หน้าที่ประจำ


ครู-อาจารย์

ในปัจจุบันมีแต่พูดกันว่า “ครู – อาจารย์”  มีหน้าที่สอน  ซึ่งยังมีคำถามต่อไปอีกว่า “สอนอะไร”    “สอนให้เกิดคุณสมบัติอะไร”  และที่ฮือฮากันอยู่ในขณะนี้  ก็คือ  การเรียกร้องให้สอนเรื่องเพศศึกษา  เพราะเป็นเรื่องที่ทำท่าว่าจะเป็นปัญหาเยาวชนในสังคมไทยมากขึ้นอย่างรวดเร็ว  แต่อยากจะพูดค่อยๆไว้ตรงนี้ว่า ประเทศที่สอนเรื่องเพศศึกษาเป็นอย่างมากและสอนมานาน  ปัญหามั่วเรื่องเพศ  ท้องในวัยเรียน  เจ็บป่วยติดเชื้อจากเรื่องเพศสัมพันธ์ก็มีอยู่อย่างมากมาย ไม่ได้หมดไปด้วยการสอนเพศศึกษาแต่อย่างใดเลย  เคยมีใครเฉลียวใจบ้างไหมว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?  เราจะแก้ปัญหานี้ด้วยความรู้  ความเข้าใจ   จึงเรียกร้องแต่จะให้สอนๆ  ทำตามทฤษฎีฝรั่งกันอย่างเดียว  แต่……….ไม่เคยคิดจะควบคุมที่จิตใจเลย   จะเป็นการถูกต้องหรือ?  สิ่งที่น่าจะทำเป็นลำดับแรก  ควรต้องทบทวนบทบาทหน้าที่ของครู –อาจารย์ ว่าได้ทำถูกต้องแล้วหรือยัง?  ซึ่ง คนโบราณท่านบอกว่าอย่างน้อยควรจะมีอยู่ ๓ อย่าง ดังนี้
๑.  สอนผู้เรียนให้เป็นคนดี หรือเป็นบัณฑิต
๒.  สอนวิธีแสวงหาความรู้ หรือปัญญา  (และวิธีการใช้ปัญญาให้แก่ผู้เรียน)
๓.  สอนวิชาการและวิชาชีพให้แก่ผู้เรียน
 ท่านอธิบายว่า  หน้าที่ปลูกปั้นให้เด็กเป็นคนดีหรือเป็นบัณฑิตย์นั้นมีความสำคัญเป็นอันดับแรกของคุณครูเลยที่เดียว  ถ้าครูทำหน้าที่ข้อนี้ไม่ได้แล้วทุกอย่างจะเสียหาย  เป็นความล้มเหลวหมดโดยสิ้นเชิง 

ข้อสองครูต้องสอนวิธีแสวงหาความรู้หรือปัญญาให้แก่ผู้เรียนและแฝงไว้กลายๆคือสอนวิธีใช้ปัญญาอยู่ด้วย  ข้อนี้สำคัญมาก  นักวิชาการสมัยใหม่หลงไปโทษว่าเด็กที่ตอบข้อสอบแบบเลือกตอบ  ทำให้มีความคิดความสามารถคับแคบ  จึงใช้ปัญญาไม่เป็น?  ที่จริงครูไม่ได้สอนวิธีแสวงหาปัญญาและการใช้ปัญญาอย่างถูกต้องจริงจังมากกว่า  อันเป็นเหตุให้คนไทยพอเรียนจบชั้นสูงสุดของโรงเรียนแล้ว  ก็เป็นอันจบการเรียนตลอดชีวิตไปเลยทีเดียว  ชอบเชื่อตามข่าวลือ  ชอบทำอะไรทำตามๆกัน  ใครทำอะไรผิดแผกไปจากคนอื่นมักจะถูกเพ่งเล็ง ยิ่งถ้าการกระทำนั้นล้มเหลวก็จะถูกซ้ำเติมย่ำยี  แต่ถ้าได้ผลดีก็จะถูกเลียนแบบ  ไม่มีการยกย่องคนต้นคิด  มีแต่คอยฉวยโอกาส ถ้างุบงิบเอาเป็นผลงานของตัวเองได้ก็เอาเลยทันที  โดยไม่มีความรู้สึกผิดในใจ  คนสร้างผลงานดีๆใหม่ๆจึงไม่ค่อยมี  ต้นเหตุจริงๆก็คือไม่มีการสอนวิธีแสวงหาปัญญา  การใช้ปัญญา  และมีการฉกฉวยเอาประโยชน์โดยไม่รู้สึกผิดดังกล่าวแล้ว 

ข้อสามเมื่อครูสร้างคนดี  คนมีวิธีแสวงหาปัญญาได้แล้ว  ครูจึงให้วิชาการ  และวิชาชีพ เพื่อว่าคนดี หรือบัณฑิตนั้นจะได้เอาไปใช้แสวงหาปัญญาต่อไป  และเอาวิชาชีพไปใช้เลี้ยงชีวิตของตนเอง  ครอบครัว  สังคม  และประเทศชาติ 

หน้าที่ของครู – อาจารย์  ทั้ง ๓  ข้อนี้ เป็นข้อเขียนของพระเดชพระคุณพระธรรมปิฎก (ป.อ. ประยุตโต)  ซึ่งน่าจะเห็นด้วยกับพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง

หมายเลขบันทึก: 96479เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2007 06:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • ก่อนหน้านี้ เราชูคำว่า "เก่ง" เป็นประเด็นนำหน้า ต่อมาใจนถึงในขณะนี้ จะเห็นว่าเด็ก ๆ เรายังมีปัญหาค่อนข้างเยอะ คำว่า "ดี" จึงเริ่มมีบทบาทนำหน้าขึ้นมาบ้าง
  • เห็นด้วยค่ะ ที่คุณครูทั้งหลายจะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้มาก และยิ่งถ้าพ่อแม่ สังคมรอบข้าง สื่อต่าง ๆ ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันมากเข้า ช่วยกันคนละไม้ละมือ ปัญหาก็น่าจะบรรเทาเบาบางไปบ้าง
  • เพราะ 24 ชั่วโมง เด็กไม่ได้อยู่กับครูตลอด เราจึงต้องช่วยกัน
  • ขอบพระคุณสำหรับการจุดประกายทางความคิดค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท