ครูเก่า เล่า IT


การสร้างสื่อการเรียนการสอนง่าย ๆ สำหรับครู

    จากการเริ่มเป็นครูในชนบท ห่างไกลความเจริญ ครูใหม่ที่พึง
ได้ปฏิบัติหน้าที่การสอนครั้งแรกในชิวิต หลังจากผ่านการสอน
โดยการฝึกสอนมาแล้วก็ตาม อดไม่ได้ที่จะตื่นกับสนามจริง
การสอนครั้งแรก  ... จึงมีแต่ชอล์ก กับกระดานดำ.....   ต่อมาพอเริ่มมีลูกเล่น นิทานก็ตามมา บทเพลงที่ตนชอบประกอบ
กีต้าร์ตัวเก่า ก็มีบทบาทร่วมกับครูใหม่ จนครองใจเด็กดอยได้อย่าง
ชนิดครูเก่า ต้อง (แอบ) ค้อน......  ชอล์ค เริ่มมีลายเส้นตัวละคร ตามนิทาน  บทเพลงเริ่มแต่งให้เข้ากับบทเรียน ท่าเต้น ท่ารำ เริ่มมี ครูลองทำ เด็กลองดู ครูลองถาม
เด็กลองคิด  ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ  ในที่สุด ก็สนุกกับการเรียนการสอน
 
เด็กที่เคยขาดเรียนบ่อยๆ ก็ติดโรงเรียน เด็กที่ออกไปก่อนหน้า ก็ตามเพื่อนมาโรงเรียน ( เพราะอยากฟังครูเล่านิทาน และร้องเพลง)   วันเสาร์ อาทิตย์ แทนที่ครูจะได้พัก นักเรียนกลับมาที่บ้านพัก มาช่วยทำงานบ้านเพื่อแลกกับการฟังนิทาน และร่วมร้องเพลง.... ( ก็ดี มีเด็กช่วยงาน แต่ไม่ได้หมายความว่า ใช้แรงงานเด็ก นะจ๊ะ)     ครูในโรงเรียนเริ่ม มองดูครูใหม่ ที่เข้ามาครองใจเด็กๆ ป.1 ซึ่งเป็นเด็กเล็ก ที่ครูคนอื่น แอบปัด ไม่รับสอน เนื่องด้วย  ........( ไม่เข้าใจ อ๊ะ)   ครูหลายท่านจากที่เคยดุ ให้เด็กทำแต่งานในสมุด ก็เปลี่ยนมาเล่านิทานเสริมบทเรียนบ้าง (เหมือนกัน...)  แต่เขาไม่กล้ามาถามเราหรอก
ว่าทำไม...และทำไม คงกลัวเสียสถาบันชมรมครูเก่า........   เราก็เข้าไปชวนพูดคุย ขอประสบการณ์ ที่บางอย่างเราก็คิดว่ายังไม่มี
เช่น  ทำอย่างไรให้เด็กนั่งกอดอก ( อ่านว่า กอด อก ) .......อื่นๆ อีกมากมาย ฯลฯ .......  แต่เราก็ภูมิใจลึก ๆ แหละ ในที่สุดเมื่อสิ้นเดือน ได้รับเงินเดือนๆ แรก
1080
บาท เราก็ดีใจจนวันนั้น ต้องใส่เสื้อที่มีกระเป๋าตรงหน้าอก ( ไว้ใส่เงินเดือน กลัวหาย อะ )  แล้วนอนหลับฝันดี............
            
จบตอนเริ่มต้นของครูใหม่ ก่อนจะเป็นครูเก่า

คำสำคัญ (Tags): #ศน.km#สื่อการสอน
หมายเลขบันทึก: 99260เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2007 23:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
มาเป็นกำลังใจให้คุณครูค่ะ ดีจังที่การศึกษาไทยมีครูใหม่ไฟแรงมาร่วมพัฒนา เติมสิ่งที่ยังขาดให้เต็ม วิธีการเรียนที่ทำให้เด็กรู้สึกว่าเหมือนได้เล่น เป็นวิธีที่ทำให้เข้าถึงเด็กเล็กได้เป็นอย่างดี

หลานตัวเล็กที่บ้านก็พึ่งขึ้น ป.2 ถ้าทำท่าว่าจะสอนหนังสือ ก็จะเกิดอาการกระบิดกระบวนมาก เดี๋ยวง่วง เดี๋ยวหิว เดี๋ยวคัน เป็นสารพัดอย่างขึ้นมาตอนนั้น แต่ถ้าบอกว่ามาเล่นกัน ดูสิใครคิดเลขได้ก่อน ใครคิดคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้มากที่สุด อะไรทำนองนี้ โหย...เล่นได้เล่นดีไม่มีเบื่อ ได้ความรู้แถมสนุกด้วยค่ะ แต่คนสอนเหนื่อยหน่อย ต้องคอยหาวิธีใหม่อยู่เรื่อยๆ
อ้าว ไปอ่านประวัติท่านเป็นครูเก่าไปซะแล้ว นี่มาเล่าอดีตให้ฟังนี่เอง แต่อย่างน้อยท่านก็เคยเป็นครูใหม่ไฟแรงในอดีตนะคะ ขอให้รักษาไฟไว้ไม่ให้มอดไป และคงคุโชนทุกครั้งยามสอนหนังสือให้เด็กๆ ค่ะ
อย่างงี้ littel jazz ก็เป็นครูได้อย่างสบาย เพราะแค่เทคนิคหลอกหลาน ก็เหลือเฟือแล่ว
รูปพี่ครูเก่า เท่มากเลยนะ เชื่อแล้วหล่ะว่าตอนที่เป็นครูใหม่ ต้องมีวิธี เทคนิค สำหรับเด็ก ๆ มากมาย หลายหลากแน่ ๆ

ตอนนี้ ไม่ได้สอนเด็ก ๆ แล้วเหรอคะ?

เทคนิคการสอนเด็กๆ อนุบาล มีบ้างมั้ยคะ?

 

ในฐานะที่เคยเป็น "ครูเก่า" เหมือนกัน ก็ขอชื่นชมในเทคนิควิธีการสอนที่ล่อหลอกเด็กให้สนใจใฝ่รู้ได้ ที่จริงมันก็น่าจะพอสรุปได้ว่า จริง ๆ แล้ว เด็กก็เหมือนกับต้นไม้ ที่จะเติบโตออกดอก ออกผล เป็นที่พอใจได้ ก็ขึ้นอยู่กับคนใกล้ชิดที่จะหมั่นรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ที่ผ่านมาก็เคยภูมิใจในตัวเองอยู่ลึก ๆ ที่สามารถทำให้เด็กชั้น ป.2 ที่ตนเองรับผิดชอบ จากเคยสอนได้เป็นอันดับสุดท้ายของอำเภอหนองเรือ จ.ขอนแก่น ตอนเรียนอยู่ ป.1 เมื่อขึ้นมาเรียนชั้น ป.2 ที่ตัวเองสอน จบปีสอบวัดผลระดับอำเภอ ได้เป็นอันดับหนึ่ง (ไม่ใช่ห้องเดียวนะ) การสอนน่ะเหรอเริ่มต้นก็เจออ่านไม่ออก เขียนไม่ได้เหมือนกัน แต่ครูคนนี้ แม้ไม่ได้เรียนวิชาครู ก็จับจุดที่ว่า คนเราถ้าอ่านหนังสือได้ ความรู้จะตามมา ก็เลยเร่งเด็กที่ตรงนี้ เริ่มจาก เก็บหนังสือนิทานรูปสวย ๆ ตัวหนังสือน้อย ๆ  ที่พอมีในห้องสมุด มากองให้เด็กเอาไปอ่าน บังคับว่า ต้องอ่าน ตัวไหน อ่านไม่ได้ ให้เริ่มที่ถามเพื่อน ถ้าเพื่อนอ่านไม่ได้ ค่อยมาถามครู ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนหนังสือนิทานหมดห้องสมุด ก็ขยับไปอ่านหนังสือทั่วไป ที่รูปน้อย ๆ ตัวหนังสือเยอะ ๆ ...เรื่องเพลง ก็เอามาใช้เหมือนกัน  แต่ครูดาวเล่นเครื่องดนตรีไม่เป็น ก็อาศัยเทปเพลงเป็นตัวช่วย อ่านเนื้อบนกระดาน ฟังเพลง หัดร้อง แล้วฝึกออกเสียง เพลงหนึ่งที่จำได้ คือ เพลง "เปลี่ยนแปลง" ของ สามารถ พยัคฆ์อรุณ (นักมวย) ..(ตั้งแต่ปี 2526) ถ้าถามตัวเองว่า จะสอนเด็กให้อ่านออกเขียนได้ ยากมั้ย คำตอบก็คือ ไม่ยากเลย ถ้าทุ่มเท

ขอบคุณ ครูยา  ครูดาว มากๆครับที่เป็นกำลังใจ ครูเก่า ถึงจะเก่า แต่ก็ยังมีไฟอยู่ จะค่อยๆ เล่าไป ตามแรงที่มีอยู่ ( แรงใจจากคนอ่านนะ )

  รับรองพอเล่าถึงไอที ในการสอนปัจจุบัน ซึ่งครูเก่าเปลี่ยนจากเด็กประถม เป็น สอนนิสิต มจร. รับรองว่า....... 

ครูเก่าเล่า IT  …..ตอน 2   เรียน เล่น เล่นพอเริ่มรู้ตัวว่าสอน (พอไป)ได้.....    ก็ดีใจลึกๆ  ...
สมัยนั้น การเขียนแผนการสอน ก็ไม่ได้มีอะไรมาก  ......ครูใหญ่เราตามใจครูน้อย
ให้อิสระ ในการคิดไม่จำกัดกรอบ ....(ก็ดี นี่เราคิดเองนะ....)

      
แผนการสอนบางที ก็เป็นกำหนดการสอน แบบก้อนใหญ่ๆ  แบบเหมาจ่ายว่างั้นเหอะ   ทำเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน แต่โทษทีไม่มีรายปักษ์       ทีแรกก็กะจะทำแบบ ที่ครูฝึกสอนตอนเรียน วค. คือแบบละเอียดยิบ  แต่มันก็ติดอยู่ตรงที่เขาไม่ทำ เราก็ไม่ทำ (แหะ ๆ )    ก็เลยวาดลวดลายพองาม แบบพอควรเป็นแผนละวัน สองวัน แล้วแต่ออกอาการ(ขยัน) ...        บางวันเรานึกเบื่อห้องเรียน  ก็เลยเขียนแผน ออกสำรวจหมู่บ้าน...( กลัวครูใหญ่ด่า หาว่าหาเรื่องพาเด็กเที่ยว )            พาเด็ก ทั้งหมดตรง....แถวเรียงตอนลึก........ยื่นมือมาแตะไหล่เพื่อน.....ยืนตรง
ห้ามหายใจ เอ้ย ...ห้ามกระดุก กระดิก......ครูจะพาไปเที่ยว   ( เด็กเฮใหญ่เลย )
         แต่เธอต้องวาดรูปสิ่งที่เห็นว่า  สวยที่สุดในหมู่บ้านของเรา  ...พยายามอย่าให้เหมือนกัน  .....เดี๋ยวพอเรากลับมาห้องครูจะให้ เธอนำรูปที่วาดมาเล่าให้เพื่อนฟัง....
เข้าใจไหมครับ...... ( เย้ ....ไปเลย อย่าพูดมาก เสียงนึกของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งเราแอบได้ยิน )        วันนั้น......ครึ่งวันเช้า.....ได้เที่ยวสมใจนึก.....เดินเป็นแถว  ลัดเลาะลำห้วยเล็กๆ เรียบหมู่บ้าน ซึ่งมีน้ำไสไหลเย็นเห็นตัวปลา  ว่ายแหวก ไป มา น่าเอ็นดู ....( เท่ง โมง..โจ๊ะ)         พักเป็นแห่งๆ ที่เด็กต้องการ และดูจะสนใจ  บางคนสนใจปลาตัวเล็กๆ   บางคนสนใจต้นไม้ใบหญ้า  บ้างก็ก้อนดินก้อนหิน ก็แล้วแต่เด็ก เพราะแค่เด็ก ป.1 จะไปหวังอะไรมาก    วาดไปตามใจนึก เพราะบางที่เราก็นึกไม่ออกว่าเขาวาดอะไร ( มองไม่เป็นรูปเป็นร่างนะ ไม่รู้ว่าครูคนไหนสอน....นิ )           พอผ่านบ้านตนเอง ซึ่งเด็กหลายๆ คน ตะโกนเรียก พ่อแม่ พี่น้อง ลุง ป้า น้า อา
ดังเอะอะ  มะเทิ่ง   ....   ก็ต้องคอยปรามบอกว่าตะโกนเสียงดัง มันไม่ค่อยดี  เขาบอกว่าเป็นเด็กไม่เรียบร้อย  ถ้าใครอยากเป็นเด็กเรียบร้อยต้องพูด คือเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วถึงจะพูด ถาม  ไม่ใช่ตะโกนโหวกเหวก  ...... เด็กก็เลยไม่ค่อยเสียงดัง   กลัวจะไม่เป็นเด็กเรียบร้อย ( หรือว่า กลัวครูจะไม่พา มาอีก ไม่รู้นะ...)
           ตอนนี้แหละ มีเรื่องต่อเนื่องภายหลัง เพราะมีผู้ปกครองเด็ก  ไปบอกครูใหญ่ว่าครูไม่สอน พาแต่เด็กไปเดิน ไปเล่น  ( ครูใหม่ เลยต้องชี้แจงในที่ประชุม ผู้ปกครองในเดือนต่อมา ....และ ต่อมา ครูใหม่พาเด็กไป   ...ผ่านบ้านใคร  ก็ถูกเรียกให้ไปกินผลไม้ หรือขนม ซึ่ง พ่อแม่เด็กเตรียมไว้ เพราะรู้ว่า วันนี้ ลูกจะเดิน มาอีกแล้ว และ ครูใหม่ก็ได้ ครูผู้ช่วย คือ พ่อแม่เด็ก นั่นแหละ.... จะเล่าให้ฟังตอนต่อไป )           กลับถึงห้อง ก็ชุลมุน ยกใหญ่ ลืมบอกไปว่า อาหารกลางวันนั้นเรียบร้อยแล้ว ตอนที่นั่งพักกัน ข้างๆลำห้วย ซึ่งเป็นที่ร่มรื่น มีบริเวณของพื้นที่เป็นทรายจากลำห้วยที่ถูกน้ำพามาในฤดูน้ำหลาก.....   มาถึงห้องก็บ่ายโมงกว่า ๆ   .....เด็กๆ แย่งที่จะเล่า ก่อนเพื่อน ( อยากโชว์ครูมั๊ง ) ครูใหม่ เลยต้องให้จับ หมายเลข เรียงลำดับก่อนหลัง ( แน้....ได้ฝึกอ่านตัวเลข อีกแล้ว ครับทั่น )    ..... เอ้า ...ก่อนจะมาเล่า ระบายสีรูปให้สวย ๆ ก่อน  แล้วเขียนชื่อรูป ด้วยนะ ใครเขียนไม่ได้ ( ก็มันไม่ได้อยู่แล้ว ไม่น่าถาม...) มาบอกครูว่าจะเขียนคำว่าอะไร ครูจะเขียนใส่กระดาษเศษให้ แล้วนักเรียนนำไป คัดตามแบบ ลงใต้รูปภาพของนักเรียน นะครับ....แล้วมาอ่านคำที่เขียน ให้เพื่อนฟัง ดังๆ              เด็ก ๆ ก็ ทำตามกติกามารยาท ด้วยดี  ........อ่านคำที่เขียนเสร็จ (ไม่รู้ว่าเขาเก่งนะ อ่านให้ฟังหนเดียว เขียนก็ได้ แถมอ่านได้ไม่ผิด .....แต่ถ้าจะให้สะกดตามมาตราตัวสะกด คงบอกว่ายังไม่ได้ ....ก็ยังไม่ต้องสอน  แต่สังเกตดูว่า เขาจะจำคำศัพท์นี้ไปตลอดเลยแหละ คงเป็นความจำถาวรแล้วหละมั๊ง...)   พออ่านเสร็จ เขาก็เล่าต่อ  ...ไม่รู้ว่าไปสรรหา อะไรมาเล่า.... เล่ากันไปถามกันไป .... พอทุกคนเล่าเสร็จ ก็พอดีใกล้จะเลิกเรียน ก็เลยร้องเพลง....ก่อนกลับบ้าน                             จบตอน2 เรียน เล่น เล่น   ( อ่านต่อ ปีหน้า  โทษทีโอกาสหน้า)
ต่ออีกครับ จะรอ

มีเทคนิคการสอนเด็กพิเศษไหมค่ะ น.ส.สร้อยทิพย์ ทิพวรรณ์ ห้อง 1 เลขที่ 40

ได้อ่านเรื่องของอาจารย์แล้วรู้สึกว่าการเป็นครูไม่ได้มีหน้าที่แต่การสอนหนังสือเพียงอย่างเดียว

ครูทำหน้าที่มากกว่าการสอน

เป็นครูต้องทำได้ทุกอย่างและต้องมีความอดทนสูง

สู้ๆๆค่ะ

ครูเก่าแต้ๆ it จะบ่าเก่งแต่ขอชื่นชมที่ไปอบรมพัฒนาใช้คอมเป็น

ตอบในฐานะเป็นครูที่เห็นใจกัน ประสบการณ์ที่ผ่านมานั้นทำให้คุณเป็นคนสู้ชีวิตบนความยากลำบากมาก่อน ฉันขอชื่นชมและจะเป็นกำลังใจในการทำงานของครู ครูมีความพยามยาม มีความอดทน มีความตั้งใจ สู้ ๆ น่ะ เดี๋ยวนี้สบายกว่าเหมือนก่อนแล้วอย่าลืมเล่าประสบการณ์ให้กับครูรุ่นใหม่ เพราะครูใหม่ต้องการคนดี ๆ อย่างคุณ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท