Beginning Camp (โครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนิสิตใหม่ ๒๕๕๐)
เมื่อวันที่ ๒๙ – ๓๑ พ.ค. ๒๕๕๐ องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดโครงการ
พัฒนาคุณธรรมจริยธรรมนิสิตใหม่ ๒๕๕๐ ขึ้น โดยในโครงการนี้นะครับ มีจุดประสงค์เพื่อ ปรับสภาพ เสริมความรู้
สร้างภาพลักษณ์ความเป็นมหาวิทยาลัยนเรศวรให้กับนิสิตใหม่
ซึ่งในโครงการนี้นะครับมีนิสิตเข้าร่วมโครงการกว่า ๖,๐๐๐ คน โดยจะแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น ๑๐ กลุ่ม และมีนิสิตรุ่นพี่กว่า ๓๐๐ คนคอยดูแลกิจการต่างๆ ของโครงการ ซึ่งนิสิตรุ่นพี่ทั้ง ๓๐๐ คนนั้นก็ต่อสายบังคับบัญชาขึ้นมาสู่ กรรมการองค์การนิสิตจำนวนไม่กี่สิบคน ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่สิบคนนั้น
. . . . . . (ดีใจครับ)
กิจกรรมภายในโครงการก็มีอาทิเช่น การบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวร การรับขวัญน้อง
การปรับคีย์เพลงและบูมของมหาวิทยาลัย สันทนาการ การบรรยายพิเศษจากวิทยากรต่างๆ
เช่น พันตรี วันชนะ สวัสดี (ผู้แสดงเป็นสมเด็จพระนเรศวร) และภายในโครงการสามวันสองคืนนี้ก็ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่มีประโยชน์อีกมากมาย
.....
.....
.....
.....
......
.....
ในโครงการนะครับ ด้วยความที่มีคนเยอะแยะ ปัญหาก็เยอะตามขึ้นมา ซึ่งก็ตามสายบัญชาการ ปัญหาทั้งหมดทั้งสิ้นก็ล้วนไหลมาลงยังกรรมการองค์การนิสิตแทบทั้งสิ้น มีประโยคหนึ่งครับ มีกรรมการคนหนึ่งพูดขึ้นในการประชุมสรุปงานของงานวันแรก ดึกแล้ว เที่ยงคืนกว่า เค้าพูดว่า “โดนด่าบ้าง ปวดหัวบ้าง ไม่ได้หลับไม่ได้นอนบ้าง เครียดบ้าง ท้อแท้ เซง แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างไร อุปสรรครึใครจะด่ามากแค่ไหน
พวกเราองค์การนิสิต เราก็ยังมีกัน จำไว้”
ตรงนี้แหละครับ คือเสน่ห์ของกิจกรรมนิสิต ในวันที่เหนื่อย อ่อนล้า ปัญหามากมายปวดกบาลจัด ได้มองตาทีมงานด้วยความเข้าใจ ได้พูดคุยกันยิ้มให้กัน ตรงนี้แหละครับที่ผมชอบใจมาก เป็นแรงบันดาลใจให้สู้งานสู้คนต่อไป
.....
......
งานกิจกรรมนิสิตเป็นงานอาสาครับ ไม่มีค่าจ้าง นิสิตเรียนเสร็จแล้วก็มาทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการสร้างประสบการณ์ สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ทีมงานองค์การนิสิต ผ่านกิจกรรมมา ๓ โครงการแล้วครับ
๒ Beginning Camp
๓ ไหว้ครู – บายศรี ลูกนเรศ ปกเกศสู่ขวัญ (ยังไม่ได้เขียนบทความ)
แล้วจะมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบนะครับ
......
สุดท้ายนี้ท่านผู้อ่านมีสิ่งใดแนะนำ ติชม อย่างไรเรียนเชิญครับ
Web ที่เกี่ยวข้อง
- วิดีทัศน์ประมวลภาพ (ฝีมือผมครับ อิอิ)
.......
ความเห็น (5)
น้องปืนครับ
ผมมาติดตามการทำงานของน้องอยู่บ่อยครั้ง ชื่นชมในความสามารถและวิธีคิดมาก
......
ผมเห็นว่าการเป็นนักกิจกรรมในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นสนามฝึกฝนให้กับตนเอง ได้กำไรหลายเท่านัก เมื่อเทียบกับการเพื่อมุ่งเข้าไปศึกษาอย่างเดียว
โลกนักกิจกรรมในมหาวิทยาลัยเป็นโลกใบเล็กแต่จำลองโลกใบใหญ่ ปัญหาที่มีคล้ายกันกับข้างนอก
บ้านเมืองเราตอนนี้ยุ่งเหยิงเหลือเกิน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ดูเหมือนจะเกิดขึ้นซ้ำซาก บ่อยๆ เรื่องราวที่รุนแรงที่สุดก็เห็นจนชินตา...เห็นมั้ยเล่าครับว่า ท้ายที่สุดแล้วการมุ่งสู่อำนาจเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ใช้ปัญญา(หรือใช้น้อย) และความจริงใจ ปัญหาไม่มีทางหมดไป มีแต่จะเพิ่มพูน
ผมให้กำลังใจน้องปืน หน่อกล้าอ่อนๆที่ฟูมฟักในแหล่งเพาะชำที่มีคุณภาพ เยาวชนของชาติเหล่านี้เป็นเสมือนความหวังที่จะช่วยเหลือบ้านเมืองเราในอนาคต ที่มีเจตนาที่บริสุทธิ์ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองเราอย่างจริงจัง
น้องปืนมีโอกาสในการเรียนรู้กับผองเพื่อน ปลูกฝ้งอุดมการณ์ที่ดีในระหว่าง การเรียนรู้ตลอดเวลาของนักกิจกรรม
หากเรารักบ้านเรา ...(ทุกคนบอกว่ารัก) ก็ต้องเป็นคนดีที่ช่วยกันทำให้บ้านเราอยู่ดีมีสุข ด้วยใจ และด้วยสองมือ
รักและศรัทธาครับ
ขอบคุณพี่จตุพร
- ผมมีเพื่อนมากมายในองค์การนิสิต มีจากหลายคณะ หลายนิสัย หลายความสามารถ
- นั่นหมายความว่าเมื่อผมจบออกไปแล้ว ผมก็มีตัวเลือกที่จะสามารถเรียกมาร่วมงานได้
- ผมเชื่อว่าทีมงานนี้จะเป็นกลุ่มที่มีพลังต่อไป เพื่ออะไรครับ เพื่อเป็นพลังในการสร้างสังคม
- ขอกำลังใจให้พี่จตุพรเช่นกัน และหวังว่าซักวันจะได้ร่วมมือกันสร้างสังคม น้อยคนครับจะมีอุดมการณ์เช่นพี่
ศรัทธาเช่นกัน
- ขอบคุณพี่มากครับ ตอนนี้ก็เสร็จไปอีกงานละ
- ไหว้ครูบายศรี
- เดี๋ยวจะลงให้อ่านนะครับ
คิดถึงทุกวัน