หลังจากเข้าใจแนวคิดของ KM ที่คิดว่าเป็นแก่นแล้ว ก็เริ่มคิดกิจกรรม พร้อมกับหาผู้ร่วมอุดมการณ์ จึงชวนเพื่อนร่วมทางมาอีก 3 ท่าน คือ อ.เสาวรัตน์ อ.จำนงค์ และ คุณชวดี (พี่เม่ย) สองท่านแรกนั้น ตนเองสนิทสนม และเป็นคอเดียวกัน ความคิดคล้ายกัน และ คุยหารือเรื่องโน้นเรื่องนี้มาตลอดก่อนที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าภาค สำหรับ อ.เสาวรัตน์ มีที่พิเศษไปกว่านั้น คือท่านเป็นรองหัวหน้าภาคฝ่ายพัฒนาบุคลากร แล้วเราก็หารือกันตลอดเพื่อหากลยุทธ์ในการปลุกเร้าชาวพยา-ธิ ส่วนคุณชวดี หรือพี่เม่ยนั้น ก่อนงานนี้ ก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก แต่เคยได้คุยกับเธอและรับทราบความเป็นพี่เลี้ยงคนเก่งของหน่วยโลหิตวิทยา
พวกเราทั้งสี่ ทำงานร่วมกันแบบง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตองมาก ไม่ได้มีการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด รู้กันในฐานะทีมทำงาน Patho Otop นัดประชุมก็ใช้วิธีโทรนัด ตนเองกำหนดวาระและทำตุ๊กตามาให้ทีมช่วยปรับแต่ง ไม่ต้องมีเลขาจดการประชุม เราบันทึกสิ่งที่พูดกันเอง ตนเองกับพี่เม่ย ก็นำบางส่วนไปลง blog เราไม่ได้แบ่งหน้าที่กันชัดเจน แต่เราทั้งสี่รู้ว่าตัวเองถนัดทำอะไร ก็ช่วยกันทำไปตามความถนัดโดยอัตโนมัติ ใครรับอะไรไป ก็บันทึกกันเอง ส่วนที่ต้องสั่งงานต่อ ตนเองก็ไปบอกฝ่ายธุรการเพื่อดำเนินการต่อไป เป็นการทำงานใหญ่ ที่คล่องตัว ยืดหยุ่น และได้ผลงานมาก
ขอบคุณท่านทั้งสาม ที่ร่วมสร้างประวัตศาสตร์หน้าสำคัญนี้ ขอบคุณ และ ขอบคุณ
คุณชายขอบ
ขอบคุณค่ะ ดีใจที่บันทึกมีเป็นประโยชน์
ขออนุญาตเจ้าของบันทึก ชื่นชมคุณชายขอบ ที่มีกลิ่นไอของคนใต้ให้เห็นได้ทุกอณูที่คุณชายขอบไปเยี่ยมเยือน
คุณชายขอบระวังนะคะ ความอิสระและไร้รูปแบบของอาจารย์ปารมี จะหลุดออกจากไซ เสียดายแย่เลย