แค่ปรับมุมการคิด ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว


“You are what the way you think”
 

      “You are what the way you think” คุณคิดยังไง คุณก็จะเป็นอย่างนั้น       มันเป็นเรื่องที่เรารู้และเข้าใจกันดี แต่มักลืมไปเสมอ ว่ามุมมองความคิดของตัวเราเองนั้นมันบังคับรูปแบบชีวิตเราได้    เอาง่ายๆ แค่การคิดทางลบ (Negative thinking) กับการคิดทางบวก (Positive thinking)

เรื่องธรรมดาๆ ที่คนเรามักจะลืมนึกถึงมันไป การที่เราจะสร้างมุมมองความคิดต่อสิ่งใดนั้น เราเลือกได้อยู่แล้ว แต่ทำไมไม่เลือกคิด เลือกมองด้วยมุมที่ก่อให้เกิดความรื่นรมย์แก่ชีวิตกันล่ะ     มีเรื่องจะเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเรื่องที่เพื่อนได้ส่งต่อมาให้ทางอีเมล หาต้นเรื่องไม่ได้ว่ามาจากไหน แต่ก็ต้องขอขอบคุณ คุณคนแรกที่เล่าเรื่องนี้ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า

      มีมหาเศรษฐีคนหนึ่ง สุดแสน จะภูมิใจที่ลูกชายวัยห้าขวบของเขากำลังจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดัง ซึ่งระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาเท่านั้น   จึงจะมีปัญญาส่งลูกหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวของเขาเอง ก็อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในโลกควบคู่ไปกับการสอนทฤษฎีในโรงเรียน      ในวันหยุด เขาจะตระเวนพาลูก-ชายคนเดียวไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แล้ววันหนึ่งเขาก็คิดถึงหัวข้อการสอนเรื่อง ความยากจน เพราะเขามีความเชื่อว่าลูกชายของเขาคงไม่มีวันรู้จักแน่นอน เขาจึงพาลูกชายไปเยี่ยมครอบครัวชาวนาครอบครัวหนึ่ง และพักอยู่กับชาวนาเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน       

เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ของเขาแล้วในวันต่อมามหาเศรษฐีก็ทดสอบว่าลูกชายได้อะไรบ้างจากการไปพักแรมกับชาวนาผู้ยากจน ลูกชายตอบคำถามของผู้เป็นบิดาว่า เขาขอบคุณพ่อเป็นอย่าง-มากที่พาเขาไปพบกับชาวนา และพักแรมที่นั่น ซึ่งทำให้เขาได้พบว่า..    

ชาวนานั้น มีที่ทำงานเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่ ในขณะที่พ่อมีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่ว่ากว้าง แต่ก็ยังน้อยกว่าห้องทำงานของชาวนา และอาหารที่ชาวนากินนั้น สามารถหาได้ตลอดเวลา รอบๆ บริเวณบ้าน ไม่ต้องไปซื้อหา ในขณะที่บ้านของเรามีเพียงตู้เย็นเท่านั้นที่เป็นที่เก็บใส่อาหาร…..     เวลากินอาหารก็มีเพื่อนคุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่และลูก ในขณะที่ตัวเองก็ต้องนั่งกินอาหารโดด-เดี่ยวกับโต๊ะอาหารที่ยาวเกือบสิบเมตรและมีเก้าอี้ว่างเปล่าทั้งสองด้าน..

ลูกของชาวนาที่ซ้อนท้ายจักรยานของพ่อเขาต้องกอดเอวพ่อให้แน่นๆ เพื่อจะได้ไม่ตกจากจักรยาน ตัวเขาเองต้องนั่งในรถยนต์ที่ใหญ่โตอยู่ข้างหลังเพียงลำพังโดยมีคนขับรถพาไปทุกที่....       

ชาวนามีแสงดาว แสงจันทร์เป็นโคมไฟส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาในตอน กลางคืน โดยไม่ขาดแคลน แต่เขามีเพียงแสงจากโคมไฟที่ต้องซื้อหามาด้วยเงิน..ชาวนามีรั้วบ้านเป็นแม่น้ำ ภูเขา  ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แต่เขาเองกลับมีเพียงแค่กำแพงอิฐบล็อกที่คลุมพื้นที่ไม่กี่ไร่…..     

ลูกชาวนามีเพื่อนเล่นมากมาย  เป็นจิ้งหรีด หิ่งห้อยนับร้อยนับพันตัว    แต่เขาเองกลับไม่มีใครเป็นเพื่อนเลยเขาขอขอบคุณพ่ออีกครั้งที่ทำให้เขารู้คำตอบว่า...จริงๆ แล้ว...เรายากจนกว่าชาวนามาก     

ที่มา ...เสมานารี  

(จากหนังสือ คู่สร้างคู่สม ปีที่ 28 ฉบับที 568 มิ.ย ทศ 1 2550) 

http://www.koosangkoosom.com/pages/column_detail.asp?hidID=22&hidArticleID=941   

หมายเลขบันทึก: 136779เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2007 21:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • มายิ้มๆๆ
  • บางทีเรามองกลับกัน
  • มองในแง่ดี
  • สามารถพลิกสถานะการณ์ได้เหมือนกัน
  • แบบว่าเหรียญยังมีสองด้านเลยครับ
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆๆ
  • แวะมาอ่านเรื่องดีดีค่ะ
  • มุมมองเปลี่ยน...มุมคิดก็เปลี่ยน....
  • เปลี่ยนมุมมองก็เปลี่ยนมุมคิด...ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว..ขอบคุณค่ะกับเรื่องเล่าดีๆ
  • สวัสดีค่ะ
  • อ่านแล้วก็อึ้งมาก
  • ให้ข้อคิดจริง สมกับชื่อบันทึกนี้จริง ๆ เลยค่ะ
  • คนเรามองต่างมุมเยอะค่ะ ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องเดียวกัน แต่คิดไม่เหมือนกันค่ะ
  • ดีใจที่ได้อ่านบันทึกดี ๆ ค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์

   เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากครับ

   มุมของความคิด...

   เพราะว่าเคยมีประสบการณ์เรื่องการพยามเปลี่ยนมุมมองความคิดครับ  ถ้าเราผ่านมาได้ก็จะมีสิ่งที่ดีตามมามากมายเลยครับ

   อยากแลกเปลี่ยนหลายๆอันครับ

   คือเปลี่ยนลบเป็นบวกก็เป็นพื้นฐานนะครับ

   แต่ว่ามีมุมมองหลายอย่างที่เราอาจจะต้องหาให้เจอแล้วรับรู้เพื่อเปลี่นแปลง

  และสิ่งที่สำคัญตามมาคือ  รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร  อาจจะยังไม่ดีที่สุดและก็ดีกว่าเดิม  และเปลี่ยนเพิ่มไปเรื่อยๆครับ

   ขอบคุณครับ

  • ตามมาขอบคุณ
  • อยากให้ทำงานแบบที่เรามีความสุข
  • ค่อยๆๆทำที่จุดเล็กๆๆแล้วจะไปจุดใหญ่ๆๆ
  • ขอให้มีความสุขกับการทำงานครับผม

สวัสดีค่ะ P P

ทุกวันนี้ถ้าเรามองกลับมุม  ชีวิตคงจะมีแต่ความรัก ความหวัง และกำลังใจค่ะ

ขอสวัสดี คุณGutjangP และ อ.ราณี P อีกครั้ง เมื่อกี้ยังทักทายไม่หมด เผลอกด ไปก่อนค่ะ

เชื่อว่า การคิดดี ทำดี ต้องได้ดีค่ะ หนูจะพยายามบอกตัวเองเสมอเมื่อเกิดอาการท้อแท้ หมดกำลังใจ พยายามคิดแนวบวก แล้วกำลังใจก็จะมาค่ะ

ตามมาขอบคุณอาจารย์ค่ะ...ยินดีต้อนรับสู่เมืองปายอีกครั้งค่ะ..ขอบคุณค่ะ

ครูแอนจ๋าP

งาน English camp ครั้งนี้เสียดายที่ไม่สามารถไปร่วมด้วย แต่จะหาโอกาสไปให้ได้...อยากไปโรงเรียนของครูแอน อยากไปลองลิ้มส้มตำหน้าอำเภอ อยากไปดูบ้านดิน อยากนั่งละเลียดกาแฟที่เห็นในรูปร้านนั้น...อยากไปนับดาวที่เมืองปายค่ะ...ไว้เจอกันค่ะครูแอน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท