น้อง จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร พูดถึงเรื่อง human mapping ไว้ที่ บันทึกนี้ อ่านแล้วคิดถึงอุปสรรคอันเกิดจากเรื่องที่เคยเป็นสิ่งดี คือการ ยกท่าน ข่มตน สิ่งนี้จะเป็นปัญหาตรงไหนลองดูได้จากความเห็นที่ผมไปแสดงต่อท้ายไว้ ดังนี้ครับ ...
น้อง จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร พูดถึงเรื่อง human mapping ไว้ที่ บันทึกนี้ อ่านแล้วคิดถึงอุปสรรคอันเกิดจากเรื่องที่เคยเป็นสิ่งดี คือการ ยกท่าน ข่มตน สิ่งนี้จะเป็นปัญหาตรงไหนลองดูได้จากความเห็นที่ผมไปแสดงต่อท้ายไว้ ดังนี้ครับ ...
สวัสดียามเช้ามืดค่ะอาจารย์... Handy
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ ครูอ้อย
ผมก็ใช้บ่อย และไปมั่นใจมากขึ้นเมื่อไปอยู่และได้เห็นสังคมญี่ปุ่น ราว 18 เดือน แต่ในโอกาสที่จะต้องประกาศตัวเพื่อทำงาน ผมไม่มัว ยกท่านข่มตน ล่ะ มันเสียเวลา เราต้องการความจริงแท้ตรงๆมากกว่า ว่าใครจะทำอะไรได้ดี จะได้ช่วยกันให้งานรุดหน้าไปได้ดีและเร็วขึ้นครับ
ดอนเจดีย์ 19-20 พค. นี้ .. คงมีอะไรดีๆให้เราได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนกับท่านทั้งหลายที่มาร่วมงานนะครับ.
เห็นด้วยนะคะ
ว่าทั้งยกตนข่มท่าน และ ยกท่านข่มตน
ไม่ดีทั้งคู่ค่ะ
เพราะไม่ยุติธรรม และ ขาดสมดุลค่ะ
สำหรับตนเองว่าที่ดีที่สุดคือ
ไม่ยกไม่ข่ม คือ เสมอกัน
ทุกคนมีคุณค่า เท่าเทียมกัน ค่ะ
ทั้งเราและเขา ไม่มีใครด้อยกว่า
และ ไม่มีใครเหนือกว่าค่ะ
ขอบคุณนะคะที่นำแง่คิดดีมาแบ่งปันกันค่ะ
สวัสดีครับ คุณหมอ ซันซัน
เห็นด้วยครับว่าอยู่อย่างไม่ ขาดสมดุล ดีครับ ทุกอย่างจะได้ดำรงอยู่ได้โดยไม่หนัก ไม่เอียงไปด้านใด ไม่ต้องออกแรงคอยค้ำยัน หรือดึงให้เข้าสู่ความพอดี
แต่ ... ในทางสังคม การแสดงออกด้วยการ พูด และทำ ให้เห็นว่า บุคคลที่สอง และ สาม เก่งและดีกว่าที่เราเป็น ช่วยให้คนอยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุขเพิ่มขึ้นได้ครับ .. แต่ต้องให้พอดีๆ และเหมาะแก่ กาละ เทศะด้วยครับ
เมื่อ อา. 13 พฤษภาคม 2550 @ 22:27 [259386]
มาไม่บ่อย แต่ใจอยู่ไม่เคยไกลครับ
ชื่นชม เชื่อมั่นในสิ่งที่น้อง คิด พูด ทำเสมอครับ เพราะมีฐานสำคัญคือ "รักผู้อื่น" สิ่งนี้คือเครื่องประกันว่าทางที่เดินไปจะมีแต่การสร้างสรรค์ครับ
เรื่อง human mapping นี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะจะมีคุณค่ามหาศาล ลงคนที่ต่างมีใจให้สังคมได้จับมือกันพร้อมทั้งรู้ว่าใคร มีดีอะไร แล้วละก็ ที่ว่ายากก็จะง่าย ที่ว่าช้าก็จะเร็วขึ้นอย่างเหลือเชื่อเลยล่ะครับ
ที่เห็นจะเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งก็คือ ค่านิยมการถ่อมตน .. ผมว่ามันดีในมุมหนึ่ง คือทำให้คนไม่ดูถูกดูแคลนกัน ยกท่าน ข่มตน นั้นดีแน่ เพื่อความสงบสุขในการอยู่ร่วมกัน สังคมญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ชัดมากในเรื่องนี้ แต่ถึงคราวที่จะต้องบอกออกไปว่า เราเก่งอะไร ทำอะไรได้ดี มีประสบการณ์สูงด้านใดบ้าง เพื่อที่จะได้ช่วยกันใช้ศักยภาพเหล่านั้นให้ได้มากและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อตอบสนองการ "รักผู้อื่น" ผมว่าต้องบอกกันตรงๆได้แล้ว ไม่ต้องกลัวใครว่า ขี้โม้ โอ้อวด เมื่อบอกว่าเก่งอะไร ถนัดอะไร แล้ว ก็ตามด้วยสิ่งที่ไม่ถนัด หรือแย่เอามากๆ เพื่อเป็นตัวแก้เขินด้วยก็ได้ .. เพราะไม่มีใครเก่งทุกเรื่องอยู่แล้ว .. ผมเองพร้อมจะบอกแบบไม่เกรงใจว่าเก่งอะไร และด้อยอะไร เพื่อใครต่อใครจะได้ใช้ประโยชน์จากตัวผมได้สะดวกและไม่ผิดเพี้ยนครับ