บรรยากาศเป็นการพูดคุยอย่าง เปิดอก เปิดใจ ก็เพื่อปรับแนวทาง ปรับความเข้าใจ ของทั้งผู้ต้องการเรียนรู้ และผู้จะให้ความรู้ ให้ตรงกัน  เพื่อให้ผู้เรียนได้บอกเล่าเป้าหมายในการเรียนรู้ ให้ผู้ที่จะให้ความรู้สามารถประเมินตนเอง ประเมินผู้เรียน เพื่อวางแนวทางให้เหมาะสมตามเป้าหมายของผู้เรียนได้ เป็นเหมือนการ Share vision และวางแนวทางในการเรียนรู้ร่วมกันของผู้เรียนและผู้ให้ความรู้ เพื่อที่จะได้เกาให้ถูกที่คัน และเกาอย่างถูกวิธี

ในการเรียนรู้ด้วยการซึมซับแนวคิด รูปแบบและพฤติกรรมการทำงาน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ เป็นการเรียนรู้จากต้นแบบ และทดลองทำด้วยการลงมือปฏิบัติ ดังนั้น การเรียนลัดของ Extern ที่จะใช้การเข้ามาร่วมกับคน สคส. แบบเป็นครั้งคราว  แม้ว่าจะชดเชยด้วยระยะเวลา 6 เดือน แต่ก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะเข้าถึง feeling ในการทำงาน และเข้าในแนวคิดในการทำงานของคน สคส. ได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งประเด็นนี่ก็ทำให้เกิดความหนักใจอยู่ไม่น้อย...  แต่ดิฉันก็เห็นว่าจากหน้าที่รับผิดชอบในองค์กรที่จะต้องลงมือปฏิบัติทั้งในฐานะ "คุณอำนวย" "คุณประสาน" และบางครั้งก็ต้องเป็น "คุณลิขิต"  การเรียนรู้ในครั้งนี้แม้ว่าอาจจะซึมซับไม่ได้มากเท่ากับการเป็น Intern แต่ก็มีโอกาสที่จะได้ทำจริง นำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างทันทีทันใด ก็น่าจะส่งผลดีอยู่ไม่น้อย เพราะจะได้เรียนไป ปรับไป ทำไป คิดไป ปรับไป แล้วก็ทำไปอย่างนี้  สิ่งที่ซึมซับ ความรู้ที่ได้รับก็จะต่อยอดแตกหน่อเป็นช่อความรู้ ช่อประสบการณ์ ช่อทักษะ เพื่อที่จะได้ถ่ายทอดให้คนในสถาบันได้เรียนรู้ ซึมซับ และพัฒนาต่อไป 

ประเด็นหนึ่งคิดว่าที่ สคส. ให้ความสำคัญ คือ ที่มาสมัครนี้เป็นความต้องการของตัวเอง ของหัวหน้า หรือขององค์กร เพราะถ้ามาด้วยความต้องการขององค์กร ก็จะสามารถนำสิ่งที่ได้ซึมซับ ได้เรียนรู้กลับไปทำได้ง่าย...  ทำให้กลับมานั่งคิดต่อว่า การทำ KM ที่อ่านในตำรา ฟังจากกูรูแต่ละสำนักก็ว่า ผู้นำสำคัญนัก ก็น่าจะจริงอย่างที่ว่าไว้

ข้อคิดหนึ่งที่ได้รับจากการพูดคุย....อ.วิจารณ์ กล่าวว่า สคส. ไม่ได้เป็นกูรู เพราะจะกลายเป็นชาล้นถ้วย เป็นน้ำเต็มแก้ว เป็นการปิดกั้นการเรียนรู้สิ่งใหม่ไป ทำให้ดิฉันได้ย้อนคิดว่า  องค์กรประกอบด้วยคนซึ่งร่วมกันสร้างวัฒนธรรมองค์กร ถ้ายึดมั่นถือมั่นในคำนิยมว่าเป็นผู้รู้ ก็ไม่ต่างจากชาล้นถ้วย องค์กรก็จะไม่มีการเรียนรู้ ไม่พัฒนา.....ฉะนั้น ถ้าจะให้องค์กรมีการพัฒนาและเรียนรู้อยู่เสมอ จนกลายเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ก็จะต้องเริ่มที่เหตุ เริ่มที่คน ปรับและพัฒนาคนไม่ให้ยึดว่าตูรู้ ตูเก่ง.....  เมื่อคนดี องค์กรก็จะดีตามไปด้วย สิ่งที่ต้องทำต่อ คือจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างคนดีให้องค์กรต่อไป