ดอกไม้


ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ
  • จากวันที่ 22-26 สิงหาคม 2555 คงต้องขับรถอุบลฯ-ยโสธร และยโสธร-อุบลฯ ตามลำพัง เป็นว่าเล่น เพราะต้องเดินทางไปช่วยงานฌาปนกิจศพน้องสะใภ้ที่ อ.เมือง ยโสธร และกลับไปทำงานที่อุบลฯ
  • สายๆ วันนี้ขับรถจากยโสธรมาอุบลฯ ช่วงอำเภอเขื่องใน-อุบลฯ รู้สึกง่วงแต่ก็พักไม่ได้ พยายามฝืนเพราะมีงานด่วนรออยู่ที่มหาวิทยาลัย มีอาการเกือบหลับในไป 3 ครั้ง รถแฉลบออกทางขวานิดๆ แต่ก็รู้สึกตัว (ที่ยังกล้าขับอยู่ก็เพราะรถวิ่งทางเดียว ไม่มีรถสวนเลยไม่เกรงว่าจะสร้างปัญหาให้รถสวน และก็คิดว่าไม่น่าจะสร้างปัญหาให้รถที่ขับตามหลังมา เพราะมีสองเลน เราเองขับเร็วเลยวิ่งเลนขวา ถ้ามีรถที่ขับตามหลังมาใกล้ๆ และขับเร็วก็จะหลีกทางให้ โดยให้สัญญาณแล้วเปลี่ยนไปขับเลนซ้าย
  • ตอนที่รถทำท่าแฉลบทั้ง 3 ครั้งจะอยู่ในช่วงที่วิ่งเลนขวาและไม่มีรถตามมาใกล้ๆ  ทั้ง 3 ครั้งรถทำท่าจะแฉลบลงร่องที่กั้นระหว่างถนนอีกด้าน ถ้ามีปัญหาจริงก็คงเป็นอันตรายกับตนเอง ไม่เป็นอันตรายกับคนอื่น แต่ก็โล่งอกที่ถึงเป้าหมายโดยปลอดภัย
  • คืนนี้ก็คงต้องนอนน้อย เพราะต้องพิมพ์เอกสารประวัติ และจัดทำไฟล์ภาพส่งงานประชาสัมพันธ์เช้าพรุ่งนี้ เพื่อจัดทำหนังสือเกษียณอายุราชการ และตรวจงานวิชาจิตวิทยาสำหรับครู ซึ่งมีตารางสอนพรุ่งนี้ 08.00-11.20 น.  ตอนบ่ายต้องทำเรื่องเบิกค่าวัสดุฝึก ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่คณะให้ทำเรื่องเบิก แล้วเย็นๆ ก็ต้องขับรถไปยโสธรอีก เที่ยวนี้ดีหน่อยจะมีคนนั่งไปเป็นเพื่อน

 

45
28
03 เกียรติศักดิ์ สุขเกษม
เขียนเมื่อ

จากการที่ได้ไปสนทนากับชาวต่างชาติ  ผมมีความรู้สึกตื่นเต้นมากตอนแรกเพราะผมไม่เคยได้ไปสนทนากับชาวต่างชาติ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้สนทนา ซึ่งชาวต่างชาติก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผมมีความประทับใจมากกับการที่ได้ไปสนทนากับชาวต่างชาติในครั้งนี้

4
1
03 เกียรติศักดิ์ สุขเกษม
เขียนเมื่อ

ชีวิตช่างวุ่นวาย วกวน ไร้ซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะกี่ปีกี่เดือนที่ช่วงเวลาอันโหดร้ายจะจบลงซักที อยากเริ่มเป็นตัวของตัวเอง ไม่อยากกดดันกับสิ่งต่างๆ ขอให้วันนั้นมาถึงสักทีเถอะ

3
1
ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ

        ค่ำนี้ ได้อ่านอนุทินของน้องสุภัทรา เล่าถึงอาการหอบที่เนื่องมาจากหวัดของคุณแม่ของเธอ ทำให้ได้ความรู้ว่า อาการหอบสืบเนื่องมาจากการเป็นหวัด

       ย้อนกลับมาดูตัวเอง ซึ่งได้รับเชื้อหวัดมาจากลูกสาวตอนที่ไปเกาหลี สองวันแรกไม่เป็นอะไร วันที่สามเริ่มมีอาการจามและน้ำมูกไหลไม่หยุดจนต้องขอยาลดน้ำมูกจากลูกมากิน (ปกติเวลาป่วยจะไม่กินยา/หาหมอ ปล่อยให้หายเอง) อาการแสดงออกมากในวันที่จะเดินทางกลับ  ตอนกลับถึงกทม.วันที่ 29 พ.ค.มีอาการหายใจหอบ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งที่ก็เคยเป็นไข้หวัด และยิ่งตอนที่เดินจากจุดเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิไปรอขึ้นเครื่องกลับอุบลฯ ในวันที่ 30 ซึ่งต้องเดินไกลมาก ก็ยิ่งหอบมาก กลับถึงอุบลฯ ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะแค่เดินไม่กี่เมตรก็หอบเลยนอนอย่างเดียว ช่วงบ่ายแก่ๆ ตื่นขึ้นมาพบว่าอาการหอบหายแล้ว เลยไปตลาดซื้อกับข้าวมากิน หลังจากที่ไม่ได้กินมาตั้งแต่เที่ยงวันที่ 30

       ช่วงนี้เดินทางบ่อยมาก ในรอบสองสัปดาห์ขึ้นเครื่อง 8 เที่ยว และใช้แรงเดินขึ้นเขาทั้งตอนที่ไปเที่ยวเชียงใหม่และเที่ยวเกาหลี กลางคืนก็นอนน้อยร่างกายเลยอ่อนแอสู้กับโรคไม่ไหว ถ้าอยู่ที่ฟาร์มไอดินฯ หรือบ้านเรือนขวัญ ในแต่ละมื้ออาหารจะทานพืชผักสมุนไพร 80 % ทานโปรตีน 20 % ทำให้พร้อมสู้โรค แต่อยู่ที่เกาหลี 4 วันเต็มๆ อาหารเป็นเนื้อสัตว์ 85 % ผัก 15 % ร่างกายคงจะปรับตัวไม่ได้

       คืนนี้ก็คงจะต้องนอนน้อย เพราะมีงานค้างที่ไม่มีแรงทำส่งในวันที่ 30 ตามที่แจ้งคณะไว้ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน ซึ่งเริ่มด้วยการประชุมของมหาวิทยาลัยในภาคเช้า และเริ่มการเรียนการสอนในภาคบ่าย 

34
4
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท