จากความพยายาม และการทำงานอย่างไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก นายเหรียญ เจียมทอง เกษตรกรดีเด่นสาขาการพัฒนาที่ดิน คนนี้ ได้สร้างเครือข่ายเกษตรกรผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เอง จากจุดเล็ก ๆจุดนี้ ทำให้เกิดเป็น "วิสาหกิจชุมชน กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์บ้านกอกโคก" ได้รับการจดทะเบียนเมื่อกลางปี 2549
การดำเนินงานของกลุ่มฯ ภายใต้การนำของนายเหรียญ เจียมทอง ได้ยึดประธานกลุ่มเป็นตัวหลักในการดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งทำให้ตาเหรียญ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เฉพาะต้องดำเนินงานในกลุ่มฯ อย่างเดียว หน้าที่หมอดินตำบล และหน้าที่พ่อบ้าน ดูแลคุณยายสุดที่รัก ซึ่งเป็นต้อกระจก (แต่ตอนนี้ได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่ยังไม่แข็งแรงดี) ตาเหรียญ ได้รับกำลังใจจากเครือข่าย ในการสร้างผลงานเป็นอย่างดีเยี่ยมเพราะด้วยนิสัย เอื้อเฟื้อ ใจเย็น ขี้เกรงใจ ซึ่งเครือข่ายทำปุ๋ยอินทรีย์ของตาเหรียญ จะมีทั้ง ครูนักเรียนโรงเรียน ชาวบ้าน ในเขตอำเภอคูเมือง ทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง
สำนักงานเกษตรอำเภอคูเมือง ได้คัดเลือกกลุ่มปุ๋ยอินทรีย์บ้านกอกโคกเข้ารับการเลือกจาก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึ่งกลุ่มปุ๋ยที่จะส่งไปให้คณะกรรมการคัดเลือกนี้ต้องจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนแล้ว
กลุ่มที่สนง.เกษตรอำเภอคูเมือง คัดเลือกก็จะมีอยู่ 3 กลุ่มด้วยกันคือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มปุ๋ยอินทรีย์บ้านกอกโคก (โดยนายเหรียญ เจียมทอง หมอดินอาสาประจำตำบลคูเมือง อ.คูเมือง เป็นแกนนำ)
กลุ่มที่ 2 กลุ่มปุ๋ยอินทรีย์บ้านผักกาดหญ้า (โดยนายนิพนธ์ ชัยประวัติ หมอดินอาสาประจำตำบลพรสำราญ อ.คูเมือง เป็นแกนนำ)
กลุ่มที่ 3 กลุ่มปุ๋ยอินทรีย์บ้านหินเหล็กไฟ (โดยบุญสัน จิมพละ หมอดินอาสาประจำตำบล หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง เป็นแกนนำ)
ทั้ง 3 กลุ่มต่างขับเคี่ยว ที่จะนำผลงานในกลุ่มเสนอ เพื่อความต้องการอย่างเดียวกันคือ โรงปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด
ตาเหรียญ ในฐานะตัวแทนของกลุ่มเป็นแกนนำหลัก ได้รับความกดดันเป็นอย่างมาก ในการคัดเลือกครั้งนี้ เพราะกลุ่มได้ฝากความหวัง ก่อสร้างโรงปุ๋ยอัดเม็ด ไว้ที่ตาเหรียญแต่ผู้เดียว คิดว่า ตาเหรียญ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ผู้คนรู้จักมากมาย ดังไปทั่วประเทศ และต่างประเทศ
ตาเหรียญ ซีเรียสมาก รู้สึกกดดัน และกังวล อยากได้โรงปุ๋ยฯอัดเม็ดให้แก่พี่น้อง แต่ไม่รู้จะนำเสนอผลงานยังไง เพราะทางเกษตรอำเภอ หรือสถาบันวิจัยฯ ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเลย ไม่ทราบว่าต้องเอาผลงานตรงไหนยังไง ณ ตอนนี้ตาเหรียญ หลุดออกไปจากวงในของสถานีพัฒนาที่ดินแล้ว ไม่ใช่งานของหมอดินแล้ว แต่ตาเหรียญ ไม่รู้จะไปพึ่งใคร
และแล้วก็ใกล้วันที่กรรมการจะเดินทางมาถึง ในอีก 3 วันข้างหน้า (15 ธ.ค. 49 ) ตาเหรียญได้เดินทางมาหาหนูนิดที่ทำงาน บอกว่านัดกับคุณวิญญูไว้ จะปรึกษาเรื่องที่สถาบันวิจัยจะเดินทางมา หนูนิดมองเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของตาเหรียญ ก็เลยถามว่า "ตาเหรียญ ไม่พักหน่อยเหรอ มันหนักนะตาเหรียญ " ตาเหรียญบอกหนูนิดว่า "วันที่ตาพัก คือวันที่ได้นอนในกล่องสี่เหลี่ยมแคบๆ นะแหละ " หนูนิด ได้ฟังตาเหรียญพูดอย่างงี้แล้วรู้สึกประทับใจมาก
หนูนิด และ คุณวิญญู (เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพัฒนาที่ดินเคลื่อนที่ 5 ดูและพื้นที่อำเภอคูเมือง ) ได้คุยกันหนูนิดบอกคุณวิญญูว่าทำไงดีล่ะ ถึงจะช่วยตาเหรียญได้ รู้สึกว่าตาเหรียญตั้งความหวังไว้มาก กลัวไม่ได้แล้วแกจะเจ็บ กลัวตาเหรียญจะท้อและไม่มีกำลังใจจะทำงานต่อ
คุณวิญญู บอกกับหนูนิดว่า สืบมาแล้วว่าอีก 2 กลุ่ม น่ะ ไม่มีการนำเสนอผลงานในรูปแบบรายงาน แต่ผลงานในกลุ่มเค้าก็แน่น
หนูนิดก็เลยบอกว่า งั้นเอาจุดด้อยของทั้ง 2 กลุ่ม มาทำให้เป็นประโยชน์แก่ตาเหรียญ โดยหนูนิด ทำรายงานนำเสนอเจ้าหน้าที่ที่มาให้ 20 เล่ม รูปภาพประกอบผลการดำเนินงานของกลุ่มฯบ้านกอกโคก บอร์ดผลงานของกลุ่ม เป็นอันว่าความคิดตรงกัน คุณวิญญูหาข้อมูล+ งบประมาณดำเนินการ ส่งข้อมูลต่อให้หนูนิด ซึ่งใช้เวลาทำงานให้ตาเหรียญ อยู่ 2 วันเต็มๆ ซึ่งหนูนิดไม่มีเวลาเตรียมตัวที่จะไปอบรม GIS ที่ม.เกษตรฯ เลย แต่เพื่อตาเหรียญ หนูนิดยอมสู้ตาย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วช่วยกันมาตั้งแต่ต้น แล้วจะมาตายตอนจบได้ไง
และแล้ว คณะกรรมการจากสถาบันวิจัยฯ ก็เดินทางมาถึง ครั้งแรกแจ้งมาว่าจะมาตรวจที่กลุ่มบ้านกอกโคกเป็นที่สุดท้าย แต่ ที่ไหนได้มาเป็นกลุ่มแรก จนคุณวิญญู เจ้าหน้าที่สนามของเรา เกือบตาย หนูนิดไม่ได้ออกไปช่วยค่ะ เป็นศาลพระภูมิ เฝ้าศาล นานๆ ถึงจะมีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการขอเป็นการส่วนตัวกับหัวหน้า นำเจ้าแม่ข้อมูล (ฉายาคุณวิญญู ตั้งให้) ออกพื้นที่
ตรวจครั้งแรก ผ่านไป ผลการตรวจประเมิน ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ มาก ตาเหรียญทำงานพรีเซ็น อีกค่ะ
วันที่ 23 ธ.ค. หลังจากที่หนูนิด กลับมาจากอบรมฯ ตาเหรียญเข้ามาหาที่สำนักงานแล้วบอกว่า "นิด สำเร็จแล้ว"
กลุ่มปุ๋ยอินทรีย์บ้านกอกโคก ได้เฮ คุณศิริพร วรดิถี เจ้าหน้าที่ศูนย์เทคโนโลยีปุ๋ย (ศทป.) สถาบันวิจัยฯ ได้โทรเข้ามือถือตาเหรียญ ว่ากลุ่มปุ๋ยอินทรีย์บ้านกอกโคกได้รับคัดเลือกให้ได้รับการจัดตั้งโรงปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด ในงบประมาณ 570,000 บาท เย้! สุดยอดเลยตาเหรียญ และให้ตาเหรียญเตรียมเอกสารไว้สำหรับเซ็นต์สัญญากับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
แทบจะน้ำตาไหลค่ะ ไม่คิดเลยว่า จะได้ เพระคู่แข่งทั้ง 2 กลุ่ม มีหลายเหตุผลมากที่เค้าจะชนะกลุ่มตาเหรียญ (ความลับค่ะบอกไม่ได้) และแล้วตาเหรียญก็นำความสำเร็จเข้าสู่ชุมชนอีกครั้ง
ติดตามการเซ็นสัญญาก่อตั้งโรงปุ๋ยอัดเม็ดต่อนะค่ะ
อ้อ และก็เคล็ดไม่ลับค่ะ ได้รับอนุญาตจากตาเหรียญแล้วให้เผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้สนใจแล้วค่ะ
ไม่มีความเห็น