ปล. บันทึกนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว อาจจะตรงกับความคิดเห็น หรือไม่ตรงกับความคิดเห็นของใคร... ซึ่งมิได้จงใจให้เกิดผลเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น...
ในบางครั้ง... ในที่ประชุม หรือระหว่างการนำเสนอไอเดียของคุณ อาจอยู่ในภาวะความตึงเครียด... คุณอาจอยากหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดนั้น ด้วยการผ่อนคลายในที่ประชุม สิ่งนี้... ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่คุณต้องดูสถานการณ์ด้วย...
และ... ข้อห้ามที่ “คุณ” ไม่ควรกระทำเพื่อหวังผ่อนคลายความตึงเคลียด โดยการเล่าเรื่องขบขัน... นั่นคือ
1. อย่าเล่าเรื่องตลกโปกฮา เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องหรือเริ่มต้นการนำเสนอ โดยเนื้อหาที่เอามาเล่านั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับเนื้อหาที่คุณจะนำมานำเสนอในที่ประชุม เพราะอาจทำให้... สิ่งที่คุณจำนำมานำเสนอเป็นเนื้อหาที่ไม่หนักแน่น หรืออาจขาดความน่าเชื่อถือไปได้
2. จงอย่าเล่าเรื่องตลกโปกฮา ถ้าคุณทำสิ่งนั้นไม่ได้ดีจริง ๆ และน้อยนักที่จะใครจะทำได้ (ผมคงไม่ต้องบอกนะครับ... ว่าเพราะอะไร)
3. อย่าเล่าเพราะความสนุกปาก หรือมากจนเกินไป... เพราะคนที่กำลังฟังคุณอยู่นั้น ต้องการไอเดีย ต้องการความคิดจากคุณ ไม่ใช่ให้คุณมาเล่นตลกซะเมื่อไหร่
4. อย่าเล่าเรื่องใด ๆ ที่ส่อไปในทางที่จะสร้างความขุ่นเคืองให้กับบุคคลในที่ประชุม โดยเฉพาะเรื่องตลกขบขัน ที่สร้างความอับอาย หรือบิดเบือนความจริงของบุคคลอื่น
หรือถ้า... คุณคิดว่าในเรื่องที่กล่าวมาดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องเสียหายใด ๆ คุณก็อาจจะทำให้ผู้ที่กำลังฟังคุณนำเสนอความคิดดี ๆ ของคุณ กลับกลายเป็นความค่าเบื่อหน่าย หรือเป็นศัตรูโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยก็เป็นได้ และคุณจะสูญเสียพวกเขา สูญเสียความน่าเชื่อถือไปอย่างน่าเสียดาย....
จง... นึกเสมอว่า คุณมาเพื่ออะไร มีจุดหมายอย่างไร... อย่าทำให้ความสนุกปากของคุณสร้างปัญหาให้ตัวคุณเอง....
น่าคิดครับ
เรื่องตลก บางคนเล่าแล้วตลก
เรื่องเดียวกัน แต่เปลี่ยนคนเล่า บางครั้ง ก็แป๊ก ได้ครับ
ขอชมครับ Blog สวยครับ
สวัสดีค่ะ
บางคนชอบเล่าเรื่องตลกไม่ถูกกาละเทศะจริงๆค่ะ
เป็นประโยชน์ดีค่ะ
เรื่องตลกในสถานะการณ์ที่ต้องการความเอาจริงเอาจัง ก็ไม่เหมาะไม่ควร ทำให้บรรยากาศมันชอบกลยังไงไม่รู้ค่ะ