อ้วนฟิต อาจดีกว่าผอมไม่ฟิต


พวกคนผอมมักจะหลงดีใจว่า มีอะไรๆ ดีกว่าพวกคนอ้วน ทว่า... เรื่องนี้ไม่จริงเสมอไป วันนี้มีข่าวดีมาฝากทั้งท่านที่อ้วนฟิต และผอมไม่ฟิตครับ...

Hiker

พวกคนผอมมักจะหลงดีใจว่า มีอะไรๆ ดีกว่าพวกคนอ้วน ทว่า... เรื่องนี้ไม่จริงเสมอไป วันนี้มีข่าวดีมาฝากทั้งท่านที่อ้วนฟิต และผอมไม่ฟิตครับ...

ศาสตราจารย์ดอกเตอร์จิมมี่ เบลล์ แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล สหราชอาณาจักร รายงานผลการศึกษาจากการตรวจ MRI (สนามแม่เหล็ก-วิทยุ) คนไข้เกือบ 800 คนพบว่า

คนที่ควบคุมน้ำหนักได้ดี หรือ "ไม่อ้วน" (ดัชนีมวลกายปกติ) โดยอาศัยการควบคุมอาหารเป็นหลัก และออกกำลังกายน้อย มีความเสี่ยงสูงที่จะมีไขมันรอบๆ อวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ตับ ตับอ่อน ฯลฯ ดังต่อไปนี้

  • ผู้ชายที่มีดัชนีมวลกายปกติมีความเสี่ยง 45%
  • ผู้หญิงที่มีดัชนีมวลการปกติมีความเสี่ยง 60%

วิธีคิดดัชนีมวลกาย (body mass index / ค่า BMI ปกติของคนไทย = 18-23 / ค่าปกติของฝรั่ง = 20-25) ง่ายๆ คือ

  • ให้เตรียมเครื่องคิดเลขมาไว้ใกล้มือ
  • นำน้ำหนักเป็นกิโลกรัมตั้ง
  • หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตร 2 ครั้ง

อาจารย์เบลล์ท่านเรียกภาวะนี้ว่า "ผอมนอก-อ้วนใน (‘TOFIs’ = ‘Thin outside, fat inside’)"

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะผอมนอก-อ้วนในยังไม่เป็นที่ทราบกันแน่ชัด ทว่า... มีความเป็นไปได้ว่า เกิดจากสาเหตุ 2 อย่างนี้ร่วมกัน

  1. กินอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือไขมันสูง โดยที่แคลอรีรวมไม่มากเกิน
  2. ออกกำลังน้อยเกิน

ตัวอย่างคนที่กินอาหารประเภทนี้คือ พวกที่กินอาหารหนักไปทาง "หวาน-มัน-เค็ม" แต่กินไม่จุ และไม่ออกกำลัง ทำให้ไม่อ้วนนอก แต่มีไขมันรอบๆ อวัยวะกายในสูง

คนพวก "อ้วนนอก-ผอมใน" มีโอกาสเสี่ยงโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันเพิ่มขึ้น และเสี่ยงต่อการสะสมของไขมันภายในอวัยวะต่างๆ เช่น ไขมันในตับ ฯลฯ เพิ่มขึ้น

อาจารย์นายแพทย์ดอกเตอร์สตีเฟน แบลร์ ผู้เชี่ยวชาญโรคอ้วน แห่งมหาวิทยาลัยเซาธ์ แคโรไลนา สหรัฐฯ กล่าวว่า เราทราบมานานแล้วว่า คนอ้วนฟิตมีมีสุขภาพดีกว่าคนผอมไม่ฟิตได้

ตัวอย่างเช่น นักกีฬาซูโม่ดูภายนอกอ้วน เนื่องจากมีไขมันใต้ผิวหนังมาก แต่อาจมีไขมันภายใน หรือไขมันรอบๆ หัวใจ ตับ ตับอ่อน และไขมันในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ฯลฯ ไม่สูงก็ได้

อาจารย์นายแพทย์ดอกเตอร์บอบ โรสส์ ผู้เชี่ยวชาญโรคอ้วน แห่งมหาวิทยาลัยควีนส์ แคนาดากล่าวว่า ข่าวดีคือ ไขมันภายในนี่ "เผา (burn)" ออกได้ไม่ยากเท่าไหร่

ขอเพียงให้ควบคุมอาหาร อย่าให้แคลอรีเกิน และออกกำลังเป็นประจำ... ไม่นานก็จะลดไขมันภายในลงได้

ปัจจุบันมีวิธีตรวจสอบว่า เรามีไขมันภายในสูงหรือไม่แบบง่ายๆ 2 วิธีได้แก่

  1. การวัดเส้นผ่าศูนย์กลางรอบเอว ค่าปกติคือ ผู้ชายไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร ผู้หญิงไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร
  2. วัดปริมาณไขมันภายในด้วยวิธีพิเศษ เช่น ใช้เครื่องวัดไขมัน ซึ่งจะปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนมากเข้าไปในร่างกาย ฯลฯ เนื้อเยื่อไขมันมีแรงต้านทานไฟฟ้าสูงกว่าเนื้อเยื่ออื่นๆ ทำให้วัดไขมันออกมาเป็นร้อยละ (%) ได้ ถ้าเปอร์เซ็นต์ไขมันสูงก็จะมีความเสี่ยงต่อภาวะไขมันภายในสูงตามไปด้วย

ถึงตรงนี้... ขอเรียนเชิญพวกเราหันมาออกกำลังเป็นประจำ เริ่มจากเดินเร็ววันละ 30 นาที เดินขึ้นลงบันไดถ้าไม่มีโรคข้อเข่าเสื่อมหรือปวดเข่า เดินเสริม เช่น เดินหลังอาหารทุกมื้อๆ ละ 10 นาที ฯลฯ ทำงานออกแรง เช่น ล้างรถ ซักผ้า ถูพื้น กวาดพื้น ฯลฯ ให้มากขึ้น

พร้อมทั้งลดอาหารประเภท "หวาน-มัน-เค็ม" ลง เปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง เพิ่มผัก ถั่ว งา และกินผลไม้ชนิดไม่หวานจัด(สัดส่วนของผักควรมากกว่าผลไม้เสมอ) ไม่นานก็จะฟิตได้ทั่วหน้าครับ...

    แนะนำให้อ่าน:                                  

    แหล่งที่มา:                                      

  • Many thanks to Intelihealth > Thin people may be fat inside > [ Click - Click ] > http://www.intelihealth.com/IH/ihtIH/EMIHC274/333/21142/557714.html?d=dmtICNNews > May 10, 2007.
  • ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก บ้านสุขภาพ มีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค
  • ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ IT โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT ศูนย์มะเร็งลำปาง 
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 18 พฤษภาคม 2550.
หมายเลขบันทึก: 97059เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2007 18:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เพื่อนผมก็อ้วนนะครับ แต่ไปตรวจร่างกาย ก็ปรกติไม่มีโรคใดๆ อาจจะเป็นเพราะออกวิ่งประจำ น่าจะเป็นประเภท... 

คนอ้วนที่มีร่างกายแข็งแรง (แบบอ้วนฟิตที่คุณหมอบอก) 

ขอบคุณครับ 

สวัสดีค่ะคุณหมอ

  • ครูอ้อยเริ่มอ้วน  เมื่อสองปีที่ผ่านมาค่ะ
  • ครูอ้อยเริ่มไม่สบายตัว  เวลายืนนานๆค่ะ  อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นแน่เลยค่ะ
  • แต่ครูอ้อยก็หมั่นออกกำลังกายนะคะเมื่อมีเวลาค่ะคุณหมอ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

ได้ประโยชน์มากค่ะ จะเอาไปปลอบใจคนอ้วน แข็งแรงค่ะ

ถ้าอยู่ในที่ที่เหมาะสมซะแล้ว การเดินออกกำลังกายก็จะเกิดขึ้นเอง

ตอนนี้ค่าดัชนีมวลกายผมเกินมา 10 หน่วย คือ 33

ช่วงนี้วิ่งออกกำลังกายทุกวัน วันละอย่างน้อย 4.5 Km แบบวิ่งต่อเนื่อง

วิ่งหลายๆวันพบว่า เหนื่อยน้อยลง

รู้สึกสดชื่อน คล่องตัวขึ้น

จะวิ่งต่อไปครับ

  • สวัสดีครับคุณหมอวัลลภ
  • อ่านแล้วรู้สึกดี และมีพลังที่จะออกกำลังกาย/ดูแลสุขภาพครับ
  • ขอบพระคุณมากครับที่นำมาแบ่งปัน

ขอขอบคุณอาจารย์ปริวิทย์...

  • อ่านจากประวัติ ทำให้ทราบว่า อาจารย์เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะแบบล้านนาระดับแนวหน้าของประเทศทีเดียว
  • ขอแสดงความชื่นชมแทนคนไทยที่บ้านเมืองเรามีศิลปวัฒนธรรม และมีคนเก่งๆ ใส่ใจกันครับ

ขอแสดงความยินดี...

  • ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนอาจารย์ที่ "อ้วนฟิต" ครับ
  • ความจริง... ไม่ว่าอ้วน ปานกลาง หรือผอม ขอให้ฟิตไว้ก่อนละดีมากทั้งนั้น

ขอขอบคุณอาจารย์สิริพร... คุณครูอ้อย

  • การยืนนานๆ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรค เช่น เส้นเลือดดำที่ขาโป่ง (เส้นเลือดขอด) ปวดเมื่อย (โดยเฉพาะน่อง)

วิธีแก้ง่ายๆ...

  • เรียนเสนอให้เดินสลับยืนแทนการยืนนานๆ
  • คนเราไม่ควรยืนเฉยๆ นานเกินคราวละ 5 นาที

ถ้ายืนสอน หรือบรรยาย...

  • ให้กระดกข้อเท้าขึ้นลงเป็นพักๆ  
  • หรือหาม้าเตี้ยๆ มารองเท้าสลับซ้าย-ขวาบ่อยๆ จะช่วยป้องกันปวดหลังได้ด้วย

หมอชาวบ้าน...

  • วารสารหมอชาวบ้านเล่มใหม่มีคำแนะนำพร้อมภาพ "วิธียืดเส้น" ลองชม+ทำดูน่าจะดี

ขอแนะนำ...

  • ขอแนะนำให้อ่านรวมเรื่องสุขภาพ > "ยืดเส้น"
  • [ Click - Click ]

 

ขอขอบคุณอาจารย์ sasinanda...

  • จริงครับ... นำไปปลอบใจคนอ้วนก็ได้
  • หรือจะนำไปเตือนคนผอมก็ดี

ขอเรียนว่า...

  • อ้วนหรือผอมก็อย่าเพิ่งตกใจ
  • ขอให้ "อ้วนฟิต" หรือ "ผอมฟิต" ไว้ก่อนเป็นดี

ขอขอบคุณ... คุณบ่าววีร์

  • จริงครับ...
  • การอยู่ในที่ที่สมควร (ปติรูปเทส) เป็นมงคล หรือเหตุแห่งความเจริญตามมงคลสูตร (มงคล 38)

ว่าแต่ว่า...

  • ในโลกนี้มีที่ไหน...
  • ที่ไหนที่ว่า อยู่แล้ว การออกกำลังจะเกิดขึ้นเอง (ไม่ทราบที่ไหน หรืออาจจะเป็นดอยที่ต้องเดินมากๆ เช่น ภูฏาน ฯลฯ)

ขอขอบคุณ... คุณ Nes-Za

  • ถ้าคุณอยู่ในอเมริกา หรือยุโรป...
  • BMI เขาคิด 25-30 ซึ่งจริงๆ เป็นค่าสำหรับฝรั่ง หรือชาวคอเคเชียนที่มีปัญหา "ลงพุง" น้อยกว่าคนเอเชีย
  • ที่นั่น > BMI 33 = เกินมา 3 เท่านั้นเอง

ที่นี่...

  • ที่นี่ประเทศไทย หรือเอเชีย...
  • BMI ปกติ =18-23
  • ถ้าใครมี BMI = 33 คือ เกินไป 10 ทีเดียว

ขอเรียนเสนอ...

  • การออกกำลัง + ควบคุมอาหาร = ดีมากๆ แล้ว
  • ทีนี้การวิ่งอาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้ถ้าวิ่งติดต่อกันเกิน 30 นาที/ยกติดกันทุกวัน

มีทางออก...

  • มีทางออกหลายวิธี
  • วิธีที่น่าจะดีคือ ทำการฝึกหลายรูปแบบ (cross training) เช่น
  1. วิ่ง 30 นาที + ออกกำลังแบบอื่น เช่น ยกน้ำหนัก ฯลฯ 30 นาทีวันเว้นวัน > สลับกับเดินเร็ว 60 นาทีวันเว้นวัน
  2. วิ่ง 30 นาที > เดินเร็ว 5 นาที > วิ่งต่อ 10-15 นาที 3 วัน > สลับกับเดินเร็ว 60 นาทีวันเว้นวัน 
  3. วิ่ง 45 นาทีวันเว้นวัน > สลับกับเดินเร็ว 60 นาทีวันเว้นวัน 
  4. วิ่ง 30 นาที + กระโดดเชือก 10 นาที > สลับกับเดินเร็ว 60 นาทีวันเว้นวัน 

เรียนเสนอให้ออกกำลังหลายๆ รูปแบบสลับกัน เพื่อลดการบาดเจ็บลงในระยะยาวครับ...

ขอขอบคุณอาจารย์สิงห์ป่าสัก...

  • คำพูดของอาจารย์ทำให้นึกถึงวิสัยทัศน์ (vision)

ชาติที่ประสบความสำเร็จด้านสุขภาพในอนาคตน่าจะมีวิสัยทัศน์อย่างนี้...

  1. มีสุขภาพดี = healthy nation
  2. เดินให้มาก นั่งรถน้อยหน่อย = walking nation
  3. ออกกำลังมากพอ = fit nation
  4. นอนให้พอ สมองจะได้ดี = sleep enough nation
  5. ชื่นชมคนดีมากหน่อย นินทาน้อยๆ หน่อย = more appreciation, less gossip

กล่าวง่ายๆ คือ เป็น "walkie, healthy nation" หรือเป็นชาติที่คนเดินมาก และมีสุขภาพดี

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท