ช่วงนี้เลขาฯได้อมยิ้มกับจดหมายอยู่บ่อยๆ
ฟิล์มเป็นน้องชาวศรีสะเกษ เริ่มรับทุนมาตั้งแต่ปี 44
ตอนนั้นอยู่ ม.1 ทุกๆปีเกรดของฟิล์มไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่นัก
อยู่ประมาณ 2 นิดๆแทบตลอด ทางพูนพลังก็ไม่ได้ว่าอะไร
เราคุยกับน้องๆเมื่อได้พบกันทุกครั้งว่า
ขอให้พยายามตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด หากพยายามเต็มที่แล้วก็พอใจได้
ไม่ต้องสนใจว่าเกรดจะมากหรือน้อย สิ่งที่สำคัญในการเรียน
คือพยายามรู้ให้ได้ว่าเราชอบอะไร ถนัดอะไร และอยากทำอะไร
3 ปีที่รับทุน
ฟิล์มไม่เคยเขียนจดหมายมาคุยที่สำนักงานเลย
ซึ่งก็เป็นธรรมดาของน้องผู้ชายและน้องที่เรียนไม่เก่งส่วนใหญ่
ที่มักจะคิดกันไปว่าเด็กที่ได้รับทุนควรเป็นเด็กเรียนเก่ง
จนกระทั่งปีที่แล้ว ฟิล์มจบ ม.3 มารับทุนตอนต้นปี ฟิล์มบอกว่า
กำลังจะย้ายไปอยู่กับญาติและเรียนต่อที่พิจิตร
ตอนนั้นฟิล์มยังมีท่าทางเก้ๆกังๆไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
แล้วฟิล์มก็เงียบหายไปอีก
ปีนี้เลขาฯรับหน้าที่แจ้งเรื่องการขอรับทุนไปที่ฟิล์มโดยตรง
เพราะเราไม่ได้ประสานกับหน่วยงานใดๆที่พิจิตร
ฟิล์มโทรศัพท์มาคุยเรื่องทุน และเล่าด้วยความภูมิใจว่า
ตอนนี้กำลังเรียนวิชาช่างโรงสีอยู่ที่วิทยาลัยชุมชนพิจิตร
เป็นสาขาที่เปิดใหม่ ที่สำคัญคือฟิล์มชอบเรียนสาขานี้มาก
แถมยังได้ออกรายการทีวีด้วย ฟิล์มบอกว่าชอบเรียนเกี่ยวกับเครื่องกล
และอยากทำงานเป็นช่างกลึง ตอนท้ายของจดหมายเมื่อเดือนพฤศจิกายน
ฟิล์มบอกว่าเกรดในปีที่ผ่านมาได้สามกว่าทั้งสองเทอม
ถ้าเกรดเทอมสาม (เทอมแรกของปีนี้) ออกเมื่อไหร่ จะส่งมาให้ดู
และมั่นใจว่าน่าจะได้ไม่น้อยกว่าสองเทอมแรก
เลขาฯมัวแต่ยุ่งๆยังไม่ทันได้ตอบจดหมายของฟิล์ม
ก็มีจดหมายมาจากพิจิตรอีก เทอมที่สามของการเรียน
ฟิล์มได้เกรดเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าสองเทอมแรก และเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง
เพราะฟิล์มได้ที่หนึ่งของห้องติดต่อกันเป็นเทอมที่สามแล้ว
เลขาฯเงยหน้าจากจดหมายของฟิล์มไปทำงานอย่างอื่นต่อ
แต่ก็ยังคงอมยิ้มไปเรื่อยๆ … ทั้งวัน