พวกคนผอมมักจะหลงดีใจว่า มีอะไรๆ ดีกว่าพวกคนอ้วน ทว่า... เรื่องนี้ไม่จริงเสมอไป วันนี้มีข่าวดีมาฝากทั้งท่านที่อ้วนฟิต และผอมไม่ฟิตครับ...
ศาสตราจารย์ดอกเตอร์จิมมี่ เบลล์ แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล สหราชอาณาจักร รายงานผลการศึกษาจากการตรวจ MRI (สนามแม่เหล็ก-วิทยุ) คนไข้เกือบ 800 คนพบว่า
คนที่ควบคุมน้ำหนักได้ดี หรือ "ไม่อ้วน" (ดัชนีมวลกายปกติ) โดยอาศัยการควบคุมอาหารเป็นหลัก และออกกำลังกายน้อย มีความเสี่ยงสูงที่จะมีไขมันรอบๆ อวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ตับ ตับอ่อน ฯลฯ ดังต่อไปนี้
วิธีคิดดัชนีมวลกาย (body mass index / ค่า BMI ปกติของคนไทย = 18-23 / ค่าปกติของฝรั่ง = 20-25) ง่ายๆ คือ
อาจารย์เบลล์ท่านเรียกภาวะนี้ว่า "ผอมนอก-อ้วนใน (‘TOFIs’ = ‘Thin outside, fat inside’)"
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะผอมนอก-อ้วนในยังไม่เป็นที่ทราบกันแน่ชัด ทว่า... มีความเป็นไปได้ว่า เกิดจากสาเหตุ 2 อย่างนี้ร่วมกัน
ตัวอย่างคนที่กินอาหารประเภทนี้คือ พวกที่กินอาหารหนักไปทาง "หวาน-มัน-เค็ม" แต่กินไม่จุ และไม่ออกกำลัง ทำให้ไม่อ้วนนอก แต่มีไขมันรอบๆ อวัยวะกายในสูง
คนพวก "อ้วนนอก-ผอมใน" มีโอกาสเสี่ยงโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันเพิ่มขึ้น และเสี่ยงต่อการสะสมของไขมันภายในอวัยวะต่างๆ เช่น ไขมันในตับ ฯลฯ เพิ่มขึ้น
อาจารย์นายแพทย์ดอกเตอร์สตีเฟน แบลร์ ผู้เชี่ยวชาญโรคอ้วน แห่งมหาวิทยาลัยเซาธ์ แคโรไลนา สหรัฐฯ กล่าวว่า เราทราบมานานแล้วว่า คนอ้วนฟิตมีมีสุขภาพดีกว่าคนผอมไม่ฟิตได้
ตัวอย่างเช่น นักกีฬาซูโม่ดูภายนอกอ้วน เนื่องจากมีไขมันใต้ผิวหนังมาก แต่อาจมีไขมันภายใน หรือไขมันรอบๆ หัวใจ ตับ ตับอ่อน และไขมันในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ฯลฯ ไม่สูงก็ได้
อาจารย์นายแพทย์ดอกเตอร์บอบ โรสส์ ผู้เชี่ยวชาญโรคอ้วน แห่งมหาวิทยาลัยควีนส์ แคนาดากล่าวว่า ข่าวดีคือ ไขมันภายในนี่ "เผา (burn)" ออกได้ไม่ยากเท่าไหร่
ขอเพียงให้ควบคุมอาหาร อย่าให้แคลอรีเกิน และออกกำลังเป็นประจำ... ไม่นานก็จะลดไขมันภายในลงได้
ปัจจุบันมีวิธีตรวจสอบว่า เรามีไขมันภายในสูงหรือไม่แบบง่ายๆ 2 วิธีได้แก่
ถึงตรงนี้... ขอเรียนเชิญพวกเราหันมาออกกำลังเป็นประจำ เริ่มจากเดินเร็ววันละ 30 นาที เดินขึ้นลงบันไดถ้าไม่มีโรคข้อเข่าเสื่อมหรือปวดเข่า เดินเสริม เช่น เดินหลังอาหารทุกมื้อๆ ละ 10 นาที ฯลฯ ทำงานออกแรง เช่น ล้างรถ ซักผ้า ถูพื้น กวาดพื้น ฯลฯ ให้มากขึ้น
พร้อมทั้งลดอาหารประเภท "หวาน-มัน-เค็ม" ลง เปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง เพิ่มผัก ถั่ว งา และกินผลไม้ชนิดไม่หวานจัด(สัดส่วนของผักควรมากกว่าผลไม้เสมอ) ไม่นานก็จะฟิตได้ทั่วหน้าครับ...
แนะนำให้อ่าน:
แหล่งที่มา:
เพื่อนผมก็อ้วนนะครับ แต่ไปตรวจร่างกาย ก็ปรกติไม่มีโรคใดๆ อาจจะเป็นเพราะออกวิ่งประจำ น่าจะเป็นประเภท...
คนอ้วนที่มีร่างกายแข็งแรง (แบบอ้วนฟิตที่คุณหมอบอก)
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ
ได้ประโยชน์มากค่ะ จะเอาไปปลอบใจคนอ้วน แข็งแรงค่ะ
ตอนนี้ค่าดัชนีมวลกายผมเกินมา 10 หน่วย คือ 33
ช่วงนี้วิ่งออกกำลังกายทุกวัน วันละอย่างน้อย 4.5 Km แบบวิ่งต่อเนื่อง
วิ่งหลายๆวันพบว่า เหนื่อยน้อยลง
รู้สึกสดชื่อน คล่องตัวขึ้น
จะวิ่งต่อไปครับ
ขอขอบคุณอาจารย์ปริวิทย์...
ขอแสดงความยินดี...
ขอขอบคุณอาจารย์สิริพร... คุณครูอ้อย
วิธีแก้ง่ายๆ...
ถ้ายืนสอน หรือบรรยาย...
หมอชาวบ้าน...
ขอแนะนำ...
ขอขอบคุณอาจารย์ sasinanda...
ขอเรียนว่า...
ขอขอบคุณ... คุณบ่าววีร์
ว่าแต่ว่า...
ขอขอบคุณ... คุณ Nes-Za
ที่นี่...
ขอเรียนเสนอ...
มีทางออก...
เรียนเสนอให้ออกกำลังหลายๆ รูปแบบสลับกัน เพื่อลดการบาดเจ็บลงในระยะยาวครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์สิงห์ป่าสัก...
ชาติที่ประสบความสำเร็จด้านสุขภาพในอนาคตน่าจะมีวิสัยทัศน์อย่างนี้...
กล่าวง่ายๆ คือ เป็น "walkie, healthy nation" หรือเป็นชาติที่คนเดินมาก และมีสุขภาพดี