จิตสาธารณะหรือจิตอาสา เป็นทุนสังคมใหม่ล่าสุด ของประเทศไทยและของโลก


การพร้อมใจ การร่วมมือกันทำอะไรด้วยกัน ที่เป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่สร้างสรรค์ จะเป็นหัวใจของ "สังคม" และเป็นมงคลที่สูงอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่สมควรที่น่าจะช่วยกันทำให้เกิดขึ้นให้ได้ค่ะ ในสังคมทุกๆระดับในประเทศของเรา

        แต่ก่อนนี้ เราจะได้ยินแต่คำว่า  ทุนทรัพย์  ทุนทางปัญญา  และทุนด้านชื่อเสียงที่ดีงาม   แต่ปัจจุบัน เราได้ยินคำว่า  ทุนสังคม   กันหนาหูมาก ในระยะไม่กี่ปีนี้ และทุนทางสังคมนี้ ก็ไม่ใช่เป็นทุนรูปแบบเก่า ที่ใช้สายสัมพันธ์กันแค่ไม่กี่คน หรือเฉพาะหมู่พวกของตน  แต่เป็นการมองออกไปนอกตัว  และคิดว่าเราจะช่วยเหลือเสียสละอะไรให้แก่คนอื่นได้บ้าง  อย่างเต็มอกเต็มใจ    แบบเพื่อนช่วยเหลือกัน   มีน้ำใจให้แก่กัน  แม้ในเรื่องที่มิใช่เรื่องที่จะมีผลกระทบกับเราตรงๆก็ตาม    สามารถแสดงออกมาได้ในหลายรูปแบบ    ตลอดจนการอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคม

             ปัจจุบัน  เป็นเรื่องที่น่าปลื้มใจมาก ที่รัฐบาล  ได้มีวาระแห่งชาติ   ว่าด้วย  การ ส่งเสริมให้มีการให้และการอาสาช่วยเหลือสังคม ก่อตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ปี 2550   เป็นปีแห่งการให้และการอาสาช่วยเหลือสังคม  นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์ Konjaidee.com เป็นเว็บไซต์ที่  ได้รับการสนับสนุนระยะแรกจากเครือข่ายจิตอาสา   ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม    นำเสนอข้อมูลพื้นฐานของศูนย์   ระบบค้นหากิจกรรมอาสาและการให้ที่ผู้สนใจสามารถเลือกหมวดหมู่ที่ตนเองสนใจได้
       
         เป็นการร่วมมือกันรณรงค์ส่งเสริมจิตอาสาให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม   เพราะเป็นการเรียก  น้ำใจงามของคนไทย  ให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง   และควรจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม   เพราะ จะไม่จำกัดอยู่เฉพาะญาติมิตร  เพื่อน หรือคนรู้จักเท่านั้น    แต่ควรต้องเผื่อแผ่    ดูแลสังคมไทย   ดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน ตลอดจนปัญหาต่างๆรอบๆตัวร่วมกัน   ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ   ทำดีให้เป็นรูปธรรมกันมากขึ้นใน ไม่เพียงแต่ รอดูว่า ใครจะรับผิดชอบเรื่องอะไร   แต่ควรต้องออกมา  มีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยกัน
            มีโครงการดีๆหลายโครงการ  ที่ดิฉันติดตามอยู่  เช่น โครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม   โครงการนี้คิดและพัฒนาขึ้นมาบนความเชื่อที่ว่า “การให้คือบันไดสู่สวรรค์” ตัวอย่าง ในโครงการนี้ เช่น  โรงเรียนเพลินพัฒนา ชวนชุมชนช่วยน้ำท่วม บทเรียน "การให้" ในชีวิตจริง
        นอกจากนี้  ดิฉันทราบมาว่า ในระดับนักเรียนมัธยมต้น บางโรงเรียน ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด   ต่อต้านการสูบบุหรี่   รณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมและดูแลสภาพทั่วไปของโรงเรียน ให้สะอาด น่าเรียน  แม้แต่ที่หมู่บ้าน ของตนเอง  ก็รณรงค์ในเรื่องความสะอาด  ให้เด็กๆในหมู่บ้านรักการกีฬา   เอาใจใส่สุขภาพ  และดูแลผู้สูงอายุ การแสดงออกของนักเรียนดังกล่าว   เป็นการเริ่มต้นของการมีพลังแห่งจิตสาธารณะแล้วค่ะ
         ในวงการแพทย์  ก็มี หมอรุ่นใหม่  ที่รักษาคนไข้ด้วยหัวใจ  เช่น  เมื่อคราวที่    แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ (มสส.) ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดเวทีขับเคลื่อนเครือข่ายการพัฒนาสุขภาพที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์ (คสม.) เรื่อง “Humanized Health Care  ใส่หัวใจให้ระบบสุขภาพขึ้น ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น
            แม้แต่ในภาคธุรกิจ ก็มีการตื่นตัวกันมากในการทำกิจกรรมลักษณะนี้ เช่น   เมอร์ค ประเทศไทย     ได้จัดกิจกรรมลูกค้าและพนักงานอาสาสมัครที่ชื่อว่า “รักษ์ผืนป่ากับเมอร์ค ประเทศไทย ณ สวนพฤกษาชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ จ.สมุทรปราการ ร่วมกับมูลนิธิ Plant-A-Tree-Today และศูนย์จัดการพื้นที่สีเขียวเชิงนิเวศน์นครเขื่อนขันธ์ กรมป่าไม้เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมและเพื่อรณรงค์ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน

        เครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี)     ได้สร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างจริงจัง และต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ที่สำคัญได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา กีฬา ชุมชน และสาธารณประโยชน์  ที่ได้ยินกันบ่อยๆ เช่น     โครงการ"เครือซิเมนต์ไทยช่วยภัยแล้ง"  /    เครือซิเมนต์ไทย-7สี ช่วยชาวบ้านเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ทั่วประเทศ และ ชมรมค่ายอาสาพัฒนาเครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) ก็เป็นกิจกรรมที่เกิดจาก การที่พนักงานรวมตัวกัน   เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมมาตั้งแต่ปี 2522 โดยเสียสละวันหยุดพักผ่อนออกไปสร้างสาธารณสมบัติ อาทิ สถานพยาบาล อาคารเรียน และถังเก็บน้ำฝน ในท้องถิ่นทุรกันดารเป็นประจำทุกปี เป็นต้น

         

     ในส่วนที่เกี่ยวกับภาคธุรกิจนี้    สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มี  คำสั่งจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคม (CSR)  ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคธุรกิจได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมด้วย  ซึ่งปรากฏว่า  ทางภาคธุรกิจก็ขานรับแนวคิด ความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR)   นี้กันอย่างคึกคัก  ซีเอสอาร์ เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษว่า Corporate Social Responsibility (CSR) หรือ บรรษัทบริบาล หมายถึง การดำเนินกิจกรรมภายในและภายนอกองค์กร ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมทั้งในระดับใกล้และไกล ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรหรือทรัพยากรจากภายนอกองค์กร ในอันที่จะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข   อ้างถึงการอธิบาย  ของ.....ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์

   

     สำหรับระดับโลก เราได้ยินชื่อเสียงของบุคคลหรือกลุ่มธุรกิจ ที่ดำเนินกิจกรรมที่น่าชื่นชม  ให้แก่สังคมโลก  กันหลายคน   ยกตัวอย่าง เช่น

    บิล  เกตส์ คนที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนสังคมรายใหญ่ที่สุดของโลก

       วอร์เรน อี. บัฟเฟตต์    "เศรษฐีการุณ"มอบเงินให้กับบิล และ เมลินดา เกตส์ ฟาวเดชัน  เพิ่อให้นำเงินของเขาไปก่อประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ให้ได้อย่างดีที่สุด  เป็นการแสดงความไร้อัตตาออกมาที่ทำให้ทุกคนทั่วโลกทึ่ง 


  นายโบโน นักดนตรีร็อค  วง U2  ชาวไอริช ที่เป็นตัวตั้ง ตัวดี ในการให้ประเทศที่ร่ำรวย ยกหนี้ ให้ประเทศที่ยากจน   เคยได้รับรางวัลเกียรติยศจากผลงานมาหลายครั้ง เช่น ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์เกียรติยศชั้นอัศวิน จาก สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ    และเคยได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปี  จากนิตยสารไทม์ด้วย    

   ดาราภาพยนตร์ แองเจลลิน่า โจลี่ ที่ช่วยเหลือประเทศเขมรหลายด้าน    จนได้เป็นทูตสันติภาพขององค์การสหประชาชาติ

  The Breast Cancer Reseach Foundation  โดย  Evelyn  H. Lauder รองประธานอาวุโส กลุ่มบริษัทเอสเต้ ลอเดอร์  จัดโครงการต่อต้านมะเร็งเต้านม มาตั้งแต่ ปี 2535   มีการจัดกิจกรรมภายใต้สัญลักษณ์ริบบิ้นสีชมพู พร้อมกันทั่วโลกในเดือนตุลาคม ของทุกปี  มีสถานที่เด่นๆหลายร้อยแห่ง กว่า 50 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมโครงการ เช่น ตึกเอ็มไพร์สเตท  น้ำตกไนแอการา  หอเอน แห่งเมืองปิซ่าในอิตาลี  และ หอคอยแห่งกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น   โดยได้มอบรายได้ส่วนหนึ่ง ให้แก่มูลนิธิ เพื่อการวิจัยโรคมะเร็งเต้านม เป็นต้น 

     ดังนั้น  การพร้อมใจ  การร่วมมือกันทำอะไรด้วยกัน    ที่เป็นสิ่งที่ดี   สิ่งที่สร้างสรรค์   จะเป็นหัวใจของ "สังคม"   และเป็นมงคลที่สูงอย่างหนึ่ง  เป็นสิ่งที่สมควรน่าจะช่วยกันทำให้เกิดขึ้นให้ได้ค่ะ   ในสังคมทุกๆระดับในประเทศของเรา

     

หมายเลขบันทึก: 136783เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2007 22:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:04 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (118)

ขอบคุณครับ ประทับใจ

คุณศศินันท์มีข้อมูลท่วมท้นเชียวครับ

ชอบ

สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์

เห็นด้วยเลยค่ะว่าสังคมที่ดีจะต้องเป็นสังคมที่คนในสังคมรู้จักให้ หรือมีจิตอาสาเป็นทุนค่ะ

สังคมที่มีแต่การแก่งแย่งกันนั้นจะนำไปสู่ความแตกแยกกันในที่สุด สังคมที่ใช้ีเศรษฐกิจนำมาจนเกินไป เป็นสังคมที่มีกิเลสเป็นฐาน 

เห็นด้วยเลยค่ะที่ประเทศไทยจะมีเจตนารมณ์์นี้เป็นวาระแห่งชาติ  ^ ^

ขอบคุณค่ะ 

สวัสดีคะพี่P

ตามมาอ่านค่ะ  ยกนิ้วให้กับข้อมูลที่แน่นปั้กเลยค่ะ  ดีใจจังค่ะที่ได้เข้ามาในบันทึกนี้ค่ะ  ได้อ่านข้อมูลดี ๆ ที่หายากจริงๆ ค่ะ  อย่างที่พี่ทำเขาเรียกว่าจิตอาสาค่ะ  สุดยอดค่ะ

คิดถึงมาก ๆ นะค่ะ  รักษาสุขภาพด้วยค่ะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง  ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ

อ่านหนังสือพิมพืเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ว่าเครื่องสำอางค์ เอสเต้ มีการรณรงค์พร้อมกันทั่วโลก เพื่อให้ผู้หญิงตระหนักถึงภัยมะเร็งเต้านม ยังคิดว่า เขาก็ทำเพื่อสังคมไม่น้อยนะ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีนะคะ

สาธุ สาธุ และ สาธุ ครับ

สวัสดีค่ะคุณหมอคะ

P

จริงๆเรื่องจิตอาสา เราก็มีมานานแล้วนะคะ

สมัยเรียนหนังสือ ก็มีการออกค่ายกันเป็นประจำ พอกลับมาก็มาปลื้มใจกันมาก พอปีต่อไป ก็ไปกันอีก

แต่หลังๆมานี่ เรื่องกิจกรรมจิตอาสานี่ รู้สึกว่า จะน้อยลงไป ในภาพรวม

เป็นเพราะสังคมเรา มองแต่ตัวเองและพวกพ้องกันมากขึ้น ใส่ใจคนอื่นน้อยลง ทำให้พลังของคนเราน้อยลงไป น้ำใจก็น้อยลงด้วย

จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทางรัฐบาล พยายามฟื้นฟูเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีกค่ะ

วันนี้ ก็ได้รับข่าวว่า ท่านรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ที่เป็นเจ้าภาพเรื่องนี้ ท่านไม่ค่อยสบาย งานท่านคงหนักมากค่ะ ก็ขอเอาใจช่วยให้ท่านหายเร็วๆค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์

P

 เห็นด้วยกับอาจารย์ที่ว่าสังคมที่ใช้ีเศรษฐกิจนำมากจนเกินไป เป็นสังคมที่มีกิเลสเป็นฐาน 

 การพัฒนาหมดทั้งโลกตอนนี้  เป็นการพัฒนาทางวัตถุ ทำให้เข้าไปสู่ความเสื่อมเสียทางศีลธรรม และยังขาดความเมตตา

 การพัฒนาจิตจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ไม่ใช่แต่เรานะคะที่คิดอย่างนี้ มีคนมากมาย ในประเทศต่างๆก็คิดอย่างเดียวกันค่ะ

 พี่ติดตามพวกมูลนิธิ ที่ทำงานในด้านจิตวิญญาณจริงๆ   พยายามมุ่งเน้น เรื่องให้คนทำความดีจริงๆ  เขาได้รับการสนับสนุนไม่น้อยค่ะ 

สวัสดีค่ะคุณราณี

P
ดีใจจริงที่เข้ามาอ่านค่ะ

พอดีสนใจเรื่องแบบนี้มานานแล้วค่ะ ติดตามดลอด และก็ชื่นชมค่ะ ที่เห็นยังมีคนจิตใจดีอยู่อีกมากในสังคมเรา แต่ต้องให้มากกว่านี้อีกมากๆค่ะ

ตอนนี้  คนมาสนใจเรื่องจิตใจมากขึ้น เป็นไปทั่วโลก เพราะทุกคนประสบปัญหากันทั้งนั้น  และเครียด  ความร่ำรวย  ไม่ได้ช่วยให้คนเรามีความสุขนะคะ ความเป็นอยู่อย่างพอเพียง ต่างหาก ที่ทำให้เรามีความสุขกว่ามาก

เช่นกันค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ ดีใจด้วย ที่วันที่ตกใจกันใหญ่ ไม่มีอะไรเสียหาย บุญรักษาค่ะ

สวัสดีค่ะ

P
 JJ
ขอบคุณอาจารย์ที่มาเยี่ยมค่ะ

ที่ผ่านมา ประเทศเรา คนที่เรายกย่องมากว่า ประสบผลสำเร็จ มัก เป็นเชิงธุรกิจเสียมาก แต่ในระดับสาธารณะหรือ มวลชนยังมีน้อย

เท่าที่นึกออก จะเป็นพวกนักกีฬานะคะ ที่ครองใจคนหมู่มากส่วนใหญ่ ของประเทศได้ ทุกเพศ ทุกวัย

แต่ ต่อจากนี้ น่าจะมีกระแสใหม่เกิดขึ้นแล้วค่ะ คนจะยกย่อง คนที่มีจิตสาธารณะกันมากขึ้นค่ะ

สวัสดีค่ะ

ชื่อนักร้องโบโน จำได้แม่น พี่ชายชอบเขามากค่ะ แต่หลังๆนี่ กลายเป็นนักร้อง นักกิจกรรมไปแล้ว รู้สึกจะได้เคี่องราชฯเป็นอัศวินใช่ไหมคะ

ดีจังค่ะที่คุณพี่หยิบเรื่องนี้มาเขียนได้อย่างน่าอ่าน เป็นแนวทางปฏิบัติที่คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมได้ในบริบทของตน โดยขยายบริบทของตนให้รวมมิติอื่นของสังคมเข้าไปด้วย มองการมีอยู่ของตนว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จึงมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยสังคมในส่วนที่ยังต้องการความช่วยเหลือ

ในวงวิชาการที่นุชมีรากฐานการศึกษามาคือการสื่อสารวิทยาศาสตร์/การสร้างความตระหนักทางวิทยาศาสตร์ ในต่างประเทศมีแนวคิดที่ส่งเสริมให้นักวิทยาศาสตร์ทำหน้าที่ข้ามขอบเขตห้องวิจัยของตนออกมาสู่สังคม เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า Civic Scientist  และประชาชนที่ตระหนักในการช่วยกันพัฒนาสังคมของตนเขาก็ใช้คำว่า Civic Citizen

ดังนั้นหากแนวทางจิตอาสาในบ้านเรารุ่งเรืองสังคมเราคงอบอุ่น น่าอยู่ ก้าวหน้าขึ้นอีกมาก ไม่มองเห็นแต่เงินเป็นใหญ่ หรือเอาแต่เรื่องของตัวเอง และแอบหวังนิดๆ(ในสายวิชาการของตัวเอง)ว่าคงได้เห็น Civic Scientists เพิ่มขึ้น ในการเชื่อมสายใยวิทยาศาสตร์กับสังคม อย่างมีความเข้าใจซึ่งกันและกันเพราะทำด้วยจิตเมตตา ไม่ใช่ในฐานะผู้รู้มากกว่า ดีกว่า เป็นเพียงมุมเล็กๆที่ขอเสนอให้นักวิทยาศาสตร์มาร่วมช่วยกันในเรื่องจิตอาสาแบบไทยและยังอินเทรนด์สากลด้วยนะคะ

 

  • สวัสดีครับคุณsasinanda
  • เรื่องของจิตอาสา เป็นเรื่องของสำนึก ถ้าเรามาช่วยกันสามารถปลูกสำนึกให้แก่เยาวชนได้ จิตอาสาก็จะเกิดขึ้นมากมายครับ
  • ตัวกระผมเองในหลายๆกิจกรรมก็มีใจ เต็ม 100 แต่บางกิจกรรมต้องพยามให้กำลังใจตัวเอง ว่าอย่าถ้อถอย พยามต่อสู้กับความคิดอีกฝ่ายของตนเสมอ
  • ขอบคุณมากครับ
  • แวะมาช่วยสร้างสำนักดีๆให้สังคมด้วยคนคะ
  • เพราะเวลาทำงานสมัยนี้ทุกคนมักคำนึงแต่รายได้และค่าตอบแทนอยู่เสมอ
  • หากงานไหนบอกว่าไม่มีค่าใช้จ่ายให้มักไม่มีใครช่วยคะ
  • ไม่อยากให้สังคมไทยแล้งน้ำใจไปกว่านี้คะ
  • อยากให้เริ่มที่คนที่มีเหลือ..ให้เอื้อเฟื้อแก่ผู้ที่ขาด...เห็นโรงพยาบาลหลายแห่งทำโครงการดีๆแบบนี้เหมือนกัน..น่าชื่นใจนะคะ

สวัสดีค่ะคุณกฤษณา

 กลุ่มบริษัทเอสเต้ ลอเดอร์ โดยได้  ทำมูลนิธินี้    The Breast Cancer Research Foundation    มานานหลายปีแล้วค่ะ และได้แสดงเจตนาไว้ ดังนี้

Our mission is to achieve prevention and a cure for breast cancer in our lifetime by providing critical funding for innovative clinical and genetic research at leading medical centers worldwide, and increasing public awareness about good breast health. A minimum of 85 cents of every dollar goes to research and awareness programs 

เท่าที่มูลนิธินี้ ประชาสัมพันธ์ไว้ คือตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา อัตราการเสียชีวิต จากโรคมะเร็งเต้านม ลดลงอย่างต่อเนื่องค่ะ

ประวัติ เอเวอร์ลีน เอช. ลอเดอร์

รองประธานบริษัทอาวุโส กลุ่มบริษัทเอสเต้ ลอเดอร์

สวัสดีค่ะคุณดาว

คุณดาวเล่าว่า.....

ชื่อนักร้องโบโน จำได้แม่น พี่ชายชอบเขามากค่ะ แต่หลังๆนี่ กลายเป็นนักร้อง นักกิจกรรมไปแล้ว

ดิฉันได้อ่านพบ ข้อเขียนของคุณวรากรณ์ สามโกเศศ   และขอนุญาตสรุป มาณ ที่นี่ค่ะ

Bono ผู้เป็น Rock Star ที่ไม่ธรรมดา

โดย วรากรณ์ สามโกเศศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  มติชนรายวัน วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 10155

โบโน วง U2 เป็นวงที่มีชื่อเสียง ก้องโลกมาเป็นเวลากว่า 20 ปี คอนเสิร์ตของเขามีบุคคลสำคัญของโลกเข้าชมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจัดที่ไหนก็จะมีคนเข้าชมแน่นขนัด

 U2 ได้รับเลือกเข้า Rock and Roll Hall of Fame ในเดือนมีนาคม 2005 และเป็นวงที่ทำรายได้สูงสุดในการเล่นคอนเสิร์ตทั่วโลกในปี 2005 ด้วย

Bono ปัจจุบันถูกขนานนามว่าเป็น rock star-stateman  เป็นนักร้องหน้าตาไม่โกนหนวดโกนเครา ผิวขาว ใส่หมวกปีกบาน ชอบใส่แว่นตากันแดดเฉี่ยวๆ ใส่ตุ้มหู หวีผมเสยไปข้างหลัง หน้าตาท่าทางเอาเรื่อง

เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในศาสนาอย่างมากๆ และชอบในเชิงปฏิบัติ มากกว่าทฤษฏี

Bono มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการช่วยเหลือคนยากจนสุดสุดในประเทศด้อยพัฒนาของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกา

เขาไปพบปะนักการเมืองอเมริกันที่วอชิงตัน ดี.ซีเป็นประจำ   พบผู้นำทางความคิดในองค์กรต่างๆ พบประธานาธิบดีคลินตันและบุช ตลอดจนพบผู้นำยุโรปเป็นระยะๆ ด้วยการใช้ตั๋วของการเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงอยู่บนฐานของความเชื่อมั่นในการสร้างความดีความงามให้แก่โลก

Bono เก่งมาก

เพราะทุกคนก็ปรารถนาที่จะมีความเกี่ยวพันกับสิ่งที่เป็นบวก ตอนแรกผู้คนก็คลางแคลงใจว่า จะเป็นการตลาดส่วนตัว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของเขาหรือไม่ แต่เมื่อได้พบปะพูดจากับเขาแล้วทุกคนก็เชื่อว่าเขาเป็น "ของจริง" และให้การสนับสนุน

งานชิ้นสำคัญที่ตัวเขา องค์กรของเขา ที่ตั้งขึ้นเพื่อพันธกิจนี้ (DATA ซึ่งย่อมาจาก Debt AIDS-Trade-Africa) กับ Bill และ Melinda Gates ทำสำเร็จก็คือผลักดันให้ที่ประชุม G-8 (ที่ประชุมของประเทศร่ำรวยสุดในโลก 8 ประเทศ)

ในการประชุมเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ยกหนี้ทั้งหมดมูลค่า 40,000 ล้านเหรียญที่ประเทศยากจนสุดเป็นหนี้ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศเหล่านี้รวม 50,000 ล้านเหรียญ (25,000 ล้านเหรียญ เป็นของแอฟริกา) และยืนยันที่จะจัดหายาสำหรับผู้ที่มีเชื้อ HIV เกือบ 10 ล้านคนในประเทศยากจนสุดให้

G-8 ประชุมกันที่เมือง Gleneagles ในสกอตแลนด์ ในงานนี้ Bono ได้พบ 5 ใน 8 ผู้นำของ G-8 พร้อมกับจัดคอนเสิร์ตในเมือง Edinburgh ในเวลาใกล้เคียงกันเพื่อสร้างแรงกดดันสนับสนุนอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก่อนการประชุม G-8 ไม่นาน

 เขาจัดคอนเสิร์ตให้คนเข้าฟังฟรีในทุกประเทศที่เป็นสมาชิกของ G-8 เพื่อสนับสนุนไอเดียของการยกหนี้ ผลก็คือมีคนเข้าฟังแน่นขนัดพร้อมกับสนับสนุนไอเดียของเขาซึ่งเป็นแรงไปกดดันผู้นำอีกต่อหนึ่ง

ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา ตัวเลขการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศยากจนเพิ่มขึ้นสูงอย่างน่าสังเกต จนไม่รู้ว่าเป็น Bono Effects หรือไม่ กล่าวคือตั้งแต่ปี 2001 เพิ่มจาก 67,000 ล้านเหรียญ เป็น 80,000 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะสูงขึ้นอีกร้อยละ 60 ก่อนถึงปี 2010

ทั้งนี้ เนื่องจากหลายประเทศในยุโรปได้ยืนยันว่าจะบริจาคเงินร้อยละ 0.7 ของ GDP (สหรัฐอเมริกาปัจจุบันบริจาคร้อยละ 0.1) ซึ่งการยืนยันเหล่านี้เขามีส่วนร่วมในการผลักดัน

สิ่งที่ Bono มีไม่ใช่ความสงสารซึ่งทำให้เกิดความต้องการช่วยลดความเจ็บปวด

หากเป็นความเร่าร้อน แห่งอารมณ์เมื่อเห็นความอยุติธรรม และต้องการแก้ไข ซึ่งจะช่วยยั่วยุ กระตุ้น ชักจูง โน้มน้าวให้คนในระดับมหาเศรษฐี และคนชั้นกลางโดดเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขความอยุติธรรม ที่เพื่อนร่วมโลกจำนวนหนึ่งเผชิญอยู่

(ข้อมูลหลักจาก Time, January 2, 2001)

หน้า 6

ขอบคุณคะ เป็นสิ่งที่ดีมากเลยคะ อาจารย์เพราะสังคมเรา ตอนนี้ก็กำลังไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหนนะคะ อาจารย์ แต่ก็อยากให้สังคมไทยเป็นสังคมที่สงบ ตามวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยเราคะ

 

สวัสดีครับ พี่ศศินันท์ 

 

เครือข่ายที่เรากำลังผลักดันให้มีขึ้น ที่เรียกกันว่า "เฮฮาศาสตร์" โดยพ่อครูบาสุทธินันท์ เป็นกลุ่มจิตอาสา แบบหนึ่งที่รวมคนโดยใช้ "ใจ" เกี่ยว "ใจ" ผมคิดว่า กระบวนการทางปัญญาเพื่อพัฒนาชาติคงต้องทำแบบ "อิงระบบ" และเป็นธรรมชาติ

เฮฮาศาสตร์ ทำเพื่อเรียนรู้กับสิ่งใหม่เรื่อยๆ รวมใจคนทำงานเพื่อสังคมด้วยครับ 

ตอนนี้แทบทุกภาคก็มี บุคคลที่มีทุนทางสังคมมาก เช่น

พิษณุโลก มีท่าน อ.หมอสุธี ฮั่นตระกูล

เชียงใหม่มี อ.พิชัย กรรณกุลสุนทร

อีสาน มี พ่อครูบาสุทธินันท์ ,อ.ดร.แสวง ,อ.บางทราย ไพศาล ช่วงฉ่ำ

กรุงเทพ มี ดร.วรภัทร์ ,ท่านเอกชัย ศรีวิลาศ

 

เป็นการก้าวย่างที่น่าจับตามองมากครับ

ถูกใจแนวคิดจริงๆครับ แม้ว่าจะแฝงอยู่ในเนื่อแท้ของเฮฮาศาสตร์อยู่แล้ว คงจะดีหากทำให้ชัดเจนว่ามุ่งสู่การปฏิบัติด้วยนะครับ

ขอต่อ พี่  

P

ขออนุญาต ต่อ

เฮฮาศาสตร์ หรือ เรียกอะไรก็แล้วแต่ เริ่มต้นจาก "ศรัทธา" ครับ อย่างที่เม้งบอกผมว่า NORM หรือบรรทัดฐานทางใจ Network of Real Mind ระยะเเรกอาจเป็นการรวมพล รวมใจกันก่อน...

ส่วนการปฏิบัติ ขนาดถึง social mobilization นั้น มีแน่นอนครับ ผมคิดว่าเครือข่ายมีพลังมากพอที่จะนำไปสู่รูปธรรมที่หลากหลายตอบสนองระบบปัญญาของสังคมไทย

ขอบคุณพี่ Conductor ครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์คะ

P

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่บอกว่า ...

เป็นแนวทางปฏิบัติที่คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมได้ในบริบทของตน โดยขยายบริบทของตนให้รวมมิติอื่นของสังคมเข้าไปด้วย

 แต่ก่อนประเทศเรา เป็น "สังคมเกษตรกรรม" ที่เน้นการเพาะปลูก และต่อมาได้เข้าสู่ "สังคมอุตสาหกรรม"มากขึ้น  ที่เน้นหนักในเรื่องการผลิต คนี้ทำให้คนมุ่งมั่นแต่ทำงาน  ละทิ้งความรู้สึก และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ เช่น ความรัก ความกล้า แรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ เพราะถูกแทนที่ด้วยงานประจำที่จำเจ ดำเนินชีวิตแต่ละวันอย่างเร่งรีบ

ทำให้ น้ำใจที่ดีงามของเราที่มีมาแต่เดิม ลดน้อยถอยลงไป คิดแต่เรื่องของตัวเองเป็นหลัก ตอนนี้ จึงต้องมาฟื้นฟูกันใหม่ ซึ่งก็ได้ผลค่ะ กระแสตอบรับ ดีมากค่ะและก็ขอให้ยั่งยืนด้วยนะคะ ขอให้เรามีCivic Citizen มากๆ

ส่วนเรื่อง Civic Scientists  ที่จะเชื่อมสายใยวิทยาศาสตร์กับสังคม อย่างมีความเข้าใจซึ่งกันและกันเพราะทำด้วยจิตเมตตานั้น

เท่าที่ทราบ มิใช่แต่ที่ประเทศเราเท่านั้น ที่ควรตัองมีให้มากขึ้น แม้แต่ที่อเมริกา ก็เรียกร้องให้มีมากๆขึ้นเช่นกันค่ะ 

Wanted: 'Civic scientists' to inform the public, press and policy makers

Fewer than one-third of all Americans understand the term "DNA."

Fewer than 15 percent understand the term "molecule."

Only about 50 percent know that humans didn't live at the time of the dinosaurs.

 

 

รู้สึกว่ากระแสนี้ปลุกขึ้น เหมือนกัน ไปไหน ก็ผ่านตาบ่อย เรื่องจิตอาสา หรือความใจดี แต่อยากให้ยั่งยืนค่ะ

  • พี่ศศินันท์คะ...
  • ก๊วนเฮฮาศาสตร์สาขาพิษณุโลก  เราก็กำลังทำกันอยู่ค่ะ   เป็นการรวมตัวกันจากหลากหลายกลุ่ม
  • แต่ไม่ได้มีการบังคับ  เราทำด้วยจิตอาสาจริงๆ  ทุกคนล้วนมีงานยุ่ง  แต่เราก็แบ่งเวลามาช่วยกันจริงๆค่ะ
  • ช่วงนี้เรากำลังนับก้าวที่หนึ่งอยู่  แต่ก็กำลังจะมีก้าวที่สอง  สาม  สี่....ตามมาเรื่อยๆ  ทำแล้วมีความสุขค่ะพี่    เราจะไม่อ้างว่าเราไม่มีเวลา   เพราะเวลาเราสามารถจะจัดสรรได้ค่ะ
  • พี่คะ...หว้าเก็บหนังสือไว้ให้พี่   รออีเมลอยู่นะคะ   พี่ว่าจะส่งที่อยู่มาให้  อิอิ    ลืมหรือเปล่าคะ

สวัสดีค่ะ

P

คนเรามีหลายกิจกรรมได้ค่ะ แต่ถ้าเวลาเราก็มีจะจำกัด เราจะคัดเฉพาะที่เราชอบ

และเราสามารถcontributeให้ได้มากหน่อยจะดีกว่าค่ะ

เราคงต้องให้มีความสมดุลย์ในทุกๆด้านของชีวิตค่ะ

ตัวดิฉันเองก็ชอบ และสนใจหลายอย่าง แต่ก็คัดเฉพาะที่เราชอบมาก เป็นอันดับแรกก่อนค่ะ ที่ชอบรองๆลงไป ก็แล้วแต่โอกาศค่ะ

 ดิฉันว่า ตอนนี้  เราเข้าสู่ยุค โลกสัมพันธภาพของผู้คนที่จะมีปฏิสัมพันธ์กันแนวลึก หรือ "Mind2Mind" มากขึ้นนะคะ

นอกเหนือจากเรื่องของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและการทำธุรกรรม

-ขอบคุณ...ในจิตที่งดงามของคุณP 

- รุ่นลูก..รุ่นหลาน..ถ้าเราช่วยกันเฝ้าปลูกฝังจิตเขาให้งดงาม...อย่ามองค่าวัตถุมากกว่าจิตใจ...บ้านเมืองไทยน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย...พร้อมเป็นคนหนึ่งที่อยากจะช่วยตรงนี้...

naree suwan
P
คุณนารีบอกว่า....

อยากให้เริ่มที่คนที่มีเหลือ..ให้เอื้อเฟื้อแก่ผู้ที่ขาด...เห็นโรงพยาบาลหลายแห่งทำโครงการดีๆแบบนี้เหมือนกัน..น่าชื่นใจนะคะ

ศ.นพ.ประเวศ วะสี  ท่านเคยให้ข้อคิดไว้ดังนี้

  • ภาคประชาสังคมเป็นภาคส่วนที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความหลากหลายของกลุ่มคน ที่มีความสัมพันธ์กันในมิติด้านต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งในด้านชุมชน ด้านท้องถิ่น ด้านอาชีพ ด้านการได้รับผลกระทบจากปัญหาเดียวกัน ฯลฯ

  •  แต่ในปัจจุบันกลับพบว่าภาคประชาสังคมเป็นภาคส่วนที่มีความอ่อนแอมากที่สุ

  • ซึ่ง คุณหมอประเวศ วะสี ได้ชี้ให้เห็นว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่ขาดความสมดุลระหว่างภาคส่วนต่างๆ โดยที่ภาคธุรกิจเป็นภาคที่มีอำนาจและมีกำลังมาก มีบทบาทเป็นแกนหลักในการนำพาทิศทางการเคลื่อนตัวของสังคม

  •  สำหรับภาครัฐก็เป็นอีกภาคหนึ่งที่มีอำนาจมาก มีโครงสร้างกำลังคนขนาดใหญ่ มีกฎหมายเป็นเครื่องมือในการบังคับใช้เรื่องต่างๆ อยู่ในมือ มีบทบาทสูงในการกำหนดทิศทางการเคลื่อนตัวของสังคม

  • ในขณะที่ภาคประชาสังคม ยังมีการรวมตัวรวมกลุ่มเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมไม่มากนัก ประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดจิตสำนึกของความเป็นพลเมือง (Citizenship) ที่ตื่นตัวคึกคัก มีความรับผิดชอบต่อสังคม และตระหนักว่าตนเองก็มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้เท่าเทียมกับภาคธุรกิจและภาครัฐ

  • ทำให้ภาคประชาสังคมยังไม่สามารถแสดงบทบาทต่อการผลักดันการเคลื่อนตัวของสังคมได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกขภาวะของสังคม

  • คำกล่าวของท่าน เป็นแรงบันดาลใจและกระตุ้น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้น จนเห็นได้ชัดในปัจจุบันค่ะ มีองค์กร หน่วยงานในภาคส่วนต่างๆ  ทำกิกรรมการให้เพื่อสังคม (Philanthropy)กันอย่างมากชึ้นมากในปัจจุบันค่

    เป็นการสร้างเสริมวัฒนธรรมและระบบการให้ เพื่อให้ภาคประชาสังคมเข้มแข็งค่ะ

  • ยืนขึ้นมา กล้าพูดพร้อมกัน ปี 2550”

    16-17 ต.ค.2550 
    กิจกรรม “ยืนขึ้นมา กล้าพูดพร้อมกัน ปี 2550” เป็นกิจกรรมเคลื่อนไหว เพื่อที่จะบอกต่อสังคมโลกว่า ประชาชนจะไม่นิ่งเฉย
    และเผญิชหน้ากับความยากจนและความไม่เท่าเทียมอีกต่อไป โดยในวันที่ 17 - 18 ตุลาคมนี้ ยืนขึ้นเพื่อประกาศเป้าหมาย
    การพัฒนาแห่งสหัสวรรษ(Millennium Development Goals) และสร้างสถิติโลกใหม่ พร้อมกันทั่วโลก
    น่าสนใจนะคะ อย่างน้อย คนจนก็จะมีแสงสว่างขึ้น

    สวัสดีค่ะ

    P

    คุณรัตน์ชนกบอกว่า.....

    อยากให้สังคมไทยเป็นสังคมที่สงบ ตามวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยเราคะ

    ค่ะ สังคมที่สงบเป็นสังคมที่เราทุกคนอยากได้ค่ะ

    เราคงเบื่อความวุ่นวายในตอนนี้กันเต็มทีแล้ว

    เดิมเราเป็น "สังคมเกษตรกรรม" ที่เน้นการเพาะปลูก

    ต่อมาเราเข้าสู่ "สังคมอุตสาหกรรม" ซึ่งเป็นสังคมยุคที่ 2 ที่เน้นหนักในเรื่องการผลิต

     สังคมเราเริ่มเปลี่ยนไป  เราเริ่มละทิ้ง ความอบอุ่นในครอบครัว เดินทางเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่  ทิ้งเด็กๆให้ปู่ย่าดูแล เด็กๆขาดความอบอุ่น และเริ่มหันไปหาสิ่งๆอื่นๆที่ไม่ถูกต้องแทน

    พร้อมๆกับ แรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ในศิลปะพื้นบ้าน ก็เริ่มมีน้อยลงไป  เพราะถูกแทนที่ด้วยงานประจำที่จำเจ ดำเนินชีวิตที่ซ้ำซาก

     ตอนนี้เราอยู่ใน "สังคมฐานความรู้" หรือเรียกว่า Knowledge Based Society ค่ะ

    แต่สิ่งที่สังคมมีความรู้สึกเหมือนๆกันคือ คุณธรรมและจริยธรรม ในสังคมด้อยลงไป และสังคมกำลัง ต้องการๆกอบกู้ขึ้นมาโดยเร็วค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณเอก

    P

    ตอบช้าหน่อย พอดียุ่งๆนิดหน่อยค่ะ

    ดีใจที่คุณเอกพูดถึงเฮฮาศาสตร์ ว่า เป็นกิจกรรม

    เครือข่ายที่เรากำลังผลักดันให้มีขึ้น ที่เรียกกันว่า "เฮฮาศาสตร์" โดยพ่อครูบาสุทธินันท์ เป็นกลุ่มจิตอาสา แบบหนึ่งที่รวมคนโดยใช้ "ใจ" เกี่ยว "ใจ" ผมคิดว่า กระบวนการทางปัญญาเพื่อพัฒนาชาติคงต้องทำแบบ "อิงระบบ" และเป็นธรรมชาติ

    และก็ดีใจค่ะ ที่ตอนนี้ แนวคิดนี้ แพร่หลายไปหลายภาคแล้ว รู้สึกยังขาดที่ภาคใต้นะคะ

    พี่ติดตามอยู่ค่ะด้วยความชื่นชมค่ะ

    สวัสดีค่ะ

    P

    ดีใจที่มาอ่านค่ะ จริงๆ เรื่องนี้คุ้นเคยมากสำหรัยคุณ.Conductor.เลย เพราะคุณ.Conductor. มีจิตอาสา ทำด้านอาสาสมัครในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมานานมากแล้ว

    เช่นที่..เป็นอาสาสมัครทำงานที่เนคเทค ช่วยเหลือ ดูแลเรื่องงานวิจัยพัฒนา และดูแลด้านเครือข่ายให้กับเนคเทค รวมถึงทางด้านอินเทอร์เน็ตด้วย

      เหตุธรณีพิบัติภัย  จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คุณConductor... เกิดความคิดที่จะทำเว็บไซต์ที่จะช่วยในการค้นหาผู้สูญหาย  ที่ยังหาไม่พบอยู่อีกประมาณ ๖,๕๐๐ ชื่อ  และคาดว่ายังมีอีกจำนวนมากที่ไม่อยู่ในระบบ นี่คือที่มาของเว็บไซต์ www.inet.co.th/tsunami  ซึ่งแม้จะไม่มีการประชาสัมพันธ์ แต่ก็ปรากฏอยู่ในลำดับสูงของ Google และเป็นที่รู้กันดีในบรรดาญาติของผู้ประสบภัยในต่างประเทศ
     
              .
       “ทุกวันนี้งานหลักของ www.inet.co.th/tsunami มีสองส่วนคือการติดตามรายชื่อและจำนวนผู้ประสบภัยกับผู้สูญหาย ซึ่งข้อมูลทั้ง ๑๖๘,๓๐๐ ระเบียนนั้น ได้มาจากแหล่งข้อมูลของราชการ ๑๘ แหล่งที่เผยแพร่สู่สาธารณะบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หากระบบข้อมูลของราชการหยุดดำเนินการไปเมื่อใด งานติดตามรายชื่อและจำนวนก็จะหยุดเมื่อนั้น

    คำกล่าวที่คุณ Conductorได้กล่าวไว้ในคราวที่ให้สัมภาษณ์ เมื่อ  วันอังคาร 27 ธันวาคม 2548  / Tuesday, 27 December 2005 และดิฉันเห็นว่า น่าประทับใจมากคือ

    แม้ว่าไม่มีใครมาเห็น   หรือรับรู้สิ่งที่เราได้ช่วยได้ทำแต่งานของอาสาสมัครแต่ละคนก็มีค่าอยู่ในตัวเอง

     และตัวเราคนทำนั่นแหละที่รับรู้และเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งที่สุด สิ่งที่อาสมัครทำคือผลของสำนึกในความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดแล้ว จงภูมิใจให้มาก ๆ

    • สวัสดีค่ะพี่  sasinanda
    • บันทึกนี้คือตัวอย่างจิตอาสา  ที่ยอดเยี่ยมแล้วค่ะ
    • และหลาย ๆ กิจกรรมที่พี่น้องใน g2k ทำกันถือว่าเป็นจิตอาสาที่น่ายกย่องค่ะ
    • ขอบคุณค่ะ

    อ่านแล้วดีครับ

    คิดเหมือนกันว่า ชาวอเมริกัน เขาก็มีจิตสาธารณะกันมากนะครับ อาจจะเป็นเพราะ เขา มีเงินมากก็ได้

    • สวัสดีค่ะ
    • "จิตสาธารณะหรือจิตอาสา"  เป็นคำที่มีความหมายมากนะค่ะ
    • อาสาทำให้ อาสาช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน
    • เป็นน้ำใจอันดีงาม ถ้าในสังคมมีคนประเภทนี้อยู่เยอะ ก็คงจะดี และสังคมทุกวันนี้ คงจะน่าอยู่กว่านี้เยอะนะค่ะ
    • ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลกินเจ...ขอเชิญชวนทานอาหารเจด้วยกันนะค่ะ อิอิ
    • เชิญแวะได้นะค่ะที่...
    • ตำนานการกินเจ   http://gotoknow.org/blog/agri-aoyyala02/137467
    • อาหารเจ และข้อควรปฏิบัติในการทานอาหารเจ : http://gotoknow.org/blog/agri-aoyyala02/137542
    • ว่าง ๆ เชิญแวะได้นะค่ะ

    จ๊าก เรื่องชักใกล้ตัวแล้ว เลิกพูดดีกว่าครับ เขินจริงๆ 

    ขอแก้ไขนิดเดียวนะครับ ในช่วงที่ผมเป็นอาสาสมัคร ก็มีการงานทำอยู่ แล้วใช้เวลาส่วนตัวไปช่วยครับ 

    สำหรับผมนั้น จิตอาสาไม่สามารถคิด-ปรารถนาดีอย่างเดียวได้หรอกครับ ต้องลงมือปฏิบัติด้วย เครือข่ายมีความสำคัญอย่างยิ่งในแง่ของการหาแรงบันดาลใจ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นตัวของแต่ละคนที่จะปฏิบัติเอง 

    บรรยากาศที่จะช่วยให้เกิดจิตอาสานั้น น่าจะเป็นบรรยากาศแห่งการเคารพ-ให้เกียรติกัน และที่สำคัญคือการไม่ยกตนข่มคนอื่น-สั่ง-เรียกร้อง-ไม่ควรมีคำว่า "ต้อง" เพราะว่าดี-ไม่ดี-เก่ง-ไม่เก่ง-มีประโยชน์-เพ้อเจ้อ วัดกันที่การปฏิบัตินะครับ 

    สาธุ 

    “. . .ความสุขความเจริญที่แท้จริงอันควรหวังนั้น เกิดขึ้นได้จากการกระทำและความประพฤติที่เป็นธรรม มีลักษณะสร้างสรรค์ คืออำนวยผลที่เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตัว แก่ผู้อื่น ตลอดถึงประเทศชาติโดยส่วนรวมด้วย. . .”

    P

    รับทราบ สำหรับการแก้ไขที่ถูกต้องค่ะ
    และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ  ว่า จิตอาสา ต้องลงมือปฏิบัติด้วย  และก็เป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะปฏิบัติด้วยตนเองค่ะ  และขอบคุณสำหรับ การอัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแสดงเพื่อให้พวกเรา ได้ทราบ และจักได้น้อมนำมาปฎิบัติด้วยค่ะ
     P

     

    คุณเอก อธิบายต่อ ในเรื่องของเฮฮาศาสตร์อีกหน่อยว่า

    เฮฮาศาสตร์ เริ่มต้นจาก "ศรัทธา" 

     ระยะเเรกอาจเป็นการรวมพล รวมใจกันก่อน...

    ส่วนการปฏิบัติ ขนาดถึง social mobilization นั้น มีแน่นอนครับ เพราะว่าเครือข่ายมีพลังมากพอที่จะนำไปสู่รูปธรรมที่หลากหลายได้

    พี่อ่านแล้วปลื้มนะคะคุณเอก

    ในประเทศเรา พอเห็นพลังสร้างสรรค์อย่างนี้มากๆ เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ

    เป็นกำลังใจให้ค่ะ มากๆๆๆด้วย

    ที่เขียนบันทึกนี้ขึ้นมา ก็เพราะ ไปอ่านเรื่องละเอียดของ    นายโบโน นักดนตรีร็อค  วง U2  มาจากที่บ้านของน้องชายๆชอบเขามาก เพราะ  เป็นคนมากความสามารถจริงๆ โบโน ทุ่มเททั้งกำลังทรัพย์ และกำลังความสามารถ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  นอกเหนือจากการไดัรับยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากอังกฤษครั้งนี้แล้ว โบโนยังเคยได้รับการเชิดชูเกียรติคล้ายกันนี้มาแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้า คือ The Legion d'Honneur จากรัฐบาลฝรั่งเศส และ The Order of Liberty จากรัฐบาลโปรตุเกส

    อ่านแล้ว ทำให้ใจเบิกบานและมีพลังมากขึ้นจริงๆค่ะ

    ส่วนเรื่องของ Evelyn  H. Lauder ก็เป็นเพราะคนในครอบครัวคนหนึ่ง  มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย

    เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เลยครับในยุคนี้ เพราะเราเริ่มขาดแคลน   การเกื้อกูล การช่วยเหลือกันมากขึ้นเรื่อย ๆ 

    แม้อาชีพ งานหลายงานที่ต้องมีความเมตตากรุณา  ต้องการจิตอาสา  อย่าง วิชาชีพที่ผมทำอยู่ ทุกวันนี้ก็จะหาเหมือนเมื่อสมัยก่อน  ยากเสียแล้ว  

    อาจารย์ นพ.มงคล ณ สงขลา  บอกไว้ว่า ช่วงหลัง ๆ เพื่อน ๆ หมอที่ทำงานมานานหลายสิบปี คุยกันว่าทำยังไง  อยากให้สังคมกลับมาเหมือนยุคเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่  เป็นยุค " ยาขอ หมอวาน "  สังคมสงบสุข

    ขอบคุณกับภาพพระราชดำรัส ในหลวง นะครับ จะนำไปเผยแพร่ต่อครับ

     สวัสดีค่ะคุณFa

    คุณFa บอกว่า....

    รู้สึกว่ากระแสนี้ปลุกขึ้น เหมือนกัน ไปไหน ก็ผ่านตาบ่อย เรื่องจิตอาสา หรือความใจดี แต่อยากให้ยั่งยืนค่ะ

    ค่ะ ดิฉันเห็นว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่เรื่องนี้ เป็นที่สนใจกันทั่วไป  จะได้เป็นการร่วมมือกันรณรงค์ส่งเสริม จิตอาสาให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม   เพราะเป็นการเรียก  น้ำใจงามของคนไทย  ให้กลับมาอีกครั้งหนึง ค่ะ

    ส่วนที่ ใครหรือองค์กรใดจะทำมากน้อย ช้านาน อย่างไร ก็คงแล้วแต่ความเหมาะสมของเขา ถ้าเป็นเรื่องที่ดี และประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ให้ความร่วมมือสนับสนุน กิจกรรมเหล่านี้ ก็คงจะอยู่ตลอดไปค่ะ

    พอดีไปเห็นป้ายโฆษณาใหญ่แถวถนนพระราม 4 เลยนำมาให้ดูค่ะ

    ตอนนี้จะเห็นแบบนี้บ่อยค่ะ ดีค่ะ ช่วยกันรณรงค์

    สังเกตคำว่าใจดี ค่ะ

    สวัสดีค่ะอาจารย์คะ

    P
    อาจารย์บอกว่า....
  • ก๊วนเฮฮาศาสตร์สาขาพิษณุโลก  เราก็กำลังทำกันอยู่ค่ะ   เป็นการรวมตัวกันจากหลากหลายกลุ่ม
  • แต่ไม่ได้มีการบังคับ  เราทำด้วยจิตอาสาจริงๆ 
  •   อ่านแล้ว ปลื้มใจ ในการรวมตัว อยากจะช่วยเหลือสังคม อยากให้แก่สังคม หรืออยากจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น  ผลที่ได้ จะเป็นสังคมที่งดงามขึ้น สะอาดขึ้น มีความสุขมากขึ้น

      อาจารย์คะ ที่อังกฤษ  รัฐบาลกำลังส่งเสริมผู้ประกอบการทางสังคมรุ่นเยาว์ให้มากขึ้น โดยหวังให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ ช่วยเหลือสนับสนุนตรงลงไปที่ชุมชนของตัวเอง เพื่อให้เยาวชนไฟแรงรวยความคิดเหล่านี้ จะได้มีทุนมีกำลังใจสร้างสังคมใกล้ตัวของเขาให้น่าอยู่ขึ้น 

    ในประเทศเรา  ครูอาจารย์ทั้งหลาย สามารถช่วยให้เยาวชนได้ ให้มีโอกาส วิเคราะห์ปัญหาสังคมของเขาและเสนอทางแก้

    สิ่งที่ค้นพบก็คือ นอกจากจะเป็นการจุดประกายให้เขาคิดถึงผู้อื่น สนใจช่วยเหลือผู้อื่น ลดความเห็นแก่ตัวแล้วเยาวชนซึ่งอยู่ในชุมชนนั้นๆ ยังสามารถค้นพบรากฐานของปัญหาของชุมชน อย่างที่ผู้ใหญ่ในชุมชนอาจมองข้าม

    และเขาเหล่านั้นยังเป็นแรงสำคัญในการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นชุมชนที่เข้มแข็งยั่งยืนอย่างแท้จริงต่อไปค่ะ

    ขอส่งดอกไม้มาเป็นกำลังใจค่ะ

     สวัสดีค่ะคุณNu

    คุณNu  บอกว่า......

     ตอนนี้  เราเข้าสู่ยุค โลกสัมพันธภาพของผู้คนที่จะมีปฏิสัมพันธ์กันแนวลึก หรือ "Mind2Mind" มากขึ้นนะคะ

    นอกเหนือจากเรื่องของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและการทำธุรกรรม

    ไม่ว่าจะเป็นภาคใด. ในประเทศไทย เราก็สามารถพบความงดงามของจิตใจคนได้เสมอ  ขยับตัวก้าวออกมาอีกนิด เผื่อใจให้ผู้อื่นอีกหน่อย เราก็จะสามารถใช้ศักยภาพที่อยู่ในตัวเราทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นได้มากขึ้นค่ะ 

    สวัสดีค่ะครูหล้า

    P

    ครูหล้าบอกว่า....

    รุ่นลูก..รุ่นหลาน..ถ้าเราช่วยกันเฝ้าปลูกฝังจิตเขาให้งดงาม...อย่ามองค่าวัตถุมากกว่าจิตใจ...บ้านเมืองไทยน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย...พร้อมเป็นคนหนึ่งที่อยากจะช่วยตรงนี้...

    พอพูดถึงลูกหลาน อยากเล่าว่า....

    นิตยสาร Time กล่าวถึง แมรี่ เกตส์ แม่ของ บิล เกตส์ ผู้ล่วงลับไปแล้วว่า.......

    Time กล่าวว่า แมรี่ เกตส์ เคยเป็นครูผู้มีใจเปี่ยมด้วยความเมตตาและอาสาทำงานเพื่อการกุศลตลอดชีวิต ได้เขียนจดหมายถึงลูกชายและลูกสะใภ้ในอนาคตก่อนที่ทั้งสองจะแต่งงานกัน

    ในจดหมายนั้นมีข้อความตอนหนึ่งว่า "From those to whom much is given, much is expected." ข้อความนี้มีความหมายกินใจยิ่งว่า "ยิ่งรับมากเท่าไรก็ยิ่งควรให้มากขึ้นเท่านั้น"

    เรื่องนี้เกี่ยวกับความสำคัญของแม่ ซึ่งเป็นครูคนแรก ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของคนเราเหนือผู้อื่น จริงๆๆๆค่ะ

     ประการที่สอง บิล เกตส์  เป็นคนดี เชื่อฟังแม่ผู้มีอาชีพเป็นครูธรรมดาๆ........ 

     และ.ประการที่สาม แนวคิดเรื่องการแทนคุณแผ่นดินนั้น มีความสำคัญในสังคมฝรั่งไม่ต่างกับในสังคมไทย

    ฉะนั้นการที่ท่านรัฐบุรุษเปรม ติณสูลานนท์ ชักชวนให้คนไทยทดแทนคุณแผ่นดินจึงมิใช่เป็นเรื่องล้าสมัย ฝรั่งส่วนใหญ่ก็ทำกันค่ะ

    สวัสดีค่ะ

    P

    คุณขจิตบอกว่า....

  • ถ้าเมืองไทยเรามีภาคธุรกิจที่ดีๆมาช่วยกัน
  • มีภาครัฐบาลที่ไม่คอร์รัปชั่น
  • คาดว่าบ้านเราจะมีสิ่งดีๆๆเกิดขึ้นมากๆๆ
  • สำหรับตัว คุณขจิต เป็นคนหนึ่งในสังคมG2Kที่มีบุคคลิกและผลงานที่เด่นมากๆ ในเรื่องจิตอาสาค่ะ และก็ได้ประสบมาด้วยตัวเองค่ะ รับรองได้เลยจริงๆๆ

    ในสังคมธุรกิจทั่วไปที่คนเราเรียกว่าเป็นผู้ประกอบการ อาจเรียกกันว่า เถ้าแก่หรือเจ้าของกิจการก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจการอะไร  ลักษณะที่คล้ายๆ กันของคนเหล่านี้ คือ เป็นผู้ริเริ่มสร้างงานจากความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง ยืนหยัด  อดทน ไม่ถอยจนเป็นรูปธรรมขึ้นมา และมีคุณสมบัติในการปรับตัวได้เร็ว

    แต่ถ้า  เขามีใจเริ่มต้นอยากจะช่วยเหลือสังคม อยากให้แก่สังคม หรืออยากจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นแล้ว การทำงานจึงมิใช่ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น  แต่กลับเป็นการทำให้สังคมด้วย ทำให้สังคมดีขึ้นและ มีความสุขขึ้น แน่นอนค่ะ

    สัญญลักษณ์แห่งมิตรภาพค่ะ

    P
    47. ทะเลดาว
    เมื่อ ศ. 12 ต.ค. 2550 @ 09:29 [419569] [ลบ]
    • ตามมาสวัสดีคุณ sasinanda ค่ะ
    • เข้ามาอ่านแล้วรู้สึกประทับใจมากค่ะ  ดีใจที่ได้พบบันทึกดีๆ และได้รับความรู้ดีๆ ด้วยค่ะ
    • มารายงานเรื่องน้องหมาทั้ง 3 ด้วยค่ะ  เจ้านายเห็นหน้าน้องหมาแล้วค่ะ  หัวเราะชอบใจ  บอกหน้าตาตลกดี  งานนี้คุณหมีเชอรี่ไม่ต้องเสียน้ำตาค่ะ

      พวกคนอเมริกัน ที่ยกตัวอย่างมา ก็น่าชื่นชมค่ะ เพราะเขาจะไม่บริจาคก้ได้ เงินของเขานี่  แต่เขาก็มีจิตใจดี

    เป็นเพราะเขามีเงินมาก เลยทำได้  ของเราไม่มีมาก เลยใช้แรงคิด แรงกาย แรงใจ ก็ค่าเท่ากันค่ะ

    ชอบออกค่าย ทำงานอาสามาหลายปีมาก ชอบ และจะทำต่อไปค่ะ

    สวัสดีครับ ในชนบท (ชุมชนที่กระผมอยู่) คนที่มีน้ำใจหรือมีจิตเป็นสาธารณะ มักจะมีความรู้ด้อยและฐานะอยากจน คนกลุ่มนี้ถ้าผู้ใหญ่บ้านประกาศตามหอกระจายข่าวให้มาช่วยกันพัฒนาหมู่บ้าน คนกลุ่มนี้จะออกมาทันที่ ต่างจากคนที่มีฐานะดีมีความรู้เก่งคนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยสนใจนัก มันเป็นจริงๆ ในชนบท สวัสดีครับ 

    สวัสดีค่ะคุณทิพา

    เรื่องที่คุณทิพา ยกขึ้นมา กำลังจะเป็น กิจกรรม ที่ทำพร้อมกันทั่วโลก ในวันที่ 17-18 ต.ค. 2550นี้ค่ะ

    เป็นเป้าหมายของการพัฒนาแห่งศตวรรษ การร่วมกลุ่มเพื่อต่อต้านความยากจน ซึ่งเริ่มมาตังแต่ ปี ค.ศ. 2000 โดยมี 189 ประเทศ ร่วมกันลงนามใน The  Millenium Development  Goals เป็นแผนงานระดับโลก ที่นำโดย The United Nations ที่จะหยุดยั้งความยากจน ให้ได้ภายในปี 2015

    . 50,000 people die as a result of extreme poverty and the gap between the rich and poor is getting wider. We need you to STAND UP and SPEAK OUT to make governments honour their promises.

    The promise to end poverty inequality and hunger. The promise to stop children dying from preventable diseases. The promise to ensure basic education for all children, particularly girls. The promise to stop women dying during pregnancy and childbirth. The promise to provide water and sanitation and to protect the environment.

    And we need you to STAND UP and SPEAK OUT to make governments honour their commitments on more and better aid, debt cancellation, trade justice, gender equality and public accountability. It will not happen without all of us taking a stand.

    Untitled-2

    มีข่าวที่น่ายินดีค่ะ

    ในงานเผยแพร่ความรู้ เพื่อช่วยเหลือสังคมโดย Gore ได้สร้างความเข้าใจอันยิ่งใหญ่แก่ชาวโลก ให้เข้าใจและตระหนักถึงภัยของสภาวะโลกร้อน
    ว่า....สถาบันโนเบลแห่งนอร์เวย์ (The Norwegian Nobel Institute) ได้ประกาศเมื่อวันที่ 12 ต.ค. เวลา 16.00 น. ว่า ให้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2550 แก่คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ หรือ ไอพีซีซี (UN's Intergovernmental Panel on Climate Change) และ อัลเบิร์ต อาร์โนลด์ (อัล) กอร์ จูเนียร์ (Albert Arnold (Al) Gore Jr.) อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ
           
           ทั้งนี้ คณะกรรมการแถลงว่า
    ทั้งไอพีซีซีและกอร์พยายามสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ก่อขึ้นโดยมนุษย์ และยังสร้างรากฐานในการใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นอย่างยิ่งต้อการลดผลกระทบของสภาวะดังกล่าว
    กอร์บอกว่า เขาจะบริจาคเงินรางวัลที่ได้ให้แก่องค์กรที่ทำงานด้านภูมิอากาศอีกด้วย 

    สวัสดีค่ะ

    P

    คุณ RAK-NA  บอกว่า  หลาย ๆ กิจกรรมที่พี่น้องใน g2k ทำกันถือว่าเป็นจิตอาสาที่น่ายกย่องค่ะ

    ถูกต้องที่สุดค่ะ หลายๆกิจกรรมที่ชาวG2K ดำเนินอยู่ เป็นกิจกรรมจิตอาสาที่เยี่ยมยอดมากๆค่ะ

    ไม่ว่าจะเป็น "เฮฮาศาสตร์" โดยพ่อครูบาสุทธินันท์ เป็นกลุ่มจิตอาสา แบบหนึ่งที่รวมคนโดยใช้ "ใจ" เกี่ยว "ใจ" ตามที่คุณเอกฯ ได้กล่าวไว้คือ

    ตอนนี้แทบทุกภาคก็มี บุคคลที่มีทุนทางสังคมมาก เช่น

    พิษณุโลก มีท่าน อ.หมอสุธี ฮั่นตระกูล

    เชียงใหม่มี อ.พิชัย กรรณกุลสุนทร

    อีสาน มี พ่อครูบาสุทธินันท์ ,อ.ดร.แสวง ,อ.บางทราย ไพศาล ช่วงฉ่ำ

    กรุงเทพ มี ดร.วรภัทร์ ,ท่านเอกชัย ศรีวิลาศ

    อีกท่านหนึ่งที่ ดิฉันประทับใจมากคือ กิจกรรมนิสิตนักศึกษาของคุณพนัส -แผ่นดิน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นผู้หนึ่งที่ทำงานด้วยใจ และมีจิตอาสาอยู่ในเนื้อแท้ กิจกรรมที่ดำเนินการต่อเนื่องมานาน  ชาวG2Kรับรู้และชื่นชมมาโดยตลอดค่ะ

    สวัสดีครับ...

    ผมเพิ่งหิ้วกระเป๋ากลับเข้าบ้านได้มันถึงครึ่งชั่วโมง... พรุ่งนี้มีภาระกิจอันใหญ่หลวง เพราะต้องปฐมนิเทศชมรมที่จะออกค่าย ...  โดยพยายามสอดแทรก Km ลงในกระบวนการทีละนิด..

    สมองดูเอื่อย ๆ ไปมาก  เพราะขบคิดอะไรมาอย่างหน่วงหนัก 4 - 5  วัน...

    .....

    ขอบคุณมากเลยนะครับที่ให้เกียรติกล่าวถึงผมในบันทึกนี้

    ปี 2546 ...  เป็นคนแรกที่นำคำว่า "จิตสำนึกสาธารณะ"  มาใช้ในกระบวนการกิจกรรมอย่างเป็นทางการ   ซึ่งหมายถึงเป็นผู้ริเริ่มปักธงในเวทีกิจกรรมด้วยโครงการ "พัฒนาศักยภาพนิสิต :  สู่จิตสำนึกสาธารณะ"   และเวทีนั้นประเมินผลออกมาเห็นชัดเลยว่านิสิตยังขาดความเข้าใจต่อเนื่องนี้ค่อนข้างมาก  ไม่รับรู้แม้กระทั่งว่าสถาการณ์ทางสังคมวันนี้เป็นอย่างไร  หรืออดีตมีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจในความเป็น "พลเมือง"  เช่นใดบ้าง

    การจัดเวทีนั้นและนำวาทกรรมนั้นมาใช้ต้องใช้เวลาร่วมครึ่งปีกว่าวาทกรรมที่ฮิตติดหู ...

    ผมพลักให้วาทกรรมนี้ไปเป็น "รางวัล"  เชิดชูเกียรติองค์กรนิสิตที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะ   และมีชื่อว่า  "รางวัลเชิดชูเกียรติช่อราชพฤกษ์"  ประเภทจิตสำนึกสาธารณะ ...

    จากนั้นมา  วิถีเรื่องจิตสำนึกสาธารณะตื่นตัวและคึกคักมากเป็นพิเศษ    นิสิตลุกขึ้นมาทำกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกอย่างต่อเนื่อง   ชุมชนในรายรอบมหาวิทยาลัยที่ถูกน้ำท่วมได้รับการดูแลอย่างแทบไม่น่าเชื่อจากนิสิต  ขณะที่ผมก็ช่วยในการเป็นที่ปรึกษา   ติดต่อรถราให้กับนิสิต  รวมถึงมาดูแลและให้กำลังใจต่อเขาในช่วงรวบรวมสิ่งของ  และเช้ารุ่งขึ้นตอนตี 4  ก็มาส่งนิสิตลงเรือไปแสนไกล ...

    .....

    หลังการเปลี่ยนแปลงบริหารเมื่อ 3  ปีที่แล้ว  ผมหายไปจากแวดวงกิจกรรมบ้าง   เรื่องราวเหล่านี้เงียบเฉยไปจากสาระบบกิจกรรม   ไม่มีวาทกรรมนี้ "ชูประเด็น"   นิสิตก็ดูจะหันเหความสนใจไปในทิศทางอื่น

    ตอนนี้กลับมาบริหารงานในจุดเริ่มได้  8  เดือนแล้ว...  บรรยากาศต่าง ๆ เริ่มเป็นรูปร่างกลับมาให้สัมผัสอีกครั้ง...

    และผมกำลังทำงานอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้  กำลังสร้างเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจในพันธกิจจิตสำนึกสาธารณะ  เพื่อให้พวกเขาส่งต่อวิถีคิดนี้ไปยัง "นิสิต" .....

    ผมยังมีกำลังใจเหลืออีกเยอะเลยทีเดียว

    ....

    ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ....

     

    สวัสดีค่ะ

    P

    ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือน

    คุณพนัสเป็นคนที่ เป็นความบันดาลใจในการเขียนบันทึกนี้ด้วยคนหนึ่งค่ะ

     เพราะได้ติดตามงานของคุณพนัสมาตลอด ชอบอ่านงานเขียนที่มีลีลาไม่เหมือนใครด้วย

    คนที่จะเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมที่ต้องอาศัย"จิตสำนึกสาธารณะ" ในคนหมู่มาก ต้องเป็นคนที่ ต้องมีความมุ่งมั่น และมี พลัง มีอารมณ์อยู่ในเรื่องที่ทำ---passion ไม่ท้อ เมื่อเจออุปสรรค ไม่งั้นพลังหมดเอาง่ายๆ ต้องเป็นคนอดทน ไม่สำเร็จ ไม่เลิก อะไร ประมาณนั้น

    และที่ยกตัวอย่างคนต่างประเทศด้วยเพราะว่า เขามีผลงานจริงๆ เป็นที่ยอมรับ และมีจิตสาธารณะที่น่ายกย่องทีเดียวค่ะ

    ตอนนี้ สังคมเริ่มขานรับ เรื่องของจิตอาสาเพิ่มมากขึ้นมากค่ะ

    พี่ก็ดีใจ และนึกถึงคุณพนัสๆ เป็นกำลังสำคัญของทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามเลยค่ะ

    ไม่อยากเห็นเด็กวัยรุ่น ของเราไปทำอะไรที่ไม่สร้างสรรค์ค่ะ เห็นแล้ว มันห่อเหี่ยว อยากให้ช่วยกัน ช่วยสังคม ในเรื่องดีๆ  มีหลายเรื่องมากมายให้ทำค่ะ

    แต่ก่อน อยู่สโมสรโรตารี่แห่งหนึ่งค่ะ มีการทำกิจกรรมด้วยกันบ่อยๆ เพื่อนเยอะและสนุก ตอนนี้ห่างๆมา เพราะ ไม่ค่อยมีเวลาค่ะ และไปทำกิจกรรมที่วัดบ่อยขึ้นด้วยค่ะ

    คำขวัญนี้ดีค่ะ.......

    Putting Volunteerism at the Heart of Development

     ตรงกับใจคิดครับ เรื่องจิตอาสานี่ จะนำไปสร้างกิจกรรมกลุ่มที่โรงเรียนพอดี แต่อยากให้ยั่งยืน

    ตามมาอ่านครับ เซฟเก็บไว้แล้วด้วยครับ จะได้เผยแพร่ต่อๆ ไป การแนะนำให้คนอื่นรู้จักข้อมูลที่ดี มีประโยชน์ จะช่วยให้เขาได้คิดที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ด้วย ซึ่งหาอ่าน หาฟังได้ยาก ทั้งๆ ที่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเสียสละเพื่อสังคมในรูปแบบต่างๆ และยังจะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้คนทั่วไป โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนครับ..

     

    สวัสดีค่ะคุณหมอ

    P

    ดีใจที่คุณหมอซึ่งดิฉันนับถือว่า เป็นแพทย์ที่มีจิตใจงามมากผู้หนึ่ง มาให้ความเห็นค่ะ

    จริงๆแล้ว ยังเห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ประเทศเรา ยังดีกว่าประเทศอื่นนะคะ ดีกว่ามากด้วย

    ในประเทศทางตะวันตกโดยเฉพาะ อังกฤษ อเมริกา คนไข้นั้นก็ต่างจากคนไข้บ้านเรา ซักทุกประเด็น ทุกขั้นตอนของการวินิจฉัยเลยก็ว่าได้ จะได้ผลทางบวกอย่างไร ทางลบอย่างไร มีผลแทรกซ้อนหรือไม่ หมอผู้ดูแลก็ต้องเล่าบรรยาย บางครั้งเล่นถึงสมุฏฐานของโรคเรื่อย ๆ ไปจนถึงการวินิจฉัยด้วย บ้านเราไม่ถึงขนาดนั้น

    และหมอบ้านเราเอง ก็ยังมีคุณธรรมมากอยู่มากๆค่ะ

    จะมีบ้างที่ไม่ค่อยมีจิตเมตตาเท่าใด แต่ส่วนน้อย

    เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว อเมริกาเกือบล้มละลายเพราะระบบการสาธารณสุข มีค่าใช้จ่ายที่แพงมาก ใช้ทรัพยากรของประเทศไปใช้แยะมาก จนต้องมีการปฏิรูปกัน ก็ขออย่าให้เราเป็นอย่างเขาเลยค่ะ

    ยิ่งตอนนี้ เรากำลัง พยายามดึงคุณธรรมจริยธรรมของคนไทยกลับมา คิดว่า คงจะดีขึ้นค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณทะเลดาว

    P
     ขอบคุณที่ชมว่า บันทึกนี้ให้ข้อมูลดีค่ะ

    มีข่าวมาบอกค่ะ

    เมื่อ 12 ต.ค 2550 .--แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ ร่วมกับ ASHOKA และ ITEM

    จัดค่ายพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชนอาสาสมัคร เพื่อสร้างการเรียนรู้เติมเต็มนอกห้องเรียน เป็นประสบการณ์ทำกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคมไทย โดยมีนักศึกษาสมัครเข้าร่วมกว่า 30 คน ณ สาลีวิว รีสอร์ท อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี

    ค่ายผู้นำเยาวชนจิตอาสา

    คือกระบวนการเรียนรู้นอกห้องเรียนของเยาวชนโดยผ่านการทำกิจกรรมอาสาสมัครช่วยเหลืองานชุมชนที่ชุมชนต้องการ โดยมีการแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มย้ายบ่อปลา กลุ่มสร้างโรงเรือน สนามเด็กเล่น ทำความสะอาดวัดและเรียนรู้เรื่องการทำแชมพูและน้ำยาซักผ้าจากภูมิปัญญา

    ตอนนี้ มีการรณรงค์เรื่องจิตอาสากันมาก ก็หวังว่า คง ไม่ใช่แฟชั่น เท่านั้นค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณอ้อยควั้น
    P

     

    จิตสาธารณะหรือจิตอาสา"  เป็นคำที่มีความหมายมากนะค่ะ

  • อาสาทำให้ อาสาช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน
  • เป็นน้ำใจอันดีงาม ถ้าในสังคมมีคนประเภทนี้อยู่เยอะ ก็คงจะดี และสังคมทุกวันนี้ คงจะน่าอยู่กว่านี้เยอะนะค่ะ
  • ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลกินเจ...ขอเชิญชวนทานอาหารเจด้วยกันนะค่ะ อิอิ

    ค่ะ....

  • จิตอาสาคือการเสียสละ  และสามารถนำไปต่อยอดกับคนที่อยู่ใกล้ตัว เช่น ครอบครัว โรงเรียน ได้

      สำหรับนักศึกษา มักจะมีกิจกรรม ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษา ทำเป็น คิดเป็น  ฝึกการการเป็นผู้นำและวิธีการประสานงานที่เป็นระบบขึ้นด้วยค่ะ

  • สำหรับที่G2K นี้ เราโชคดี ที่ได้อ่านจากบันทึกเรื่องราวของหลายๆท่าน ที่เขียน เรื่องจิตอาสา ในแบบต่างๆกันบ่อยๆอยู่แล้วนะคะ เราจึงค่อนข้างจะคุ้นเคยกับคำๆนี้มากเลยค่ะ

  • เรื่องกินเจ ได้เข้าไปอ่านแล้ว ขอบคุณมาก ชอบอาหารเจค่ะ

  • สวัสดีค่ะ

    P

    คนไทยในชนบทมีเอกลักษณ์เหมือนๆกันอยู่หลายอย่าง อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ เป็นคนมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือกัน

    ถ้าบ้านไหนมีทุกข์ร้อน คนอื่นรู้ ก็จะพากันมาช่วยเหลือ มีงานบวช งานแต่ง งานศพ ไม่ต้องกลัว มากันเต็มบ้านเลย

    ส่วนคนกรุง มักจะตัวใครตัวมัน ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกัน

    แต่ตอนนี้ เราก็มีการปลุกจิตสำนึก ความมีจิตอาสา กลับคืนมาแล้วค่ะ และก็หวังกันว่า คงจะกลับมาอย่างยั่งยืนนะคะ

    อ้อ! หอกระจายข่าวที่ว่า

     มีกรรมการหมู่บ้านดำเนินการหรือคะ และมีตารางออกข่าว และการจดบันทึกไหมคะไหมคะ

    ที่ถามเพราะสนใจ อยากทราบ วิธีการดำเนินงานน่ะคะ

    จิตสาธารณะหรือจิตอาสา เป็นทุนสังคมใหม่ล่าสุด ที่ประเทศไทยและโลกกำลังต้องการ และมุ่งเน้นพัฒนาให้ขยายขอบเขตไปไกล ถึงขนาดให้เป็น พลเมือง ของโลก Global Citizen  การพร้อมใจ  การร่วมมือกันทำอะไรด้วยกันที่เป็นสิ่งที่ดีสิ่งที่สร้างสรรค์จะเป็นหัวใจของ "สังคม" และเป็นมงคลที่สูงอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่สมควรน่าจะช่วยกันทำให้เกิดขึ้นให้ได้ค่ะ  ในสังคมทุกๆระดับในประเทศของเรา ·      เมื่อสภาพของสังคมเปลี่ยนไป จิตของมนุษย์ก็ปรับเปลี่ยนตาม·      อาจเป็นเพราะการเอาตัวรอด หรือเพื่อความอยู่รอดจึงทำให้มนุษย์ต้องดิ้นรน·      แต่บางครั้ง บางรายทั้งที่ไม่ต้องดิ้นรน ก็อยู่รอดได้จนนับเวลาเลยไปอีกเป็นพันปี แต่ก็ยังดิ้นรน·      ในยุคเก่า สมัยก่อนเมื่อ 100 ปีผ่านมา มีคนมารวมตัวกัน โดยมีศูนย์รวมของหมู่บ้าน (วัด พิธีกรรม ตัวบุคคล) เพื่อแสดงพลังความสามัคคี จนเกิดเป็นประเพณีที่ดีงาม·      มาถึงยุคนี้ คนเราไม่มีแม้แต่เวลาที่จะคิดทำอะไรให้กับตนเอง ครอบครัว และสังคม·      โลกยิ่งแคบลงดูเหมือนว่า จิตใจมนุษย์ก็แคบตามไปด้วย·      หยุดคิด แล้วเรามาร่วมใจกันทำสิ่งที่ดี ที่สร้างสรรค์ให้กับสังคม ถึงแม้ว่า  จะเป็นส่วนน้อยก็ยังดี 

                 ขอบคุณมาก ครับ ที่นำเอาข้อคิดดี ๆ มายับยั้งความลุ่มหลง ดึงจิตให้กลับมา     

                                ชำเลือง  มณีวงษ์

    • แหววมาร่วมยกมือสนับสนุนและร่วมรณรงค์กิจกรรมดีๆแบบนี้ด้วยค่ะ...ซึ่งตอนนี้ก็พยายามทำอยู่ที่ รพ.เหมือนกัน...ยังเป็นช่วงเริ่มต้นที่ยังต้องการความร่วมแรงร่วมใจและกำลังใจค่ะ
    • ขอบคุณกับดอกไม้และบรรยากาศงามๆ นะคะ...ช่วงนี้แหววจะห่างจาก G2K ไปสักหน่อยเพราะต้องมีภาระกิจ เดินทาง และงานมาก อีกทั้งเป็นช่วงที่จะหาปัญหาสาเหตุด้านภูมิแพ้ของตัวเองและลูกอย่างจริงๆจังๆ เพื่อแก้ที่สาเหตุรากเหง้าเสียทีค่ะ...

     

         สวัสดีคะ ยินดีมากคะที่มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เห็นด้วยและชื่นชอบมากกับ Volunteer Sprit ถ้าคนไทยทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อนพ้องน้องพี่ มีจิตเสียสละ เมืองไทยคงน่าอภิรมย์มากกว่านี้คะ ตอนนี้ susu กำลังเรียนรู้และจะทำตัวเป็นจิตอาสาอยู่ ขอบคุณคะ

    สวัสดีครับคุณSasinanda

         ที่จริงผมไม่ได้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนโดยตรงหรอกครับ แต่ผมทำงานด้านสุขภาพครับ แต่อดไม่ได้ที่ต้องช่วยประสานงานให้เด็กเขามีโอกาสแสดงออกในทางที่ดีครับ   จึงพยายามประสานงานทั้งโรงเรียน พม.และ อปท.ในการจัดกิจกรรม  และจะพยายามทำเรื่อย ๆ ครับ

         อย่างไรก็ตามก็เหมือนกับการทำงานให้ตัวเองทางอ้อมแหละครับ   เมื่อเด็ก-เยาวชนมีพฤติกรรมดี ปัญหาสุขภาพก็ลดลง งานผมก็ลดลงด้วยครับ !!

         ไม่ทราบสิ่งที่ผมทำเป็นจิตอาสาสัก 50 % ได้ไหมครับ อีก 50 % เป็นงานผมแบบอ้อม ๆครับ

          พูดถึง"งานจิตอาสา"ผมใช้เวลาหลายปีในการผลักดันให้ภาคส่วนต่าง ๆมาเป็น "กปร."(กรรมการที่ปรึกษาโรงพยาบาล) ปัจจุบันมีทุกภาคส่วนสมัครมาเป็นกรรมการ 25 ท่านครับ เข้ามาช่วยกิจการหลายด้านครับ รวมทั้งหาทุนทรัพย์ด้วยครับ ก็ต้องขออนุณาตขอบพระคุณ กปร.ทุกท่านผ่าน G2K ด้วยนะครับ

         ขอบคุณอีกครั้งครับที่มาเยือน

         สวัสดีครับ !!

    สวัสดีค่ะ 

    ขอบณคุณที่มาเยี่ยมค่ะ

    เห็นคุณธวัช   อยู่นครปฐม   มีตัวอย่างที่อ่านพบค่ะ

    รู้สึก  ทางราชการก็ให้มี กิจกรรมกันหลายอย่างเหมือนกัน ตอนนีมีแพร่หลายไปมากค่ะ เป็นที่น่ายินดีนะคะ

    มีการ จัดเวที การประชุมสัมมนาและศึกษาดูงานระดับภาคเพื่อขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ  การให้และการอาสาช่วยหลือสังคม เพื่อผลักดันการส่งเสริมการให้และการอาสาช่วยเหลือสังคมใน  ระดับจังหวัด  5  ภาค  

    ครั้งที่1 กรุงเทพฯ (สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล) วันที่ 27-28 ส.ค. 50 นอกจากี้ ก็มีการปรชุมสัมนาแบบนี้ที่ พัทยา สงขลา ขอนแก่น เป็นต้นค่ะ

    อยากให้กิจกรรมในลักษณะนี้ยั่งยืนค่ะ

    | องค์กรใจดีด้านศิลปะวัฒนธรรม จ.นครปฐม  
    ชื่อองค์กร มูลนิธิหลวงพ่อเงินอุปถัมภ์
    ผู้ประสานงาน / ตำแหน่ง นายสุพจน์  บุญสงค์
    กิจกรรมหลัก และรายละเอียด  
    ประเภทของการให้ 1. เพื่อดูแลรักษาสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่หลวงพ่อได้กระทำไว้  ให้2. เพื่อส่งเสริมเผยแพร่และสนับสนุนการศึกษาเล่าเรียน   ตลอดจนการฝึกอบรมจิตใจตาม วิธีการของพระพุทธศาสนาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น3. เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่การศึกษาเล่าเรียนของยุวชน4. ดำเนินการ หรือร่วมมือกับองค์การกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณะประโยชน์5. ได้ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
    คุณสมบัติเฉพาะของอาสาสมัคร  
    การอบรมเพื่อเสริมสร้างทักษะของอาสาสมัคร  
    อาสาสมัครจะได้เรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพด้านใดบ้าง  
    ที่อยู่ติดต่อขององค์กร ศาลาธรรมโสฬส  วัดดอนยายหอม  อ. เมือง จ. นครปฐม 73000
    โทรศัพท์ / โทรสาร 034- 431922
       

    สวัสดีค่ะคุณชำเลือง

    P

    ประเพณีไทยที่สืบทอดต่อกันมานั้น   ส่วนใหญ่เป็นไปตามความเชื่อ   ความผูกพันของผู้คนต่อพุทธศาสนา

    และการดำรงชีวิตที่สอดกับธรรมของชาวบ้านในแต่ละท้องถิ่น     ทั่วแผ่นดินไทย   เช่น
                 ภาคเหนือ ประเพณีบวชลูกแก้วของคนไตหรือชาวไทยใหญ่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
                 ภาคอีสาน ประเพณีแข่งเรือบุรีรัมย์           
                 ภาคกลาง ประเพณีทำขวัญข้าวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา   

                 ภาคใต้ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น 

    แต่ละประเพณี  เราจะเห็นความสามัคคีกลมเกลียวของชุมชน มีน้ำชิตน้ำใจกัน :ซึ่งหลังๆมา

    ความรู้สึกสามัคคีกลมเกลียวของคนไทย น้อยลงไป

    ดังนั้น เมื่อรัฐบาลประกาศวาระแห่งชาติว่าด้วยการให้ และการช่วยเหลือสังคม จึงเป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งค่ะ

    ตอนนี้ พุทธสมาคม ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

     มีการทำกิจกรรมเผยแพร่และส่งเสริมหลักธรรมในพระพุทธศาสนา รวมทั้งฟื้นฟุขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดี ของไทยด้วยค่ะ

    วัตถุประสงค์ 
    1. เพื่อศึกษาเผยแพร่และส่งเสริมเชิดชูหลักธรรมแห่งพระพุทธศาสนา
    2.เพื่อสนับสนุนกิจการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
    3.เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูประเพณีและศิลปวัฒนธรรมอันดีของไทย
    4.เพื่อปฏิบัติการสาธารณกุศลและสังคมสงเคราะห์

    กิจกรรม/โครงการ 
    จัดทำโครงการพัฒนาจิตใจเด็กและเยาวชน ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนระดับประถม มัธยมของจังหวัดสุพรรณบุรี
    กลุ่มเป้าหมาย 
    1.เด็ก
    2.เยาวชน

     

    ประเด็นหลักในการช่วยเหลือ 
    1.พัฒนาชุมชน
    2.การศึกษา
    3.วัฒนธรรม

    ประเภทของความช่วยเหลือ 
    1.ให้ความรู้เรื่องศีลธรรมจริยธรรม
    2.บริจาคเงิน

     

    ข้อมูลติดต่อหน่วยงาน
    221  ถ.ประชาธิปไตย ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี 72000
    โทรศัพท์ 035-523649 
      นายกพุทธสมาคมจังหวัดสุพรรณบุรี

     

    สวัสดีค่ะคุณแหวว

    P

    คุณแหววบอกว่า..แหววมาร่วมยกมือสนับสนุนและร่วมรณรงค์กิจกรรมดีๆแบบนี้ด้วยค่ะ...ซึ่งตอนนี้ก็พยายามทำอยู่ที่ รพ.เหมือนกัน...ยังเป็นช่วงเริ่มต้นที่ยังต้องการความร่วมแรงร่วมใจและกำลังใจค่ะ

    ขอบคุณที่ยุ่งอยู่ แต่ก้แวะเข้ามาเยี่ยม

    พอดี ไปอ่านเรื่องสรรพคุณของว่านหางจรเข้มีสรรพคุณเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย

    ไม่ทราบจะพอช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้ไหม เพราะถ้า ร่างกายเราแข็งแรง ก็มักไม่ค่อยเป็นภูมิแพ้ค่ะ

    จิตสารณะนั้นจะต้องก้าวข่าม ๒ เส้น

    เส้นที่ ๑ ความพอเพียงทางกายภาพ

    เส้นที่ ๒ ความไม่พอเพียงทางจิตใจ

    ทำให้มีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจที่จะทำงานเพื่อคนอื่นครับ

    คงจะยากครับถ้ายังไม่ผ่าน ๒ เส้นนี้

    แต่การเร่งให้ผ่านเส้นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีเงื่อนไขอย่างมากพอสมควร

    การพัฒนาจิตสาธารณะจึงน่าจะทำได้ แต่ต้องอาศัยความเข้าใจ ความมพยายาม และเวลา ครับ

    ข้อมูลยอดเยี่ยมเลยค่ะ อาจารย์

    P
     อ่านแล้วชื่นใจ มีคนทำความดี เต็มบ้าน เต็มเมือง เต็มแผ่นดิน เต็มโลกเลย
    ขอบคุณนะคะ
     สวัสดีค่ะคุณซูซู
    P
     Susu
    เห็นด้วยและชื่นชอบมากกับ Volunteer Sprit ถ้าคนไทยทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อนพ้องน้องพี่ มีจิตเสียสละ เมืองไทยคงน่าอภิรมย์มากกว่านี้คะ ตอนนี้ susu กำลังเรียนรู้และจะทำตัวเป็นจิตอาสาอยู่

     

    ค่ะ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากค่ะ

    How wonderful it is that nobody need wait a single moment before starting to improve the world
    Anne frank

    ช่วงนี้ จะมีการสัมนาหัวข้อด้านล่างนี้ ที่น่าสนใจมาก และแต่ละโรงพยาบาลสามารถนำไปใช้ได้นะคะ

    เสวนาเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ครั้งที่4 ครั้งที่  4/2550


    เรื่อง
    การเปิดพื้นที่สำหรับผู้ป่วยและญาติเพื่อการดูแลระยะสุดท้าย ในโรงพยาบาล
    วันเสาร์ที่  20 ตุลาคม  2550  เวลา 9.00 – 16.00 น.
    ห้องประชุมชั้น 10  อาคารพัชรกิติยาภา  โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
    จัดโดย   ศูนย์บริหารคุณภาพ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ร่วมกับ เครือข่ายพุทธิกา
        สนับสนุนโดย โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ และ สสส.  
     

    เข้ามาเก็บเกี่ยวค่ะ

    ช่วงนี้ยุ่งๆค่ะ พี่ศศินันท์  ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจเสมอมานะคะ

    สวัสดีค่ะคุณMr. Kraton Pai
    P
    พูดถึง"งานจิตอาสา"ผมใช้เวลาหลายปีในการผลักดันให้ภาคส่วนต่าง ๆมาเป็น "กปร."(กรรมการที่ปรึกษาโรงพยาบาล) ปัจจุบันมีทุกภาคส่วนสมัครมาเป็นกรรมการ 25 ท่านครับ

    ขอชื่นชมสิ่งที่คุณทำไปด้วยจิตอาสาอย่างแท้จริงค่ะ

    ได้ตามเข้าไปอ่านงานของคุณ Mr. Kraton Pai .......ที่เขียนว่า ทำงานด้วยอุดมการณ์ที่แรงกล้า มุ่งมั่น พัฒนา ด้วยจิตสำนึกรักบ้านเกิด

    ถ้ามีคนแบบนี้ มากๆ บ้านเมืองของเราจะน่าอยู่กว่านี้ค่ะ

    สวัสดีค่ะอาจารย์คะ

    P

    ดีใจมากที่อาจารย์มาเยี่ยมค่ะ

    อาจารย์บอกว่า....

    จิตสาธารณะนั้นจะต้องก้าวข้าม ๒ เส้น

    เส้นที่ ๑ ความพอเพียงทางกายภาพ

    เส้นที่ ๒ ความไม่พอเพียงทางจิตใจ

    ทำให้มีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจที่จะทำงานเพื่อคนอื่นครับ

    คงจะยากครับถ้ายังไม่ผ่าน ๒ เส้นนี้

    เรื่องนี้ เป็นความจริงอย่างที่อาจารย์บอกค่ะ

    ที่ดิฉัน ประทับใจเรื่องจิตสาธารณะ และพยายามเขียนบันทึกในเชิงบวกมาก ก็เพื่อ อยากจะ cheer up  ให้พวกเราคนไทย กลับมามีจิตใจเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้มาก เหมือนดังแต่ก่อนค่ะ

    จริงๆแล้ว คนไทย ในเนื้อแท้น้ำใจดีกว่าหลายๆชาตินะคะ  แต่เรากำลังน้อย ในด้านเศรษฐกิจ การมีจิตสาธารณะก็เลย ไม่ค่อยมีมากเท่าที่ควร เพราะต้องดูแลตัวเองและครอบครัวก่อน

    ส่วนคนตะวันตกโดยเฉพาะ ชาวอเมริกัน มีการบริจาคเงินเพื่อการกุศลกันมาก

    จากข้อเขียนของ : ดร.ไสว บุญมา กรุงเทพธุรกิจ วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2548..........มหาเศรษฐีอเมริกันมักสร้างความร่ำรวยด้วยการทำธุรกิจ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด จะเกิดอภิมหาเศรษฐีใหม่ขึ้น ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้เกิดอภิมหาเศรษฐี เช่น ร๊อกกี้เฟลเลอร์และฟอร์ด ทั้งคู่ตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศลขนาดใหญ่ในยุคปฏิวัติข่าวสารข้อมูลซึ่งกำลังดำเนินไปอยู่ในขณะนี้ก็มีอภิมหาเศรษฐี เช่น บิล เกตส์ และวอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดขึ้น ระบบตลาดเสรี

    เอื้อให้เกิดมหาเศรษฐีได้ง่าย แต่พร้อมกันนั้น ก็ทำให้ช่องว่างระหว่างค่าตอบแทนของผู้บริหารบริษัท กับคนงานโดยทั่วไปกว้างขึ้นเรื่อยๆ

    และในความเห็นของดิฉันเพิ่มเติมคือ.....

    ระบบของการจัดเก็บภาษีของประเทศทางตะวันตก เอื้อให้ มีการบริจาคกันมาก เพราะเมื่อมีรายได้ถึงจุดๆหนึ่ง จะถุกเรียกเก็บภาษีมากเสีย จน เจ้าของเงิน คิดว่า เอาเงินมาบริจาคจะดีกว่า ได้ทั้ง ภาพลักษณ์ที่ดีและได้บุญด้วย

      ดร.ไสว กล่าวเพิ่มเติมว่า.....ปีเตอร์ ดรักเกอร์  บิดาของนักบริหารจัดการของชาวอเมริกัน  มีความไม่สบายใจมาก ที่เห็นความแตกต่างระหว่างค่าตอบแทน ของผู้บริหารสูงสุดกับของคนงานทั่วไปในบริษัท  ซึ่งเขามีความเห็นว่า ไม่ควรต่างกันเกิน 20 เท่า มิฉะนั้น จะเกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรม ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาสังคมร้ายแรง

      ดังนั้น ตอนบั้นปลายของชีวิตท่านจึงอุทิศตัว เพื่อเสริมสร้างองค์กรเพื่อการกุศลให้แข็งแกร่ง เพราะท่านเชื่อว่าองค์กรชนิดนี้ จะต้องมีบทบาทในการถ่วงดุล กับการแสวงหากำไรแบบสุดโต่ง ของผู้บริหารธุรกิจ ซึ่งมีความโลภเป็นที่ตั้ง

    แต่ดิฉัน ไม่แน่ใจว่า บิล เกตส์ เชื่อการอ่านเหตุการณ์ของอาจารย์ดรักเกอร์หรือไม่   แต่คำสอนของมารดาเขา มีอิทธิพลกับเขามากค่ะ

    สำหรับ คนไทย ความพร้อม ความอยากจะช่วยสังคม ของคนไทย น่าจะมีอยู่แล้ว  ขาดแต่ปัจจัยสนับสนุน  แต่ขอให้มี ใจ ก่อน อย่างอื่นที่ดีๆก็จะตามมานะคะ มากน้อย คงไม่สำคัญหรอกค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณหมอคะ

    P

    อ่านโครงการของคุณหมออย่างชื่นชมมากค่ะ

       ขอต่อจากที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับอาจารย์แสวงอีกนิดค่ะ

    แนวคิดเรื่องการแทนคุณแผ่นดินนั้น มีความสำคัญในสังคมฝรั่งไม่ต่างกับในสังคมไทย

     ฉะนั้นการที่ท่านรัฐบุรุษเปรม ติณสูลานนท์ ชักชวนให้คนไทยทดแทนคุณแผ่นดินจึงมิใช่เป็นเรื่องคร่ำครึ หรือล้าสมัย ฝรั่งส่วนใหญ่ก็ทำกันค่ะ

    ดิฉันเคยอยู่บ้านติดกับ Professorอเมริกันครอบครัวหนึ่ง เขาก็มีแนวคิด ในเรื่องจิตอาสามากทีเดียวค่ะ และบริจาคเข้าองค์กรการกุศลเป็นประจำเหมือนกัน แต่เป็นองค์กรทางด้านศาสนา และไปช่วยคนด้อยโอกาส

    คนไทย มีจิตใจดีมากๆอยู่แล้ว เรื่องจิตอาสา มีโดยธรรมชาติค่ะ แต่มาช่วยกัน กระตุ้นหน่อยก็ดีค่ะ

    สวัสดีครับ

    ผมมองว่าจิตอาสา เป็นผลของวุฒิภาวะทางความคิดที่สะสมมาทั้งจากอดีตและปัจจุบัน แต่หากเราคุยกันเฉพาะปัจจุบัน ก็น่าจะเป็นกระบวนการที่ผ่านการปลูกฝัง บ่มเพาะมาพอสมควรจากสังคมรอบๆตัว

    สังคมจะเปลี่ยนเป็นสังคมแห่งจิตอาสาภายในพริบตาก็ได้ ถ้าทุกคนเริ่มต้นคิด และทำพร้อมกัน ต่างคนต่างทำ และทำไม่หยุด....สังคมแห่งจิตอาสาจะเป็นแค่เพียงภาพในอุดมคติ หรือเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้ ขึ้นกับหน่วยเล็กๆในสังคมนั่นแหละครับ

    เริ่มต้นที่ตัวเรา คิด พูด และทำให้เขาเห็น ต้องทำบ่อยๆ จนเป็นนิสัยแล้วพลังจึงจะเกิด

    ขอบคุณครับ

    เห็นว่าคุณพี่ sasinanda ชอบดอกไม้

    เลยเอาดอกไม้ดินญี่ปุ่นมาฝากค่ะ

    P_din

    เรียนรู้....เรื่อยเปื่อยค่ะ....

    สวัสดีค่ะคุณหนิง

    P

    ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ

    กิจกรรมที่คุณหนิงทำอยู่ เป็นกิจกรรมที่น่ายกย่องมากค่ะ

    พี่เอง  ยังแอบคิดว่า บรรดาผู้ที่มีเงินมากทั้งหลาย น่าจะมีการจัดสรร เงินจะนวนหนึ่ง มาใหผู้ด้อยโอกาสมากขึ้นนะคะ

    พี่ชอบแนวคิดของคนอเมริกันอย่างหนึ่งคือ  พวกที่มีทรัพย์สินจำนวนมากๆส่วนหนึ่ง   จะมีทรัพย์สินเหลือตกทอดให้กับลูกหลานแค่เพื่อให้พวกลุกหลาน "ทำอะไรๆ ได้"

    ไม่ใช่เหลือให้มากมายจนพวกเขา "ไม่ต้องทำอะไรอีกเลย" ชั่วชีวิตนี้ อีกส่วนหนึ่ง เขาก้แบ่งปันให้ผู้อื่นในสังคมบ้าง

    แต่อย่างไรก็ตาม เราทุกคนก็ต้องขยันขันแข็ง สร้างเนื้อ สร้างตัว กันให้เต็มที่ด้วย มิใช่แต่คอยการแบ่งปันค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณสาธิต

    P

    คุณสาธิตบอกว่า

    สังคมจะเปลี่ยนเป็นสังคมแห่งจิตอาสาภายในพริบตาก็ได้ ถ้าทุกคนเริ่มต้นคิด และทำพร้อมกัน ต่างคนต่างทำ และทำไม่หยุด....สังคมแห่งจิตอาสาจะเป็นแค่เพียงภาพในอุดมคติ หรือเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้ ขึ้นกับหน่วยเล็กๆในสังคมนั่นแหละครับ

    เริ่มต้นที่ตัวเรา คิด พูด และทำให้เขาเห็น ต้องทำบ่อยๆ จนเป็นนิสัยแล้วพลังจึงจะเกิด

    ค่ะ  พี่ก็เห็นด้วย  ต้องเริ่มที่ตัวเราหรือกลุ่มเรา ก่อนค่ะ ถ้าคนอื่นเห็นเราทำด้วย ไม่ใช่แค่พูดปาวๆเฉยๆ  พลังก็จะเกิดค่ะ

    มีตัวอย่างของ

    P

    หอกระจายข่าว กระผมคิดว่ามีประโยชน์ต่อชุมชนเป็นอย่างมากครับ ถ้ามีการจัดการที่ดี ชุมชนที่อยู่ชนบทจริงๆ ไม่ใช้อยู่ในตัวเมือง จะมีบทบาทมากในการดำเนินการ หอกระจายข่าว อย่างเช่น ชุมชนบ้านแก่นท้าว ตอนเช้าจะเปิดข่าว (6.00-8.00 น.) ตอนเย็นจะเปิดเพลงและสรูปข่าวพร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน (17.00-18.00 น.) ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ การกระตุ้นเตือนให้ทุกคนมาร่วมคิดร่วมทำร่วมพัฒนาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และยังช่วยส่งเสริมให้คนรู้จักจิตอาสาหรือจิตสาธารณะในทางอ้อมอีกด้วย ถ้าทางรัฐเห็นความสำคัญบ้างก็ดี แต่ทุกวันนี้ต้องลงขันกันนะครับถึงจะได้หอกระจายข่าว สวัสดีครับ   

    สวัสดีค่ะ

    P
    Gutjang
    ขอบคุณค่ะ สวยจังค่ะ ยังกะแคทลียาค่ะ ชอบดอกไม้มากค่ะ โดย เฉพาะกล้วยไม้

     

    ดิฉันขอเพิ่มเติมจากที่ไปอ่านบันทึกของคุณ DSS "work with disability" ( หนิง )  ดังนี้

      แนวคิด INN  การทำดีอย่ายึดติดโครงสร้าง  แต่ไม่เป็นปรปักษ์  การทำดีไม่ต้องรออนุมัติ

    I : Individual  แต่ละคนมีศักดิ์ศรี  จะทำเรื่องดีดี  มีอิสระ ไม่ผิดกม.

    N :Node  มีการสมาคมกัน  รวมกลุ่มกัน  แลกเปลี่ยนเรียนรู้

    N : Network  การเชื่อมโยง  แต่ละคนสมารถเชื่อมโยงได้หลายเครือข่าย 

    และจาก แนวคิด INN ของท่าน ศ.นพ.ประเวศ วสี

    มนุษย์เรียนรู้ได้ ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี จนในที่สุด มันจะเปลี่ยนไปสู่การพ้นทุกข์ร่วมกันหมด

    และเพราะโลกเชื่อมโยงเป็นโลกเดียวกัน ถ้าจะพ้นเฉพาะตัวเฉพาะคน ทิ้งคนอื่น ก็จะเป็นปัญหาต่อกันและกัน ก็จะไปไม่ได้ นอกจากคิดพ้นทุกข์ร่วมกัน ผมคิดว่าในระยะไกล เป็นเรื่องที่เป็นไปได้

    สวัสดีครับ

    ไม่ได้มาหลายวัน หวังว่าคงสบายดีนะครับ

    เป็นเรื่องที่ดี โครงการที่ดีครับ

    สุข สงบ เย็น

    สวัสดีค่ะ

    P

    ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ

    ดิฉันมีข้อมูลจากนสพ.ประชาชาติธุรกิจ  เมื่อ : 10/10/2007

    เรื่องการอาสาสมัครในการทำงานเพื่อสังคม ไม่น่าเชื่อว่าแม้เรื่องนี้กำลังได้รับการผลักดันจากภาครัฐ แต่ในความเป็นจริงเรื่องนี้ถือว่ายังน้อยมากที่ผู้ตอบแบบสอบถามเคยทำงานอาสาสมัคร โดยคิดเป็นสัดส่วนเพียง 17.8% เท่านั้น ขณะที่ 82.1% ไม่เคยทำงานอาสาสมัครในลักษณะนี้เลย

    อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงอนาคต ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ 65.5% ยังไม่สนใจจะไปทำงาน อาสาสมัคร โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเวลาและมีภาระที่ต้องทำมาหากิน หากจะทำให้คนหันมาสนใจการทำงานอาสาสมัครมากขึ้นในอนาคตนั้น

    ผลสำรวจออกมาว่า ปัจจัยที่จะทำให้คนลุกขึ้นมาทำงานอาสาสมัคร 1.มีการกระตุ้นจิตสำนึกให้มีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน 2.เมื่อเกิดภัยพิบัติ 3.ความต้องการทำบุญ 4.มีการรณรงค์ประชา สัมพันธ์ ชักชวนให้ทำดี 5.มีสวัสดิการหรือสิทธิพิเศษ 6.อยากเห็นผู้นำหรือผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคมมาชักชวน

    นอกจากนี้ถ้ามองในภาพรวมปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนอยากให้ โดยเฉพาะในแง่ของการบริจาค คือจะต้องได้ประโยชน์ไปสู่ผู้ที่เดือดร้อนที่แท้จริง โดยไม่ถูกแอบอ้างไปโดยคนที่หวังผลประโยชน์

    นอกจากนี้จากการสำรวจผลนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายของรัฐบาลและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะมีเพียง 18.3% เท่านั้นที่รับรู้ว่ามีการกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ขณะเดียวกันกับที่รู้จักศูนย์ส่งเสริมการให้และการอาสาสมัครเพื่อสังคมเพียง 25.1% ฉะนั้นถือเป็นการบ้านที่ทั้ง 2 หน่วยงานนี้ต้องทำงานอย่างจริงจังมากขึ้นในอนาคต



    ดิฉัน จึงคิดว่า เราคงต้องช่วยหน่วยงานภาครัฐ ประชาสัมพันธ์ งานในด้านจิตอาสา นี้ให้มากขึ้นค่ะ

    ส่วนเรื่องการบริจาคนั้น โดยส่วนตัว ดิฉันเองก็เลือกบริจาค เฉพาะหน่วยงานหรือองค์กร ที่ดิฉัน มั่นใจว่า จะนำเงินไปช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจริงๆเหมือนกันค่ะ

    ส่วนในต่างประเทศ  โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ล่าสุดมีการสำรวจและพบว่าแนวโน้มหนึ่งที่น่าสนใจในขณะนี้ก็คือ การที่คนสูงอายุเข้ามาทำงานอาสาสมัครเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณค่ะ

    ประเทศเรา ก็คง ต้องจัดประเภทของงานอาสาสมัครให้มากขึ้น เพื่อจัดสรรงานที่เหมาะกับแต่ละช่วงอายุค่ะ 

    สวัสดีครับ

    วันนี้ตื่นขึ้นมาอ่านบทความนี้เป็นบทความแรก อ่านแล้วได้ความรู้และแช่มชื่นหัวใจครับ ผมชอบงานแบบนี้ครับเพราะคุณพ่อคุณแม่ทำให้เราเห็นตั้งแต่ยังเล็ก ปัจจุบันคุณพ่ออายุ ๗๘ คุณแม่ ๗๒ ก็ยังช่วยงานสังคมอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อเราเป็นผู้ให้ เราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลครับ

    • สวัสดีค่ะคุณ  sasinanda 
    • ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลที่นำมาฝากค่ะ

    สวัสดีค่ะP

     

    ขอโทษตอบช้าหน่อย มีปัญหา internet นิดหน่อยค่ะ คุณบัณฑูร บอกว่า

      แช่มชื่นหัวใจครับ ผมชอบงานแบบนี้ครับเพราะคุณพ่อคุณแม่ทำให้เราเห็นตั้งแต่ยังเล็ก ปัจจุบันคุณพ่ออายุ ๗๘ คุณแม่ ๗๒ ก็ยังช่วยงานสังคมอยู่ตลอดเวลา 

    ค่ะ ดีใจที่คุณบัณฑูร และครอบครัว ช่วยงานทางด้าสังคมมาตลอดค่ะ

     

    ไม่มีพลังใดยิ่งใหญ่เท่าพลังครอบครัว

    และพลังครอบครัวเป็นพลังที่หนุนเนื่องไปถึง

    พลังสังคมและพลังแผ่นดิน

    ช่วยกันรณรงค์ให้วันอาทิตย์ของสัปดาห์เป็นวันครอบครัว

     

     

        บิล  เกตส์ คนที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนสังคมรายใหญ่ที่สุดของโลก

    นิตยสาร Time กล่าวถึง แมรี่ เกตส์ แม่ของ บิล เกตส์ ผู้ล่วงลับไปแล้วว่า.......

    Time กล่าวว่า แมรี่ เกตส์ เคยเป็นครูผู้มีใจเปี่ยมด้วยความเมตตาและอาสาทำงานเพื่อการกุศลตลอดชีวิต ได้เขียนจดหมายถึงลูกชายและลูกสะใภ้ในอนาคตก่อนที่ทั้งสองจะแต่งงานกัน

    ในจดหมายนั้นมีข้อความตอนหนึ่งว่า "From those to whom much is given, much is expected." ข้อความนี้มีความหมายกินใจยิ่งว่า "ยิ่งรับมากเท่าไรก็ยิ่งควรให้มากขึ้นเท่านั้น"

    เรื่องนี้เกี่ยวกับความสำคัญของแม่ ซึ่งเป็นครูคนแรก ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของคนเราเหนือผู้อื่น

    และมีข่าวที่น่าสาธุ สาธุ จากบิล เกตส์ 

    มีข่าวดี  จากบันทึกของ นพ. วัลลภ พรเรืองวงศ์   เรื่องไข้จับสั่น หรือมาลาเรีย  นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกทดลองวัคซีนมาลาเรียมานานกว่า 20 ปี ตอนนี้มีแสงเรืองรองแล้วบิลล์ เกตส์ที่ขายโปรแกรมวินโดว์อันแสนแพง ให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนชนิดนี้ถ้าการพัฒนาวัคซีนขั้นต่อไปสำเร็จ บริษัทที่พัฒนาวัคซีนจะนำวัคซีนออกจดทะเบียนในปี 2554 

     

    สวัสดีค่ะคุณ
    P

    sasinanda

    "The true meaning of life is to plant trees, under whose shade 
    you do not expect to sit."
    - Nelson Henderson

    ที่ให้ข้อมูลดี ๆ  และน่าชื่นใจ  และแนะำนำเว็บดี ๆ อย่างเว็บ konjaidee.com   จะพยายามฝึกตนเองให้เป็นคนให้โดยไม่หวังผลตอบแทนมากยิ่งขึ้นค่ะ  ชอบคำพูดของคุณ Nelson Henderson มากค่ะที่ว่า

    "The true meaning of life is to plant trees, under whose shade 
    you do not expect to sit."
    - Nelson Henderson
     

     

    • สวัสดีค่ะ
    • แวะตามมาขอบคุณค่ะ
    • บล็อคน่ารักสดใสดีจังค่ะ

    มีข่าวน่าชื่นชมมากๆสำหรับการให้เพื่อสังคม มาบอกค่ะ

    โครงการ  คืนแสงสว่างให้ผู้ป่วยต้อกระจกและต้อเนื้อ

    โดย : บริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด

    ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยทีมแพทย์ของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) สาขาสุขุมวิท ซอย 24 โรงพยาบาลเองก็ได้ไปขอความร่วมมือกับทาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัด“โครงการคืนแก้วตาสดใสแก่ปวงชนชาวไทย เฉลิมพระเกียรติในหลวง 80 พรรษา”


    รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ บริษัท ทาสของแผ่นดิน จำกัด โทรศัพท์ 02-262-9454-5 , 02-261-8213-7 ทุกวันจันทร์ -วันศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. เลขที่ 99/359-360 ซอยสุขุมวิท 24(เกษม) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทร 02-262 9454-5 แฟ็กซ์ 02-62 9454

    เอกสารที่ต้องนำมาด้วย ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรทอง อย่างละ 2 ใบ แพทย์จะทำการตรวจคนไข้ใหม่เฉพาะวันพุธและวันศุกร์ กรุณาโทรแจ้งล่วงหน้า

    การทำบุญด้วยการให้แสงสว่างแก่คนมีค่ามากกว่าสิ่งใด เพราะได้ช่วยให้ชีวิตหนึ่งมีโอกาสได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง

    สวัสดีค่ะอาจารย์คะ

    P

    ขอบคุณค่ะที่อาจารย์บอกว่า....

    ที่ให้ข้อมูลดี ๆ  และน่าชื่นใจ  และแนะำนำเว็บดี ๆ

    ดีใจที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ

    คุณแม่ของดิฉันเองก็เป็นคนใจดีค่ะ ชอบทำบุญ และช่วยเหลือเพื่อนฝูงญาติมิตร เป็นประจำ เป็นตัวอย่างและเป็นแม่แบบ ที่ดีที่สุดของดิฉัน

    ดังนั้น  ในชีวิตต่อมา จึงมีความประทับใจเป็นพิเศษกับคนที่มีจิตใจดี  จิตอาสา จิตใจที่กว้างขวางค่ะ ไม่ว่าจะเป็นใครหรือชาติใดภาษาใด

    และเมื่อมาศึกษาธรรมะอย่างลึกซึ้งขึ้นด้วยตัวเอง จึงพบว่า ธรรมะข้อที่ จะช่วยให้เรามีจิตใจอ่อนโยน ละเอียดขึ้น เห็นใจและอยากจะช่วยเหลือคนที่เขาต้องการความช่วยเหลือ คือ ธรรมะข้อพรหมวิหาร 4 ค่ะ
    1. เมตตา การมีจิตใจต้องการให้ผู้อื่นมีความสุข
    2. กรุณา การกระทำที่ช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
    3. มุฑิตา ความรู้สึกยินดี ต่อผู้อื่นที่กำลังประสบสุข
    4. อุเบกขา ให้มีความเข้าใจ ความเป็นธรรมชาติความเป็นธรรมดาของสรรพสิ่ง และปล่อยวางได้

    สำหรับที่G2K นี้ ในด้านการแพทย์ ผู้ที่ดิฉันนึกถึงมาก ในเรื่องของความมีจิตใจดี คือน.พ.สุธี สุดดี

    หมอจิ้น
    P
     
     ซึ่งเป็นแพทย์ที่เน้นปลูกฝังมิติของความเป็นมนุษย์และจิตวิญญาณควบคู่ไปกับองค์ความรู้ทางเทคนิค เพื่อเป็นแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์

    อยากให้มี แพทย์ที่เก่งทั้งรักษาโรค รักษาใจ รักษาชีวิตของผู้คนเสมือนญาติ เป็นคนที่ละเอียดอ่อน เข้าถึงสภาวะของจิตใจผู้ป่วยได้เป็นอย่างดีอย่างคุณหมอจิ้นมากๆค่ะ

    สวัสดีค่ะ

    P

    ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ

    ดิฉันขอกล่าวถึง วอร์เรน  อี บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีอัดับ 2 ของโลก ที่ประกาศบริจาคทรัพย์สินมหาศาล ประมาณ 85% ของทรัพย์สินในบริษัทของเขา ราว 1.49 ล้าน ล้าน บาท ให้การกุศล ทั่วโลกที่งกันมาก แต่ในอเมริกา คนเขาไม่ค่อยแปลกใจกัน เพราะเป็นเรื่องที่คาดหมายกันมาก่อนแล้ว เนื่องจาก เป็นวิถีที่คนระดับมหาเศรษฐีในอเมริกาชอบทำกัน

    แต่ที่แปลกคือ การบริจาคครั้งนี้ เป็นการบริจาคเกือบทั้งหมดของทรัพย์สิน

    ซึ่งเจ้าตัวให้คำตอบง่ายๆคือ"ผมคิดว่า มันควรกลับคืนสู่สังคม และครอบครัวก็เห็นด้วยแล้ว"

    ส่วนที่มากที่สุดคือ 31,000 ล้านดอลล่าร์ เขายกให้มูลนิธิ บิล แอนด์ เมลินด้า เกตส์ เพื่อให้มูลนิธินี้ นำเงินไปใช้ประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ให้มากที่สุด

    คนทั่วโลก ต่างพูดว่า เป็นเรื่องที่น่าทึ่งจริงๆ ที่เขาไม่พะวงถึงหน้าตา ภาพลักษณ์ตัวเองเสียเลย  แต่กลับแสดงความไร้อัตตาของเขามาอย่างชัดเจน และน่ายกย่องมากค่ะ

     

    • Hi !,  I'm escape to stay alone a while in self contained caravan cabin near a waterfall,Greater Mountains World Heritage Area,at 1060 meters above see level
    • breath-taking panorama view
      seeing the giant cliffs ,valleys,gorges,canyons and wind swept heath,
    • walk though Jurassic rainforest's
    • enjoyed the sounds of native birds
    • the majestic colours in Spring
    • sweet smell of flowers as far as you can see ,Japanese cherries.Warathas ,Rhododendrons...
    • I walk 10 Km return in cool climate(3-3'C) to use Internet cafe 2.6$ for 15 min
    • Miss you and G2K so much
    • See you soon at the end of the month na....ka

    Hi,K.Naree

    It's good to know that you're having a good time at Greater Mountains World Heritage Area.

    It's closest to Sydney isn't it?

     The World Heritage area of the Greater Blue Mountains with the lower reaches of the Blue Mountains National Park is very beautiful.

    I've heard that they've  recently discovered Wollemi  pine-- a living fossil-----far back to the age of dinosaurs.

    We miss you too ka.See you soon ka.

    มาเยี่ยมและอ่านเรื่องดีดีค่ะ

    เรา..พยาบาลทำงานด้วยความเสียสละมานานมาก

    อาจารย์เราสอนว่า จะต้องเสียสละ มีจิตอาสา

    มาทำงานก่อน 8 โมงเช้า กลับบ้านจนตะวันตกดิน เป็นอยู่แบบนี้ทั้งชีวิตค่ะ

    สวัสดีครับคุณพี่ sasinanda

               เรื่องจิตอาสา และจิตสาธารณะ  เด่นชัดมากขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะเมื่อเกิดปรากฎการณ์วิกฤติทางจริยธรรมของผู้บริหาร

               ในทางการเมืองแล้วผมว่าการเปลี่ยนแปลงอำนาจครั้งนี้ก็มีคุณูประการหลายอย่าง เรื่องนโยบายที่เน้นการพัฒนาสังคม เป็นต้นครับ

               บางทีโลกเรามาถึงจุดที่ทางตันก็ได้ครับ เพราะว่าเงินนั้นไหลไปอยู่กับผู้คนเพียงไม่กี่กลุ่ม แล้วคนที่ไม่มีอะไรดำรงชีวิตเลยมีมากขึ้น

               และคงต้องมีหลายอย่างที่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

               นึกถึงคำพูดของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา  ที่ท่านตอบว่า โลกเราจะเปลี่ยนไปอย่างไร  ท่านบอกว่า  "ไม่บอกว่าโลกจะเป็นอย่างไร  แต่ผู้คนในโลกจะรักกันมากขึ้น"

               

    สวัสดีครับ มาเยี่ยมทักทายครับอาจารย์
    จิตสาธารณะหรือตจิตอาสา ผมว่า
    สังคมไทยมีมานานมากแล้ว
    แต่เป็นสมัยที่เทคโนโลยีไม่เจริญอย่างนี้นะครับ
    การสร้างโรงเรียน การสร้างรั้ว สร้างบ้าน
    ช่วยกันทั้งนั้นครับ ด้วยความมีน้ำใจแบ่งปันกันครับ
    สังคมปัจจุบันเปลี่ยนไปเป็นสังคมที่ต้องแลกเปลี่ยน
    ไม่รู้จักพอเพียงครับ ผมเห็นด้วยกับโครงการนี้ครับ
    อยากให้เป็นบรรยากาศสมัยคุณปู่ คุณย่า คุณตา
    คุณยาย ที่ทุกคนยังไม่มีมือถือนะครับ เมื่อเทคโนโลยีเจริญไปแล้ว แต่สิ่งที่สังคมไทยเราคาดหวัง
    ก็คือวัฒนธรรมไทยที่สั่งสม ถ่ายทอดมาก็คือ
    ความมีน้ำใจครับ ชวยเหลือซึ่งกันและกัน
    โดยมีความสุขใจ แม้นไม่จำเป้นต้องเงินทอง
    แต่เป้นกำลังกาย กำลังใจ ช่วยเหลือกันในสังคม
    ก็มีความสุขแล้วครับ จะทำให้สังคมเราเป็นสังคม
    ที่มีแต่น้ำใจกัน ผมก็อยากเห็นวันนั้นครับ

    สวัสดีค่ะ

    P

    ดีใจมากที่คุณอุบลเข้ามาแลกเปลี่ยนความเห็น

    พยาบาลเป็นวิชาชีพที่น่ายกย่องมากที่สุดอาชีพหนึ่งค่ะ

    การเป็นพยาบาลที่ดี  ต้องเป็นคนที่มีพื้นฐานจิตใจที่ดีเป็นสำคัญ มีเมตตาสูง และ มีจิตอาสามากๆจริงๆ  เพราะการเป็นพยาบาลมีโอกาสในการติดเชื้อต่างๆสูง    ตลอดจนความลำบากในการทำงาน  และมีชั่วโมงทำงานสูงด้วย

    สมัยก่อนพยาบาลไทยเคย  ไปทำงานในสหรัฐอเมริกามายาวนานไม่น้อยกว่าฟิลิปปินส์ แต่ช่วงนี้ ขาดตอนไป   อาจเป็นเพราะพยาบาลไทยมีทางเลือกมากขึ้น    จึงไม่ต้องจากบ้านไปทำงานไกลๆอีก 

    สวัสดีค่ะ

    P

    ดีใจที่คุณสุมิตร เข้ามาเติมเต็มให้กับบันทึกนี้  โดยบอกว่า......

     ในทางการเมืองแล้วผมว่าการเปลี่ยนแปลงอำนาจครั้งนี้ก็มีคุณูประการหลายอย่าง เรื่องนโยบายที่เน้นการพัฒนาสังคม

    ค่ะ ท่ามกลาง ความสับสนวุ่นวาย ก็มีบางสิ่งที่พอจะจรรโลงจิตใจพวกเราได้บ้างนะคะ คือมีการพยายามผลักดันและพัฒนา เรื่องจิตอาสา และจิตสาธารณะ  เด่นชัดมากขึ้นในสังคมไทย  เรียกว่า ไม่แย่เสียทีเดียว

    เมื่อวันที่ 30 มกราคมปีนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติว่า "การให้และการอาสาช่วยเหลือสังคมเป็นวาระแห่งชาติ"

    ซึ่งมีประเด็นหลักๆ เพื่อส่งเสริมและผลักดันความดีที่เป็นรูปธรรมให้เกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน

    โดยทุกภาคส่วนร่วมกัน ทุกภาคส่วนนี้มีทั้งภาครัฐ ภาคสังคม และภาคธุรกิจ ภาครัฐกำลังปรับมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการให้และงานอาสาสมัครเพิ่มมากขึ้น

    รูปธรรมแรกที่เห็นชัดเจนขึ้น เช่น การอนุญาตให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐลาไปทำงานอาสาสมัครโดยไม่ถือเป็นวันลาได้ 5 วันทำการ นั่นหมายถึงการเปิดโอกาสให้คนของรัฐเองได้สัมผัสกับการให้และอาสาช่วยเหลือผู้อื่นด้วยตัวเองเพิ่มขึ้น

    คุณสุมิตร ได้ใช้สิทธิลาตรงนี้แล้วหรือยังคะ

    P
    สวัสดีค่ะ

    หายไปนานเลยค่ะ คงงานยุ่ง ดีใจที่มาเยี่ยมและ บอกความรู้สึกว่า......

    วัฒนธรรมไทยที่สั่งสม ถ่ายทอดมาก็คือ
    ความมีน้ำใจครับ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
    โดยมีความสุขใจ แม้นไม่จำเป้นต้องเงินทอง
    แต่เป็นกำลังกาย กำลังใจ ช่วยเหลือกันในสังคม
    ก็มีความสุขแล้วครับ จะทำให้สังคมเราเป็นสังคม
    ที่มีแต่น้ำใจกัน ผมก็อยากเห็นวันนั้นครับ

    ดิฉันคิดว่า คนไทยทุกคน อยากได้วันเก่าๆกลับคืนมาค่ะ แต่ที่จริง ในขณะนี้ เราก็ยังมีวัฒนธรรมนั้นอยู่นะคะ เพียงแต่ น้อยลงไปหน่อย

     ตอนนี้ เราต้องรวมพลัง สร้างความรัก และต้องอยู่กันให้ได้อย่างมีประโยชน์สุข   ต้องสร้างความดีให้เกิดแก่เราเอง ครอบครัว และหมู่คณะก่อน  ใช้อะไรพอควร พอดี ไม่โลภ รู้จักการแบ่งปัน เจือจานคนอื่นๆด้วย    เมื่อมีคนทำอย่างนี้มากเข้าๆ ดิฉันว่า สังคมก็จะดีขึ้นค่ะ

    ได้ทราบว่ามีโครงการดีๆเกิดขึ้นในขณะนี้ คือ

    โครงการ  "แทนคุณแผ่นดิน" จัดขึ้นเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าูุ่่อยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และ เนชั่น กรุ๊ป ฉลองครบรอบ 36 ปี

    โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ส่งเสริมและกระตุ้น จิตสำนึกใหเ้กิดการทำความดี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน อันเนื่องมาจากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ในทุกๆครั้งที่มุ่งเน้นให้ทุกคนทำความดี เพราะคนทำความดีเพียงหนึ่งคน ก็จะสามารถทำให้สังคมดีขึ้นได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างแบบอย่างการทำความดีเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน

    วัตถุประสงค์หลักโครงการแทนคุณแผ่นดิน

    1. เฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา
    2. ร่วมกันทำความดีตามกระแสพระดำรัชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    3. สนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่เน้นในเรื่องของการสร้างคุณธรรมในสังคม
    4. เพื่อให้ทุกคนเล็งเห็นถึงคุณค่าของการทำความดี
    5. ส่งเสริม และกระตุ้นจิตสำนึกให้เกิดการทำความดีในสังคม
    6. มอบรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ทำความดี
    7. สร้างแบบอย่างในการเป็นบุคคลที่ทดแทนคุณแผ่นดินให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ

    อัตชีวประวัติผู้ที่ได้รับรางวัลแทนคุณแผ่นดิน

    สาขาการศึกษา
    ศ.ดร.เกษม วัฒนชัย

    สาขาสังคม
    พระครูอลงกต ติกขปัญโญ

    สาขาการเงินและนาคาร

    ดร.มารวย ผดุงสิทธิ์

    สาขาสิ่งแวดล้อม

    คุณสุรพล ดวงแข

    สาขาสาธารณสุข

    รศ.น.พ.สภา ลิมพาณิชยการ

    สาขาพลังงาน

    คุณเกษม จาติกวานิช

    สาขาศิลปวัฒนธรรม

    คุณโดม สุขวงศ์

    สาขาเกษตร

    ลุงจาง ฟุ้งเฟื่อง

    สาขาคมนาคมขนส่ง

    นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ

    สาขาวิทยาศาสคร์

    ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย

    สาขาอุตสาหกรรม

    คุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา
    วันนี้ดิฉันไปธุระที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับแจก Corporate Governance Updates ----CSR Progressและได้ทราบข้อมูลว่า

     คณะทำงานส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของบริษัทจดทะเบียน จะได้รวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะสำหรับการปรับปรุงคู่มือก่อนจัดพิมพ์เผยแพร่ต่อไป (คลิกเพื่ออ่าน "เข็มทิศธุรกิจเพื่อสังคม" ฉบับร่าง)

    โดยได้สรุปไว้ในตอนท้ายของฉบับร่างนี้ว่า......

     คณะทำงานส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของบริษัทจดทะเบียน เล็งเห็นว่า การส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดทุนไทยมี CSR ไม่เพียงแต่จะเกิดประโยชน์ในด้านการแข่งขันทางธุรกิจเพื่อตอบรับกับกระแสโลกเท่านั้น แต่ผลของการมี CSR ยังจะช่วยให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน และผู้ที่มีส่วนได้เสีย (stakeholders) ได้รับประโยชน์ในระยะยาว จึงได้จัดทำเอกสารฉบับร่าง เข็มทิศ ธุรกิจเพื่อสังคม ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางและหลักการ CSR เบื้องต้น รวมถึงแหล่งข้อมูลเพื่อเข้าถึงองค์ความรู้ในเรื่อง CSR โดยมุ่งหวังจุดประกายให้ผู้ที่ศึกษาข้อมูลจากเอกสารนี้ นำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อดำเนินการในเรื่อง CSR ต่อไป

     ขอเพิ่มข้อมูลเรื่องการบริจาคเพิ่มเติมค่ะ

    เรื่อง "จิตอาสา" หรือการให้และอาสาช่วยเหลือสังคมนั้น ถ้าเราไม่สะดวกจะทำกิจกรรมนั้นๆเอง    เรายังสามารถบริจาค  ซึ่งก็เป็น "การให้" ในอีกรูปแบบที่ทำได้ไม่ยาก

    ในทางภาษีนั้นเราสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2% จากรายได้ทั้งหมดมาเป็นค่าบริจาค

    แต่จากสถิติที่มีอยู่ในประเทศเราปัจจุบัน บริษัทห้างร้านต่างๆ ส่วนใหญ่ยังบริจาคไม่ถึง 2% ด้วยเหตุผลหลายประการ เป็นต้นว่ามีทางเลือกในการบริจาคที่หักภาษีได้น้อย

    ซึ่งตอนนี้มีความพยายามเพิ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ให้เราเลือกช่วยเหลือได้มากขึ้นกว่า 600 องค์กร (http://www.rd.go.th/publish/29157.0.html)

     หรือถ้าไม่มั่นใจว่าจะบริจาคเข้าองค์กรใดดี เราอาจจะบริจาคเข้ากองทุน กสค. (กองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นกองทุนกลางใช้ในการช่วยเหลือสังคมก็ได้ (กองบริหารกองทุน กสค. โทร.0-2306-8695)

     ไทเกอร์ วูดส์และบิดา ได้จัดตั้งมูลนิธิ ไทเกอร์ วูดส์ เมื่อปี 1996 เพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสสากลด้วย

    AREAS OF FUNDING  -  Updated February 8, 2006

    Tiger Woods Foundation grants focus on providing opportunities to underserved youth, ages 5-17.  The average grant range is between $2,500 and $25,000.  The following are approved programmatic areas of funding:

              ถ้าประเทศไทยมีคนที่มีจิตสาธารณะมาก ๆ ก็จะดีสังคมจะมีการแบ่งปัน แต่ปัจจุบันจะมีแต่คนที่มีจิตเห็นแก่ตัวเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างดีก็ขยายออกไปถึงครอบครัวเท่านั้น  ความจริงเราต้องปฏิบัติดีปฏิบัติชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อหน้าที่การงานและต่อสังคมถึงจะสมบูรณ์ เราคงต้องช่วยกันปลูกฝังกันต่อไป

    นาย สุพจน์ น้อยจินดา

    สวัสดีค่ะคุณสุพจน์

    คุณสุพจน์บอกว่า.......ถ้าประเทศไทยมีคนที่มีจิตสาธารณะมาก ๆ ก็จะดีสังคมจะมีการแบ่งปัน แต่ปัจจุบันจะมีแต่คนที่มีจิตเห็นแก่ตัวเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างดีก็ขยายออกไปถึงครอบครัวเท่านั้น  

    ก็เป็นความจริงที่คุณสุพจน์ กล่าวค่ะ แต่ตอนนี้ ประเทศเรา เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้มากขึ้น

     มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น  เกิดเครือข่ายทางสังคม ขณะเดียวกันก็เริ่มมีจิตสำนึกสาธารณะมากขึ้นด้วยค่ะ

     โลกเรามีหลายปัญหา ทั้งปัญหาโลกร้อน ปัญหาต่างๆ มากมาย ทุกเรื่องเป็นเรื่องของสังคมไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป ตรงนี้จึงทำให้เกิดค่านิยมจิตสาธารณะขึ้นค่ะ

    มีการแบ่งปันกัน ใส่ใจกันมากขึ้น  คือ Care & share ค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณพี่ Sasinanda

    ด้วยกำลังใจดีๆที่ได้รับ จึงกลับมา ยิ้มสู้ ค่ะ

    อัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์มาฝากค่ะ

    อ๋อค่ะ

    สวัสดีค่ะ พี่P

    • ดีจังเลยค่ะที่มีเรื่องดีดีมาเล่าสู่กันฟัง
    • สังคมไทย และสังคมปัจจุบันต้องการจิตสาธารณะอย่างมากเลยนะคะ
    • ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างให้เยาวชนได้"ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน"
    • จิตสาธารณะตามกำลังและศักยภาพของตัวเองค่ะ และเห็นแก่ตัวให้น้อยลงค่ะ
       

    สวัสดีค่ะคุณหมอ  nithimar

    ไปอ่านแล้วค่ะ

    ก็ฟังหูไว้หูค่ะ อย่าประมาทดีที่สุดค่ะ

     

    สวัสดีค่ะคุณ. tuk-a-toon

    ตอนนี้ โลกก้าว ไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น

     ทุกคนมีการติดต่อกันมากขึ้น  เกิดเครือข่ายทางสังคม

    ขณะเดียวกันก็เริ่มมีจิตสำนึกสาธารณะขึ้น มองว่าโลกนี้ถ้าอยู่ด้วยกันอย่างนี้ ต่างคนต่างเห็นแก่ตัวคงไม่รอด ทั้งปัญหาโลกร้อน ปัญหาต่างๆ มากมาย

    ทุกเรื่องเป็นเรื่องของสังคมไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป

    จึงทำให้เกิดค่านิยมจิตสาธารณะขึ้น  ทำให้คนเปลี่ยนจากโลกที่ต่างคนต่างทำ มาสู่โลกที่มีการแบ่งปันใส่ใจกัน คือ Care & share"นั่นน่ะค่ะ

    สวัสดีค่ะ

    แวะตามมาขอบคุณสำหรับคำชื่นชมค่ะ โรงพยาบาลของหนูก็รับจิตอาสาในชมรมผู้สูงอายุเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลค่ะ คุณลุง คุณป้าที่เป็นจิตอาสาน่ารักทุกคนเลยค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณ somlek 

    เรื่องจิตอาสานี้เป็นเรื่องที่ดี น่าชื่นชมมากๆค่ะ
    สำหรับแพทย์และพยาบาลนี้ เป้าหมายที่ร่ำเรียนกันมา คงเพื่อมารักษาเยียวยามนุษย์ เป็นอุดมการณ์สำคัญ เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดีร่วมกันนะคะ รวมทั้งมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ทั้งแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยด้วย
    ปัจจุบันจึงมีการพุดถึง มิติทางอุดมการณ์ นี้มากค่ะ
    หัวใจความเป็นมนุษย์ต้องให้พัฒนาควบคู่กันไป ทั้งเทคโนโลยีและอุดมการณ์

    ผม และน้องๆ 50 คน ได้ร่วมกันสร้างฝายชะลอนำ ที่อำเภอนำขุ่น จ. อุบล

    เมื่อ 1-2 สค ที่ผ่านมา แม้ไม่มีงบ ก็ทำด้วยใจ พวกเราทุกคนทำด้วยใจครับ ภูมิใจมากที่ได้ทำตามแนวพระราชดำริขององค์พ่อหลวง

    เพราะอยากเป็นตัวอย่าง ให้ผู้ใหญ่ที่รอแต่งบ รอแต่งบ พวกเราไม่มีงบ แต่ก็ทำได้ครับ

    สวัสดีค่ะคุณป้า

    โรงเรียนของหนูมีกิจกรรมนักเรียนจิตสาธารณะ

    ฝึกกันทั้งโรงเรียนค่ะ

    ขอให้คุณป้ามีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

    ดีใจแทนประเทศไทยที่ยังมีคนไทยที่เป็นคนไทยที่ดีอยู่

    สวัสดีค่ะคุณต้น เด็กอุบล
    ค่ะเห็นด้วยๆ ที่ไม่มีงบสร้างฝายชะลอนำ ที่อำเภอนำขุ่น จ. อุบลได้ เพราะทำด้วยใจ น่าภูมิใจมากค่ะที่ได้ทำตามแนวพระราชดำริขององค์พ่อหลวง

    สวัสดีค่ะน้องนัท 
    สบายดีค่ะ หนูก็รักษาสุขภาพนะคะ ตอนนี้ฝนตกมากทุกวัน เดี๋ยวก็จะเข้าฤดูหนาวแล้วค่ะ

    คุณ คนไม่แสดงตนคะ

    คุณบอกว่า..ดีใจแทนประเทศไทยที่ยังมีคนไทยที่เป็นคนไทยที่ดี
    จริงๆคนไทยดีๆ มีน้ำใจ มีมากมายนะคะ มีมากกว่าคนที่ไม่เห็นแต่กับตัวเองมากค่ะ
    ในภาพรวมของทั้งโลก  ก็เปลี่ยนไป  จากที่เคยมองแต่ตัวเอง เป็นมองคนอื่นด้วยมากขึ้นค่ะ  คงมาจากการที่โลกก้าวไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น ทุกคนแสดงออกมากขึ้น เกิดเครือข่ายทางสังคม
     ขณะเดียวกันก็เริ่มมีจิตสำนึกสาธารณะขึ้น มองว่าโลกนี้ถ้าอยู่ด้วยกันอย่างนี้ ต่างคนต่างเห็นแก่ตัวคงไม่รอด ทั้งปัญหาโลกร้อน ปัญหาต่างๆ มากมาย ทุกเรื่องเป็นเรื่องของสังคมไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป
     ตรงนี้จึงทำให้เกิดค่านิยมจิตสาธารณะขึ้นค่ะ

    สวัสดีค่ะ

    ต้องการเข้าไปร่วมเป็นจิตอาสา แค่ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ

    ใครมีประสบการณ์ฃ่วยแนะนำด้วยค่ะ ทุกโครงการ

    ครูบุญฟ้า ลิ้มวัธนา

    สวัสดีผู้ที่มีจิตอาสาทุกท่าน

    คนเราเกิดมาแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสที่จะเกิดในชาติต่อไปหรือไม่ ดังนั้นเราควรทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่คำว่า "ดีที่สุด" ของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกัน สำหรับทัศนะของดิฉันคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต คือ การมองเห็นตัวตนของตัวเอง และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนนั้นควรทำเพื่อให้เกิดสมดุลแก่ตนเองและสังคม ดิฉันคิดว่า ใจรักที่บริสุทธิ์ และพร้อมที่จะมอบให้แก่ทุกคนนั้นเป้นสิ่งที่ควรเสริมสร้างในเด็กและเยาวชน เพราะเขาเป็นพื้นฐานการสร้างชาติให้มั่นคงและเข้มแข็ง

    ดิฉันขอขอบคุณมวลชนทุกท่านแทนคนทั้งโลกที่มีจิตอาสาพร้อมที่จะสร้างโอกาสให้แก่ทุกคน และขอยกย่องด้วยใจ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท