งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข ?


น่าขำที่ยุคหนึ่งท่านผู้นำประเทศให้คำขวัญที่ใช้ปัญญาค่อนข้างน้อยว่า ... " งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข "

   อ่านบันทึกประเทืองปัญญาแล้วมักเกิดอาการถูกกระตุ้นให้ปลดปล่อยสิ่งที่เชื่อ ที่คิด ที่ทำออกมาได้ง่าย  เป็นการต่อยอดบ้าง ตอกย้ำบ้าง หลายครั้ง  หลายเรื่อง และหลายที่ครับ เช่นข้อความข้างล่างนี้ก็มาจากความเห็นที่ผมไปวางต่อไว้ที่บันทึกหนึ่งของ ดร. แสวง รวยสูงเนิน   ขออภัยที่จำไม่ได้ว่าบันทึกไหน  ผมเขียนไว้ว่า ...

      ผมเคยลองพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าการทำงานสุจริตหาเงินมากๆ ผมทำได้  แต่ผมไม่ชอบ  และไม่ใช่ทางเลือกของผม  เพื่อนๆหลายคนบอกว่าถ้าทำอะไรได้อย่างที่ผมทำ  เขาออกจากราชการไปนานแล้ว  แต่ผมก็เฉยๆทั้งที่มั่นใจว่า ออกจากราชการเมื่อไรผมมีเงินใช้มากกว่าอยู่ตรงนี้แน่นอน  เงินไม่ใช่เป้าหมายของชีวิตผม

     ท่านอาจารย์พุทธทาสเคยพูดเรื่องคนโลภเจอภูเขาทองคำ  ขุดทองมากองข้างกายอยู่ตลอดเวลา ขุดอยู่จนตายคาที่  โดยไม่มีโอกาสใช้ประโยชน์อะไรจากทองคำเหล่านั้นเลย .. ผมไม่อยากเป็นอย่างนั้น

      หลายงานที่ผ่านมา ผมทำด้วยความสุขโดยไม่มีเงินมาเกี่ยวข้อง เช่นครั้งหนึ่ง ต้องเดินสายไป 4 ภูมิภาคร่วมกับทีมงานที่รู้ใจกัน ทำงานให้กับมูลนิธิการศึกษาเพื่อสันติภาพพระธรรมปิฎกฯ ท่านประธานคือ ดร.นิเชต  สุนทรพิทักษ์ บอกชัดเจนว่างานนี้ไม่มีค่าวิทยากร  ผมก็เป็นสุขกับมันได้  เบาสบายกว่างานที่ได้เงินเสียอีก
 
     น่าขำที่ยุคหนึ่งท่านผู้นำประเทศให้คำขวัญที่ใช้ปัญญาค่อนข้างน้อยว่า ... " งานคือเงิน  เงินคืองาน  บันดาลสุข "

    ท่านเห็นกันอย่างไรบ้างล่ะครับกับคำขวัญดังกล่าว !

หมายเลขบันทึก: 83437เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2007 12:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม 2012 22:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีครับอาจารย์

  • ผมเห็นด้วยกับความคิดอาจารย์ครับ
  • ผมไม่เห็นด้วยกับคำขวัญ "งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข" ครับ
  • แล้วถ้าบางคนทำงานแล้วไม่ได้เงินล่ะจะเกิดอะไรขึ้น (คนที่คิดต่างกับ อ. น่ะครับ)
  • ทีนี้ถ้าเราทำงานเพื่อหวังเงิน(=ความสุข) คนที่กินเงินเดือนคงมีความสุขแค่ตอนเงินเดือนออก และตอนใช้เงินหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันเท่านั้น
  • พอดีเมื่อคืนผมได้เขียนบล็อกที่แก้ข้อข้องใจเรื่องนี้ไว้ด้วยครับ เผื่อคนที่ยึดคำขวัญนี้ไว้จะได้เข้าใจว่า ทำไมฉันทำดีเกือบตายแต่ไม่เป็นสุข(รวย) สักที

ธรรมะสวัสดีครับ

  • บางที่การทำงานก็ไม่ได้เงิน
  • และการหาเงินก็ไม่จำเป็นต้องทำงาน และ
  • ผมเห็นมีแต่งานที่ได้บันดาลสุขโดยไม่มีทุกข์
  • เงิน(เฉยๆ) อาจบันดาลทุกข์ครับ
  • แต่ผมไม่ทราบว่าทำไมบางคนแค่เดินไปเดินมา ก็บอกว่าทำงานแล้ว
  • บางคนทำแทบตายก็ยังไม่ได้งาน
  • บางคนได้ทั้งงาน ได้ทั้งเงิน แต่ก็ยังไม่มีความสุข
  • แต่บางคนก็สุขโดยไม่ต้องมีเงิน

ผมก็เลยไม่ค่อยเข้าใจว่า ผมควรจะทำงานอย่างไร หรือหาเงินดีหรือไม่ จึงจะเป็นสุข

ก็เลยมาทำแบบกลางๆ ได้บ้างเสียบ้างอยู่นี่แหละครับ

ผมว่า ท่านมหาชัยวุธตอบได้ดีกว่าผมครับ

  • ผมคิดว่าเงิน เป็นเพียงช่วยทำให้เกิดความสะดวกสบายบางอย่างเท่านั้น  แต่ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
  • ความสุขที่แท้น่าจะเกิดจากข้างในมากกว่าสิ่งประกอบ หรือเปลือกนอกรอบกาย
  • ดังเราเคยได้เห็นคนมีเงินมากมาย แต่ยังมีความอยากความโลภอยู่ (ดิ้นรนขนขวายแม้โกงก็ยอม)  แสดงว่ายังไม่มีความสุขเพียงพอ
  • การได้ทำหน้าที่ที่ถูกต้อง  น่าจะทำให้เกิดความสุขอย่างจริงแท้  การทำหน้าที่หรือทำการงานแม้ไม่ได้เงิน(มาก) แต่ก็ได้อย่างอื่นที่แม้มีเงินก็ซื้อไม่ได้  หรือประมาณค่ามิได้

         อยากทราบว่าหนังสือ 3 เล่มโปรดของอาจารย์ handy ครับ (ลิงค์)

       ในชั่วชีวิตหนึ่งผู้คนแสวงหาแต่เงินกันโดยเขาคิดว่าเงินจะบันดาลสุขให้เพราะเงินคือปัจจัยที่สร้างปัจจัย  หากเมื่อพิจารณาอย่างถ่องแท้แล้วเงินนอกจากจะบันดาลสุขให้แล้วยังสามารถบันดาลทุกข์ให้อย่างแท้จริง  ขอบคุณท่านผู้รู้ที่ทำให้ผมสามารถมองเห็นในความเป็นเงินที่แท้เป็นเช่นไร

งานคืองาน เงินคือเงิน ครับ...

ทำงานไม่ต้องได้เงินก็เกิดความสุขได้...

ทำงานได้เงินบางที่ก็ทุกข์ครับ...

ทำงานเพื่อให้ได้งานมีความสุขที่สุดครับ....

ขอบคุณครับ...

ขออภัยทุกท่านครับ
เข้ามาอ่านความเห็นของท่านหลายครั้ง และรอๆอยู่ว่าจะมีใครมาอีกมั้ย จนมีงานต้องไปประชุม ตจว. เสีย 3 วัน กลับมาจึงเข้ามาตอบ แสดงความขอบคุณ  ช้าไปหน่อย คงไม่ว่ากันนะครับ

  • คุณ ธรรมาวุธ  .. ขอบคุณครับ  ดีใจที่มีพันธมิตรใหม่  ที่มีใจ และหันหน้าไปทางเดียวกัน .. คุยกับน้อง เม้ง แล้วพอจะทราบว่าท่านคือ .. ใช่เลย
  • อ. ดร. แสวง รวยสูงเนิน ... ขอบคุณครับ .. ทำงานตัวเป็นเกลียว ยังปลีกเวลามาให้ความคิด เผื่อแผ่แก่หมู่ญาติ .. ที่ว่า ทำแบบกลางๆ ได้บ้างเสียบ้าง  ผมว่า ของผมมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่นะครับ แต่เรารู้แก่ใจดีว่าขณะทำหน้าที่ใจคิดอะไร
  • คุณ น้อง สิงห์ป่าสัก ... ขอบคุณที่มาถึงสองรอบ .. อ่านความเห็นแล้วสบายใจครับทั้งๆที่รู้ว่าในใจท่านเป็นอย่างไร แต่พอได้อ่านก็ยิ่งรู้สึก ไม่เหงา .. รู้สึกว่ามีเพื่อนร่วมทางตลอดเวลา
  • อ. โสภณ คำสวาสดิ์ .... ขอบคุณที่ตามติด แถมแบ่งปันความคิดมิได้ขาด .. เงินที่บันดาลทุกข์ นี่ตัวอย่างหาง่ายจังเลยนะครับ
  • Mr.Direct  ... ขอบคุณครับ .. สั้นแต่เฉียบคม ครับ ผมหมายถึงความเห็นที่ท่านให้ไว้ ว่าด้วยเรื่อง เงิน และ งาน
งานที่คิดว่าทำด้วยใจทั้งหลาย เมื่อได้รับเงินกลับมา จะรู้สึกได้ว่า มันทำให้เรารู้สึกเหมือนลดค่าตัวเองค่ะ แต่เงินก็เป็นสิ่งสำคัญในชีวิต เพราะไม่มีอะไรที่ใช้ในการดำรงชีวิตธรรมดาๆที่ไม่ใช้เงิน แถมเงินยังทำให้เราช่วยคนอื่นได้แบบเร่งด่วนด้วยในบางครั้ง แต่ก็พยายามตั้งสติกับตัวเองเสมอค่ะ ว่ายังไงๆเงินก็ไม่ใช่สิ่งที่ชี้นำให้เราทำ หรือไม่ทำอะไร มั่นใจว่าตัวเองยังดำรงตนอยู่แบบ เงินซื้อเราไม่ได้อยู่ค่ะ

หลวงพ่อปัญญานันทะ  บอกว่า งานคือ ชีวิต ชีวิตคืองาน บันดาลสุข  ครับ

ขอบคุณน้องสาว โอ๋-อโณ  และ คุณ หมอจิ้น ครับ
    ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในความเป็นมนุษย์ ท้ายที่สุด เงินไม่เกี่ยว  คนรวยผู้น่าสงสารจึงมีให้เห็นอยู่เกลื่อนเมือง ใช่มั้ยครับ
  • สวัสดีครับ พี่บ่าว
  • สบายดีไหมครับผม
  • หากพูดกันเล่น จากหัวข้อ
    งานคือเงิน (งาน = เงิน)
    เงินคืองาน (เงิน = งาน)
    และ งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข

    เลยเอามาแต่งใหม่เล่นๆ เป็น

    งานบันดาลสุข   และ เงินบันดาลสุข

    พอแยกออกมาแบบนี้ เหมือนกับว่า มันไม่สมบูรณ์ ใช่หรือเปล่าครับ

    คงต้องหาคำตอบกันครับ ว่าชีวิตเรา อะไรบันดาลอะไรให้สุขกันครับ อิๆ มากวนหมวน เล่นๆ ครับ
  • รักษาสุขภาพด้วยครับพี่ (ประโยคฮิตครับ) อิๆ
  • สงสัยเว็บนี้จะดังมาก มีพวกมาหาเงินซะแล้ว อิอิ
  • สักหน่อยไหมครับคุณเจ้าของบล็อก
อย่ากระนั้นเลย ลบทิ้งดีกว่า .. ขอบคุณที่มาแจ้งข่าวครับ น้องบ่าว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท