อนุทินล่าสุด


Sasinand
เขียนเมื่อ

ใครที่ชอบฟังดนตรีคลาสสิค ศุกร์นี้ แบร์รี่ ดักลาส Barry Douglas ผู้ชนะเลิศ เป็นอันดับ 1 ของการแข่งขันไชคอฟสกี้-  ชาวอังกฤษ เชื้อสายไอริช หน้าตาดี หุ่นสมาร์ท --(การแข่งขันดนตรีระดับนานาชาติ ทั้งไวโอลิน เชลโล เปียโน การขับร้อง จัดขึ้นทุก4ปี ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย)

Concertจะมีขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมศุกร์ที่ 2 พ.ค.2551 นี้ (เห็นคุณConductorเคยถามถึง เรื่องดนตรี)

He won the gold medal, outright in the International Tchaikovsky Competitio in 1986, the first non-Russian pianist to do so since Van Cliburn in 1958.

Barry Douglas received the Order of the British Empire (OBE) in the 2002 New Year's Honours List for services to music.

He also received a Fellowship of the Royal College of Music where he is Prince Consort Professor of Piano and an Hon. Doctorate of Music from Queens University Belfast.

 He is Visiting Prince Consort professor of Piano at the Royal College of Music.

He received an honorary Doctorate of Music from the National University of Ireland in September 2007.



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

ค่ำนี้ แม่บ้าน ซึ่งเป็นคนเหนือ แกงแค ให้กิน ผักเยอะมาก อร่อยๆๆ พร้อมพล่าหมูย่างไม่มีมันเลย แก้เผ็ดด้วย ไข่ตุ๋นใส่เห็ดหอม กินกับข้าวกล้องใส่ธัญญพืช 5-6 ชนิด

ผลไม้ มีกล้วยไข่กับชีส (ไม่ชอบกล้วยหอม)

ก่อนนอน เป็นโปรตีนปั่นกับนมไม่มีไขมันและงาดำ กับโยเกิร์ต 1 ถ้วย ตามเคย 

แม่บ้านรู้ใจ ทำแต่อาหารง่ายๆ ไม่เผ็ด ไม่มีไขมัน ไม่หวาน ไม่เค็ม (เปรี้ยวได้) ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สารปรุงแต่งอื่นใด   ที่ไม่ใช่ธรรมชาติ ให้กินทุกวัน 

กำลังคิด จะส่งแม่บ้าน ไปเรียนทำอาหารแบบแปลกๆอื่นๆบ้างเหมือนกัน อิๆๆ ....  



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงวรรณี นิธิยานันท์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาต่อมไร้ท่อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  ให้ข้อมูลว่า....

ถ้าจะดื่มน้ำผลไม้ ต้องคั้นสดๆ ดีที่สุด ถ้าจะให้ดีกว่าขึ้นไปอีก คือกินผลไม้สดๆเลย ไม่ต้องคั้น

ย้ำว่าคั้นสดๆ และต้องไม่ผ่านกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมอาหาร เพราะถ้าผ่านกระบวนการผลิตแล้ว สารอาหารทั้งหมดของน้ำผลไม้ก็จะหายไปทันที

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากนำน้ำผลไม้ ทุกรูปแบบ มาเปรียบเทียบกับผลไม้สดทั้งผลแล้ว น้ำผลไม้ก็แทบจะไม่ให้ประโยชน์ อะไรต่อร่างกาย

 นี่คือความจริง...ของน้ำผลไม้ที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้ว (ความเห็นของศาสตราจารย์ แพทย์หญิงวรรณี นิธิยานันท์ )

ส่วนประสบการณ์ส่วนตัวคือ  ....ถ้าเป็นเด็กๆ ก็ต้องคั้นน้ำผลไม้สดๆเท่านั้น ไม่ควรนำน้ำผลไม้จากกล่องมาให้ดื่ม  ถ้าโตหน่อย ให้กินผลไม้ครูดละเอียดๆ  หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตามอายุเด็ก

และไม่ควรนำอาหารขวดมาให้เด็ก  ควรทำอาหารเองสดๆทุกมื้อหรือวัน/วัน  ไม่ค้างในตู้เย็น  ในอาหารขวด มีการเติมสารบางอย่างที่เป็นสารที่กินได้ แต่ไม่ควรกิน(เคยทำอาหารขวดสำหรับเด็กมาแล้ว แต่ต่อมาไม่รับorder  เพราะรู้ดีว่า จะต้องใส่สารลงไปหลายตัว)

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

กินเนสส์ บุ๊ค บันทึกสถิติสาวนิวยอร์ก วัย 19 ปี เป็นศจ.อายุน้อยที่สุดของโลก ทุบสถิติคนก่อนที่ทำไว้เกือบ 300 ปีที่แล้ว เผยประวัติสุดอัจฉริยะ เรียนมหาลัยตั้งแต่ 10 ขวบ ปีถัดมาเล่นดนตรีให้วงออสเคสตร้า

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2551 หนังสือกินเนสส์ บุ๊ค ได้บันทึกให้น.ส.อาเลีย ซาบูร์ สาวชาวนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ วัย 19 ปี

 เป็นศาตราจารย์เต็มเวลาอายุน้อยที่สุดของโลก ทำลายสถิติเดิมของนายโคลิน แม้คเลาริน นักศึกษาของเซอร์ ไอแซค นิวตัน นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ที่ทำไว้เมื่อปี 1717

ขณะที่เจ้าตัวบอกว่า รู้สึกเป็นอย่างยิ่งใหญ่ที่ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่เป็นอยู่

รายงานระบุว่า น.ส.อาเลีย มีประวัติการศึกษาที่น่าทึ่ง โดยเธอเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของสหรัฐ ตั้งแต่อายุ 10 ปี

 และเล่นเครื่องดนตรีคลาริเน็ตให้แก่วงออสเตรตร้าคณะเดอะร๊อคแลนด์ ซิมโฟนี เมื่ออายุ 11 ปี

และปัจจุบันเธอเป็นศาสตราจารย์สอนวิชาฟิสิกส์ให้แก่มหาวิทยาลัยเซ้าท์เทิร์น ในรัฐนิวส์ ออร์ลีนส์ และมีกำหนดจะย้ายไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาคอนกุ๊กในเกาหลีใต้

ทั้งนี้ เธอกล่าวว่า การสอนดังกล่าวคงเป็นเรื่องท้าทายมาก เพราะเธอยังพูดภาษาเกาหลีไม่เป็น พูดได้แต่ภาษาคณิตศาสตร์และดนตรี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

วันที่ 2 พฤษภาคมนี้  จะเป็นการรำลึกถึง  เอลมา การ์ดเนอร์ ฟาร์นสเวิร์ธ ซึ่งเพิ่งจากไปเมื่อ 2 พฤษภาคม  2549(2006) ในวัย 98 ปี

 เธอและสามี (ฟิโล ฟาร์นสเวิร์ธ) เสียชีวิตไปเมื่อปี 2514)  เป็นหนึ่งในผู้ที่เป็นนักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดผู้หนึ่งของศตวรรษที่ผ่านมาตามคำยกย่องของ ไทม์ นิตยสารรายสัปดาห์ระดับโลกของสหรัฐอเมริกา

โทรทัศน์ถือกำเนิดมาเมื่อ 79 ปีก่อน แล้วก็กลายเป็นหนึ่งในสื่อที่ทรงอิทธิพลสูงสุดต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่วันแรกที่ถือกำเนิดมาตราบจนถึงทุกวันนี้

Elma

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

วันที่ 30 เม.ย. 2551 บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จะยกเลิกการให้บริการโทรเลขอย่างเป็นทาง การทั่วประเทศ ปิดตำนานบริการโทรเลขที่ให้บริการมากว่า 133 ปี (พ.ศ. 2418- พ.ศ. 2551)

โทรเลขถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2418 จากการที่รัฐบาลไทยมอบหมายให้กรมกลาโหมสร้าง ทางสายโทรเลขสายแรก จากกรุงเทพฯ ไปปากน้ำ ( จ.สมุทรปราการ

หากจะเปรียบกับในยุคนี้การส่งโทรเลขคงคล้ายๆกับการส่งเอส เอ็ม เอส ที่มีหลักสำคัญในการส่งข้อความ คือ ข้อความต้องสั้น กระชับ ได้ใจความ

ต่างกันก็ตรงที่โทรเลขเป็นข้อความเร่งด่วนและมีความหมายทั้งต่อผู้ส่งและผู้รับอย่างยิ่ง อาทิ พ่อ ป่วย หนัก กลับ บ้าน ด่วน

เอส เอ็ม เอส ไม่ด่วนก็ส่งได้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

ใครอยู่ภาคใต้ อ่านที่นี่ค่ะ  

 ไม่มีอะไรน่าวิตก มีแต่อาหารที่แพงขึ้น และเงินเฟ้อขึ้น

ธปท.สำนักงานภาคใต้รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.51  ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ รายงานเศรษฐกิจภาคใต้ประจำเดือน ก.พ.51 ว่า

ภาพรวมเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง

ทั้งด้านอุปทานและอุปสงค์ โดยด้านอุปทานผลผลิตพืชผลเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตปาล์มน้ำมันและยางพาราเป็นสำคัญ เป็นไปทิศทางเดียวกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 16.9 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวฝั่งอันดามันและเทศกาลตรุษจีน 

 ขณะที่ด้านการประมงอยู่ในภาวะซบเซา เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นและบางพื้นที่มีลมมรสุม

 เช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรมซึ่งชะลอตัว โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 14.3 ตามอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกที่การผลิตลดลงตามวัตถุดิบและการส่งออก

 ด้านอุปสงค์การอุปโภคภาคเอกชนขยายตัวด้วยดัชนีที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 สูงกว่าอัตราเพิ่มร้อยละ 1.4 ในเดือนก่อน เนื่องจากดัชนีทุกหมวดเพิ่มขึ้น

ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนโดยภาพรวมลดลง   การเบิกจ่าย งบกลางลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 45.5 

 ในส่วนของอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 5.6 เร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 3.9 ในเดือนก่อน อันเป็นผลจากราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เนื่องจากราคาอาหารสูงขึ้นเกือบทุกประเภท

สำหรับภาคการเงิน ณ สิ้นเดือน ก.พ.51 มียอดเงินฝากเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7

สงสัยคนไม่กล้าเอาเงินไปลงทุน เลยเอามาฝากเพิ่มมั๊ง....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

สนใจกับปัญหาของโลกตอนนี้ แม้ดูน่าหวั่น แต่ก็ต้องใจเย็นๆ

ตามประสบการณ์อันน้อยนิด เกี่ยวกับการเกษตร เห็นว่า เมื่อไทยเก็บเกี่ยวข้าวรอบใหม่ไปแล้ว จะรู้ว่า สถานการณ์ข้าวจริงๆเราเป็นอย่างไร อีกไม่นาน ก็จะทราบ

ปัญหาการกักตุนสต็อกของแต่ละประเทศเริ่มที่ ฟิลิปปินส์ ประกาศ ต้องการข้าวอีก 1.5 ล้านตัน เลยตื่นตระหนกไปกันใหญ่ ตอนนี้ WTO เรียกร้องให้ผู้ส่งออกอาหาร ให้ส่งออกต่อไป เพื่อป้องกันวิกฤติเลวร้ายที่อาจมีขึ้น

อีกไม่นานจะเข้าฤดูฝนของไทย และเขตมรสุม ซึ่งผลิตข้าว 80-90%ของโลก ถ้าฝนดี ทุกอย่าง คงเข้าสู่ภาวะสงบลง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

ท่านนายกฯจีนเปิดเผยความลับแล้ว....ติดตามเลยค่ะ

Last month Mr Wen-( China's prime minister, Wen Jiabao)even revealed what had been a state secret: that China had grain reserves of 150m-200m tonnes, equal to 30-40% of annual production.No need for alarm.

ไม่ต้องกลัว ประเทศเรา มีข้าวสต็อกไว้พอ และยังจะส่งให่ฮ่องกงด้วย เพราะเป็นประเทศเดียวกัน แต่คนที่แย่หน่อย คือเกาหลีเหนือ

Early this year, to control demand, it began curbing grain exports through quotas and taxes. It promised continuing supplies to Hong Kong.

Diplomats say that China's caution has even affected the flow of food to North Korea, an old ally heavily reliant on shipments from abroad. Aid workers say North Korea is facing its worst food-supply crisis since a famine in the late 1990s.

ตอนนี้ วิกฤติเรื่อง ข้าว ก่อตัวขึ้นเกือบจะทั่วโลกแล้ว คนไทย ต้องระวังด้วย แม้เราจะยังมีพอกิน แต่ราคาจะสูงขึ้นแน่นอน อย่างไม่เคยสูงมาก่อน!!



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

ตอบคุณขจิตค่ะ  @2185

แรกเริ่มเดิมที ประเทศไทยเราเป็นประเทศเกษตรกรรม ทำไร่ทำนามาตลอด มีข้าวเป็นสินค้าส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก 30%ของการส่งออกทั้งโลก ในปัจจุบัน

แต่ต่อมาๆ มีผลกระทบในด้านกายภาพของสภาพแวดล้อม อันเนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ ต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูสูง ทำนาทำไร่ไม่ได้ผล เกิดภาระหนี้สิน และเกิดการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงสร้างครอบครัว และวัฒนธรรมดั้งเดิมสูญหายไป

อุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้ผลผลิตไม่เป็นไปตามกำหนด รูปแบบฝนตกเปลี่ยนไป มีการแย่งชิง แหล่งน้ำ ดินและป่าไม้กันมากขึ้น

คนต่างจังหวัดเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่มากขึ้นๆ

เรื่องนี้ รัฐบาลคงต้องเข้ามาดูแลเป็นการด่วน ให้ทั้งความรู้ และการวางแผนแบ่งโซน จัดการพื้นที่ทางการเกษตรให้สอดคล้องกับสภาวะดิน ฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลง กระทรวงเกษตรฯ ต้องเข้ามาช่วยจัดการ และช่วยชาวบ้านให้มีความรู้ ในการปรับตัวในการดำรงชีวิตด้วย

เรื่องนี้ เป็นเรื่องยาวมากค่ะคุณขจิต เป็นเรื่องยากด้วย แต่ดูเวียดนาม สิคะ มีพายุไต้ฝุ่นบ่อยมาก ยังสู้ได้เลย

คนเราเจอวิกฤติชีวิต จะลุกขึ้นมาสู้เอง ไม่มีใครยอมจนมุมง่ายๆหรอก เกิดมาเป็นคนแล้วนี่ จะกลัวอะไร อย่างมากแค่ ตาย!!!

ตายเองนะ ไม่ได้ฆ่าตัวตาย พี่ว่า บางที เหมือนเรามีความอดทนกันน้อยไปหน่อย ชีวิต คือการต่อสู้ค่ะ ไม่ใช่การงอมือ งอเท้า สู้แบบใช้ความคิดมากๆ

ถ้าพี่เป็นเกษตรกร  อ่าน บันทึกของ ดร.แสวงฯแล้ว มีกำลังใจจริงๆค่ะ  อาจารย์ชี้ทางออกอยู่นะคะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

The Philippines

Philippines..... Every hour, then, the country has an extra 200 little mouths to feed. And increasing numbers of them are being born into grinding poverty.

Too many babies?The food crisis revives worries about population growth.

 

ประเทศฟิลิปปินส์ กำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องอาหาร จะไม่พอสำหรับพลเมือง ต้องมีการวางแผนครอบครัวเป็นการด่วนมากๆๆๆแล้ว ประเทศไทย ยังมีเด็กและคนวัยทำงานไม่มากนัก และส่วนใหญ่แต่ละครอบครัว ไม่อยากมีลูกมากอยู่แล้ว ค่อยยังชั่ว...

The debate over whether population growth is the prime cause of poverty and underdevelopment has raged in the Philippines for years.

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

VIETNAM

Half-way from rags to riches!!

An agricultural miracle has turned a country of 85m once barely able to feed itself into one of the world's main providers of farm produce.

 Vietnam has made a remarkable recovery from war and penury, says Peter Collins . But can it change enough to join the rich world?

 ลองอ่านดูดีกว่า....อยากให้ประเทศเรา ขยันแบบนี้จัง เราสบายไปหรือเปล่าเนี่ย ???



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

การทำเกษตรอินทรีย์ จริงๆแล้ว ไม่ง่ายนัก ถ้าจะทำให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ขายให้ต่างประเทศได้ด้วย( Buyers ต่างประเทศมีความรู้มาก และต้องใช้คำว่า เขี้ยว เราจะไปทำเล่นๆกับเขาไม่ได้)

ไม่มีการใช้เมล็ดพันธุ์ตัดแต่ง GMO/ ให้มีการกำจัดขยะอย่างถูกต้อง/ การให้สวัสดิการพนักงานถูกต้องตามก.ม.แรงงาน/ไม่มีการใช้แรงงานเด็ก

 และที่สำคัญ การทำเกษตรอินทรีย์ ต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งระบบ (เคยถุกตรวจสอบมาแล้ว แต่ไม่กลัว มีหลักฐานย้อนหลัง 2 ปี)

คือระบบนี้ ต้องมีความเป็นธรรมกับสวัสดิภาพของทุกชีวิตในโลก เป็นเรื่องของการจรรโลงสิ่งแวดล้อมของโลก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

อ.จ.วิบุลคะ@2166  ที่อาจารย์กล่าวถึงอยู่ตรงนี้ค่ะ 

"เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสัง เหตุง ตะถาคะโต เตสัญจะ โย นิโรโธจะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"....

เย ธัมมา เหตุปปะภะวา.......ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ.....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

แต่ก่อนการทำเกษตรอินทรีย์ เป็นเรื่องยุ่งยาก และดูเหมือนต้นทุนสูง แต่จริงๆแล้ว สามารถขายได้ราคาดีทีเดียว

บริษัทของเรา ทำเป็นเจ้าแรกๆ ส่งขายยุโรปหมด เป็นยี่ห้อของเราเองก็มี เป็นยี่ห้อดังๆแบบสินค้าPremiumก็มี ไปที่อังกฤษไปเห็นของๆเราวางขาย ในห้างดัง และขายดี ภูมิใจมาก.....

แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรง่าย ไม่ใช่แค่ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี แต่ต้องมีการจัดการพื้นที่การเกษตร และระบบการผลิต ต้องมีระบบควบคุมคุณภาพ ต้องมีการวางแผนการตลาด   ต้องวางแผนการเก็บเกี่ยวให้พอดีกับการจะไปวางขาย   และระยะเวลาการส่งถึงประเทศปลายทาง และต้องให้มีเวลาวางขายอีกหน่อย  เพื่อให้สินค้าสดเหมือนมาจากไร่ ไม่ใช่ไปถึงแล้วเหี่ยวแห้ง

แต่ทั้งหมด ต้องอยู่ในเวลาที่กำหนดเท่านั้น มิฉะนั้น สินค้าจะหมดอายุ

จริงๆแล้ว เกษตรอินทรีย์ทั่วโลกเกิดจากภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และองค์กรชาวบ้าน

การพัฒนาบุคลากรเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ต้องมีการไปช่วยเหลือชาวบ้าน ในการตรวจสอบมาตรฐานและการวางแผนงาน เป็นขั้นเป็นตอน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

แต่หากมองอีกมุม....

การที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก จะทำให้เรานำเข้าน้อยลงและหันมาผลิตพืชเกษตร เพื่อทดแทนน้ำมันมากขึ้น จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

แต่ขณะเดียวกันก็จะกระทบผู้ที่มีรายได้น้อย เพราะจะทำให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชพลังงานมากกว่าอาหาร ทำให้อาหารมีราคาแพง ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น

 ซึ่งจะกระทบต่อเนื่องต่ออุตสาหกรรมในประเทศที่ต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งจากค่าจ้างแรงงานและน้ำมัน

มีคนในวงการ เศรษฐศาสตร์พูดกันมากว่า...

รัฐบาลน่าจะพยายามส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและการลงทุน ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าวมากกว่าการตรึงราคาสินค้า

ตอนนี้ ไทยกำลังhappy ระยะสั้นเรื่องราคาข้าว ที่ส่งออกได้ราคามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่อีกหน่อย  ยิ้มอาจหุบ เพราะจะมีปัญหาอื่นๆตามมาแน่ๆ....

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

ขณะนี้ ที่เวียดนาม เงินเฟ้อ 15 % ประเทศจีนเอง เงินเฟ้อเกือบ 9% แต่ที่ไทยยัง 4% 

แต่ราคาสินค้าในเดือนกุมภาพันธ์นั้นสูงถึง 5.4%แล้ว  อีกไม่นาน อาจขึ้นไปอีกหรือเปล่า ไม่ทราบ เราคงต้องตั้งรับไว้ให้ดี ดอกเบี้ยเงินฝาก ไม่มีทางคุ้มเลย

ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ในภาพรวม  เป็นช่วงที่เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับต่ำมาก แต่เมื่อยุค ดังกล่าวจบลง เงินเฟ้อที่ระดับ 5-6% อาจกลับมาเป็นเรื่องธรรมดาใน 10 ปีข้างหน้าก็ได้

สำหรับเมืองไทย การสกัดกั้นมิให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นถึงระดับ 5% อย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง

ถ้าสินค้าเกือบทุกรายการราคาปรับขึ้นเหมือนๆกันหมด   เราคงต้องเจอเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ 5% แน่ๆๆๆ

ระวังไว้ดีๆๆ อย่าประมาท....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

วันนี้ ไปซื้อของที่ห้างดังแห่งหนึ่ง มีการจัดรายการเพื่อกระตุ้นยอดขาย หลายรายการด้วยกัน ขณะที่รอคนขายนำของไปห่อของขวัญให้  อยู่ว่างๆก็เลยสังเกตดูพฤติกรรมของผู้คนที่มาซื้อของไปด้วย

ถ้าจะจำแนกตามค่านิยมของแต่ละกลุ่มคนกว้างๆ วันนี้ สังเกตว่ามีอยู่ 4  พวกด้วยกัน

1.พวกที่มีเหตุมีผลมาก และออกจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ เช่น มีคนยืนเลือกเครื่องสำอางค์ที่คนขายคุยว่า หน้าจะขาวขึ้นภายใน 3 อาทิตย์ คนซื้อก็จะให้เอาหลักฐานการวิจัยมายืนยันให้เห็นกันจะจะ ตอนนี้เลยว่า เอาอะไรมายืนยันเช่นนั้น จนพอใจจึงจะซื้อ ไม่งั้น ไม่เชื่อถือ และไม่อยากซื้อ

2.นักเศรษฐกิจ

ชอบของที่มีลด แลก แจก แถม ถือเอาราคาเป็นใหญ่

3.นักศิลป

จะซื้อเฉพาะที่ใจรัก ราคาไม่เกี่ยง ไม่ตามยุคสมัย ไม่ตามแฟชั่น

4.พวกชอบสังคม

พวกนี้จะซื้อคล้อยตามคนอื่น อยากได้รับการยอมรับจากกลุ่มคน แคร์ความรู้สึกคนอื่น ชอบซื้อตามๆกัน ไมใช่จากความชอบที่แท้จริงของตัวเอง ชอบมาซื้อของกันเป็นกลุ่ม

แล้วหันมามองตัวเอง เอ เราจะเข้าประเภทไหนน้า....

อ้อ..ประเภท 3 จะซื้อของที่ตัวเองชอบเท่านั้น ถ้าใจชอบแล้ว ทุกอย่าง เป็นไปได้..แต่ที่ไม่ชอบใจ และจะไม่ซื้อ มักส่วนใหญ่ เป็นเพราะสินค้านั้นๆ ไม่น่าเชื่อถือ  และราคาไม่สมเหตุสมผล เป็นหลัก ไม่ชอบถูกหลอก อิๆๆ...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

หนึ่งในสัจธรรมในโลก ...ผู้ให้ จะเป็นผู้ที่มีpowerอย่างแท้จริง

Giving is the highest expression of power.

และตัวเอง ได้พิสูจน์ สัจธรรมนี้มาตลอด เป็นสิ่งที่เป็นความจริงที่สุดในโลก

อีกอันหนึ่งที่ดีคือ....Words are mere bubbles of water but deeds are drops of gold.

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

วันนี้ฝนตก รถติด แต่ก็ไม่มากเท่าใด คนคงรู้แกว รีบกลับบ้านกันแต่วัน แต่ก็ติดกว่าปกติบ้าง

วันนี้ ไปมอบความรักให้ครอบครัว เป็นวันที่มีความสุข และน่าจดจำอีกวันหนึ่ง

ครอบครัวที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อมีความรัก

กลุ่มคนก็สามารถเป็นครอบครัวได้ ถ้าเขาเติมความรักให้แก่กัน ในความสัมพันธ์นั้นๆ

หากปราศจากความรัก แม้จะเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ไม่ต่างจากกลุ่มคน ที่อยู่ในสายตระกูลเดียวกันเท่านั้นเอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

เพิ่งทราบว่า ข้าวผัดอเมริกันน่ะ อาหารไทยแท้ๆ  มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศไทยนี่เอง--Thailand..Country of Origin...

โดยการนำเอาAmerican Breakfast ไข่ดาว หมูแฮม ไส้กรอก มารวมกับข้าวผัดคลุกซอสมะเขือเทศ บางทีใส่ลูกเกด กับ ถั่วลันเตาเข้าไปด้วย to boost flavour.

โธ่เอ๊ย นึกว่า เป็นสูตรจากอเมริกา ต้นตำหรับอยู่ที่เมืองไทยนี่เอง แต่อร่อยนะ ชอบมากๆเลยละ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

มีโคลงโลกนิติ ตั้งแต่โบราณ แต่ยังใช้ได้ดีอยู่มาก...

ทรัพย์มีสี่ส่วนไซร้         ปูนปัน

ภาคหนึ่งพึงกีดกัน         เก็บไว้

สองส่วนเบ็ดเสร็จสรรพ์  การกิจ ใช้นา

ยังอีกส่วนให้                จ่ายเลี้ยง ตัวตน

คำถาม... จะเอาส่วนไหน ทำบุญ บริจาคทาน ให้เงินรางวัล ให้ทิปแก่ผู้ให้บริการต่างๆแก่เรา

คำตอบที่เห็นบ่อยๆ ทั่วๆไป  .. ให้เอาส่วนที่กันไว้เพื่อบริโภคมาใช้ในการนี้

แต่ความเห็นของตัวเอง น่าจะเก็บไว้ 2 ส่วน /ใช้ในการต่างๆ 1 ส่วน/ และสำหรับตัวเองใช้จ่าย 1 ส่วนซึ่งรวมถึง การให้ในรูปแบบต่างๆด้วย 

แต่ในเรื่องเฉพาะการทำบุญ  น่าจะนำเอาดอกผลในส่วนที่เก็บไว้มาใช้ในการนี้

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

ก่อนที่จะไปแถวปากคลองตลาด  ได้ไปที่วัดหลวงพ่อโต (วัดอินทรวิหาร )  และไปกินข้าวกับเพื่อน  แถวๆย่านบางขุนพรหมอีก

สมัยก่อนเป็นแหล่งบันเทิงแหล่งหนึ่ง ด้วยเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ ช่อง 4 เมื่อ 40 กว่าปีนี้ และยังเป็นที่ตั้งของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนานอยู่ที่นี่

อาชีพที่คนดั้งเดิมที่นี่  ทำอยู่มาแต่โบราณ และยังทำอยู่ คือ การค้าใบลาน  เขาเอาใบลานมาจาก ลพบุรี อยุธยา นนทบุรี แถวบางกรวย และคลองบางขุนเทียน

น่าจะมีการถ่ายภาพ ย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ เอาไว้บ้าง อีกหน่อย ก็จะค่อยๆเลือนหายไปแล้ว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

@ อ.วิบุลคงไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอนค่ะ

ชาวนาเราฉลาดค่ะ และทางราชการ ก็ไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเด็ดขาด

ตอนนี้ สำคัญยิ่งขึ้นไปอีก คือการปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

จากประสบการณ์ของตัวเอง พันธุ์พืช ปรับปรุงได้อยู่แล้ว เมื่อหลายปีก่อน ที่สุพรรณฯ ก็ทำนาได้ปีละ 3 หนแล้ว สำคัญที่ระบบชลประทาน หลังฤดูเก็บเกี่ยวปีนี้ จะมีข้าวออกมาอีกมากพอควร ในประเทศมีข้าวกินพอ ส่วนการส่งออก ทางการต้องดูแล



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sasinand
เขียนเมื่อ

เรื่องพลังงานกำลังเป็นเรื่องใหญ่มากของประเทศเรา แต่พออ่านข่าวว่า มีการเตรียมการกันคึกคัก ก็ค่อยเบาใจหน่อย พลังงานแสงอาทิตย์ยังมีต้นทุนผลิตสูงอยู่ 16-18 บาท/หน่วย น่าจะลดลงอีกได้สัก3-4 เท่า จะพึ่งพาน้ำมันน้อยลงได้

ในฐานะที่เคยทำส่งออกอาหาร ดีใจที่ไทยได้ประโยชน์ระยะสั้นในเรื่องนี้ แต่ต้องมีการวางแผนระยะยาวด้วย

ราคาน้ำมันคงไม่ต่ำกว่า 90 ดอลล่าร์/บาเรลอีกแล้ว ทำใจได้ เพราะต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น และน้ำมันในโลกน่าจะน้อยลงด้วย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท