อาจารย์ยม
อาจารย์ อาจารย์ยม บทบาทนักวิชาการ คือการชี้ทางสว่างให้สังคม นาคสุข

คำตอบ


ทฤษฎีปทัสถาน

thanaporn

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

KPI ของงานส่งออก

tiger

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

ลูกจ้างรายวัน

ึคนสุราษฎร์

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

กรณีนายจ้างเลิกจ้าง

สอบถามค่ะ

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

kpi

คนเล็ก

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

เซเว่น อีเลฟเว่น

สุกัญญา

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

การหาKPI

นนทพร

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

หน้าที่ของผู้จัดการมีอะไรบ้างครับ

สมศักดิ์

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

หนูทำงาน 8 เดือน

katoon

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ
not yet answered

เรื่องของอาชีพ

Daffodil

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

สำหรับคำถามนี้ ผมจับประเด็นได้ว่า 

ต้องการหาความหมายของคำว่า "อาชีพ"  ที่แน่นอน ผมตอบอย่างนี้ว่า ในโลกของการเปลี่ยนแปลง โลกยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ นี้  องค์ความรู้ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น การตลาด ไม่อยู่แค่ 4 P   การบริหารทรัพยากรมนุษย์ HRM เปลี่ยนมาเป็น การบริหารจัดการทุนมนุษย์ (Human Capital Management) คำจำำกัดความของ สรรพสิ่งต่างๆ ไม่มีคำจำกัดความที่ตายตัว มีนักวิชาการให้ความหมายของคำว่า "ความรู้" การจัดการความรู้ ไว้หลากหลายทฤษฎี อยู่ที่ว่า เราจะอ้างอิงถึงนักวิชาการคนไหน น๊ะครับ

 

คำว่าอาชีพเหมือนกัน  หากจะหาคำว่า "อาชีพ คืออะไร" ใน google มีเยอะแยะมากมาย 

ในความเห็นส่วนตัวของผม อาชีพหมายถึงงานที่ทำประจำ ทำด้วยความเชี่ยวชาญ ชำนาญ สามารถสร้างรายได้ เลี้ยงชีพได้

เช่น นาย ก. เลี้ยงปลา สวยงาม เป็น "อาชีพ" 

นาย ค. มีอาชีพ เป็นเกษตรกร

นาย ง. มีอาชีพ เป็นครู 

นาย จ. ทุกวันต้องออกไปหาปลาในทะเลเพื่อนำมาขายที่ตลาดปลา  นาย จ. มีอาชีพ "ประมง"

 

ครับ หวังว่า คงได้ประเด็นตรงใจน๊ะครับ 

KPI ฝ่ายคอมฯ

oliver076

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

การเขียน KPI ที่ดี ต้องเริ่มที่งานหลักก่อน

งานหลักของ ท่านมีอะไร ครับ ยกตัวอย่างมา 3 อย่าง

ต้องมีงานหลักมา จึงจะตอบให้ได้...ครับ

 

www.facebook.com/yom.nida/ 

ผู้จัดการไม่ปล่อยงาน

ณัฐนนท์

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

หัวข้อคำถาม "ผู้จัดการไม่ปล่อยงาน"

ประเด็นในคำถาม

  1. เพิ่งเข้ามาเริ่มงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายHR เร่ิมงานมาได้ประมาณเดือนเศษ
  2. ช่วงแรกได้มีการวางแผนงานกับทางผู้จัดการปรากฎว่า ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลงาน HR ทั้งหมด แต่ไปๆมาๆ ทางผจก.สั่งงานข้ามสายงานมั่วไปหมด
  3. บางครั้งก้อสั่งงานกับลูกน้องให้มาสั่งผมอีกที
  4. ตอนนี้ลูกน้องผมก็รายงานตรงต่อผจก.โดยไม่ผ่านผมแล้ว
  5. พอเข้าไปปรึกษา ผจก. เค้าก็บอกให้ผมดูไปก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน
  6. ทำให้ผมอึดอัด เหมือนคนไม่มีงานทำ และทำให้ผมทำงานลำบาก ผมควรจะทำอย่างไรดี

ครับ รายละเอียดที่ให้มา ไม่มากพอที่จะให้คำแนะนำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เช่น ขนาดขององค์การ ธุรกิจขององค์การ โครงสร้างและจำนวนบุคลากรในฝ่ายบุคคล  

ผมอ่านข้อความแล้ว สงสารคุณครับ ผมให้คำแนะนำ(อักษรสีน้ำเงิน)เท่าที่มีข้อมูลมาให้ โดยปกติปัญหาแบบนี ผมมักจะใช้กรอบแนวคิดหรือองค์ความรู้ตามหลักพุทธบริษัท กับการจัดการสมัยใหม่ มาให้คำแนะนำ ตามประเด็นประเด็นปัญหาที่เขียนมา และให้ข้อสรุป  ดังนี้ 

1. เพิ่งเข้ามาเริ่มงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายHR เร่ิมงานมาได้ประมาณเดือนเศษ

ซุนวู กล่าวไว้ว่า "การรบ หากไม่มีแผนกลยุทธ์ ก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกรบแล้ว" ฉะนั้น การทำการสิ่งใดให้สำเร็จจึงต้องมีแผลกลยุทธ์

ต้องชื่นชมว่า คุณเป็นคนตั้งใจ จริงจังกับงานสูง พอเข้าไปเริ่มงานใหม่ ก็อยากจะเริ่มลุยงาน สร้างผลงานดังใจปรารถนาทันที 

อย่างไรก็ตาม การเข้าไปเริ่มงานใหม่ มักจะถูกประเมินผลการปฏิบัติงาน จากคนรอบข้างและจากผู้บังคับบัญชา ก่อนที่จะอนุมัติให้ผ่านช่วงทดลองปฏิบัติงาน

ฉะนั้น ในช่วงต้น ๆ ของการเริ่มงาน 3- 4 เดือน เจ้านายคุณอาจจะมีเกมส์ทางการบริหาร หรือมี case studies มาให้ทดลองดูว่า คนใหม่นี้ จะคิดจะตัดสินใจอย่างไร จะแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ จะเหมาะกับองค์การหรื มีภาวะผู้นำหรือไม่ มีความรอบรู้ มีคุณธรรม หรือไม่่ (เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบ 90 องศา)  ซึ่งคนเป็นเจ้านายมักเรียกพนักงานเก่า ที่ไว้วางใจได้หรือเรียกลูกน้องเรามาถาม ว่า "คนใหม่นี้ เป็นอย่างไร" เป็นการประเมินแบบ 360 องศา สรุปคือ คุณจะถูกประเมินฯ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการตลอดเวลา

ผมแนะนำว่า ผู้ที่เข้าไปเริ่มงานใหม่ในองค์การ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ ควรต้องมีแผน มีกลยุทธ์ในการฝ่าด่านการประเมินผลการทำงานให้ได้ 

ท่านต้องมีแผลกลยุทธ์การทำงาน ให้ได้ทั้งงานและได้ทั้งความสัมพันธ์ กับผู้คนทุกวันทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ฝึกให้เป็นนิสัยเป็นนักทำงานเชิงกลยุทธ์  ให้ได้ทั้งงานและได้ทั้งใจผู้คน

อย่าเป็นผู้นำหรือเป็นคนที่"มุ่งแต่งานหรือยึดติดกับตำแหน่งหนาที่มากเกินไป"

วันนี้ ต้องดีกว่าเมื่อวาน ผู้ที่เข้าไปเริ่มงานใหม่ในองค์การ ควรมีการประเมินผลการปฏิบัติงานตนเองต่อวัน ต่อสัปดาห์ ต่อเดือน ต่อช่วงเวลาทดลองงาน และต่อไตรมาส

คุณควรหารือ และตกลงกับเจ้านายว่า เรายังใหม ในช่วงแรกจะขอหารือและรายงานผลงานทุกวันก่อนเริ่มงาน  และสรุปผลงานทุกสิ้นสุดสัปดาห์ หรือแล้วแต่เจ้านายต้องการ  หากคุยกันบ่อยได้เท่าไหร่ จะยิ่งดี ใช้งานสร้างความสัมพันธ์กับนาย และทีมงาน

คุณควรให้คะแนนการทำงานตัวคุณเองทุกวัน  ประเมินผลตัวเองทุกวัน เอาแบบง่าย ๆ ประเมินความสุข ความพึงพอใจของคุณเอง ต่อวัน วันหนึ่งให้คะแนนเต็ม 10 คะแนน คุณให้ตัวคุณเองอย่างเป็นธรรม วันละกี่คะแนน  หากวันไหนงานพลาด หรือ ไม่ Happy เลย อาจจะให้ตัวเอง ไม่ถึง 5 จากคะแนนเต็ม 10 แล้วก็หาสาเหตุ และรีบปรับปรุงแก้ไข โดยเร็ว ประเมินทุกวัน ด้วยแนวคิดว่า "วันนี้ ต้องดีกว่าเมื่อวาน"

2. ช่วงแรกได้มีการวางแผนงานกับทางผู้จัดการปรากฎว่า ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลงาน HR ทั้งหมด แต่ไปๆมาๆ ทางผจก.สั่งงานข้ามสายงาน  มั่วไปหมด

ขีดความสามารถของผู้นำสมัยใหม่ ประการหนึ่งคือ ขีดความสามารถในการคิดกว้าหน้าสร้างสรรค์คิดบวก

วัฒนธรรมการทำงานของบริษัทข้ามชาติที่มีญี่ปุ่นอยู่ด้วย มักจะเป็นองค์การที่มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ คนญี่ปุ่นมีแนวคิดว่า ลูกค้าและเจ้านายถูกเสมอ  เมื่อใดก็ตามถ้าคุณบอกว่าลูกค้าหรือเจ้านายผิดหรือมั่ว ให้กลับไปคิดใหม่เสมอว่า

ในทางหลักจิตวิทยา มีนักวิชาการกล่าวไว้ว่า "คนคิดเช่นไร มักเป็นคนเช่นนั้น"  เราจึงต้องระวังความคิดของเรา

ผมแนะนำให้คนทำงานใหม่  ๆ และกำลังมีอนาคต ให้คิดเชิงบวก คิดก้าวหน้าสร้างสรรค์ ลดละการคิดลบกับคนรอบข้าง  ถ้าเราคิดลบว่า เจ้านายมั่ว บางทีเราอาจจะมั่ว ต้องระวัง ผมแนะนำให้คิดบวก เข้าไว้ พูดจาภาษาดอกไม้ เชิงสร้างสรรค์ให้มาก เช่น

  • นายอาจจะเกรงใจคุณรับงานมาทำเอง เพราะเห็นว่าคุณยังใหม่อยู่ 
  • ลูกน้องเราเก่งสามารถรับงานจากนายได้ ไม่มีปัญหา 
  • ทั้งลูกน้องและนายกำลังช่วยเราทำงาน  เพราะเห็นว่าเรายังใหม่

 กรณีเช่นนี้ แนะนำให้เร่งรีบสร้างมนุษย์สัมพันธ์ในการทำงาน ควบคู่ไปกับการทำงานเป็นทีม กับลูกน้องและเจ้านาย ครับ  ในหนึ่งเดือน ควหารือกับนายบ้างว่า เรามาอยู่หนึ่งเดือนแล้ว เราพบปัญหาอะไร เราอยากจะแก้ไขอย่างไร  เราได้ทำอะไรไปบ้างที่เป็นผลงาน ถามนายว่า เราควรต้องปรับปรุงอะไรบ้าง  .....ต้องกล้าคุย คนทำงานต้องคุยกัน บอกความในใจกัน เปิดใจคุยกันให้เป็นปกติ เป็นกันเอง จนกลายเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกันและกัน

คุณต้องบริหารเจ้านายและลูกน้องให้ นายเกิดวันอะไร ราศีอะไร ชอบไม่ชอบอะไร มีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร  จุดอ่อนของนายและทีมงาน ต้องเป็นจุดแข็งของเรา และอุทิศตนช่วยเหลือองค์การ อย่างขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รอบรู้ มีคุณธรรม  จึงจะสำเร็จ  ได้ใจผู้คน  

3. บางครั้งก้อสั่งงานกับลูกน้องให้มาสั่งผมอีกที

ลองคิดใหม่แบบสร้างสรรค์ ว่า เจ้านายอาจจะงานยุ่ง และอาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะเดินมาหาเรา  เจ้านายคงเกรงใจเรา จึงเรียกลูกน้องไปบอกงานเรา คุณต้องขอบใจลูกน้อง ที่เขาทำหน้าที่ สื่อกลางได้ดี 

คุณต้องเกรงใจเจ้านาย ที่คุณไม่ได้เดินเข้าไปหานายหรือไมได้หารืองานกับนายทุกวัน เป็นระยะ ๆ เจ้านายจึงต้องให้ลูกน้องมาบอกงาน  คุณต้องหาโอกาสขอโทษเจ้านาย และปรับกลยุทธ์ทำงานเชิงรุก ไม่นั่งรอคำสั่ง คุณต้องขอพบเจ้านายทุกวัน เพื่อเข้าไปรายงานผลงานและเข้าไปรับงาน มีสมุดโน๊ตเวลานายสั่งอะไรจะได้บันทึกและนำมาประชุมทีมงาน

4. ตอนนี้ลูกน้องผมก็รายงานตรงต่อผจก.โดยไม่ผ่านผมแล้ว 

ผมแนะนำให้แก้ไขปัญหาที่ตัวเรา ก่อน ครับ หนึ่งคือให้คิดใหม่ คิดบวก ว่า

  • ลูกน้องเราเราขยัน ช่วยเราทำงาน
  • นายอาจมีงานสำคัญบางงานที่อาจจะสั่งให้ลูกน้องมารายงานโดยตรง

แนะนำให้มีการประชุมกับลูกน้องทุกวันก่อนเริ่มงาน ว่าวันนี้เรามีงานอะไร มีอะไรต้องประสานกับเจ้านาย และใครจะเป็นคนประสาน ใครทำอะไรที่ไหน อย่างไร เราจะได้รู้

แต่ก่อนจะทำตรงนี้ ต้องหารือกับเจ้านาย ขอความเห็นสะก่อน ว่า เราจะประชุมกลุ่มย่อยหารืองานกับลูกน้อง ทุกวันก่อนเริ่มงาน และทุกวันสุดสัปดาห์ (ไม่จำเป็นต้องเป็นเราคนเดียวที่ตัอ้งรายงานเจ้านาย)

ขอให้เน้น ให้ทุกคนทำงานได้ประสบความสำเร็จ  และเราคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จของทีมงาน เป้าหมายของหน่วยงานเดินไปได้ดี ก็พอแล้ว อย่าไปยึดติดวิธีการทีว่า ต้องผ่านเรา ต้องให้เรารายงาน เท่านั้นจะเป็นการทำงานแบบเน้นวิธีการมากเกินไป ครับ ไม่ได้มองที่ผลสัมฤทธิ์ของงานครับ

5. พอเข้าไปปรึกษา ผจก. เค้าก็บอกให้ผมดูไปก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน  

คุณต้องขอบคุณเจ้านาย และดูท่าคุณจะได้เจ้านายดี เพราะเขาเมตตาคุณ โดยบอกว่า ให้คุณดูไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน 

ดีที่คุณไมเจอเจ้านายโรคประสาท ตอบกลับมาว่า มาปรึกษาทำไม มีอะไรก็ทำไป ไม่พอใจก็ออกไป เจ้านายแบบนี้ ก็มีน๊ะครับ เพียงแต่คุณโชคดีที่ยังไม่เจอ

6. ทำให้ผมอึดอัด เหมือนคนไม่มีงานทำ และทำให้ผมทำงานลำบาก ผมควรจะทำอย่างไรดี

พระท่านว่า เราต้องเป็น"อิสระ จากความโลภ โกรธ หลง น้อยใจ อึดอัด"  ความรู้สึกอึดอัดนั้น ก็ปรับเปลี่ยนใหม่ เป็นความสึกว่างเปล่าว มีสมาธิ มีสติในการทำงาน ความรู้สึกอึดอัด เป็นเพราะเราเองคุณอาจจะเจอการลองใจอีกหลาย ๆ เรื่อง หากคุณอึดอัดบ่อย ๆ หรือมากเกินไป เราก็แพ้ครับ แพ้ตัวเอง การทำงานเหมือนการแข่งม้า  หากคุณอดทนต่อการเบียดเสียดจากคู่แข่ง และเร่งฝีมือการทำงาน ก็จะสำเร็จ ครับ

สรุป

ปัญหา คือแบบฝึกหัด ผู้สร้างปัญหาให้คือครูของเรา จงขอบคุณเขา

มองโลกในแง่บวก คิดก้าวหน้าสร้างสรรค์เสมอ

นำหลักพุทธบริษัท เข้ามาใช้พัฒนาตนเอง เสมอ

ปฏิบัติตามที่ผมแนะนำไว้  หมั่น ทำบุญ ทำทาน ถือศีล และสวดมนต์ภาวนา ให้เป็นนิสัย เชื่อว่าบุญจะประสบความสำเร็จ และความสุข ความเจริญก้าวหน้า ครับ

เวลาและข้อมูลมีจำกัด ผมแนะนำเพียงเท่านี้ครับ

www.facebook.com/yom.nida/ 

พฤติกรรมองค์การ

Daffodil

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

แนะนำให้เข้าไปอ่านบทความ ที่

http://www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=91.0;wap2

http://en.wikipedia.org/wiki/Warren_Buffett

 

  1. [DOC]

    ตอนที่ 4

    รูปแบบไฟล์: Microsoft Word - ดูในรูปแบบ HTML
    บารอน และกรีนเบิร์ก (Baron and Greenberg, 1989 : 4) กล่าวว่า พฤติกรรมองค์การ หมายถึง การศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ในองค์การ โดยศึกษากระบวนการของปัจเจกบุคคล ...
    www.stou.ac.th/Thai/Grad_Stdy/schools/shs/DOC/.../no4-1.doc - ใกล้เคียง
  2. พฤติกรรมองค์การ

    บารอน และกรีนเบิร์ก (Baron and Greenberg, 1989 : 4) กล่าวว่าพฤติกรรมองค์การ หมายถึง การศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ในองค์การ โดยศึกษากระบวนการของปัจเจกบุคคล กลุ่ม ...
    www.idis.ru.ac.th/report/index.php?topic=91.0;wap2 - แคช - ใกล้เคียง
  3. คำถาม: พฤติกรรมองค์การหมายถึงอะไรจงอธิบายพอเข้าใจ คำตอบ: พฤติกรรม ...

    คำถาม: พฤติกรรมองค์การหมายถึงอะไรจงอธิบายพอเข้าใจ คำตอบ: พฤติกรรมองค์การ เป็นการศึกษาถึงพฤติกรรมต่างๆ ...
    board.212cafe.com/viewcomment.php?aID...4... - แคช - ใกล้เคียง
  4. [PPT]

    การศึกษาพฤติกรรมองค์การ (Studying Organizational Behavior)

    รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - ดูในรูปแบบ HTML
    แบบแผนพฤติกรรม( Behavioral Pattern) หมายถึงพฤติกรรมของคนจำนวนหนึ่ง หรือส่วนใหญ่ในองค์การที่ประพฤติปฏิบัติในลักษณะ เดียวกันอย่างสม่ำเสมอตลอด ระยะหนึ่ง” ...
    www.nitiphong.com/student_activities/3-2550/.../ob.ppt - ใกล้เคียง
  5. [PPT]

    ภาพรวมของพฤติกรรมองค์การ - มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ | มหาวิทยาลัย ...

    รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - ดูในรูปแบบ HTML
    พฤติกรรมองค์การหมายถึง การศึกษาอย่างเป็นระบบที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของปัจเจกบุคคล กลุ่มและองค์การ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิผลขององค์การ ...
    host.psu.ac.th/~pornchai.l/465-512/unit1.ppt - ใกล้เคียง
  6. "โครงสร้างองค์กร" คือตัวกำหนดพฤติกรรมของ "คนองค์กร"

    โครงสร้างองค์กร เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างอิทธิพลต่อพฤติกรรมของคน และกลุ่มคนภายในองค์กร ซึ่งอิทธิพลที่สร้างขึ้น.
    www.hrtothai.com/index.php?Itemid=163&id... - แคช - ใกล้เคียง
  7. พฤติกรรมองค์กร เบื้องต้น จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net

    อะไรคือพฤติกรรมองค์กร? ในแต่ละองค์กร มีหลายฝ่าย หลายแผนก หลายตำแหน่ง มากมาย เรามาดูในส่วนของตำแหน่งผู้จัดการกันก่อนดีกว่า อะไรคือคำจำกัดความของการเป็น ...
    www.oknation.net/blog/print.php?id=144805 - แคช - ใกล้เคียง
  8. Bloggang.com : : Benjawan_B : บทที่ 1 พฤติกรรมองค์การ

    6 ก.พ. 2010 ... สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมองค์การ 1.จิตวิทยา(Psychology) ศาสตร์ระดับองค์การ คือการเข้าใจถึงกระบวนการทางจิตใจแต่ละคนครอบคลุมกว้างๆ ...
    www.bloggang.com/mainblog.php?id=ajarnben... - แคช - ใกล้เคียง
  9. [PPT]

    พฤติกรรมกลุ่ม

    รูปแบบไฟล์: Microsoft Powerpoint - ดูในรูปแบบ HTML
    งานขององค์การ. แนวคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมองค์การ. พฤติกรรมองค์การ หมายถึง ... การศึกษาพฤติกรรมองค์การ. ศึกษาได้เป็น 3 ระดับ คือ; พฤติกรรมระดับบุคคล ...
    www.mbastou.org/images/column.../บทที่%204-5.ppt - ใกล้เคียง
  10. ทฤษฎีองค์การ

    หน่วยงานย่อยในองค์การ 2.องค์การทั้งองค์การ 2.พฤติกรรมองค์การ คือ การศึกษาองค์การระดับจุลภาค หน่วยในการวิเคราะห์ คือ 1.บุคคล ( ปัจเจกบุคคล ) 2.กลุ่มในองค์การ ...
    www.kru-itth.com/index.php?lay=show&ac=article... - แคช - ใกล้เคียง
การค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ พฤติกรรม องค์กร หมาย ถึง

 

จะได้คำตอบครับ

ขอให้โชคดี

เรื่องขัอบังคับ

นวพรรษ

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

ระเบียบข้อบังคับในการทำงาน ในภาคเอกชน จะต้องติดประกาศไว้ ให้พนักงานหรือลูกจ้างเห็นได้ชัดเจน มิฉะนั้นเข้าข่าย ระเมิด พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฯ ได้

 หากมีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับในการทำงาน ในภาคเอกชน กรณีที่มีสหภาพแรงงานฯ อยู่ในองค์กรด้วย จะต้องแจ้งให้สหภาพแรงงาน ทราบก่อนดำเนินการ 

ระเบียบข้อบังคับการทำงาน ถือเป็นสภาพการจ้างอย่างหนึ่งครับ ลูกจ้างต้องรับรู้ นายจ้างต้องรับรู้ ร่วมกัน และหากมีการแก้ไขร่วมกันด้วย จะยิ่งดี

จึงไม่น่าจะติดขัดอะไร หากจะขอสำเนามาศึกษา เพื่อจะได้ปฏิบัติใหถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับการทำงาน

เมื่อสมัยที่ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล ผมได้ทำฉบับย่อ ๆ ในหมวดที่จำเป็น เช่น การลา การหยุดงาน โทษทางวินัย การพ้นสภาพการจ้างฯลฯ ทำเป็นฉบับย่อ แล้วแจกตอนพนักงานเข้ามาทำงานใหม่  "คนทุกคน สำคัญและมีเกียรติ จีงต้องทำให้ดีที่สุด" ครับ

ขอให้โชคดี

เทคนิคจัดการลูกน้องที่หัวแข็ง ดื้อดึงอย่างไรดี

sweety

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

ผู้บริหารหลายคน เข้าไปทำงานใหม่ในองค์กร  มีความตั้งใจสูงมาก พอเข้าไปทำงานใหม่ รับหน้าที่ใหม่ ก็ตั้งใจลุยงาน บริหารงาน เพื่อเร่งสร้างผลงาน จนบางท่านกลายเป็นผู้นำที่เน้นงาน โดยไม่รู้ตัว ครับอย่ากังวลไป ผมเองก็เคยเป็นเช่นนี้ 

การเข้าไปเริ่มงานใหม่ สำหรับผู้นำทั้งหลาย ควรต้องมีเป้าหมาย มีกลยุทธ์ให้ชัด เช่น

  1. กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ในองค์กร
  2. กลยุทธ์จัดการงาน
  3. กลยุทธ์การจัดการคน
  4. กลยุทธ์การบริหารเจ้านาย บริหารลูกน้อง 
  5. กลยุทธ์การประเมินผลงานลูกน้องรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน กลยุทธ์การประเมินผลงานตนเองรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน
  6. กลยุทธ์การประสถานการณ์ทุกวัน เช้า สาย บ่าย เย็น ก่อนนอน 
  7. กลยุทธ์การสร้าง การรักษา การพัฒนาอำนาจ กับทีมงานของตน อย่างผู้มีภาวะผู้นำครับ
  8. กลยุทธ์องค์กรแห่งการเรียนรู้
  9. กลยุทธ์องค์กรสมรรถนะสูง กลยุทธ์การ PR
  10. กลยุทธ์บริหารเชิงกลยุทธ์ มุ่งผลสัมฤทธิ์
  11. ประชาสัมพันธ์ตนเอง กลยุทธ์สร้าง รักษาพัฒนาเครือข่าย เป็นต้น

ภายใต้แนวคิด วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน นาทีนี้ต้องดีกว่านาทีที่ผ่านมา ครับ และที่สำคัญมาก ๆ คือ การนำหลักพุทธบริษัท มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ 

ทั้งนี้ต้องมีการวางแผนดำเนินการอย่างรวดเร็ว เฉียบคม กว้างไกล มีระบบ ซึ่งในแต่ละกลยุทธ์จะมีรายละเอียดอีกมาก ครับ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องกลยุทธ์การสร้างอำนาจ กับลูกน้อง ท่านต้องรู้ว่า อำนาจนั้นสร้างได้ดังนี้

ประการแรก อำนาจสร้างได้ด้วยการให้  เช่น ให้โอกาส ให้ความรู้ ให้อภัย ดูแลลูกน้องอย่างดี ภายใต้แนวคิด จงมองแต่แง่ดี 

 

เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา

จงเลือกเอาส่วนดีเขามีอยู่

เป็นประโยชน์โลกบ้างคงน่าดู

ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย

จะหาคนมีดีแต่ส่วนเดียว

อย่างไปเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย

 เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่า ตายเปล่าเอย

ฝึกให้เคยมองแต่ดี มีคุณจริง

 

ประการที่สอง อำนาจสร้างได้ด้วยการติ    ลูกทำผิดอย่ามองข้าม หรือเห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ  ติในที่นี้ ติแบบสร้างสรรค์ น่ารัก น่าเอ็นดู  ฝึกติคนให้ไพเราะสร้างสรรค์ เช่น ลูกน้องทำผิด แล้วไม่รายงานเรา กลับไปรายงานเจ้านายเรา  ตรงนี้ เรียกลูกน้องคุยเลย ครับ มองแง่ดี ลูกน้องอาจเกรงใจ มองแง่ไม่ดี ก็หมั่นไส้ข้ามหัวเรา  ผมก็บอกว่า ให้มองในแง่ดี ก็เรียกมา ขอบใจที่เกรงใจไม่นำปัญหามาให้  แต่บอกเขาว่าโดยหลักการทำงาน ตามสายงานเขาทราบหรือไม่ ว่าเขาขึ้นกับใคร ถ้าไม่ทราบก็ควรอธิบายให้เขารู้ บอกเขาว่าต่อไปมีอะไรให้มาหารือเราก่อน อย่าได้เกรงใจ  แต่หากไม่มาหารือ  ข้ามหน้าไป ต้องรับผิดชอบเอง  และควรแจ้งเจ้านายให้ทราบว่า ขอความร่วมมือเราได้แจ้งลูกน้องไปอย่างนี้  หากลูกน้องนำปัญหามารายงาน ขอความร่วมมือเจ้านาย ว่าได้รายงานให้เราทราบหรือยัง เรื่องเหล่านี้ ควรหารือกับเราก่อน เป็นการสร้างระบบการทำงานตามสายงาน  อีกอย่างที่สำคัญ อย่ามองข้ามครับ ต้องดูด้วยว่าองค์กรที่ท่านทำอยู่วัฒนะธรรมองค์กรเป็นอย่างไร เขาให้ข้ามสายงานกันได้หรือไม่  เป็นองค์กรที่มีโครงสร้างแบบราชการ หรือไม่ หรือว่ามีโครงสร้างแบนราบ เป็นองค์กรนวตกรรม แบบ Microsoft หรือ Google ก็อย่าไปว่าเขา เพราะองค์กรแบบนี้ เขาให้ทุกคนเป็นอิสระกับการทำงาน ไม่มีโครงสร้าง ไม่มีระดับชั้นการบังคับบัญชา ท่านก็ต้องปรับตัวใหม่ครับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อติแล้ว ก็ควรตามด้วยการให้  คือให้อภัย ยิ้มแย้มแจ่มใสครับ  ชีวิตคือละคร ท่านต้องเล่นบทของท่านให้ดีที่สุดครับ

ประการที่สาม อำนาจสร้างได้ด้วยการเป็นผู้รู้มากกว่า  เมื่อมีโอกาส จงแสดงความรอบรู้ว่าลูกน้อง  โดยเฉพาะรอจังหวะเมื่อเขาผิดพลาด หาโอกาสเข้าไปแนะนำ ช่วยเหลือเขา เป็นระยะ คือจุดอ่อนขององค์กร ของเจ้านาย ของลูกน้อง คือจุดแข็งของเรา  ครับ แต่อย่า OVER โชว์ออฟ ฉายเดียว ทำตัวเด่นเกินไป ไม่ควรครับ 

ประการที่สี่ อำนาจสร้างได้ด้วยการอาศัยอำนาจอ้างอิง  เช่น อ้างระเบียบ อ้างคำสั่งเจ้านาย อ้างนโยบาย อ้างความต้องการของลูกค้า อ้างในสิ่งที่ชอบธรรม  ให้ลูกน้องทำตามนั้น  อำนาจนี้ใช้ต่อเนื่องจาก อำนาจทั้งสามข้อข้างต้นได้เลยครับ

ประการที่ห้า อำนาจสร้างได้ด้วย ตำแหน่งทางนิติกรรม หมายถึง  จงแสดงบทบาทหน้าที่ให้สมกับตำแหน่งที่องค์กรแต่งตั้งให้  ให้เป็นหัวหน้า จงทำตนเป็นหัวหน้า บริหารลูกน้องดุจดั่งเขาเป็น ลูก และเป็นน้อง  และเล่นบทบาทให้เหมาะสมกับเป็นหัวและเป็นหน้าของเขา  และหาโอกาสสอดแทรก ให้เห็นว่าเราคือหัวและหน้าของเขา ที่เขามีหน้าที่ดูแลรักษาดุจดังที่เขาต้องดูแลหัวและหน้าของเขาทุกวัน   ใช้คำพูดวาจา หลักการตามแนวพุทธบริษัท ใช้หลักธรรมเข้ามาบริหาร เช่น การเป็นเจ้านาย ต้องมีหลักพรหมวิหารสี่  ต้องมีหลักทศพิศราชธรรม   รายละเอียดเป็นอย่างไร แนะนำให้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมครับ 

โดยหลักการก็คือ ปัญหาทั้งหลาย มองที่ตัวเรา แก้ที่ตัวเราก่อนดีที่สุดครับ  อย่างอื่นจะค่อยๆ ดีขึ้น  ท่านต้องรู้เพิ่มเติมว่า ลูกน้องท่าน เจ้านายท่าน

  • เกิดวันอะไร
  • เดือนอะไร
  • ปีอะไร
  • ราศีอะไร

ลักษณะโหงวเฮ็งเป็นอย่างไร  ชอบกินอะไร ชอบดื่มอะไร  ชอบสีอะไร มีครอบครัวหรือยัง  รู้เขา รู้เรา ไม่ต้องรบก็ชนะ ครับ

3 C ใช่ตามนี้ หรือ ปล่าว ครับ

phot

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

ครับ 3 C เป็นกรอบแนวคิด การเป็นผู้นำองค์กรสมัย

C1 คือ Customer : คำนึงถึงลูกค้า เป็นหลัก ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นตัวชี้วัดสำคัญ

C2 คือ Change : การเปลี่ยนแปลง  พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

C3 คือ Competition : การแข่งขัน เมื่อพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง ย่อมรองรับการแข่งขันได้

อย่างไรก็ตาม การเป็นผู้นำ "ผู้นำการเปลี่ยแปลง" ต้องแกร่งด้วยทักษะ ต่อไปนี้ครับ

LEADERSHIP แกร่งด้วยภาวะผู้นำ

STRATEGY แกร่งด้วยการบริหารกลยุทธ์

CHANGE แกร่งด้วยการบริหารการเปลี่ยนแปลง

RESEARCH และแกร่งด้วยการวิจัยและพัฒนา

KPI

nomonomo

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

เรื่อง การเขียน KPI  ผมได้ให้ความรู้เบื้องต้นไว้ และมีตัวอย่างให้ศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้ได้กับทุกงาน ครับ  เจตนารมย์ของผมคือต้องการให้เป็นองค์ความรู้ แล้วนำไปความรู้ไปใช้ทำ KPI ด้วยตนเองครับ คงไม่ได้เขียนไว้ให้ทุกงาน ทุกฝ่ายครับ

 

ใใใ

liverpool

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

ถ้า TQM ในที่ถามมา หมายถึง TQM ที่ย่อมาจาก Total Quality Management  คือ การบริหารคุณภาพทั่วทั้งองค์กร มีหลักการทำงานสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

  1. การมุ่งเน้นคุณภาพทุกกระบวนการทำงาน
  2. การปรับปรุงและการพัฒนากระบวนการทำงานทุกระบวนการ
  3. การให้ทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วม

เมื่อ TQM เป็นหลักการทำงาน ย่อมสามารถนำหลักการ TQM มาใช้ได้ในทุกธุรกิจการใช้อย่างไร?....ก็นำหลักการ 3 ประการดังกล่าวข้างต้นไปอบรมให้ความรู้ผู้คน ให้คนมีความรู้  ให้นำความรู้ไปใช้ และมีการประเมินผลติดตาม กล่าวโดยย่อ คือ นำกหลัก P D C A ไปใช้งานในการบริหารงานแบบ TQM...ครับ

การเขียน Action plan บัญชี

CHAN

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

การเขียน Action Plan ควรเขียนให้สอดคล้องกับกลยุทธ์หรือโครงการ กล่าวคือ Action Plan เป็นองค์ประกอบหนึ่งของกลยุทธ์หรือโครงการ ควรต้องมีตาราง ACTION PLAN กำกับ ลองเข้าไปดูตัวอย่างได้ที่

http://webhost.cpd.go.th/ratchaburi/download/loads/action%20plan.pdf

http://www.dmsbma.go.th/present/140851%20afternoon/2.surachai2.pdf

http://www.rsu.ac.th/grad/about/file/Actionplan_Form.xls

การเขียน Action Plan สิ่งแรกที่ควรทำคือ

ศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักการเขียน Action Plan

เทคนิคการเขียน Action Plan ให้ครอบคลุมกิจกรรม P D C A ของงานที่ทำ

การทำแผน (Plan) และการกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ ในแต่ละกิจกรรมของแผน

การปฏิบัติ(Do)การตามแผน

การตรวจสอบ (Check)การปฏิบัติและแผน ว่าเป็นไปตามที่วางแผนหรือไม่

การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Action)แผนปฏิบัติการที่ดี ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ

 

สอบถาม

hnoise

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

แนะนำให้เข้าไปศึกษาใน  http://gotoknow.org/ask/yom-nark/2380

คำถามนี้มีผู้เคยถามมาแล้ว และตอบไว้ที่เว็บดังกล่าวครับ

หลักการเขียน KPI

การเขียน KPI (ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์)

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

ได้เขียนให้แนวทางการทำ KPI ไว้ที่

http://gotoknow.org/ask/yom-nark/8976?page=1

เข้าไปศึกษาดูครับ ขออภัยที่จะไม่ตอบคำถามที่ซ้ำกัน น๊ะครับ

เนื่องจากเวลามีจำกัด และเนื้อหาที่ตอบไปค่อนข้างละเอียด ยังคงใช้ได้ครับ

ผมไม่เข้าใจช่วยตอบให้หน่อยคับ

ธนะชัย

อาจารย์ยม
เขียนเมื่อ
คำตอบ

คำถามที่ถามมา เป็นเรื่องระบบเงินเดือน ค่าจ้างของระบบราชการ ผมแนะนำให้เข้าไปศึกษาค้นคว้าที่เว็บของ ก.พ.ร. จะมีรายละเอียดให้อยู่แล้วครับ เข้าไปที่ google.co.th แล้วพิมพ์คำว่า ก.พ.ร. ระบบเงินเดือน ค่าตอบแทน

ปัจจัยที่มีอิทธิพลในการกำหนดระบบการจัดการทุนมนุษย์ก็เช่นกัน โดยหล้กการบริหารจัดการต้องคำนึงถึง ปัจจัยที่อาจะมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการ ทั้งปัจจัยภายนอกและภายในองค์การ แนะนำให้เข้าไปที่ google.co.th แล้วพิมพ์คำว่า ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการบริหาร จัดการ..ครับ จะได้คำตอบหลากหลาย นำมาบูรณาการได้

ส่วนเรื่องสมรรถนะหลักของผู้บริหาร ในการจัดการทุนมนุษย์ ภาครัฐที่ถามมา ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว  อยู่ที่ว่าจะนำแนวคิดทฤษฎีของใครมาเป็นกรอบแนวคิดในการศึกษา  ถ้าผมนำแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นกรอบแนวคิด จะได้ว่า สมรรถนะหลักของผู้บริหาร ควรมี

  1. เป็นผู้มีความรอบรู้
  2. เป็นผู้มีคุณธรรม
  3. เป็นผู้มีหลักการ มีเหตุมีผล
  4. เป็นผู้รู้จักประมาณ
  5. และเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ มีภูมิคุ้มกัน รู้จักวางแผนรองรับไว้เสมอ

หรือถ้าผมจะนำแนวคิดทฤษฎี KSM Model ของ ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง มาเป็นกรอบแนวคิดในการศึกษา จะตอบโดย ย่อ ๆ อย่างมีเวลาจำกัดว่า ผู้บริหารควรมีสมรรถนะดังนี้

  1. K= knowledge เป็นผู้มีความรู้ มีขีดความสามารถในการเรียนรู้ ใฝ่รู้ รอบรู้
  2. S= Skill เป็นผู้ที่มีทักษะ มีประสบการณ์
  3. M=Management เป็นนักบริหารจัดการมืออาชีพ แปลงวิสัยทัศน์ เป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมได้

ซึ่งที่จริงยังมีรายละเอียดอีกมาก แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ผมเขียนไว้เท่านี้ก่อน ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท