beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

เรื่องเล่า : ขึ้นรถผิดคัน..


เวลาขึ้นรถโดยสารทุกครั้ง..ที่เป็นเส้นทางที่ไม่เคยไป ต้องถามเส้นทางเดินรถกับคนตรวจตั๋วทุกครั้ง

    เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้..เคยเกิดมาแล้ว ๒-๓ ครั้ง แต่ก็ยังเกิดขึ้นได้อีก..เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่า..จะทำอะไรก็ตามควรสอบถาม...ให้แน่ใจเสียก่อน..ค่อยลงมือทำ จะได้ไม่เสียเวลา..

   เมื่อวาน (๒ มกราคม) ผมไปซื้อตั๋วเดินทางกลับพิษณุโลก ที่ช่องขายตั๋วของ บขส. บอกว่าจะไปลงพิษณุโลก..เขาบอกว่ามีเที่ยว ๔ ทุ่มเป็นรถปอ.๒ จะไปไหม...

   เนื่องจากเป็นเทศกาล ผมกลัวว่ารถทัวร์จะเข้ามารับคนไม่ตรงเวลา..จึงตกลงใช้บริการบขส...แต่ถามว่าผ่านหน้ามน.ไหม เขาบอกว่าผ่าน ผมก็ OK จ่ายสตางค์ไป ๒๑๕ บาท (ราคาตั๋ว ๒๑๖ บาท)

   ไปขึ้นรถที่ช่อง ๑๑๒ รถไปอุตรดิตถ์ ซึ่งปกติรถต้องผ่านพิษณุโลก..ส่งตั๋วให้พนักงานตรวจตั๋วก็ไม่มีอะไร...บอกให้นั่งแถวหน้าขวามือ พอได้เวลารถก็ออก...ถ้าเป็นปอ.๑ พอรถออกก็จะมีการถามว่าไปลงที่ไหน..แต่นี่ไม่มีถาม..ผมเลยคิดว่า พอใกล้จะถึงค่อยบอกพขร.ก็ได้

   รถมาแวะพัก..จอดให้ทานข้าวพักผ่อนที่อุทัยธานี ตอนตีหนึ่ง..พอผ่านนครสวรรค์ไปแล้ว ผมเห็นเส้นทางแปลกๆ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร..พอตีสามกว่าๆ รถเลี้ยวเข้าไปทางจังหวัดกำแพงเพชร..ก็รู้สึกแปลกๆ แล้ว..พอไปจอดที่บขส.กำแพงเพชร....ผมก็ถามพนักงานตรวจตั๋ว..ว่าไม่ผ่านมน.หรือ...เขาบอกว่าขึ้นรถมาผิดคัน..ต้องขึ้นคันที่ไปอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย...คันที่ตีคู่กันมาถึงนครสวรรค์

   แล้วแนะนำให้ผมไปลงที่สุโขทัย...พอรถมาถึงสุโขทัยตอนตีสี่ครึ่ง..เขาก็ช่วยถามหารถไปพิษณุโลกให้...ตกลงมีรถของวินทัวร์ไปพิษณุโลกตอน ๖ โมงเช้า..ก่อนจากไป คนตรวจตั๋วยังบอกอีกว่า..มีอีกคนขึ้นรถสลับคันกับผม..ยังไม่ทราบชตากรรมว่าจะไปต่อรถที่ไหน

   ผมก็เลยได้ดูข่าวรับอรุณที่ท่ารถบขส.จังหวัดสุโขทัย....ตกลงมีรถออก ๖ โมงเช้า แต่ผมดูข่าวเพลินไปจึงพลาดรถเที่ยว ๖ โมง ได้มารถเที่ยว ๖.๒๐ น.แทน ค่ารถ ๓๙ บาท มาลงแยกบ้านคลองตอน ๗.๓๐ น. รอรถอีก ๑๕ นาที รถสาย ๑๒ รอบนอกก็มารับ..เสียค่ารถ ๑๓ บาท..

   รถต้องอ้อมไปส่งนักเรียน พิษณุโลกพิทยาคม อีก ๑๐ นาที ทำให้กว่าจะเดินทางมาถึงมน.ได้ก็เลย ๘.๐๐ น.ไปแล้ว...แต่หลายคนที่ขึ้นรถคันนี้ก็มาทันเวลาทำงานพอดี

   บทเรียนที่ได้คือ

  • เวลาขึ้นรถโดยสารทุกครั้ง..ที่เป็นเส้นทางที่ไม่เคยไป ต้องถามเส้นทางเดินรถกับคนตรวจตั๋วทุกครั้ง..เพราะว่าคนตรวจตั๋ว..บางครั้งก็ตรวจลวกๆ...อย่างในครั้งนี้..มีคนขึ้นรถสลับคันกัน ๑ คู่ คือ ผมกับอีกคนหนึ่ง..
  • แต่บางครั้งคนตรวจตั๋วก็ไม่รู้เส้นทาง (เพราะมาแทนเขา) ถ้าให้แน่ใจต้องถาม พขร. ครับ
  • เส้นทางร่วมคือ จังหวัดนครสวรรค์....เราสามารถเปลี่ยนรถได้ทัน..ถ้าทราบก่อนถึงจังหวัดนครสวรรค์ครับ

BeeMan

BeeMan

หมายเลขบันทึก: 70628เขียนเมื่อ 3 มกราคม 2007 09:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 08:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

 คล้ายกับ จดหมายผิดซอง ของเพลงลูกทุ่ง

อ่านแล้วได้ข้อควรระวัง โดยเฉพาะรถไฟที่หัวลำโพง

นานๆไปขึ้นที หาขบวนแทบไม่เจอ แล้วก็ออกไล่ๆกัน

  • อ่านแล้วควรจะได้ "ข้อควรระวัง" ครับ..
  • สำหรับท่านที่ใช้บริการ รถทัวร์,รถไฟ
  • สอบถามผู้รู้ให้แน่ใจก่อนซื้อตั๋วเดินทาง (ซื้อผิดไม่รับคืน)
  • และเมื่อขึ้นรถแล้ว..ให้สอบถาม ท่านอื่นๆ อีก เพื่อให้แน่ใจ..ไม่ต้องกลัวเสียฟอร์มครับ
  • ขอบคุณ ท่านครูบาฯ ครับ

สงสัยถ้าเป็นแป้นคงนั่งร้องไห้แน่เลยค่ะ

เพราะขนาดนั่งรถเมล์ในกรุงเทพฯ แป้นยังขอร้องให้กระเป๋ารถช่วยบอกด้วยเมื่อถึงแล้ว กันไว้เผื่อขึ้นรถผิดสายเพราะไม่งั้นถ้านั่งผิดก็ไม่รู้จะกลับบ้านยังงัย

  • ถ้าหลงไปทางใต้ คงแย่แน่ๆ เลย เพราะแต่ละจังหวัดไกลๆ กันทั้งนั้น
  • สุโขทัยกับพิษณุโลก ห่างกันแค่ ๕๖ กิโลเมตรเท่านั้น..แต่ทางกำลังก่อสร้างเลยทำให้รถวิ่งช้า

เจริญพร อาจารย์

พอเห็นหัวข้อบันทึกของอาจารย์ ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาก็แล่นเข้าสู่คลองแห่งความคิดอีกครั้ง อาตมาก็เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้ แม้ว่าจะผ่านมา ๒๐ ปีแล้วก็ยังปรากฎเหมือนคล้ายๆ ว่าผ่านไปไม่นาน ดังนั้น จึงขอเล่าเพื่อแลกเปลื่ยนกันอ่าน

ราวปี ๒๕๒๙-๓๐ อาตมาเดินทางจากลำปางตอนเช้าตรู่ไปถึงสถานีรถโดยสารที่เชียงรายประมาณเที่ยงเพื่อจะไปร่วมปฏิบัติธรรมที่ อ.เชียงแสน (พระหนุ่มรูปเดียว แบกกลด สะพายสัมภาระขึ้นรถ) อาตมามองที่ป้ายบอกว่า อ.เชียงแสน เห็นรถจอดว่างอยู่ก็ขึ้นรถ เลือกที่นั่งด้านหลังใกล้ประตูเพราะคิดว่าจะไม่เป็นที่เกะกะคนทั่วไป

จากนั่นก็หลับตาตั้งสติไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าก็ "พุท" หายใจออกก็ "โธ" เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ สิ่งภายนอกก็รับรู้ด้วยใจว่า คนขึ้นรถเยอะแล้ว รถกำลังเคลื่อนที่ออกจากสถานี ขณะที่อาตมาก็ พูท-โธ, พูท-โธ..............ไปเรื่อยๆ ใจก็ค่อยๆ ดิ่งสู่สมาธิยิ่งขึ้นๆ...

ตุ๊ ตุ๊ มีเสียงดึงขึ้น (ตุ๊ เป็นคำเรียกพระภิกษุของชาวเหนือ) อาตมาลืมตาขึ้น กระปี้ (คนเก็บค่าโดยสารเป็นผู้หญิง) ก็ถามว่า ไปลงที่ไหน (ถามเป็นภาษาเหนือ อาตมาก็ไม่ค่อยเข้าใจ เค้าต้องถามย้ำเป็นภาษากลาง) อาตมาก็บอกว่า ลงเชียงแสน เค้าก็บอกว่า รถไปเชียงของ อาตมาก็บอกย้ำ (รถก็วิ่งไป คนก็เต็มรถ) ผู้โดยสารใกล้ๆ ก็เริ่มหันมามอง เป็นจุดสนใจภายในรถ (5 5 5) คยุกันหลายคำเพราะพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง (อาตมาคนใต้ กระปี้คนเหนือ ต้องพูดภาษากลางเพื่อความเข้าใจ 5 5 5) สรุปว่ากระปี้และผู้โดยสารใกล้ๆ ก็ค่อยๆ อธิบายว่าขึ้นรถผิด ให้นั่งรถกลับไปที่สถานนีแล้วขึ้นรถคันไปเชียงแสน ..เมื่อคุยกันรู้เรื่องแล้วกระปี้ก็ตะโกนบอกให้รถจอด อาตมาก็หิ้วกลดและสัมภาระพะรุงพะรังลงจากรถ ขณะที่ผู้โดยสารภายในรถหันกลับมาดูอาตมาเป็นจุดเดียวกัน หลายคนสงสัย บางคนก็บอกว่า พระขึ้นรถผิดคัน ประมาณนั้น 5 5 5

อาตมาลงข้างทาง มองดูรอบๆ คงจะเป็นชานเมือง พยายามตั้งสติ (พุท -โธ พักไว้ก่อน 5 5 5) ตอนนั้นคงจะราว ๑๓-๑๔ น. มองไปตรงข้ามมีเพิงขายน้ำอยู่ อาตมาก็เลยข้ามถนนไปยังที่ร้าน สั่งน้ำขวดมาฉัน ถามเจ้าของร้านว่าจะไปยังสถานีรถ เค้าก็บอกว่าไปรถสองแถวก็ได้ หลังจากพักฉันน้ำเรียบร้อยแล้ว มีรถสองแถวมา อาตมาก็โบกรถกลับไปยังสถานีที่เดิม...

ที่สถานีรถ อาจมีบางคนที่ขายของจำได้ว่าพระรูปนี้เคยเห็นตอนเที่ยง แต่ก็ไม่มีใครสนใจใครเพราะมีคนผ่านไปผ่านมาตลอด ...อาตมาไปสังเกตทีจอดรถก็เห็นว่า รถไปเชียงแสนกับเชียงของอยู่ติดกันนั่นเอง..และตอนนี้ก็มีทั้งรถไปเชียงแสนและเชียงของ ครั้งนี้ หลังจากตรวจสอบรอบตัวรถดูป้านหน้ารถเรียบร้อยแล้วด้วยความมั่นใจก็ขึ้นรถ ภายในรถมีหลวงตารูปหนึ่งนั่งอยู่แล้ว อาตมาก็เลยเข้าไปยกมือไหว้ขอนั่งด้วย สนทนากันรู้ว่าท่านไปปฏิบัติธรรมเข้ารุกมูลที่ป่าช้าบ้าน..(จำไม่ได้) นอกเมืองเชียงราย ค่ารถ ๒ บาทเอง และท่านชวนอาตมาไปด้วยเพราะที่เชียงแสนยังอีกหลายวัน อาตมาก็เลยเปลี่ยนใจลงไปกับท่าน....5 5 5

อาจารย์ครับ ประสบการณ์เรื่องนี้ คิดขึ้นมาก็ขำทุกครั้ง (อันที่จริงเรื่องยังยาวแต่พ้นประเด็นขึ้นรถผิดก็เลยพักไว้แค่นี้) ..

อาจารย์คงเคยอ่านและจำนิทานเวตาล ซึ่งพระเจ้าวิกรมมาทิตย์พาเวตาลมาจากต้นไม้ โดยสัญญากันว่าพระเจ้าวิกรมมาทิตย์จะต้องไม่พูดอะไรระหว่างทาง ขณะที่เวตาลจะเล่านิทานให้ฟัง...เพื่อนอาตมาอ่านเรื่องนี้ก็ได้คติว่า การเดินทางหนึ่งครั้งเหมือนการฟังนิทานหนึ่งเรื่อง...การขึ้นรถผิดคันของอาจารย์ครั้งนี้ ก็เหมือนการฟังนิทานหนึ่งเรื่อง ซึ่งเป็นนิทานแห่งชีวิตและเราก็เป็นตัวแสดงด้วย ...

ดังนั้น อาจารย์ควรจะภูมิใจที่ได้มีโอกาสฟังนิทานและเป็นนักแสดงนิทานไปด้วยในครั้งนี้นะครับ 5 5 5

เจริญพร 

 

  • อ่านเรื่องราวในอดีตของท่านพระอาจารย์ชัยวุธ...แล้วก็สนุกดีครับ
  • แต่ตอนนั้น..ผู้แสดงคงไม่สนุกเท่าไร
  • ส่วนเรื่องของผม..ได้ประสบการณ์ดีครับ..
  • ความจริงมีเรื่องทำนองนี้อีกที่...อิตาลีครับ
จะรอฟัง นิทานเรื่องหลงทาง หรือ หลงรถที่อิตาลี ของอาจารย์ค่ะ

=[]=

หนู ก็ เคย ขึ้น รถ คัน ผิด

แต่ ยัง ไม่ ถึง กับ เข้า ไป นั่ง :)

แถว เป็น รถ เพื่อน ห้อง เดียว กัน อีก เจอ กัน แซว ทุก วัน เลย !

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท