หนูนิด เขียนบันทึก ก่อร่าง..สร้างฝัน..ที่หนองสรวง..คำตอบ..จาก น.เมืองสรวง ในการ F2F ของหนูนิด
มีข้อสงสัยจากผู้ที่ติดตามงานของคุณอำนาจ แสงสุข (น.เมืองสรวง) ตั้งแต่หนังสือ ก่อร่าง สร้างฝันฯ ข้อมูลข่าวคราวของเขาที่ปรากฏใน blog และบันทึกเรื่องราวของหนูนิด ที่มีโอกาสไปพบกับคุณอำนาจ ซึ่งได้รับพลัง แนวคิด แนวทางจากคุณอำนาจ มาแบบเต็มๆ
สงสัยว่า เธอจะทำตามความฝันที่ตั้งใจไว้ได้ดีกว่า พวกเขา(ผู้ตั้งคำถาม) ที่มีโอกาสได้เพียงแค่ติดตามคุณอำนาจ แต่ไม่มีโอกาสได้เจอตัวจริง เหมือนหนูนิด หรือไม่??
ในสภาพความเป็นจริง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐหลายท่าน ทำงานในลักษณะนี้ ไม่ค่อยจะสำเร็จ เพราะติดในขั้นตอนและกรอบของทางราชการ แต่กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน NGO กลับทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่า เพราะมีการเชื่อมโยงสร้างเครือข่าย, มีความคล่องตัว และไม่มีกรอบที่เป็นอุปสรรคขวางกั้น
ถึงแม้จะลงมือทำตามความฝันตามข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งความไม่พร้อม ความขาดแคลนปัจจัยต่างๆ แต่ก็ตั้งใจที่จะทำออกมาอย่างดีที่สุด เพราะมีแรงขับดันที่สูง และพยายามลงมือทำด้วยวิธีการในแบบของตัวเอง
ในกรณีของหนูนิด หากเข้าถึงหรือสร้างเครือข่าย รู้จักผู้คนมากขึ้น สามารถเข้าถึงข้อมูล ได้รับความคิดเห็นดีๆ เคล็ดลับ เทคนิควิธีการต่างๆบวกกับความกระตือรือร้น จะมีโอกาสทำได้สำเร็จมากกว่า
แต่ละวัน นอกจากภาระหน้าที่การงานประจำที่มากมายอยู่แล้ว ความฝัน ความต้องการที่นอกเหนือจากหน้าที่การงาน ย่อมต้องหาเส้นทางเดินไปสู่จุดหมายของความฝันบนเงื่อนไข ปัยหาและอุปสรรคต่างๆที่พบเห็นในปัจจุบัน
เรื่องของตาเหรียญ หมอดินผู้ยิ่งใหญ่ แรกเริ่มก่อตั้งโรงปุ๋ย จุดหมายปลายทางของความฝันที่อยากทำ เป็นได้ทั้งการพัฒนาศักยภาพ, ฝีมือ เนื้องาน การถ่ายทอดความรู้สู่คนรุ่นต่อไป ฯลฯ
การได้รับความรู้ แนวคิดจากหลายคน หลายแหล่งข้อมูล คล้ายกับคัมภีร์ คู่มือที่เป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จ แต่คงจะไปลอกแบบมาทั้งหมดไม่ได้ เพราะเงื่อนไขในการเดินไปสู่เป้าหมายนั้น มีหลายอย่างที่แตกต่างกัน ตั้งแต่
- อุปสรรคและสภาพปัญหา
- เงื่อนเวลา
- สภาพเศรษฐกิจ
- ปัจจัยเอื้อ ปัจจัยเสริม
- จุดแข็ง จุดอ่อน
- ทุนทางสังคม และข้อมูล
<h2> แต่ต้นแบบเหล่านั้น สามารถศึกษาถึงวิธีคิด วิเคราะห์แนวทางการทำงาน เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับสิ่งที่ตนเองอยากทำและใฝ่ฝันไว้</h2>
ความจริงแล้ว ที่เขียนบันทึกนี้ เนื่องจากเด็กตลาดโต้รุ่งกาฬสินธุ์ตั้งคำถามเชิงเปรียบเทียบมาว่า ทั้งตัวผู้ถามและหนูนิด ได้อ่านหนังสือก่อร่าง สร้างฝัน และยึดแนวทางของคุณอำนาจ แต่หนูนิดมีโอกาสมากกว่าที่ได้เจอคุณอำนาจตัวจริงเสียงจริง เมื่อเป็นแบบนี้ ใครจะทำตามความฝันได้ดีกว่ากัน??
ความจริงแล้ว การมองเห็นผลงานที่สำเร็จตามเป้าในวันนี้ ย่อมต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางสู่เป้าหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งจุดแห่งความสำเร็จของแต่ละคนก็ต่างกันอีก คนแรกอาจพอใจว่า ทำได้เพียงเท่านี้ พอแล้ว แต่อีกคนกลับมองว่า ยังไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่หวังไว้
เมื่อมองดูคนที่ตั้งคำถามมาถามนายบอน
เป้าหมายที่เขาอยากทำ คล้ายๆกับการทำหนังสือ ก่อร่าง สร้างฝัน นั่นคือ การเผยแพร่แนวความคิด ข้อมูลสู่สาธารณะ ให้ผู้อ่านเกิดความรู้ เกิดแรงกระตุ้น ผลักดันให้ผู้ที่มีความคิด ความฝันคล้ายๆกัน นำไปคิดต่อ ต่อยอดสร้างผลงานเพื่อสังคมต่อไป อย่างน้อยก็ไม่อยากจะให้แนวคิดที่ดีๆ ตายไปกับตัวเอง
การบ่มเพาะแนวคิดในแบบของคุณอำนาจ เมื่อได้จังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ทั้งเจ้าของแนวคิด และผู้รับแนวคิด มีโอกาสได้มาพบกัน เพิ่มเติมเต็มแนวคิด ร่วมเครือข่าย ร่วมมือกัน หรือเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำได้
นั่นคือ เป้าหมายที่ผู้ถาม อยากจะทำ … เขาอยากเป็นคุณอำนาจ แสงสุข ในตำบลของเขา เป็นผู้ที่จุดประกายความคิด ความฝันให้คนอื่นๆต่อไป เหมือนที่คุณอำนาจ สามารถจุดประกาย เติมพลังให้หนูนิด และอีกหลายๆคนได้
กรณีของผู้ถาม เป้าหมายเริ่มที่ตัวเองเพื่อเขย่าสังคมที่เขาอยู่
แต่ในกรณีของหนูนิด อาจจะมีเป้าหมายอยู่ที่ตาเหรียญ หมอดินแห่งบุรีรัมย์
ถึง คุณบอน
ผมว่าปราชญ์ชาวบ้านอย่างตาเหรียญ ยังมีอีกมาก ครับ ถ้าเรามีคนอย่างนี้มากๆก็คงสร้างคลังความรู้ได้มหาศาล
กัมปนาท
ถูกต้องแล้วค่ะ หนูนิดนำความคิดของ น.เมืองสรวง มาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่ตาเหรียญ และนั่นก็คือความสำเร็จของหนูนิดเองด้วย