สวัสดีค่ะท่านพี่เหลียง...สิทธิรักษ์
ดูซีเรียสยังไงน้า บันทึกนี้ ท่านพี่เหลียง...เอากำปั้นทุบดินหรือเปล่านี่ ก็รู้อยู่ปัญหานี้ รู้แบบเราต้องรู้ว่าต้องกินข้าวและดื่มน้ำทุกครั้งตามหลัง แต่ก็มีหลายวันที่ลืมดื่มน้ำ ...ไม่ว่ากัน
เราต้องแก้ที่ไหน ในเมื่อปัญหานี้เดินทางอย่างรวดเร็วไปทั่วทุกหัวระแหง....ต้องบอกต้องเตือนกันยอ่างเร่งด่วน ต้องจัดหลักสูตรการเรียนรู้อย่างปลอดภัยขึ้นมาเลย กำหนดหน่วยกิตอย่างชัดเจน ไม่ลองไม่รู้...ทำ...ก็ไม่เห็นเสียหายอะไร...ยังดัชีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย..ขอน้ำชาจิบหน่อยค่ะท่านพี่เหลียง
จริงค่ะ..ใช้หลักสูตรในข้อ 1 เลยค่ะ กำหนดไว้ในทุกชั้นเรียน ให้ฝังอยู่ในตัวนักเรียน..แบบความรู้ที่คงทน ให้เรียน ให้ศึกษากันทุกๆปีไปเลย..แบบเกลือจิ้มเกลือ...ชาของท่านพี่เหลียงยี่ห้ออะไร อร่อยดีค่ะ..ซูดส์ส์
ผู้ใหญ่หลายๆคนยังเป็นเลยค่ะท่านพี่เหลียง อ้อยว่า..อ้อยยังเป็นเลยค่ะ เมื่อเราใส่หลักสูตรนี้ไปแล้ว ต้องตามมาทำ pole ที่บ้านด้วย แทรกซึมไปยังผู้ปกครองด้วยนะคะ แบบ..แถม..เมื่อกรอกแบบสอบถาม ประเภท ให้เข้าไปฟังดนตรีในสวนได้ฟรี..อะไรแบบนี้ค่ะ รับรองว่า...อืมมมมม...น้ำชาหมดแล้วค่ะท่านพี่เหลียง
วาย..ท่านพี่เหลียง..มันเกี่ยวกับครูอ้อยนะคะข้อนี้ ครูอ้อยไม่ได้มรชีสิทธิไปดูครูท่านอื่นนะคะว่า...ท่านสอนอย่างไร แต่สำหรับครูอ้อยคนนี้รับรอง..เดินออกมาจาก แคทตาลอกของกระทรวงศึกษาธิการเลยค่ะ...รุ่นแม่ไก่ด้วยค่ะ..อิอิ..คุยโตนะนี่
สื่อค่ะ..สื่อปล่อยปละละเลย น่าจะเข้มงวดแบบตอนครูอ้อยยังเล็ก ใครผมยาว(ผู้ชาย) ห้ามออกทีวี ผู้หญิงแต่ตัวโป๊ ห้ามออกทีวี ลองดูค่ะ รับรอง ดาราไม่มีเลยค่ะ..อิอิ
อิอิ..ยิ้มยิ้ม...ต้องช่วยกันบรรเลงค่ะ ดนตรีคณะนี้ เป่าขลุ่ยอย่างเดียวไมได้แล้ว ต้องเป็นวง ออเครสตร้าค่ะ ท่านพี่เหลียงจึงจะสำเร็จค่ะ..ซูดส์ส์ส์ น้ำชาหมดพอดี..
บ๊ายบาย ครูอ้อยไปล่ะค่ะ..รักษาสุขภาพค่ะท่านพี่
สวัสดีค่ะท่านพี่เหลียง.....สิทธิรักษ์
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณสิทธิรักษ์
ซินจ๋าวค่ะพี่เหลียง
เป็นป๊าที่น่ารักมากเลยอ่ะค่ะ ขอชื่นชมนะคะ อ่านแล้ว ทำเอาคิดถึงหลวงพ่อจังเลย
สวัสดีครับน้องหนิง
สบายดีหรือเปล่าครับ การงานเหนื่อยไหม ผมศรัทธาในงานของคุณมาก รักษาสุขภาพนะครับ
เชิญดื่มน้ำชาหอมๆก่อนนะครับ
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะ..คุณสิทธิรักษ์
สวัสดีครับคุณ
สวัสดีค่ะ คุณสิทธิรักษ์
เข้ามาเยี่ยมชมความรักของคุณพ่อค่ะ เรียก "ป๊า" น่ารักดีนะคะ (เหมือนที่น้องเบิร์ดเรียกคุณพ่อเลย)
ลูกสาวก็น่ารักมากนะคะ อุตส่าห์แต่งธีมให้คุณพ่ออย่างสวยงาม มีลูกสาวดีออกค่ะ ขอเชียร์พวกเดียวกัน (คือเป็นลูกสาวเหมือนกัน)
ลูกรู้ว่าป๊าเป็นห่วงอย่างนี้ คงปลื้มใจนะคะ : )
สวัสดีครับ
ดีใจมากครับบล๊อกเกอร์ในดวงใจมาเยี่ยมถึงที่ สบายดีหรือครับ ไม่ได้คุยแลกเปลี่ยนกันนาน ไม่เห็นเปิดบันทึกใหม่เลย คงไม่ว่างซิครับ
ของธรรมดาครับที่ห่วงลูก ลูกก็ห่วงพ่อครับ เรื่องเทคนิคต่างๆในการทำธีมไม่สันทัดครับต้องอาศัยลูกสาวครับ
เชิญนั่งดื่มน้ำชาก่อนกลับนะครับ ขอบคุณครับโอกาสหน้าเชิญครับ
ฮาโหล ๆ ๆ ป๊า
พอบลูอ่านสิ่งที่ป๊าบันทึกไว้ บลูก็เข้าใจว่าส่งที่ป๊าจต้องการสื่อให้ลูกคืออะไร
บลูยอมรับและเคารพในสิ่งที่ป๊าสอน และบอกเสมอและบลูก็ไม่เคยบอกว่าสิ่งที่ป๊าสอนผิด บลูเชื่อเสมอว่า ทุกคนมีความเชื่อเป็นของตัวเอง มีหลักของตัวเองในการดำเนินชีวิต การที่เราจะรับหลักการของใครซักคนมา บลูมองว่า มันเป็นเรื่องดีที่จะได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ไม่ใช่จมอยู่แค่กับหลักการของตัวเอง แล้วบอกตัวเองว่าสิ่งที่ฉันคิดถูกต้องที่สุด บางครั้งมุมมองของคนกวาดขยะ อาจทำให้นักวิชาการอึ้งไปเลยก็เป็นได้
สิ่งที่บลูอยากจะเพิ่มเติมให้ป๊าคือ สังคมทุกวันนี้เรียกได้ว่า เป็นสังคมของการเอาตัวรอด มนุษย์ทุกวันนี้มีชีวิตเพื่อเอาตัวรอด ทุกสิ่งที่เรากระทำเพื่อการเอาตัวรอดทั้งนั้น มันถึงไม่แปลกอย่างที่ป๊าบอกมา
แต่สิ่งหนึ่งที่บลูอยากจะบอกคือ ถ้าหากเราพยายามซ่อมแซมมัน มันก็จะกลับมาเสียอีก และทุกครั้งที่มันเสีย เราก็จะซ่อม เป็นวงจรอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ และก็ไม่มีวันจบสิ้น สิ่งที่จะทำได้คือ อย่าไปซ่อมมัน มองเข้าไปในมัน ในสิ่งนั้น มองว่าที่มันเสียเพราะอะไร จับมันให้ได้ แล้วกำจัดมันทิ้งไปซะ รับรองได้ว่า มันจะไม่มีวันกลับมาเสียได้อีก
สำหรับบทความที่ป๊าเขียน บลูดีใจที่ป๊าเป็นห่วงบลู และบลูอยากจะบอกป๊าว่า ทุกสิ่งที่บลูพูดและบลูทำให้ป๊า ก็เกิดมาจากความรู้สึกเดียวกันกับป๊า ที่ป๊าพยายามทำทุกสิ่งให้บลู มันมาจากความรู้สึกรัก และ เป็นห่วง อยากให้ป๊าเข้าใจแค่ว่า ลูกรักป๊ามาก และลูกก็รับรู้ได้ว่าป๊ารักลูกมากเช่นกัน และลูกของป๊าคนนี้ก็ไม่อยากให้อะไรมาขวางกันความรักระหว่างเรา มันจะเป็นความรักที่ เต็ม 100% บลูอยากให้ป๊าอนุญาติ ที่จะให้บลูได้รักป๊าอย่างเต็มที่ และบลูก็พร้อมที่จะให้ป๊ารักบลูได้อย่างเต็มที่เช่นกัน
รักป๊าน่ะค่ะ ^____^
ลูกบลู
สวัสดีครับพี่เหลียง
รักป๊าน่ะค่ะ ^____^
ลอยไหมครับ....กินอาหารไว้ให้เยอะๆนะครับ
ขอบคุณมากๆ นะครับผม
สวัสดียามเช้าค่ะ คุณสิทธิรักษ์
ดิฉันอ่านจดหมายน้องบลูแล้วชื่นใจจังค่ะ คุณสิทธิรักษ์กับคุณแม่น้องบลูโชคดีจัง ที่มีลูกสาวน่ารัก เป็นตัวของตัวเอง เปิดเผยและจริงใจอย่างนี้....
การบอกคนในครอบครัวให้เขารู้ว่าเรารักและผูกพันมากแค่ไหนนั้น สำหรับบางครอบครัวอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิต .....ซึ่งนั่นก็นานนัก......
ครึ่งชีวิตแรกสำหรับการเรียนรู้ว่าพ่อแม่รักลูกแค่ไหน ผ่านการแสดงออกที่ลูกๆต้องเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจ และบางครั้งก็อาจไม่เข้าใจ....ทั้งนี้ โดยไม่มีคำอธิบายจากพ่อแม่ ว่าที่ทำไปอย่างนั้นเพราะรัก และห่วงใยอย่างสุดซึ้ง
ครึ่งชีวิตหลังสำหรับการเรียนรู้ว่าทุกคนในครอบครัว รักกันมากแค่ไหน เพราะอาจถึงวันหนึ่งที่ลูกจะต้องจากบ้านไปแสนไกล ไปในที่ๆพ่อแม่ตามไปปกป้องดูแลไม่ได้ ได้แต่ส่งความรักความห่วงใยอย่างมหาศาลไปถึงลูก และตั้งตารอคอยวันที่ลูกจะกลับมา
และลูกก็จะเรียนรู้ว่าในโลกกว้างใบนี้ มีคนสองคนที่รักและห่วงใยเรามากที่สุด และความรักของคนสองคนนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง (ไม่ว่าเขาจะแสดงออกในรูปแบบใด)
และแปลกนัก ที่ว่ากันว่าลูกๆจะรักพ่อแม่เท่าใด ก็ไม่มีวันเทียบเท่ากับที่พ่อแม่รักลูกได้เลย ดิฉันไม่มีวิธีพิสูจน์ความจริงข้อนี้ เพราะยังอยู่ในสถานภาพของลูกอยู่เสมอ : ) แต่สัมผัสได้จากความจริงในชีวิตทีเราเห็นอยู่ทุกวัน
ดิฉันก็รู้สึกเองโดยความเป็นลูกว่าคนสองคนที่เรารักมากที่สุดในชีวิตคือพ่อกับแม่ เพียงแต่สิ่งที่เราทำให้พ่อกับแม่ คงเทียบกันไม่ได้กับสิ่งที่พ่อกับแม่ทำให้เรามาตลอดชีวิต
และถ้าให้ดิฉัน "เขียน" บอก ก็ออกจะง่ายกว่าให้ดิฉันวิ่งไป "บอก" พ่อกับแม่ตรงๆ ......พ่อกับแม่เราแท้ๆ ทำไมต้องเขินด้วยก็ไม่รู้...... : )
การรู้ว่า "รัก" นั้นสำคัญยิ่งนะคะ
และ "การบอกให้รู้ว่ารัก" นั้น ยิ่งสำคัญ
เพราะจะทำให้ทุกคนในครอบครัว "รับรู้" ได้ถึงความรักใคร่ผูกพันอย่างลึกซึ้งด้วยความรักที่แท้จริง และจะยิ่งทำให้เห็นคุณค่าของความรักนับเท่าทวีคูณ
น้องบลูบอกให้ป๊ารู้ว่าลูก "รัก"
......ได้อย่างน่ารักจังเลยนะคะ : )
ถึงลูกๆ
ป๊าเห็น จม. ลูกบลูถึงป๊า ดีใจมาก ที่บลูได้แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่อป๊า
ก่อนอื่นป๊าอยากบอกถึงฐานความคิดของป๊าที่มีต่อลูกๆ ป๊ามีความระลึกเสมอว่า ป๊ามีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลลูกๆตั้งแต่เล็กจนถึงโตใหญ่ ทั้งความรู้ ความเข้าใจ ความคิด รวมทั้งการอยู่ได้ในสังคมโลกใบนี้
ความรู้ เป็นอาวุธที่ดีต่อการดำรงค์ชีวิตในโลกใบนี้ แต่ปัจจูบันความรู้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การรู้จักใช้ความรู้ต่างหากที่เป็นเครื่องมืออย่างดีในการอยู่รอด
นั่นคือ คิดเป็น ทำเป็น หรือ วิธีคิด ที่ถูกต้อง
ป๊าดูแลลูกให้เติบโตได้ แต่ไม่สามารถดูแลถึงแก่ได้
ติดอาวุธความรู้ที่ถูกต้องได้เท่านั้นที่จะดำรงค์อยู่ได้ตลอดชีวิต
ป๊าไม่สามารถอ้างได้ว่าดูแลลูกๆได้อย่างดี อ้างว่าให้สิ่งที่ลูกๆต้องการได้ครบถ้วน อ้างว่าให้ความรู้แก่ลูกได้รอบด้าน แต่ป๊าสามารถยืดอก บอกได้ว่า ป๊ามีความรักต่อลูกๆเกิน ร้อย เปอร์เซนต์
ป๊า .
เรื่องของพ่อกับลูกความผูกพันลึกซึ้ง พ่อไม่สามารถปฏิเสธความเป็นพ่อตราบใดที่ชีวิตยังมีอยู่
ถ้ามนุษย์หยาบง่ายอย่างนี้ สังคมคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างพัฒนาไป ถ้าพวกเราไม่สามารถที่จะผสมผสานไปกับมัน ความเป็นผู้คนที่จะสร้างความสมดุลย์ในสิ่งแวดล้อมทั้งปวงก็จะเป็นไปไม่ได้ และจะต้องตกอยู่ในห้วงของความล้มเหลวในที่สุด
ขอบคุณมากครับคุณแอมป์ที่มีความห่วงใย และให้ความเห็นไว้
ขอบคุณมากๆครับ
อ่านแล้วคิดถึงพ่อมากๆๆ น้ำตาซึมเลย พ่อต้าเดินทางไปสู่สถานที่ไกลแสนไกล เมื่อปีที่ผ่านมา ครบรอบ 1ปีพอดีค่ะ ขอให้รักกันทุกวัน ก่อนที่ไม่มีโอกาสบอกรักค่ะ
ขอบคุณมากครับที่มาเยี่ยมเยียน ครอบครัวอบอุ่น ก่อให้เกิดจุดเริ่มต้นของชุมชนอบอุ่น ซึ่งบรรยากาศนี้ในปัจจุบัน มีน้อยมาก ซึ่งทำให้ก่อเกิดปัญหาต่างๆในสังคมและชุมชน พวกเรามาช่วยกันครับ สร้างความอบอุ่นขึ้น
ขอบคุณมากครับ