์กรเขียนคำแนะนำในเรื่องต่างๆ ต่อผู้รับผิดชอบหรือผู้บริหาร เพื่อให้เกิดการแก้ไขหรือการพัฒนาขึ้น
- การจัดการความรู้มีทุกที่ และเป็น Tacit Knowledge
- ฯลฯ
ประเด็นต่อไปที่ผู้เขียนยกขึ้นมาเพื่อให้นักศึกษาอภิปราย คือ
“มีใครบ้างที่องค์กรหรือหน่วยงานของตนเองได้มีการดำเนินการ KM บ้าง?”
คำตอบที่ได้ คือ เงียบ! ไม่มีใครยกมือเลยคะ มีเพียงนักศึกษาที่มาจาก อบต. วัดไร่ขิง ได้เล่าประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในของพนักงานส่วนตำบลวัดไร่ขิง โดยผ่านเวทีการประชุม และทำมาได้ 20 ครั้งแล้ว ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือ ทุกคนกล้าที่จะเสนอแนวทางของตัวเองมากขึ้น และสามารถนำแนวทางที่แต่ละคนเสนอ มาปรับใช้หรือมาเป็นแนวทางในการดำเนินการของ อบต. ได้เป็นอย่างดี
และในช่วงสุดท้าย เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่นักศึกษาจะสอบถามเรื่องการดำเนินงานของ สคส. รูปแบบวิธีการที่ สคส. ใช้ในการขับเคลื่อนเครือข่ายการจัดการความรู้ ตลอดจนถึงเรื่องเครื่องมือชนิดต่างๆ ของการจัดการความรู้ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักศึกษามีการแลกเปลี่ยนค่อนข้างมาก แต่เป็นการแลกเปลี่ยนกับผู้เขียน ไม่ได้แลกเปลี่ยนระหว่างกันเองเลย ซึ่งผู้เขียนก็ตอบไปเท่าที่ประสบการณ์มีอยู่ แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
ในช่วงสรุปปิดท้าย จริงๆ แล้วผู้เขียนต้องการจะลองใช้เครื่องมือ AAR กับนักศึกษา โดยผู้เขียนหยอดคำถาม AAR ไป แต่ไม่ค่อยมีแรงสะท้อนกลับมากนัก ผู้เขียนคิดว่า นักศึกษาคงกำลังคร่ำเคร่งและเคร่งเครียดอยู่กับการทำรายงานอื่นอยู่ก็เป็นได้ มีเพียงบางคนที่ตอบว่า ได้ตามที่คาดไว้ ได้ตามความต้องการ เป็นต้น
เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงผ่านไป พอเหมาะพอดีกับสิ่งที่ผู้เขียนเตรียมมา แบบไม่ขาดไม่เกิน
เฮ้อ !!!
เรียนคุณหญิง