เดินทางไปก่อนล่วงหน้า 1 วัน ผมออกเดินทางช่วงบ่ายวันที่ 1 สิงหาคม ไปถึงที่ม.นเรศวรพะเยา เกือบ 5 โมง พนักงานขับรถพาผมมาพักที่เรือนเอื้องคำ เหตุที่ไม่ได้ไปที่พะเยามานาน เข้าถึงที่พักยังไม่ได้ทานอาหารเย็นอะไร ถามที่เรือนเอื้องคำว่ามีอะไรทานบ้างครับ เขาบอกว่า มีข้าวไข่เจียวจ้าว.. ไม่มีตัวเลือกดีไปอีกแบบครับ ทานเพื่อชดเชยพลังงาน ในช่วงระหว่างที่เราอ่อนเพลียจากการเดินทาง
บรรยากาศที่นี้ดูจะเงียบสงบดี เป็นธรรมชาติเหมาะกับผมในช่วงเวลานี้ที่ต้องทบทวนความรู้ในสมองตัวเอง และสิ่งที่จะไปนำเสนอให้ผู้เข้าร่วมอบรมในวันพรุ่งนี้ จากโปรแกรมการอบรมที่ผมได้รับค่อนข้างแน่นทั้งวัน ตั้งแต่ปูพื้นเรื่อง KM ฝึกทักษะคุณอำนวย และทำแผน KM นับว่าเป็นโจทย์ที่หนักสำหรับผมจากประสบการณ์ที่เคยเป็นวิทยากรมา
สิ่งสำคัญนึกอยู่ในใจว่า ทำอย่างไรนะผมจะดึงความสนใจให้ผู้เข้าร่วมอยู่กับผมได้ตั้งแต่ต้นจนจบรายการ ผมค่อยเรียบเรียงความคิดในสมองของตนเองเป็น Step สำหรับการเตรียมงานวันพรุ่งนี้ และผมมักเผื่อใจไว้เสมอ เมื่อถึงเวลาสถานการณ์อาจไม่เป็นอย่างที่เราคิด เช่น ผู้เข้าร่วมอาจมาน้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และอาจมีตัวแปรอื่น ๆ อีก ที่เราต้องเรียนรู้และปรับตามสถานการณ์
ตอนเช้าลงมาทานอาหารที่ห้องอาหาร มีอาหาร 1 อย่าง คือ ข้าวผัดกระเพรา ไม่ต้องคิดมากเหมือนมื้อเย็นอีกเช่นกัน ระหว่างที่ทานไฟก็เกิดดับขึ้นมา เหมือนเตือนให้ผมรู้ตัวว่า ทุกอย่างไม่มีความแน่นอน นึกในใจเอ.. หากไฟดับอย่างนี้ ผมคงไม่ต้องบรรยายแล้ววันนี้ มีหวังกลับพิษณุโลกก่อนกำหนด
ลังเลก่อนจะไปที่จัดอบรมว่าจะมีใครมารับเราไหมหนอ ตัดสินใจโทรหาคนขับรถเมื่อวานว่าจะมารับผมกี่โมงครับ (ถามแบบมัดมือชก) คนขับรถตอบแบบงง ๆ และสรุปว่าเดี๋ยวจะออกมารับครับ เพราะผมอยากไปดูสถานที่จัดประชุมก่อน เพื่อเรียนรู้ก่อนดำเนินการ
จบวิทยากรไฟดับ ภาค 1...... ติดตามต่อภาค 2 ... ครับ
บอย สหเวช
9 ส.ค. 50
ไม่มีความเห็น