จารุวัจน์ شافعى
ผศ.ดร. จารุวัจน์ ชาฟีอีย์ สองเมือง

เป็นงัย ตกได้กี่ตัว


วันนี้ตั้งแต่เช้าที่เดินเข้าห้องประชุมใหญ่คณะอิสลามศึกษาเพื่อร่วมในการปฐมนิเทศนักศึกษาบัณฑิตศึกษา คำทักทายแรกที่มายังผม คือ เป็นงัยตกได้กี่ตัว? ได้ยินคำถามนี้แล้วเจ็บใจตัวเองจริงๆ

ที่มาของคำถามนี้คือ เป็นที่รับรู้กันว่า ผมกับอาจารย์อีกสี่ท่านในสาขาวิชาวิชาชีพครู(อ.สุนทร อ.อับดุลกอนี อ.คอเหล็ดและอ.เกษตรชัย) ไปร่วมกิจกรรมที่นักศึกษารหัส49 จัดขึ้น คือ ล่องแพ ณ ปากอ่าว ต.จะโหน่ง อ.จะนะ จ.สงขลาครับ ซึ่งนักศึกษาและอ.เกษตรชัย (ตัวตั้งตัวตีของโครงการนี้) โฆษณาก่อนไปว่า มีกิจกรรมตกปลาตอนกลางคืนด้วย ผมในฐานะที่ได้รับการโปรโมทมา ก็ชักชวนอาจารย์ท่านอื่นอีกหลายท่าน ว่าไปไหม รอบนี้มีการตกปลาด้วย (ยอมรับครับว่า การตกปลาเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผมชอบ แต่ไม่ค่อยได้ทำสักที และในชีวิตนี้ก็ไม่เคยตกได้สักตัวเลย)

ขออนุญาตเล่าลำดับเหตุการณ์การไปร่วมงานของนักศึกษาในครั้งนี้นะครับ เราเริ่มลงแพกันประมาณหกโมงเย็นครับ ทั้งๆ ที่นัดกันตั้งแต่บ่ายสาม เหตุผลเพราะแพยังไม่กลับเข้ามา (ที่จะโหนงมีบริการแพเที่ยวชมอ่าวไทยทุกวันครับ วันละหลายรอบเหมือนกัน)

เมื่อขึ้นแพ แพก็ล่องไปเรื่อยๆ ครับ มีไกด์แนะนำสภาพรอบฝั่งน่าสนใจมากครับ ที่ผมสนใจอีกอย่างหนึ่งระหว่างการล่องแพ คือ ตลอดเส้นทางจะมีดอกไม้ชนิดหนึ่งลอยอยู่เรื่อยๆ ซึ่งจากการสอบถามจึงทราบว่าเป็นดอกปอ หรือสำเนียงใต้จะเรียกว่าดอกป้อ ซึ่งต้นของมันเอาไปทำกระสอบหรืออะไรทำนองนี้แหละครับ ดอกสีแดงอ่อนๆ ครับ ซึ่งมันทำให้ลำน้ำนี้สวยงามได้บรรยายไปอีกแบบครับ

หลังละหมาดมัฆริบร่วมกับอีซา ท้ามกลางพระอาทิตย์ตกน้ำทะเล ก็รับประทานอาหารกัน เป็นข้าวหมกแพะฝีมือนักศึกษาเองครับ (ทราบว่า อ.เกษตรชัยควักกระเป๋าจ่ายทั้งหมด) ฝีมือดีมากครับ ขนาดผมหาแพะไม่เจอยังกินข้าวเปล่าๆ อร่อยเลย

รายการต่อมาคือการปิ้งไก่ ปิ้งปลาหมึกกันครับ พร้อมๆ กับกิจกรรมการแสดงของนักศึกษาแต่ละกลุ่ม แสดงสดครับ แนะนำตัวบ้าง อนาชีดบ้าง

หลังจากนั้นผมก็หามุมทำกิจกรรมที่ชอบละครับ ตกปลา แน่นอนครับนักตกปลามือสมัครเล่นอย่างผมก็ต้องยืมเบ็ดของนักศึกษาครับ ทบทวนท่าแกว่งเบ็ดอยู่นานครับ จึงสามารถนั่งรอให้ปลามาติดเบ็ด

รอแล้วรออีก ปลาก็ไม่มากิน แม้กระทั่งมาแทะเล็มก็ยังไม่มีเลยครับ โดยส่วนตัวก็เดาแล้วแหละครับว่า ที่ๆ เรือจอดเนี๊ยะไม่น่าจะมีปลา เพราะน้ำไหลแรง (บริเวณกลางๆ ของปากอ่าว)

รอไปประมาณครึ่งชั่วโมง ผมตัดสินใจดึงเบ็ดขึ้นสำรวจ ปรากฏว่า เหยื่อยังอยู่ครบครับ ไม่หายไปไหนเลย แหม่ ทำไมไม่สนใจกันบ้างเลย ปลา หนอปลา

เริ่มใหม่อีกทีครับ โยนเบ็ดลงไปใหม่อีกที ปรากฏว่าคราวนี้ไม่ได้ดังใจนึกครับ เพราะเอ็นของเบ็ดมันดันพันกันให้ยุ่งไปหมด ด้วยความเสียดายเอ็น จะตัดทิ้งก็เสียดาย ก็เลยใช้วิธีการแกะปมเงื้อนครับ แกะอยู่ประมาณ 15 นาทีไม่สำเร็จ จึงไปเชิญนักศึกษานักตกปลามืออาชีพ (เจ้าของคันเบ็ด) มาช่วยแกะ รวมกันอีกประมาณ 1 ชั่วโมงแกะไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจตัดส่วนที่พันกันออก แล้วก็ตกใหม่ครับ

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ผมก็ดึงเบ็ดขึ้นอีกครั้งสำรวจความเสียหายของเหยื่อ ปรากฏ ไม่มีอะไรเสียหายเลย ปลาหนอปลาทำไมไม่สนใจกันเลย

โยนเบ็ดลงไปอีกครั้งหนึ่งครับ แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดครับ เนื่องจากเบ็ดไปเกี่ยวติดอยู่กับหลังคาแพครับ ดึงยังไงก็ไม่หลุด สุดท้ายต้องรบกวนคนขับแพปีนขึ้นไปปลดลงมาให้

และแล้ววินาทีสุดท้ายก็มาถึงครับ เก็บเบ็ดแล้วไปนอนดีกว่า

บทสรุปอีกประการหนึ่งคือ ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ ผมยังไม่สามารถตกปลาได้แม้แต่ตัวเดียว และครั้งนี้คือประสบการณ์ที่แย่ที่สุด คือ ไม่มีแม้กระทั่งปลาตัวเล็กๆ มาตอดเหยื่อเล่น

คำสำคัญ (Tags): #ตกปลา
หมายเลขบันทึก: 98956เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2007 16:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 04:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ทราบไหมคะว่าทำไมไม่มีแม้กระทั่งปลาเล็กปลาน้อย  คำตอบก็คือเพราะความเจริญค่ะ ความเจริญที่ใครๆเขาต้องการกันนัก คลองนาทับแต่ก่อนอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้ง หอย ปูปลา ดิฉันเคยได้กิน แม่กุ้งตัวเท่าแขน ปูดำตัวเท่าๆสองฝ่ามือ ปลากะพง ปลากระบอก ปลาแขยง ดิฉันเคยไปนั่งบนกิ่งไม้ที่ทอดยาวลงไปในคลองแล้วปล่อยอะไรลงไป ปลาแขยงเป็นฝูงมาลอยเต็มผืนน้ำ  นึกถึงแล้วยังตื่นเต้นอยู่เลย แต่นั่นคืออดีตค่ะ

อยากฝากถึงเจ้าของแพผู้มีศักยภาพพอที่จะเป็นแกนนำรณรงค์ให้ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ให้ธรรมชาติคงอยู่เหมือนเดิมไปนานๆ จะได้ใช้เป็นที่หากินได้นานๆ ลองคิดดูว่า ถ้าต่อไปท่านล่องแพอยู่ในคลองน้ำเน่าใครเขาจะมาเที่ยวกัน ดิฉันเดาว่าอย่างน้อยเจ้าของบันทึกนี้คนหนึ่งละ ที่คงจะจำไปอีกนาน

ในฐานะคนในพื้นที่อยากเล่าให้ฟังต่อว่า ต่อไปคลองสายนี้จะเป็นคลองรองรับน้ำเสียจากโรงไฟฟ้าและ โรงงานต่างๆที่กำลังจะผุดขึ้นในอีกไม่ช้า หลังจากโครงการท่อแก๊สอำเภอจะนะแล้วเสร็จ ท่านลองนึกภาพต่อดูว่าสภาพคลองนี้จะเป็นอย่างไร

ดิฉันไม่กล้าจินตนาการต่อค่ะ เพราะหลับตานึกที่ไรมันคือความเจ็บปวดค่ะ เจ็บปวดที่ตัวเองไม่สามารถรักษาสิ่งที่ดีๆเอาไว้ได้

อยากขอคำแนะนำจากผู้ที่เข้ามาอ่านบันทึกนี้ว่าดิฉันควรทำอย่างไร เพื่อที่จะไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้ ดิฉันอยากให้สิ่งสวยงาม สิ่งที่ดีๆที่อัลเลาะฮ์ประทานให้มาอยู่กับเราไปนานๆ ชั่วลูกชั่วหลาน อัลฮัมดุลิ้ลละห์

 

เห็นด้วยกับคนริมคลองครับ ถ้าเราไม่ร่วมกันรักษามัน มันก็จะไม่หวนคืนกลับมาอีกแล้ว

ขอคาดเดาสาเหตุที่ปลาไม่ตอดเบ็ดเลย(ณ เวลานี้นะครับ ไม่รวมไปถึงอนาคตที่คนริมคลองกำลังเป็นห่วง)

คิดว่าถ้าเป็นกลางวัน ล่องแพไปแล้วดับเครื่องยนต์ น่าจะมีปลาแวะเข้ามาแลบลิ้นหลอกพวกเราบ้าง แต่นี่เราไปกันตอนเย็น พอถึงจุดที่แพจอดที่เป็นเวิ้งน้ำกว้างๆก็มืดแล้ว แม้ว่าแพจะจอดดับเครื่องแต่ก็ยังต้องติดเครื่องปั่นไฟอยู่ทำให้เกิดเสียงดังไปรบกวนปลา แต่ที่หนักกว่านั้นก็น่าจะมาจากแพอีก๒ลำที่จอดประกบเราอยู่ ท่านเล่นแด๊นซ์ตั้งแต่ตอนเราเจอกันจนกระทั้งรุ่งขึ้นอีกวันก็ยังไม่หยุด ถ้าปลาตัวไหนยังขืนอยู่แถวนั้นผมว่าหูแตกแน่ครับ ผมว่าแบบนี้ตกต่ออีก๓วันเหยื่อปลาก็ไม่หายไปแน่เลย(นอกจากจะเน่าเปื่อยไปเอง)

ดูสภาพของคลองนาทับแล้วก็น่าเสียดายจริงๆ เพราะมีความกว้างและคดเคี้ยวมากกว่าคลองสะกอมบ้านผมมาก(ทำให้สวยมากกว่า)ได้ยินไกด์บอกว่าลึกตั้ง ๖-๗ เมตร (ไม่รู้ว่าโม้เกินหรือเปล่า) ที่เสียดายเพราะว่าดูเหมือนจะเพิ่งสูญเสียความเป็นธรรมชาติและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านไปไม่นานนัก สังเกตจากการที่ยังมีอุปกรณ์จับปลาแบบภูมิปัญญาชาวบ้านอยู่ตลอดสองฝั่งคลอง แต่ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพทิ้งร้างหรือเลิกใช้แล้ว ดงต้นจากริมสองฝั่งคลองก็ไม่แน่นหนาเหมือนเดิม ขาดหายไปเป็นช่วงๆจากการขุดบ่อเลี้ยงกุ้งหรือนากุ้ง แสงและเสียงจากนากุ้ง(รวมทั้งน้ำที่เจือปนสารเคมีของนากุ้ง)ก็เป็นตัวทำลายธรรมชาติอีกทางหนึ่ง หากต่อไปต้องเจอกับน้ำเสียจากโรงงานอย่างว่าอีกคลองสายนี้ก็คงเหมือนคลองแสนแสบในไม่ช้า

คลองสะกอมบ้านผมก็ไม่ต่างไปจากนี้เท่าไหร่ สมัยเด็กๆผมได้กินกุ้งก้ามกรามตัวโตๆเกือบทุกวัน เพราะผมมีชาย(ปู่)ที่อาศัยท้องน้ำตลอดสายของคลองสะกอมหาเลี้ยงชีพมาเกือบตลอดชีวิตของท่าน(เหมือนปู่เย็น) แต่เดี๋ยวนี้จะหาทำยาหยอดตายังยากเลย

กาลเวลาผ่านไป อะไรๆก็ย้อนกลับมายากเหลือเกิน คงเหลือไว้แต่เพียง  ความ.....ทรง......จำ...........

ปล. คนริมคลองนี่ ทำอะไรอยู่ที่ไหน อยากรู้จักนะครับ 

บรรยากาศสุนทรีย์นะครับท่านอาจารย์

P

คนริมคลองคือคนนี้ค่ะ.......click ต่อเองค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักPด้วยครับ
แฮะ แฮะ มีเจตนาอะไรครับท่าน
P
คุณเพื่อนบ้านครับ รู้นะคิดอะไรอยู่ เท่าที่ทราบคุณคนริมคลองเขากำลังจะเกษียณราชการครับ อย่าคิดอกุศลสิครับ

น่ายินดีครับ ที่ผมมีเพื่อนบ้านเยอะมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท