เรื่องเล่า อ.๓ จากเวทีแลกเปลี่ยน เพื่อขยายผล (๓)


abprerkm

ครูศิริมาศ รอดจ่าย:
ทำผลงาน วิชาเสริมสร้างประสบการณ์พิเศษ  จากกรณีการทำผลงานอาจารย์ ๓ งวดสุดท้าย รู้สึกว่า ถ้าไม่ทำ และไม่ก้าวไป จะตัน จึงเริ่มจากส่งเด็กเข้าประกวด ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ ทำให้หวลคิดถึงเด็กที่ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันทางวิชาการว่าจะเก่งและดีขึ้นไปด้วยได้ไหม จึงเริ่มทำหนังสือ และเข้าอบรมการเขียนหนึงสือตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ เรื่อยมา ปี พ.ศ.เข้าประกวดครูดีเด่น และหนังสือที่จัดทำในครั้งแรก ไม่ประสบผล แต่ยังได้รับแรงกระตุ้นจากแฟน  จนวันหนึ่งได้พบกับเพื่อนที่งานสัปดาห์หนังสือ  จึงสอบถามโครงการรักการอ่าน ต่อมาได้รับเชิยเป็นคณะทำเครื่องมือทดสอบ ได้พบครูหลายจังหวัดทั้งระดับประถมและมัธยม เมื่อเข้ากลุ่มจะพูดคุยกันแต่เรื่องการทำงานผลงานทางวิชาการเพื่อปรับเป็นอาจารย์ ๓ กันเป็นประจำ  เมื่อกลับมาที่โรงเรียน ผู้อำนวยการ พิลาส  ให้ช่วยทำเอกสารในการปรับระดับ  จึงได้แนวคิดจากงานห้องสมุดที่เข้ากับโครงการรักการอ่าน  จึงเริ่มอีกครั้งโดยเริ่มกับเด็กในห้องที่สอน  ให้อ่าน แล้วแสดงละคร และอื่นๆ  ต่อมาเสนอโครงการนี้กับทางโรงเรียน เริ่มกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ สุดท้ายจัดทำรายงานโครงการสอน  ซึ่งมีกิจรรมและเกม  แล้วเพ่มหนังสืออ่านเพิ่มเติมจนได้รับ จาก กค. ให้แก้ไขผลงานบางส่วนเช่น  ให้เพิ่มรูปในข้อความบางที่


ครูวิชัย  บูรณสรรพกิจ:
การทำให้ให้ทำไปเถอะ ดวงจะได้และได้เอง  ช่วงที่มีการประกาศให้ทำผลงานเชิงประจักษ์ ได้รับแจ้งว่าจะไม่ดูแผนการสอน แต่จะเน้นที่เด็ก  จึงส่งแผนการสอน มีผู้ตรวจ ๓ ท่าน คือ อ.สายัณห์  เรืองโรจน์  อ.สมบัติ  อ้นอารีย์  หัวหน้าฯสมควร  ช่วงเดือนเมษายน ต้องส่งแผน ช่วงนี้เครียดมาก เพราะต้องปรับแผนให้ดี บางวันพิมพ์ตั้งแต่ ตี ๔ ถึง ๑๑ โมงเช้าของอีกวัน แล้วกดแป้นคำสั่งผิด ทำให้งานหายไปทั้งหมด จึงปิดเครื่องคอมฯแล้วออกเที่ยวกลับเข้าบ้านเมื่อ ๕ โมงเย็น ภรรยาแจ้งว่า หัวหน้าฯสมควรให้ไปพบ แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าทิ้งแล้ว  จึงแต่งตัวไปวิ่งออกกำลังและเพื่อเป็นการคลายเครียด  ปรากฏว่า ได้พบกับหัวหน้าฯสมควร ที่สนามวิ่ง ถูกเร่งรัดให้ส่งด้วยอาการที่แข็งขัน เมื่อส่งแล้วปรากฏว่าไม่ผ่าน  ต่อมาย้ายมาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนอนุบาล มีชื่อให้เข้ารับการอบรมเข้ม ขณะนั้นยังสองจิตสองใจระหว่างไปกับไม่ไป แต่ถูกเพื่อนๆ เร่งเร้า เช่น อ.อัจฉรา อ.นิตยา อ.ดาวรัตน์  อ.เสม ยุงยงให้เข้ารับการอบรม ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ จนรู้สึกรำคาญ จึงตัดสินใจไปเข้ารับการอบรม  ก่อนไปได้กราบนมัสการหลวงพ่อพุทธโสธร และเสี่ยงทายว่าควรไปไหม ผลการเสี่ยงทาย ปรากฏว่า ไม่ควรไป แต่เมื่อกลับถึงบ้านถูกบังคับอีกครั้งจากคนที่บ้าน เลยต้องไป  เมื่อไปถึงแล้ว ในวันแรกที่เข้ารับการอบรม เครียดมากถึงขนาดออกจากห้องอบรมมายืนอยู่หน้า ล๊อบบี้เปลี่ยนตัวการเช่าห้องนอนกับคนที่เพิ่งมาถึง  สุดท้ายก็ไม่มีใครให้เปลี่ยนจึงจำทนอยู่ต่อ จนวันที่มีการสอนมีหลายคนบนว่าข้อสอบมีแต่เรื่องของระดับมัธยมตน  ซึ่งตนเองเคยนสอนมาเป็นเวลาหลายปี จึงพอทำได้ไม่ยากนัก    ส่วนหนึ่งของการทำผลงานครั้งนี้ได้ความรู้เรื่อง เอกสาร บทเรียนสำเร็จรูป ฯลฯ จากแม่บ้านที่ไปเข้าอบรมการทำงานผลทางวิชาการหลายที่ แล้วกลับมาพูด(บ่น) ให้ฟังที่บ้านจึงมีความรู้ด้านการสร้างเอกสารอยู่บ้าง  ในวิชาคณิตศาสตร์ ต้องยึดหลักการและคำพูดในเอกสารของ สสวท.เป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรยึดหลักการ แนวทาง หรือ คำพูดของเอกสาร สำนักใดๆเลย

ครูอัจฉรา  ไชยมโน:
เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับทำผลงานอาจารย์ ๓ บ่อยมาก เรียกว่า ได้ข่าวว่ามีการจัดอบรมที่ไหน เป็นต้องไปทุกครั้ง จึงได้รับความรู้เรื่องแบบน้ำซึม เรื่อยมา และถูกบังคับจากผู้อำนวยการโรงเรียนเดิม ให้ทำ และได้รับความช่วยเหลือจากผู้รู้รอบข้างตัว จนแผนการสอนเสร็จ  บวกกับความพยายาม

คำสำคัญ (Tags): #abprerkm
หมายเลขบันทึก: 99253เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2007 22:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 23:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณค่ะ   อ่านแล้วคงจะช่วยให้กำลังใจแก่คุณครูอื่นๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท