จำเป็นไหม ที่เราต้องมีแนวทางอะไรในชีวิต


ผมโชคดีมากที่ได้อ่านบันทึกของป้าเจี๊ยบ เรื่อง ปลายฤดูหนาว..ย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิที่ Istanbul  ซึ่งนอกจากจะอ่านได้อรรถรสเช่นเคยแล้ว ครั้งนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่าโชคดีคือ ในบันทึกนี้ป้าเจี๊ยบได้กล่าวถึง Instructions for Life ลำดับที่ 16 ของ Good Karma  ผมไม่รอช้ารีบตามไปอ่านทันทีว่านี่คืออะไรกัน 

สิ่งที่พบมีคุณค่ากับความคิดจิตใจผมมากเลย ผมคิดว่าหลายท่านคงเคยอ่านกันแล้ว เป็นความเชยของผมที่พลาดไปมากกว่า ขอนำมาลงอีกครั้งนะครับ 

  • Take into account that great love and great achievements involve great risk.
  •  When you lose, don’t lose the lesson.
  • Follow the three R’s: Respect for self, Respect for others and Responsibility for all your actions.
  • Remember that not getting what you want is sometimes a wonderful stroke of luck.
  • Learn the rules so you know how to break them properly.
  • Don’t let a little dispute injure a great relationship.
  • When you realize you’ve made a mistake, take immediate steps to correct it.
  • Spend some time alone every day.
  • Open your arms to change, but don’t let go of your values.
  • Remember that silence is sometimes the best answer.
  • Live a good, honorable life. Then when you get older and think back, you’ll  be able to enjoy it a second time in your life.
  • A loving atmosphere in your home is the foundation for your life.
  • In disagreements with loved ones, deal only with the current situation. Don’t bring up the past.
  • Share your knowledge. It is a way to achieve immortality.
  • Be gentle with the earth.
  • Once a year, go someplace you’ve never been before.
  • Remember that the best relationship is one in which your love for each other exceeds your need for each other.
  • Judge your success by what you had to give up in order to get it.
  • Approach love and cooking with reckless abandon.

From "Good Karma" by Dalai Lama, 2005.

ผมลองเลือกดูว่าข้อใหนที่ถูกใจที่สุดสำหรับผม  เลือกไม่ได้ครับ ! ตัดออกได้บางข้อ ยิ่งตัดยิ่งเสียดาย ยิ่งอ่านเพื่อตัดทิ้ง ยิ่งเห็นคุณค่าของข้อนั้นๆ  นี่ต้องเรียกว่า 10 ข้อนี้ทำเป็นบันทึกหลักกระตุ้นความคิดของชาว G2K เราได้ทั้งปีเลย มีคุณค่าทางปัญญามากครับ

เอาล่ะ ในเมื่อตัดไม่ได้ งั้นมาจัดลำดับความสำคัญ ก็แล้วกัน ว่าอันดับหนึ่งคืออะไรไล่ไปเรื่อยๆ  จัดไม่ได้อีกครับท่าน! เรียกว่ารักพี่เสียดายน้อง  บางข้ออาจเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว เช่น Be gentle with the earth.  ผมอ่านแล้วกลับมองว่าสำคัญ นึกถึงเรื่อง ความจริงที่ไม่อยากฟัง วิกฤติโลกร้อน) ของอาจารย์ กานดา และ ปัญหาโลกร้อน ร้ายแรง+รุนแรงกว่าที่คิด  ของคุณ Conductor รวมถึงเรื่อง ดัชนี "ความติดดิน" เหมือนกัน ความคิดตอนนี้เรียกได้ว่ากระเจิงเลยครับ  เช่น คนเราจะผ่านคลายที่สุดเมื่อเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ คือแผ่นดิน และเรื่องกฏของฟ้า (Learn the rules so you know how to break them properly)

ข้อที่ถูกใจผมมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับด้านในของตัวเอง และการเปลี่ยนแปลง เช่น Open your arms to change, but don’t let go of your values  นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมเคยคิดเรื่องหลักการกับการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ  

A loving atmosphere in your home is the foundation for your life. นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมตกผลึก และเห็นด้วยอย่างยิ่งจากเดิมที่รักจะมีวิญญาณอิสระ แต่ก็ตระหนักในที่สุดว่ามันไม่ใช่เวลาของเราแล้ว  สิ่งต่างๆ มันมีความเหมาะเจาะสอดคล้องตามวัยเวลาของมัน การไปติดยึดอยู่กับสภาวะจิต สภาวะชีวิตของช่วงใดช่วงหนึ่งแม้จะทำให้เราคงอยู่กับความสุข แต่ชีวิตและพลังจะติด ไม่พัฒนา

ไม่ทราบว่าใครชอบข้อใหนบ้างครั้บ ผมขอให้เลือก 3 ข้อเรียงจาก 1-3 ก็แล้วกัน แล้วผมค่อยมาเฉลยของผมนะครับ

คำสำคัญ (Tags): #ความคิด#ชีวิต
หมายเลขบันทึก: 95302เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2007 00:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

ชอบมาก ตัดออกไม่ได้สักอันค่ะ

  •  When you lose, don’t lose the lesson.
  • Don’t let a little dispute injure a great relationship.
  • Remember that silence is sometimes the best answer.
  • Share your knowledge. It is a way to achieve immortality.
  • Be gentle with the earth.
  • ขอบคุณพี่มากครับที่ช่วยเลือก นี่เลือกตามลำดับหรือเปล่าครับ

    ข้อ Remember that silence is sometimes the best answer. ทำให้ผมนึกถึงเพลงยุค 60s ชื่อ Silence Is Golden  ของ Frankie Valli ไม่ทราบพี่เคยฟังมั้ยครับ ที่บอกว่า

    Silence is golden, but my eyes still see
    Silence is golden, golden, but my eyes still see

    ดิฉันเลือกด้วยความสนุกสนานมากค่ะ  คือเลือกเอาที่แปลออก (คือหวังว่าจะแปลไม่ผิด) และชอบมากเรียงตามลำดับนะคะ   
    • A loving atmosphere in your home is the foundation for your life.

    คือดีใจจังที่อาจารย์ชอบข้อนี้นะคะ   ดิฉันแปลถูกรึปล่าวคะเนี่ย  ....ความรักความอบอุ่นในครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ ลึกซึ้ง  และละเอียดอ่อนมากๆ   เพราะมันฝังรูปรอยให้คนได้ทั้งชีวิต  ชนิดที่ขาดแล้วถมไม่มีวันเต็ม 
    ดิฉันได้เห็นน้ำตาท่วมหัวใจที่รวดร้าวของเด็กๆจำนวนมากที่มาจากครอบครัวฉีกขาดแหว่งวิ่น   และได้แต่เห็นใจ  รับฟัง    นั่งทุกข์เป็นเพื่อน  
    ......คือหนักๆเข้าก็นั่งร้องไห้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์  (เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งสิ้น)

    เพราะเห็นพื้นฐาน ความไม่รัก ที่สร้างทุกข์มหันต์มาตั้งแต่ระดับฐานราก   ดิฉันเลยตั้งใจมุ่งมั่น   ว่าไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน....ก็ต้องไปสร้างความรักที่นั่น   เพราะความรักเป็นรากแก้วสำคัญ ของการอยู่ร่วมกัน  อย่างตระหนักรู้คุณค่าในความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น

    ดิฉันเคยพูดหรูๆรวยๆประมาณนี้กับเพื่อนๆ  แต่คงพูดผิดกาลเทศะไปหน่อย  เขากำลังรับประทานส้มตำอยู่ดีๆ    เพื่อนเลยสรุปให้สั้นๆว่า  "...เพ้อ...."      
    คือดิฉันกำลังแทะปีกไก่ค้างอยู่เลยอ้าปากเถียงไม่ทันอะค่ะ    : )  

    • Once a year, go someplace you’ve never been before.

    โอ้...อันนี้ก็ชอบมาก  การเดินทางคือการเรียนรู้  ที่ครูคนใดในโลกไม่มีวันสอนได้  ต้องไปเจอเองตัวเป็นๆ   ดิฉันเพิ่งรู้สึกอยากท่องเที่ยวก็เมื่ออายุปาเข้าไปค่อนคน   เมื่อไปต่างถิ่น ก็ได้เห็นความหลากหลายแตกต่าง ทำให้คิดวิเคราะห์ เปรียบเทียบ  และเชื่อมโยง สังเคราะห์ออกมาเป็นอะไรก็ไม่รู้ในสมอง  รอวันนำไปใช้.... ใช้เมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้  ใช้ทำอะไรก็ยังไม่แน่ใจ  แต่การได้รู้สึกว่า  "เราเปลี่ยนไป" นี่มันได้อารมณ์ชะมัดอะค่ะ 

    •  Follow the three R’s: Respect for self, Respect for others and Responsibility for all your actions.  

    ข้อนี้ตรงกับจุดยืนในการทำงานและการฝึกนักศึกษา ซึ่งดิฉันชอบมาก  ....ทำยากอะค่ะ .....แต่อยากทำให้ได้  
    ฝึกความรับผิดชอบนี่ฝึกยากที่สุด  และการทำตัวให้เป็นแบบอย่างของผู้มีความรับผิดชอบนี่...โหดหินเลยค่ะ

                              เอ้อ........ตอบยาวจนได้อีกแล้วอะค่ะ....   : )

    อาจารย์ ดอกไม้ทะเล  ครับ ดีครับ ผมชอบอ่านครับ  ยาวแต่อ่านเพลินน่ะ  อาจารย์เนี่ยใจอยู่กับนักศึกษาจริงๆ นะครับ แม้แต่เลือกที่ชอบก็ยังมีเกี่ยวข้องกับนักศึกษาอยู่ 2/3 ข้อ น่าดีใจแทนพวกเขาจริงๆ ขอบคุณครับที่ร่วมแสดงความคิดเห็น

    สวัสดีค่ะ อาจารย์

    ชอบหลายๆๆ ข้อค่ะ

    ตัดสินใจยากนะคะ

    เพราะ ดีๆๆทั้งนั้นและโดนๆๆหลายข้อค่ะ

    เลือกไม่ค่อยถูกนะคะ

    แต่เพื่ออาจารย์ จึงต้องตัดใจเลือก 4 ข้อค่ะ

    เลือกที่โดนๆใจค่ะ

     

     When you lose, don’t lose the lesson.

    When you realize you’ve made a mistake, take immediate steps to correct it.

    หนูว่าสองข้อนี้เกี่ยวเนื่องกันค่ะ

    เป็นการเรียนรู้ชีวิต คือประมาณเหมือน

    เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

    และคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้นที่จะให้กับชีวิต ณ วันเวลาที่ lose และ mistake ค่ะ 

    A loving atmosphere in your home is the foundation for your life

     หนูว่าครอบครัวเป็นรากฐานของชีวิต เป็นทุกสิ่งของชีวิตค่ะ

     In disagreements with loved ones, deal only with the current situation. Don’t bring up the past.

    สำหรับหนูกับประสบการณ์อันน้อยนิด ว่าจริงนะคะ

    เพราะ การอยู่กับอดีตมากไป หรือ แม้กระทั่งไปกังวลอนาคตมากไป ทำให้ความสัมพันธ์ปัจจุบันแย่ลงๆ ค่ะ

    ขอบคุณอาจารย์นะคะ ที่นำข้อคิดดีๆมาแบ่งปันกันค่ะ

    และ กำลังรออย่างใจจดจ่อค่ะ อยากทราบข้อคิดที่อาจารย์ชื่นชอบค่ะ

    ซันซัน ครับ ข้อที่เลือกบ่งบอกว่าเป็นคนที่สนใจการพัฒนาตนเองอย่างยิ่งนะครับ นี่ทำให้ผมนึกถึงคำหนึ่งที่ใช้ปลุกปลอบใจตัวเองยามเจอปัญหา ไม่ทราบว่าเคยได้ยินไหมครับ เป็นคำของ Nietzsche ที่พูดว่า What does not kill me only makes me stronger ก็จริงนะครับ ปัญหาไม่ว่าจะหนักแค่ไหน มันก็ไม่ทำให้เราตาย ชีวิตก็ยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ที่สำคัญตอนดีๆ ก็คิดได้ แต่ตอนจิตตกเรามักไม่คิดอย่างนี้สิ แล้วผมจะมาเลือกนะครับว่าชอบอันไหน

    สวัสดีค่ะ อาจารย์มาโนช

    ชอบจังค่ะ

    What does not kill me only makes me stronger

    เห็นด้วยและเห็นจริงค่ะ

    ว่าทุกครั้งที่เจอปัญหา เราจะเติบโตขึ้นๆ และ หนูมักเป็นอย่างนี้จริงๆ

    หนูขออนุญาติ โยงเปรียบเทียบกับเรื่องกรรม

    อาจเหมือนกับช่วงที่เราทุกข์เจอปัญหา เป็นช่วงใช้กรรม

    เมื่อเจอทุกข์แล้ว เจ็บแล้ว เหมือนใช้กรรมอันนั้นไปแล้ว

     เราจึงเติบโตขึ้น เกิดความสว่าง เกิดปัญญาขึ้น ค่ะ

     

    และเห็นด้วยค่ะ ว่าตอนดีๆ คิดได้เห็นได้

    แต่ช่วงจิตตก ช่วงที่ยังอยู่ภวังค์ทุกข์(ยังอยู่ในช่วงใช้กรรม???) มักมองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ

    เห็นแต่ความทุกข์บังตาเต็มไปหมดเลยค่ะ

    ขอบคุณอาจารย์นะคะ สำหรับประโยคดีๆ ข้อความดีๆ ที่ช่วยเตือนสติค่ะ ^+^

    ต้องขอโทษคุณหมอด้วยที่เมื่อวานส่งข้อความมาแล้วไม่มีข้อความเนื่องจากไม่เคยส่งข้อความและพิมพ์ไม่เก่งด้วย  จึงทดลองดูแล้วใช้ได้ จืงขอเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วย      ชอบประโยคที่ว่า  open  your  arms to change  but  don  t  let go of  your  values   ค่ะ   ด้วยเหตุผลว่า  การเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดี เป็นสิ่งดี เนื่องชีวิตคนเราต้องพบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งพบเจอสิ่งที่ดีและไม่ดี  ถ้าเราไม่มีหลักในการดำรงชีวิตก็จะทำให้เราออกนอกเส้นทางได้  อาจจะหลงลืมตนเอง ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ 

    ป.ล ไม่รู้แปลถูกหรือเปล่านะคะ   เพราะภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง  ถ้าไม่ถูกขอคุณหมอช่วยแปลใหม่ให้ด้วยนะคะ  

    ป.ลชอบอ่านเรื่องของคุณหมอ  อยากให้เขี่ยนเยอะๆคะ เพราะเป็นเรื่องที่มีประโยชน์คะ

    สวัสดีตอนเช้าค่ะอาจารย์หมอมาโนช

    ด้วยความระลึกถึงและเข้ามารอฟังเฉลยของอาจารย์อะค่ะ   .........    : )

    ชอบที่อาจารย์บอกคุณหมอซันซันว่า

    What does not kill me only makes me stronger

    ฟังแล้วรู้สึกฮึดสู้ดีจัง   นิตเช่ มีคำคมจับใจเยอะจังค่ะ  

    ดิฉันจะรอฟังเฉลยต่อไปนะคะอาจารย์  ขอยืนยันว่าไม่ได้เข้ามาทวงเลยนะคะ  แค่มาเรียนอาจารย์กันลืมเท่านั้น      : )       : )

    ขอบพระคุณมากค่ะ

    คุณ lek ครับขอบคุณนะครับ ที่ช่วยแจ้งว่าเรื่องที่เขียนเป็นประโยชน์ ทำให้ผมดีใจครับ  นี่เป็นข้อดีของ blog จริงๆ เพราะสิ่งที่เราเขียนไม่สูญหายไปไหน มีคนได้ประโยชน์จากเขา จะพยายามเขียนเรื่องที่มีประโยชน์อีกนะครับ อ้อ อันที่คุณเล็กเลือกผมก็ชอบครับ คือ ธรรมชาติของตัวผมจะเป็นคนที่ชอบอะไรที่เรียบง่าย (ตัวเองคิดว่ายังงั้น) ทีนี้สิ่งหนึ่งที่มันมากับความเรียบง่ายคือความไม่ชอบเปลี่ยนแปลงอะไร จริงๆ มันก็อาจจะเหมาะกับตัวผมนะครับ แต่หลังๆ ผมชักจะเบื่อมันซะแล้ว หลังๆ เลยจะลองเปลี่ยนดูนะครับ อย่างเขียนบล็อกแบบนี้เนี่ย ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่แน่นอน

    อาจารย์ดอกไม้ทะเล  อยากบอกว่าดีใจจัง (จริงๆ นะครับ) เห็นอาจารย์แวะมา เลยรู้สึกผิดนะครับ ที่ปล่อยให้คนอื่นคิดถึง ในขณะที่ตัวเองไม่เหงาเพราะได้อ่านเรื่องของเขาในบันทึกต่างๆ อยู่เรื่อย  จะพยายามเขียนนะครับ แหมถ้าผมเขียนเรื่องได้ลื่นไหลแบบอาจารย์ก็ดีเนาะ   ระหว่างที่ผมกำลังพยายามเขียนต่อเนี่ย ขอฝากคำคมใหม่ก็แล้วกัน เขาบอกว่า 

    “Some people think it's holding on that makes one strong- sometimes it's letting go.”

     ผมชอบนะ มันขัดกับความรู้สึก แต่พอคิดตาม ก็ใช่แฮะ  คำคมชุดนี้เหมาะเป็นของฝากให้คนที่ยึดมั่นถือมั่น

    อ่านแล้วเหมือนกับจะแย้งกับ open  your  arms to change  but  don  t  let go of  your  values ที่ผมบอกคุณเล็กว่าชอบหรือเปล่าครับ อาจารย์ดอกไม้ทะเล  หรือท่านอื่นคิดว่ายังไงครับ แย้งกันไหมหรือจะมองยังไงให้มันใช้ได้ทั้งคู่ ?

    สวัสดีคะคุณหมอมาโนช    ดีใจคะที่คุณหมอตอบข้อความ   อยากรู้จังเลยคะว่าคุณหมอจะเลือกข้อไหน   อยากให้คุณหมอช่วยแปลเป็นภาษาไทยจะได้ไหมคะ  อย่างที่บอกนะคะว่าภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงนะค่ะ 

    สวัสดีค่ะคุณหมอมาโนช    ประโยค   some  people  think  it s  holding on that  makes  one  strong  sometime  it s  letting  go  เป็นการต่อยอดความคิดมากเลยคะ   ถ้าสองอย่างขัดแย้งกันก็อาจแล้วแต่ละสถานการณ์หรือเปล่าคะว่าเราจะเลือกใช้แบบไหน อาจเหมือนกับ  หยิน-หยาง  หรือเปล่าคะ(คิดไปไกลเลย)   ขาวกับดำผสมกลมกลืนอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัวถึงจะตรงกันข้ามกันอย่างชัดเจนเพื่อจะให้เราอยู่ในโลกใบนี้ได้ซึ่งกลมๆเหมืนกัน                                               

    เรียนคุณหมอ

    เลือกยากนะคะ ...  เลือกแล้วคุณหมอ ดูดวง ให้หรือเปล่าคะ 

    1.

    • A loving atmosphere in your home is the foundation for your life.

     เพราะศรัทธา ยึดมั่นใน ครอบครัวที่อบอุ่น คือ รากฐานของทุกสรรพสิ่ง ... ชอบความเป็นครอบครัวค่ะ

     

    2.
    • Take into account that great love and great achievements involve great risk.

    - มั่นใจในรัก แสวงหาความสำเร็จ แม้ต้องเสี่ยงค่ะ

     

    3.
    • Live a good, honorable life. Then when you get older and think back, you’ll  be able to enjoy it a second time in your life.
    พยายามจะใช้ชีวิต แสวงหาสิ่งดีๆ และทำดี เพื่อ ความภาคภูมิใจ และความสุข ค่ะ  ขอบคุณค่ะ ชอบอ่าน อ่านกี่รอบๆ ก็รู้สึกดีๆ ค่ะ

    สวัสดีค่ะอาจารย์หมอมาโนช

    เอ่อ... แอมแปร์มาดีนะคะ  ไม่ได้มาทวงเฉลยแต่อย่างใด  แค่เข้ามารอฟังเฉยๆ   แถมยังได้อะไรขำๆน่ารักๆติดมือไปอีกต่างหาก

    ความเห็นชวนคิดที่อาจารย์ฝากไว้ล่าสุดคือสองอันนี้ และถามว่าแย้งกันไหม หรือมองยังไงให้ใช้ได้ทั้งคู่  

    “Some people think it's holding on that makes one strong- sometimes it's letting go.”

     Open  your  arms to change  but  don't  let go of  your  values.

    คืองี้นะคะ  แอมแปร์คิดว่าขึ้นอยู่กับปริบท ว่าเราจะเลือกยึดไว้  หรือเลือกปล่อยวาง  แต่ขยายความไม่ถูก เลยขึ้นไปอ่านบันทึกข้างบนของอาจารย์อีก(เป็นหนที่สิบ)  แล้วก็เจอคำคมนี้ .....  เหมือนเป็นคำตอบโดยไม่เจตนา.....

     Remember that silence is sometimes the best answer.

               ......แล้วก็เลยนั่งยิ้มขำอยู่คนเดียวอะค่ะ.... : )

    สวัสดีครับคุณเลข เหมือนหยินกับหยางหรือเปล่า อืม เปรียบเทียบได้ดีจัง ผมชอบครับ เห็นด้วยครับ 

    คุณปูเลือกเหมือนผม 2 ข้อเลย บอกวันเดือนและ "ปี" เกิดมานะครับ จะดูดวงให้ ^__^

    สวัสดีครับอาจารย์แอมแปร์ รู้สึกดีจัง ที่เห็นอาจารย์แวะมาเยี่ยมอีก แถมยังไม่แวะเปล่ายังมายั่วให้ผมยิ้มอีก นี่ยังยิ้มไปพิมพ์ไปเลยนะครับ คือเพิ่งไปฝึกสติมาครับ เขาบอกว่ายิ้มก็ให้รู้ว่ายิ้ม  ให้มองด้วยใจเป็นกลาง อืมกำลังฝึกอยู่ครับเนี่ย

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท