คนดอย
นาย ทวีสิน ฉัตรเฉลิมวิทย์

i-Movie


ดูหนัง แล้วย้อนดูตัวเรา

จากวันเวลาที่ผ่านมา เป็นคนชอบดูหนังมาอยู่แล้ว จึงได้รวบรวมรายชื่อหนังที่เหมาะสมกับการนำมาดูกัน เรียนรู้ไปกับมัน ทั้งที่เขาตั้งใจและไม่ตั้งใจ ซึ่งก็แล้วแต่ภูมิปัญญาของแต่ละคนและก็แต่ละเวลาด้วย ซึ่งการดูแต่ละครั้ง การเรียนรู้ของเราก็ไม่เหมือนกัน การดูซ้ำๆกัน ก็ไม่ใช่ว่าจะได้อะไรซ้ำๆกัน เพราะเราเรียนรู้ตลอดชีวิต

Download รายชื่อหนังและบทวิพากษ์ ไม่ได้วิจารณ์ คลิกที่นี่ครับ

Movie+banner1

Movie+banner2

Movie+banner3

Movie+banner4

คำสำคัญ (Tags): #edutainment
หมายเลขบันทึก: 109800เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2007 09:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 00:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)
ผม เห็นด้วยกับที่วิพากษ์ไว้ ส่วนใหญ่ แต่ก็อาจมีแง่มุมอื่นที่แทรก อยู่ในหนังเรื่องนั้นๆอีก และก็ยังมีหนังอีกหลายๆเรื่องที่ให้แง่คิดกับเรา 
  • ขอบคุณมากครับ
  • มีหลายเรื่องที่น่าดูมาก
  • สงสัยต้องไปหามาดูแล้ว
  • สบายดีนะครับ
  • ฝากบอกเจ้าตัวเล็กด้วยว่าน่ารักมาก
  • สวัสดีครับท่านทวีสิน
  • ขอบคุณมากครับสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่จัดมาให้กันแบบเป็นแพ็กเกจ ทั้งหนัง หนังสือ เพลง เกม ฯ ฮ่าๆๆ

แนะนำเรื่องอื่นเพิ่มเติม ตามความเห็นของผม

- Hero ภาพยนตร์จีน ของจางอี้โหมว

       ให้แนวคิดเรื่อง ภาวะผู้นำ

        สื่ออารมณ์ของหนังผ่าน สีต่างๆ

- Lords of the Ring

         นำมาประยุกต์ใช้สอนด้านการจัดการ ในประเด็นของ Vision ,Mission ได้ดี

          สอดแทรก แนวคิดของพุทธ ผ่านตัวละคร เช่น สมีโก (จิตใจของมนุษย์ ด้านบวก ด้านลบ)

ผมมีหนังที่ชอบที่ได้ดูในปี ๒๕๔๙ ตามนี้
๑. Only Yesterday หนังการ์ตูนของ Studio Ghibli ที่เนื้อหาถูกใจ เพลงประกอบมาถูกที่ ถูกเวลา เลยได้ใจไปเต็มๆ
๒. Click : Sometimes when there's a conflict between work and family, choose family.
๓. The Village Album หนังที่เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูป ที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกที่มีพัฒนาการ เรื่องนี้ขอชอบคู่กับ Always : Sunset on third street (๔)นะ แบบว่าได้อารมณ์คล้ายกัน
๕. เด็กโต๋ และ ๖. My Date with Drew เรื่องของคนมุ่งมั่นและทำตามความฝันสองคน กับหนังทำมือ (ทำแบบหนังสือทำมือ) โดยเฉพาะน้องป๊อบถึงกับไปเรียนด้านนี้มาเลย ขอชื่นชม
๗. Crash ดูแล้วนึกถึงหนังสือ หลายชีวิต และ กว่าจะถึงท่าพระจันทร์ มีคนหลายคนมาเจอเหตุการณ์ร่วมกันจนได้ และร้อยเรียงต่อเนื่อง ไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นพระเอก เพราะทุกคนมีทั้งความดีความเลวปนๆ กันไป
๘. The Constant Gardener รักแท้ต้องอย่างนี้
๙. TransAmerica ถูกใจมาก เพลงเพราะ เนื้อเรื่องดี
๑๐. Seasons Change หนังไทยดีๆ

ปี ๒๕๕๐ ชอบ Cars, Little Miss Sunshine, Final Score และ music and lyrics

ส่วนหนังในดวงใจตลอดกาล คือ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑, Infernal Affair, Pretty Woman และ Dead Poets Society

หนังบางเรื่องใช้อารมณ์ในการดูจึงชอบ บางเรื่องสอนอะไรเราบางอย่าง บางเรื่องดูอีกรอบสอนเราอีกแบบครับ

Share ตามนี้ครับ

แล้วหนังในดวงใจเราเรื่องอะไรบ้างครับ จะหามาดู

บทสังเคราะห์หนังเรื่อง "Crash" อ่านได้จาก บันทึกของคนไร้กรอบ

เป็นหนังในดวงใจของผม อีกเรื่องหนึ่งเลยครับ

พี่ทวีสิน นกขอแนะนำละครญี่ปุ่นเรื่อง one litre of tears ค่ะ บางทีเราอาจจะไม่ต้องถามตัวเองว่าเกิดมาเพื่ออะไรเมื่อวันที่เราเจอปัญหาชีวิต หรือวันนี้เราเจอเรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกข์แสนสาหัสในชีวิตของเราจริงหรือ? ลองดูนะค่ะ

ขอแนะนำหนังสือ เพื่อค้นคว้าหาหนังมาดูกัน ส่วนหนึ่งในการแสวงหาหนังมาดู มาตกผลึกความรู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ส่วนหนึ่งผมหามาจากหนังสือเล่มนี้ครับ ลองหามาเป็นหนังสืออ้างอิงกันนะครับ

%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a2

ผมหาซื้อมาได้จากร้านหนังสือ หมอชาวบ้าน อยู่ซอยตรงข้ามโรงแรมกานต์มณี ถนนประดิพันธ์ ครับ หน้าปากซอยมีร้าง7/11

วันนี้ขอแนะนำหนังที่กำลังเข้าโรงภาพยนต์ ซึ่งมีคนไปดูมาแล้ว ได้จุดเรียนรู้ซึ่งน่าสนใจมากๆครับ

Ratatouille_teaserposter

ภาพยนต์การ์ตูนเรื่อง Ratatouille ของ Walt Disney ร่วมกับ
Pixar แล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนูตัวหนึ่งมีความปรารถนาอย่างลึกล้ำที่จะเป็นพ่อครัว
ในโลกของมนุษย์ที่เกลียดและกลัวหนูเป็นอย่างมาก
 
อยากเชิญชวนให้เพื่อนๆทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่มีลูก หลาน หรือ ท่าน
ที่เป็นกรรมการเกี่ยวกับ Change Program ในกิจการของท่านได้มีโอกาสไปชม
ภาพยนต์ชุดนี้ ผมมั่นใจว่าท่านจะได้แง่คิดดีๆจากภาพยนต์มากในเรื่องของ
 
    Change Management
    Mental Modeling
    Courage & Discourage
    Expertise vs General NEWS reporters
 
    แต่ถ้าให้สรุปในประโยคเดียวก็ขอสรุปว่า
    "Changing process will be firmly installed by your mentality."
 
    เป็นภาพยนต์ที่ ลูกๆหลานๆ น่าจะได้มีโอกาสไปชมร่วมกับ คุณพ่อคุณแม่ คุณน้าคุณลุง
จะเป็นการดีมากครับ จะดีกว่าไปดูกับเพื่อนๆของเขามาก

หนังที่จะแนะนำเรื่องต่อไปนี้ได้มาจาก อาจารย์หมอ JJ ครับ เป็นเรื่องที่กำลังหามาดู แค่ดูรายละเอียดของหนังก็อยากดูมากๆครับ น่าจะเอามาเป็นตัวสะท้อน ในการสร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนบางคนได้

(งานนี้คงต้องหาคนช่วยอัดจาก UBC ซะหน่อยแล้ว)

Something+the+lord+made

หนังดีจาก HBO เรื่อง Something The Lord Made วึ่งได้รางวัล Emmy ถึง ๔ รางวัลในปี ๒๐๐๔ JJ ได้ดูสองครั้งประทับใจ

หนัง TV เรื่องดีที่ควรดูเป็นภาพยนตร์สร้างจากเรื่องจริง เป็นเรื่องของชาย ๒ คน ซึ่งแตกต่างกันด้วยความรู้ คนหนึ่งเป็นนายแพทย์ Alfred Blalock (แสดงโดย Alan Rickman) ซึ่งเป็นนายแพทย์ผิวขาว ส่วนอีกท่านหนึ่งเป็นช่างเทคนิคทางการแพทย์ Vivien Thomas (Mos Def เล่นบทนี้) ท่านเป็นแอฟริกัน-อมริกัน ผิวดำ ซึ่งมาจากช่างไม้อาชีพ และเปลี่ยนมาทำงานสายแพทย์
       
       ทั้งคู่ได้สร้างทีมที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง โดยร่วมกันผ่าตัดผู้ป่วยของพวกเขา ที่รู้จักกันในชื่อ blue babies ซึ่งป่วยด้วยโรคที่เรียกว่า congenital heart defect ซึ่งมีอิทธิพลเปลี่ยนสีผิวของเด็กให้กลายเป็นสีคล้ำ ซึ่งฝรั่งใช้คำว่า blue แทน เหตุเพราะเลือดในหัวใจเดินไม่สะดวก เป็นความบกพร่องทางหลอดเลือดหัวใจ
       
       ภาพยนตร์เรื่องนี้ แสดงให้เห็นถึงการทำงานของคนสองคน ที่ประสานความร่วมมือกันเป็นทีมชั้นยอด ซึ่งคนในทีมมีความแตกต่างกันอย่างมากมาย ทั้งเรื่องการศึกษา คนหนึ่งเป็นแพทย์อีกคนเป็นช่าง
       
       อัลเฟรด บัลล๊อค คนเป็นหมอได้รับการศึกษามาอย่างดีเยี่ยม มาจากครอบครัวที่มั่งคั่ง มีตำแหน่งแห่งที่เป็น head of surgery หรือหัวหน้ากลุ่มศัลยกรรมของ Johns Hopkins Hospital ส่วนวิเวียน โธมัส คนเป็นช่างได้รับการศึกษามาอย่างจำกัด เติบโตจากสังคมผู้ใช้แรงงานและยากจน
       
       ที่สำคัญที่สุดคือ ความแตกต่างกันในสีผิว เป็นแพทย์เป็นคนขาวส่วนอีกคนหนึ่งผิวดำ

Good+will+hunting

สนใจอ่านสิ่งที่ได้สะท้อนออกมาจากการดูหนังเรื่องGood will hunting โดยอาจารย์วรภัทร์ ได้ที่บันทึกนี้นะครับ Good will hunting

ขอแจมเรื่องใน List ครับ เรื่งอ Life is beautiful อ่านได้ที่นี่ครับ

http://gotoknow.org/blog/preephati/116903

 Good Will Hunting ก็ชอบครับ อ่านที่

http://gotoknow.org/blog/preephati/78008

 

 

%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%a5%e0%b9%8c%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b8%81

ท่านอาจเป็นคนหนึ่งที่เคยดูหนังเรื่องนี้มาแย็ว!! ต่อมน้ำตาแตก(แห่งการเสียดายตังค์)  โปรดฟังทางนี้ครับหากใครเคยดู มาแล้ว คงจะรู้สึกเสียดายตังค์กันมาแล้ว สำหรับความคาดหวังว่าจะตลกกระจาย ..แตกแตน ด้วยองค์ประกอบของตัวแสดงที่เป็นแม่เหล็กดึงดูด จูงให้คิดและคาดหวังดีกรีความตลก
    • แต่ หากใครยังไม่ดู หรือคนที่ดูแล้วไม่ตลก ผมอยากเสนอมุมมองของหนังในอีกมุมหนึ่งครับ ไม่ใช่ว่าจะแนะนำให้ดูสาระ แต่ต้องบอกว่า เป็นการบังเอิญที่ผมได้ดูการสัมภาษณ์ของผู้กำกับ และผลงานที่ผ่านมาของผู้กำกับ คนนี้ (นายเรียว กิตติกร) ว่าคงไม่ต้องการขายความตลกอย่างเดียวเป็นแน่ แค่บทสัมภาษณ์ ส่งท้าย ตอนที่ผมได้ดู ก็สร้างความสนใจให้ผมอยากติดตามหนังเรื่องนี้ (ไม่ใช่ความตลก)
      • พิธีกร ถามทำนองว่าจะฝากอะไรสำหรับหนังเรื่องนี้
      • นายเรียว ตอบว่า ผมอยากให้คนไทยไม่ทะเลาะกันเออ เอากับมันซิ งง กันไปเป็นแถว โน๊ตและซูโม่กิ๊ก ต้องมาอธิบายให้ฟัง ว่าคนบางคนอธิบายไม่เป็น เดี๋ยวผมอธิบายให้ เป็นงันครับ

ก็นั่นและครับ จึงอยากแนะนำหนังเรื่องนี้ให้ดูกัน โดยโปรดลดความคาดหวังความตลก และเปิดช่องสาระสะท้อนสังคม สะท้อนชีวิต ความเป็นมนุษย์ ของพวกเราลง แล้วจะได้เห็นสิ่งที่เขาอยากจะสื่อในอีกมิติหนึ่งครับ อาจจะถือว่าเรื่องนี่เป็นระดับน้องๆหนังเรื่อง Crash เลยก็ได้นะครับ

สติมาปัญญาเกิด 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท