บันทึกที่เขียนสอดรับกันได้ เหมือนเครื่องดนตรีต่างชิ้น ย่อมจะสนุกทั้งคนอ่าน และคนเขียน เหมือนคนเล่นดนตรี และคนฟัง ที่รับรู้ได้
หยิบมาจาก
การเขียนบันทึกขยายความ ในแบบคู่ขนานระหว่างบล็อกซึ่งจะสังเกตรูปแบบใหม่ในการเขียนบันทึกที่สอดรับระหว่างกัน เหมือนการรับส่งลูกเล่น ระหว่างกัน
ในมุมมองของคุณหมอสมบูรณ์นั้น การที่คน 2 คนเขียนดูจะเป็นการส่วนตัวมากไป เพราะทำให้คนอ่าน เกิดความรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ที่ที่บุคคลอื่นจะร่วมเขียนความเห็นได้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างคน 2 คน
“ถ้ามี 4 คน ช่วยกันเติมเต็ม โดยหา theme ที่ทั้ง 4 คน สนใจและมีประโยชน์ต่อผู้อ่านที่สนใจจะเข้ามาแลกเปลี่ยนด้วย ถ้าสามารถทำได้ ผมคิดว่าเป็น นวตกรรมใหม่ ในการเขียน
บันทึกได้เลยครับ” คุณหมอสมบูรณ์เสนอมุมมองมาแบบนี้
แม้ว่าท่านจะไม่ได้บ้าเอฟโฟร์ (f 4) แต่คงจะได้รับอิทธิพลจากลูกหลาน หรือ คนรอบๆตัว ถึงได้ยกตัวอย่างที่เลข 4
ในหลายๆบันทึก ที่มีคนเขียนความเห็นมากมาย มากกว่า 4
แต่นั่นคือการตอบรับความเห็นต่อบันทึกนั้น ไม่ใช่เติมเต็มเนื้อหาให้กับบันทึกนั้นมากนัก
บันทึกใน gotoknow ไม่มีประเด็นที่มากนักที่บันทึกหนึ่งจะเติมเต็มเนื้อหาได้อย่างที่คุณหมอสมบูรณ์ นอกจากประเด็นที่ทุกคนมีส่วนร่วม เกิดความรู้สึกเดียวกัน ในประเด็นเดียวกัน
แน่นอน ประเด็นนั้น คือ เรื่องที่เกี่ยวกับ gotoknow นั่นเอง ตั้งแต่เรื่องของการตกแต่งบล็อก เรื่องของรางวัลแห่งความมุคณค่าต่างๆ กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และกิจกรรม KM ต่างๆ ที่หลายคนต่างเขียนประสาน สอดคล้องกันไป
แต่ในแบบ บล็อกออฟโฟร์ จากประเด็นหนึ่ง เขียนต่อยอดจนเป็นบันทึกอีกประเด็นหนึ่ง แล้วเขียนต่อไปเรื่อยๆ แตกประเด็นไปเรื่อยๆ ให้แง่มุมใหม่ๆ คนเขียนบล็อกต้องมีความเอาใจใส่ และละเอียดรอบคอบพอสมควร
ที่สำคัญ มีความกระตือรือร้น พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ ทุกแห่ง ทุกบันทึก
ต้องยอมรับว่า ครูอ้อย เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความสามารถในส่วนนี้ครับ สามารถที่จะจุดประกาย และสามารถที่จะดึงหลายท่าน ร้อยรัดความผูกพัน จนเกิดการแลกเปลี่ยน สร้างสานสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นยิ่งขึ้น
ส่วนนายบอนนั้น ก็มักจะบันทึกเรื่องต่างๆ ไปตามรูปแบบของตัวเอง ในแบบแบ่งปันเป็นหลัก ซึ่งเนื้อหาต่างๆ หลายท่านก็ไม่รู้ว่าจะเขียนความเห็นอย่างไรดี
แถมหลายท่าน ไม่กล้าคลิกอ่านบันทึกของนายบอน เมื่อเห็นการตั้งชื่อบันทึกที่ดูน่ากลัวไปบ้าง
แต่ละท่านย่อมมีมุมมองที่แตกต่างกัน หลายท่าน มักจะชอบในการคลิกอ่านมากกว่า การที่บันทึกใน gotoknow มีมากมายหลากหลาย แค่คลิกเรื่องที่อยากจะอ่าน เปิดไปเรื่อยๆ ก็เพลินแล้วล่ะครับ
ส่วนข้อเสนอที่บอก "มี 4 คน ช่วยกันเติมเต็ม" นั้น อาจจะเป็นตัวเลขที่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้อย่างเหมาะสม ขนาดของกลุ่มไม่ใหญ่ หรือเล็กจนเกินไป หากมีการติดตามต่อยอดกันอย่างเกาะติด และจริงจัง ย่อมเกิด "นวตกรรมใหม่ ในการเขียนบันทึก"ได้อย่างแน่นอน
แต่หยิบยกจากมุมมองของครูอ้อย ที่ว่า
* ตอนที่เขียนมีจุดประสงค์เดียวค่ะคุณหมอ
* แต่ฟลุ้กมาเข้าแก๊พของคุณหมอคู่ขนาน
* อย่างนี้คุณบอนถนัด
* แต่ครูอ้อยขอยืนหยัดดูคุณหมอเขียนแหวกทางก่อนค่ะ บล็อกออฟโฟร์คงจะต้องเรียนรู้กันพอสมควร กว่าที่จะประสานสอดคล้องจนเป็นทีมเดียวกันได้ แม้แต่ครูอ้อยที่ดูน่าจะเข้าใจมากที่สุด ยังขอดูตัวอย่างจากคุณหมอสมบูรณ์เป็นการเริ่มต้น
เปิดดูบล็อกของคุณหมอสมบูรณ์แล้ว
ครูอ้อยจะเขียนต่อยอดได้หรือไม่
ความแตกต่างในการร่วมต่อยอดความคิดนั้น ควรจะออกมาในรูปแบบไหนดี??
หากแต่ละคนมีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจเหมือนกัน รู้จังหวะว่า จะรับ - ส่งลูก (ประเด็น) กันอย่างไร
บล็อกออฟโฟร์ที่ว่า จะมีสีสันและเพิ่มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
เหมือนการเล่นดนตรีเป็นวง เครื่องดนตรีคนละชิ้น มีโน้ต จังหวะ ทำนองที่สามารถเล่นสอดรับ ประสานกันได้
บันทึกที่เขียนสอดรับกันได้ เหมือนเครื่องดนตรีต่างชิ้น ย่อมจะสนุกทั้งคนอ่าน และคนเขียน
เหมือนคนเล่นดนตรี และคนฟัง ที่รับรู้ได้
บล็อกออฟโฟร์ = มีคน 4 คนช่วยเติมเต็ม
คุณหมอสมบูรณ์ เสนอมา ครูอ้อยรับลูก และบอกว่า นายบอนก็ถนัด
ตอนนี้มี 3 คน ยังไม่ครบ 4 ...
แล้วใครล่ะอีกคนหนึ่ง...