จากบันทึกวันเด็กแห่งชาติ ของท่านครูใหญ่โรงเรียนเซนต์นิโกลาส ซึ่งเล่าถึงกิจกรรมวันเด็กของโรงเรียน...ซึ่งดูคล้ายๆ กันในหลายๆ โรงเรียน

         แต่ที่ผมเห็นว่ามีสาระชวนคิด คือบทกลอนโต้ตอบระหว่างผู้อยู่ในแวดวงการศึกษาด้วยกันครับ...ผมเห็นว่ามีข้อคิดดีๆ ทั้งผู้เริ่มและผู้ตอบ จึงได้คัดลอกมาเพื่อต่อยอดดังนี้

1. ทนัน ภิวงศ์งาม เมื่อ ศ. 11 ม.ค. 2551 @ 17:33 516477 วันเด็กเด็กนั่นได้.......อะไร แจกห่อของขวัญไป....ใช่แล้ว คำขวัญนั่นปีใด.........ใครใส่ ใจนา เลยผ่านวันเด็กแล้ว.....ไม่แคล้ว เลือนหาย

2. สุรสิทธิ์ นมัสโก เมื่อ ศ. 11 ม.ค. 2551 @ 21:13 516711 วันเด็กเด็กนั่นได้       กุศล มากเลย เด็กใส่บาตรพระจน    ท่วมท้น คำขวัญท่านทวีผล     หากไม่ ละเลย รีบสั่งสมบุญล้น         อย่าได้  แชเชือน..

          ท่านทนัน ท่านบอกว่า วันเด็กในแต่ละปีนั้นเด็กได้อะไรไปบ้าง นอกจากความสนุกสนานและการได้ของขวัญ ซึ่งส่วนมากเป็นของกินและของเล่น ส่วนคำขวัญที่นายกรัฐมนตรี (สุรยุทธ์) ให้ในแต่ละปี พอพ้นวันเด็กไปแล้วก็จำไม่ได้....

          จากการที่ผมไปร่วมงานวันเด็กหลายปี ส่วนที่เป็นคำขวัญนี้ มักให้เด็กท่องไปตอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ใครตอบได้และตอบถูกว่า คำขวัญวันเด็กปีนี้ว่าอย่างไร..คนนั้นก็จะชนะและได้ของรางวัลไป...ผมไม่เคยเห็นพิธีกรคนไหนถามว่า....ในคำขวัญมีความหมายอย่างไร...หรือเด็กๆ จะนำไปประพฤติปฏิบัติได้อย่างไร

            ผมเห็นคำขวัญปีนี้ แล้วถูกใจมากเลย "สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม" เป็นจุดอ่อนของคนไทยในยุคนี้ คือ ขาดความสามัคคี, ขาดความมีวินัย, และไม่ค่อยใฝ่เรียนรู้ คือ พอจบจากระบบการศึกษาแล้วก็ไม่ค่อยหาความรู้เพิ่มเติม..ส่วนการเชิดชูคุณธรรมก็มักไม่ค่อยมี ส่วนมาเชิดชูคนมีบารมี คนมีอำนาจและคนมีเงินซะมากกว่า....

            คำขวัญวันเด็กปีนี้ ไม่แต่เด็กเท่านั้นต้องจดจำไปปฏิบัติให้ได้...ผู้ใหญ่ต้องทำให้เป็นตัวอย่างด้วย...ไม่รู้ว่าคนในรัฐบาลชุดรักษาการนี้..ตอนนี้ปฏิบัติได้แค่ไหน รัฐบาลใหม่ก็จะต้องทำให้เห็นเป็นตัวอย่างด้วย

            มาดูที่ท่านสุรสิทธิ์ ตอบบ้าง ท่านบอกว่าวันเด็ก เด็กได้ทำบุญ อย่างลูกผมคนหนึ่งก็ได้ออกเงินทำบุญให้วัดพระพุทธบาทน้ำพุ เป็นเงิน ๑๕๐ บาท เป็นเงินที่เขาได้รับจากมีผู้ให้แล้วเขาก็ไปทำบุญต่อ..เป็นเงินของเขาเองไม่ได้ขอจากพ่อหรือแม่ และจำนวนเงินที่เขาทำบุญเขาก็กำหนดเองไม่มีใครบอก ถ้าเด็กๆ ได้สั่งสมบุญ เขาก็จะได้บุญ...

           ผมคิดถึงช่วงที่น้ำมาท่วมโลก ซึ่งเกิดจากผลกระทบที่พวกมนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนในปัจจุบันและอนาคต....ปัจจุบันมีการผลิตบ้านที่สามารถอยู่บนดินและลอยน้ำได้...ช่วงที่น้ำมาท่วมโลก คนที่ทำบุญมากอาจรอดตายเพราะได้อยู่ในบ้านแบบนี้ก็ได้นะครับ...

           ส่วนถ้าเด็กคนใด นำคำขวัญที่ท่องจำกันไปสู่ทางปฏิบัติได้แล้ว..อนาคตของเด็กคนนั้นดีแน่นอนครับ......

            พูดถึงวันเด็กปีนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๑ แล้ว...อีกวันหนึ่งที่น่าจะพูดถึงก็คือ "วันครู" ครับ ซึ่งแต่และปีก็จะตรงกับวันที่ ๑๖ มกราคม...โรงเรียนส่วนใหญ่จะหยุดให้คุณครูได้ไปทำบุญหรือไปเยี่ยมคุณครูกัน...แต่ผมคิดว่า โรงเรียนน่าจะถือเป็นโอกาสให้เด็กได้ร่วมระลึกถึงบุญคุณของครูกันบ้าง

            สมัยก่อนพอถึงวันครู...นิสิตคณะศึกษาศาสตร์ที่ผมเคยสอนก็จะนำดอกกุหลาบมามอบให้..เดี๋ยวนี้นิสิตที่ผมสอนมีแต่คณะวิทยาศาสตร์ เลยไม่เคยได้ดอกกุหลาบอีกเลย...ใครได้อ่านบันทึกนี้..แล้วอย่าลืมส่งดอกกุหลาบมาให้ผมบ้างนะครับ (ส่งทางบล็อกครับไม่ต้องส่งของจริงมาหรอก..ส่งทางใจ..ครับ)

             ส่วนผมก็ถือโอกาสนี้ ส่งความระลึกถึง ไปถึงคุณครูทุกท่านที่เคยสั่งสอนผมมา ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน ภพไหน ขอให้ท่านมีความสุขมากๆ นะครับ....จากศิษย์..beeman

มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์   神奇的蜂爷   (shen2  qi2  de1  feng1  ye2)