ขจัดความรกมากไป....ใช่ของดี


ฉันจับต้นไผ่ลอกคราบเช่นกัน...แต่ฉันพลาดไป....เพราะพอลอกออกฉันเห็นยอดเล็กๆที่พร้อมจะแตกออก...อาจจะเป็นยอด หรือดอกซะก้อไม่รู้ ดูไม่ออก...

  

ฉันเห็นต้นไม้ใบเหี่ยวเฉาห้อยลง  ยิ่งมีฝนตก  ดูแฉะและรกเหลือเกิน 

 

    <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ฉันจับต้นไม้ที่บ้านทำ 5 ส.  ต้นไหนใบเหี่ยวมากๆก็จับลอกเอาใบแห้งๆออกไป  มองดูแล้วเกลี้ยงเกลา  งดงามขึ้นไม่น้อย…คล้ายจับตัดผม…ดูไม่รกรุงรัง  สะอาดตา</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แล้วฉันก็พานพบต้นไผ่  ทีสามีของฉันปลูกในกระถางมาหลายปี  ตอนนี้ลำต้นสวยงาม  สูงถึงหลังคาบ้านชั้นเดียวของฉันแล้ว….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>    </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ฉันจับต้นไผ่ลอกคราบเช่นกัน…แต่ฉันพลาดไป….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เพราะพอลอกออกฉันเห็นยอดเล็กๆที่พร้อมจะแตกออก…อาจจะเป็นยอด  หรือดอกซะก้อไม่รู้  ดูไม่ออก…กาบใบที่แห้งๆนั้นหุ้มห่อมันอยู่….คงเพื่อเก็บความชื้นไว้ให้ยอดอ่อน…จะได้ไม่เหี่ยวเฉา…แล้วฉันก็มองว่ามันไม่มีประโยชน์…..ไปลอกออกเสียนี่……</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">  </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">    </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>   ฉันจึงเลิกทำ 5 ส.ต้นไผ่…หลังจากลอกซะเกือบหมดกอ….. </p><p>….กอไผ่ทำให้ฉันได้คิด ......  </p><p>นอกจากจะเป็นเรื่องของ</p><p>ความซื่อตรง  ไม่คดงอดั่งลำต้นที่ตรง หรือ</p><p>การเก็บน้ำไว้ตามลำปล้องเพื่อใช้ยามขาดแคลน....สอนให้คนเราต้องรู้จักเก็บหอมรอมริบไว้ใช้ยามวิกฤตของชีวิต...</p><p>และความสามัคคี  ปรองดองกันดุจก่อไผ่ทำให้มันจึงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ แล้วนั้น </p><p></p><p>…5ส.  กอไผ่….ยังสอนฉันว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต….. </p><p>ความคิดรกๆในสมอง  ที่ต้องขจัดออกไปบ้างเพื่อจิตใจที่สบาย....ก็ใช่อยู่    </p><p>.......แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์เสมอไป......</p><p>....ถ้าสะสางซะหมดเกลี้ยง.....ก็จะไม่เหลืออะไรให้เป็นสาระเพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาตนให้ดีขึ้น    </p><p></p><p>(ขอขอบคุณ….พ.อ.หลักแก้ว  อัมโรสถ  ผู้เขียน อ่านซะหน่อย…ถ้าชีวิตต้องการ  แรงบันดาลใจ ค่ะ)</p>

หมายเลขบันทึก: 94780เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2007 09:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 13:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

สวัสดียามเช้า สาย วันหยุด ครับท่านพี่ติ๋ว

 กำจัดคนพาล อภิบาล ฅนดี เอ้ย ไม่ใชหนังจีนครับ (กำลังดูเรื่องดาบมังกรหยก เกือบ สามสิบแผ่นแล้วครับ)

 ผู้นำที่ดี ต้อง หมั่นดูแล ฅนดี ที่เขาพลีให้องค์กร ต้องทะนุถนอม และ ให้เติบโตในทางที่ควรครับ อย่าทำให้ฝ่อ อย่าทำให้ท้อ อย่าล่อให้หลงทาง

เอ เกี่ยวอะไรกันใหมหนอ

สวัสดีค่ะพี่ติ๋ว

      ว่าจะแวะมาดูภาพประกอบ พี่ติ๋วทำ 5 ส ต้นไม้  แต่กลับมาได้เทคนิคดี ๆ ในการเป็นผู้นำที่ดี จาก อ.หมอ JJ แทน

         อย่างงี้เรียกว่า "หนีเสือปะจรเข้" รึเปล่าค่ะ

เอ้ย ไม่ใช่  เขาเรียกว่า "two in one"

เรียนท่านรัตติยา P ป้าด

 เจอ หมี ฅน นะ จะ บอกให้

P 

สวัสดีค่ะ

ทุกๆอย่างที่เห็น เป็นธรรมะสอนใจได้หมดนะคะ ถ้าเราช่างคิด

  • สวัสดีครับ
  • ซึมซับปรัชญาจากบันทึกนี้ได้อย่างลึกซึ้ง
  • พูดถึงต้นไผ่...ผมติดภาพของวรรณกรรมจีน หรือหนังจีนที่มีป่าไผ่เป็นทิวสวย ...หวู่หวิว
  • วันหยุด .แฟนพยายามทำ 5  ส. ที่บ้าน  แต่ไม่เป็นผลนัก  เพราะสองเกลอจอม (ขยันซน)  รื้อและขนมาเททับเล่นอย่างไม่รู้เหนื่อย...
  • เธอเก็บกวาดไป...บ่นไป
  • แต่ก็เชื่อว่า  เธอมีความสุขมาก...
พี่ติ๋วสวัสดีคับ น่าอิจฉา เป็นวันหยุดที่แสนสุข

เรียน ท่านอ.JJ ค่ะ

  • ขอบคุณอาจารย์ค่ะ...วันหยุดยังได้แง่คิดดีๆ...ที่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นมุมมองของท่านผู้บริหารอีกท่านหนึ่งค่ะ...
  • ชอบมากๆค่ะ....ผู้นำที่ดี ต้อง หมั่นดูแล ฅนดี ที่เขาพลีให้องค์กร ต้องทะนุถนอม และ ให้เติบโตในทางที่ควรครับ อย่าทำให้ฝ่อ อย่าทำให้ท้อ อย่าล่อให้หลงทาง
  • ที่สุดแล้ว...ดิฉันจะเป็นคนดีขององค์กรค่ะ....
  • ขอบคุณท่านค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณรัตติยา...ดีใจค่ะที่มาเก็บเกี่ยวเทคนิคผู้นำที่ดีจากท่าน อ.JJ ค่ะ...ไม่ว่าจะกี่เทคนิค....ไม่ว่าจะเกี่ยวกันหรือไม่นั้น....ผู้มีความคิดแตกฉานสามารถมองเห็นให้เป็นประโยชน์ได้ทั้งสิ้นค่ะ....และต่อให้พยายามพูดในเรื่องเดียวกัน ทั้งๆที่เป็นเรื่องเดียวกัน คนไม่พยายามคิดก็จะไม่พยายามคิดค่ะ...ปล่อยให้คนในองค์กรแห้งเฉา...ไม่นานก็จะเน่า เฉาตายไป...อุ๊ย!...คุยกันเรื่องอะไรคะเนี่ย....อิ....อิ....
สวัสดีค่ะ คุณSASINANDA....ใช่เลยค่ะ "ทุกๆอย่างที่เห็น เป็นธรรมะสอนใจได้หมดนะคะ ถ้าเราช่างคิด"....ขอบคุณค่ะ
  • ต้นไม้คงดีใจนะคะ
  • หายใจคล่องซะที

สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน

  • ฉันเองก็พยายามทำ 5ส. ในบ้านหลายรอบก็ไม่เป็นผลค่ะ....ตัดกิเลสที่จะทิ้งของไม่ได้ค่ะ....ไอ้นั่นก็ยังดี   ไอ้นี่ก็ยังใช้ได้...ถ้าหัดคิดว่า...เอาไว้กับเราไม่ได้ประโยชน์  อยู่กับผู้อื่นเกิดประโยชน์กว่า...น่าจะดี
  • ลูกๆยังเล็ก...คงเป็นความสุขของเด็กๆและพ่อ-แม่ค่ะที่ได้เล่นด้วยกัน...ฉันเคยเห็นสามีและลูกๆต่อ Lego ไว้เกลื่อนบ้านแล้วหลับกันกลางกอง Legoนั่นแหละ...ก็มีความสุขอีกแบบค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับวันหยุดนี้ค่ะ
น้องหมู...วันหยุดมามีความสุขด้วยกันค่ะ

พี่ติ๋วขา

ช่วงนี้ว่าง

กำลัง 5 ส หัวใจค่ะ

อิอิอิ

สวัสดีค่ะ พี่แก้ว...จริงด้วยค่ะ...ต้นไม้คงหายใจคล่องขึ้นค่ะ...ติ๋วชอบรถต้นไม้ทั้งใบ คุณตาเคยบอกว่ารดที่โคนต้นก็พอ...แต่ติ๋วบอกว่ามันหายใจทางใบ ถ้าใบสะอาดมันคงหายใจโล่งขึ้น ...คุณตาก็เลยยอม...ขอบคุณพี่แก้วค่ะ
สวัสดีค่ะ น้องอึ่งอ๊อบ...5ส.หัวใจเหรอ...แล้วเหลืออะไรไว้บ้างหน้อ.....เหลือ "รักล้นใจ" ใช่ไหมคะ....อิ...อิ...
  • เคยจับต้นไม้ลอกคราบให้ดูดี น่ารักเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนั้นไม่ได้เรียกว่า 5 ส. และไม่มีความรู้ผุดบังเกิด กรณี "5 ส. กอไผ่" อย่างคุณพี่กฤษณาค่ะ
  • ต้องขอขอบคุณสำหรับแง่คิดที่ว่า

    ความคิดรกๆในสมอง  ที่ต้องขจัดออกไปบ้างเพื่อจิตใจที่สบาย....ก็ใช่อยู่   

    .......แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์เสมอไป......

    ....ถ้าสะสางซะหมดเกลี้ยง.....ก็จะไม่เหลืออะไรให้เป็นสาระเพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาตนให้ดีขึ้น    

สวัสดีค่ะ คุณดอกปีบ

  • ความคิดแตกยอดของคนเรามีอยู่มากมายค่ะ...อยู่ที่ว่าเราจะจำแล้วนำมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆฟังหรือไม่เท่านั้นเอง
  • ตัวคุณดอกปีบก็มีความคิดดีๆมากมายค่ะ...ดิฉันเห็น
  • วันนี้สามีดิฉันเพิ่งเห็นว่าฉันลอกคราบต้นไม้..เธอบอกว่ากอไผ่สวยขึ้นเยอะเลย  จะซื้อกระถางใหม่มาใส่ให้....เอาของรกออกไป....สดใสขึ้นเป็นกองค่ะ...และโชคดีที่ยอดอ่อนนั้นยังไม่ตาย...แตกเป็นดอกค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ
  • เข้ามาบันทึกนี้โดยคลิกคีย์เวิร์ดคำว่า แรงบันดาลใจ ครับ เพราะสนใจเรื่องนี้ เห็นว่าเรื่องแรงบันดาลใจสำคัญมากครับ
  • ขอชมว่าบล็อกสวยครับ
  • ภาพที่ถ่ายมาประกอบบันทึกก็ดูดีด้วย สื่อความหมาย
  • จะติดตามอ่านครับ
  • อยากให้เล่าเรื่องงานบ้างครับ เพราะโลกของพยาบาลดมยา คนนอกจะไม่ค่อยรู้ (รวมทั้งผม) แม้แต่คนไข้ก็คงไม่รู้เพราะพยาบาลดมยาคงอยู่กับเขาตอนเขาสลบ พอเขาฟื้นก็ไม่พบหน้าเราแล้ว (เป็นอย่างนั้นหรือเปล่าครับ) ดูท่าความรับผิดชอบจะสูงนะครับ แต่คนไม่รู้จัก เหมือนปิดทองหลังพระหรือเปล่าครับ

เรียน ท่านอ.สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์ ค่ะ

  • ขอบพระคุณที่อาจารย์แวะมาเยี่ยม  กล่าวชม และยินดีที่ได้รู้จักอาจารย์ค่ะ...ทำให้มีกำลังใจขึ้นมากๆเลยค่ะ
  • ...ภาพที่อาจารย์เล่ามานั้น....เป็นภาพของวิสัญญีพยาบาลโดยแท้เลยค่ะ....กลุ่มงานเหล่านี้ยืนทำงานอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของแพทย์ผ่าตัดหรือวิสัญญีแพทย์...รับผิดชอบสูงมากค่ะ  แต่แปลกค่ะไม่มีกฎหมายรองรับให้ประกอบวิชาชีพเองได้  ทั้งๆที่เป็นพยาบาลที่ถูกจับฝึกฝนอบรมต่อโดยแพทย์ 1 ปีเต็มๆ...พอที่จะดมยาสลบรายผู้ป่วยง่ายๆได้  ไม่ให้ต้องเป็นภาระของวิสัญญีแพทย์(ที่บ้านเราขาดแคลน)มากไป
  • .....ในรพ.ของรัฐดมยาสลบได้(ภายใต้ความรับผิดชอบของวิสัญญีแพทย์หรือศัลยแพทย์ค่ะ)...แต่รพ.เอกชนไม่ให้ดมยาสลบแม้แต่รายผู้ป่วยง่ายๆที่ รพ.รัฐเคยดมยาได้ยากกว่า.... (โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากให้พยาบาลเสี่ยงกับการถูกฟ้องร้อง)
  • ....นี่คือ.."แรงบันดาลใจค่ะ"....ที่ทำให้ดิฉันอยากออกมาเล่าให้ทราบว่า   มีคนอีกกลุ่มหนึ่ง...คือ"วิสัญญีพยาบาล"ที่ให้การดูแลผู้ป่วยดมยาสลบ(ในรพ.ของรัฐ)...แม้ไม่มีใครรู้จัก....และมิได้ให้ค่าตอบแทนอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นเลย...ทำกันด้วยใจโดยแท้ค่ะ...
  • ดิฉันเขียนบันทึกเรื่องงานบ้างในบทบาทของวิสัญญีพยาบาลที่ทำอยู่เองจริงๆใน รพ.มหาวิทยาลัยของรัฐค่ะ...เพียงเพื่อให้คนรู้จักวิสัญญีพยาบาลบ้างเท่านั้นค่ะ ...มิได้มีเจตนาจะยกเทียบเคียงแพทย์ซึ่งทำไม่ได้อยู่แล้วเพราะบางโรค  บางหัตถการยากเกินความสามารถและอาจเกิดความเสี่ยงกับผู้ป่วยค่ะ
  • ขอบพระคุณที่แวะมาจุดประกายและเพิ่มแรงบันดาลใจให้ดิฉันและผู้ร่วมวิชาชีพวิสัญญีพยาบาลค่ะ
  • ดิฉันเขียนบันทึกเรื่องงานไว้ที่ "ตามรอย..ดมยารายวัน..."  และ "คุณภาพบริการวิสัญญี" ค่ะ  ถ้าอาจารย์พอมีเวลา...ก็เชิญอ่านดูได้ค่ะ  (บางคราวแถมบันทึกตลก..ใน  ตลกวันละนิด...จิตแจ่มใสด้วยค่ะ...เพื่อลดความเครียด)
  • ขอบพระคุณค่ะ
  • ขอบคุณมากครับ
  • ผมเข้าไปอ่านบล็อก "ตามรอย..ดมยารายวัน" แล้วครับ แม้ยังไม่ได้อ่านทุกบันทึก แต่จะอ่านต่อไปหากเวลาอำนวย
  • ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการอ่าน คือ นี่เป็นบล็อกที่ดีที่สุดบล็อกหนึ่งทีเดียวในความคิดผม ดีอย่างไร? ดีตรงที่ใช้ภาษาเข้าใจง่าย อาจมีศัพท์แสงของวิชาชีพอยู่บ้างแต่เราก็ข้ามไปได้เพราะ "เรื่องราว" สื่อมาถึงคนอ่าน(อย่างผม)ครบถ้วน อีกทั้งยังใช้ภาพประกอบที่ถ่ายอย่างมีคุณภาพอีกด้วย แถมยังมีวิสัญญีแพทย์ช่วยถ่ายด้วย
  • ฟังเรื่องเล่าแล้วได้ความรู้สึกว่า รพ.ศรีนครินทร์ แพทย์-พยาบาลมีความสามัคคี ให้ความเป็นกันเองกันดีนะครับ หมอเรียกพยายาลว่า "พี่" แทนที่จะเป็น "คุณ" นั่นคือเขาเคารพความอาวุโสด้านวัยวุฒิตามธรรมเนียมไทย และคงเคารพประสบการณ์ของพยาบาลอยู่บ้าง (จากเรื่องเล่าบ้างเรื่อง)
  • อ่านเรื่องที่คุณกฤษณาทักหมอ ที่เจาะคอผู้ป่วย(น้ำหนักร้อยกว่ากิโล) แล้วนึกถึงเรื่องที่เคยอ่านเมื่อปีหรือสองปีก่อนในรีดเดอร์ไดเจส เป็นเรื่องของแพทย์คนหนึ่ง เป็นชาวผิดดำในอาฟริกา ที่ไม่เคยเข้าโรงเรียนแพทย์เลย แต่ได้ปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแพทย์ โดยเริ่มต้นจากการเป็นคนทำสวนในโรงพยาบาล ถูกเรียกมาช่วยงานในห้องผ่าตัดเพราะมีกรณีฉุกเฉิน การช่วยครั้งนั้นทำให้หมอติดใจและเรียกให้ช่วยอยู่เรื่อย จนภายหลังสามารถจำชื่อเส้นเลือด ชื่ออวัยวะภายในต่างๆ ได้หมด จนได้ช่วยสอนนักศึกษาแพทย์เรื่อง Anotomy (ที่แม่นยำมาก จนนักศึกษาเรียกอาจารย์) และแพทย์ผ่าตัดทุกคนก็อยากให้เขาช่วย เพราะถ้าเขาทักว่า "หมอกำลังจะตัดเส้นเลือดผิดเส้นแล้ว" หรือ "ลึกไปแล้ว" หรือ "เข้าไปอีก" หรือ "เย็บแค่นี้พอแล้ว" ถ้าหมอไม่เชื่อมักเสร็จ(ตาย)ทุกราย จากคนที่ไม่เคยได้รับการศึกษาเป็นเรื่องเป็นราว แม้การศึกษาพื้นฐานในระบบจนได้ปริญญาแพทย์ เป็นเรื่องของโอกาส ประสบการณ์จากการปฏิบัติ และตัวเขาเองคงมี "แรงบันดาล" บางอย่างในการทำงาน และคงต้องมีความ "เชื่อมั่นในตัวเอง" กับความ "กล้าหาญ" พอสมควร จะลองไปค้นดูว่าหนังสือเล่มนี้จะโละไปแล้วหรือยัง เพราะเพิ่งทำ "๕ ส." ที่บ้านเช่นกันครับ

เรียน ท่านอ.สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์ ค่ะ

  • ดิฉันต้องขอประทานโทษอาจารย์ค่ะ  ที่มิได้เข้ามาตอบเนื่องจาก network ตั้งแต่ศุกร์ที่ผ่านมาเข้าไม่ได้เลย...ที่บ้านก็เสียค่ะ.....
  • ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะที่กรุณา....ให้กำลังใจและนำข้อมูลมาเล่าเพื่อแลกเปลี่ยนให้ดิฉันเกิดแรงบันดาลใจขึ้นอีกมากๆค่ะ...อยากจะค้นคว้า...อยากอ่าน...อยากหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอด....แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดเพราะต้องดูแลผู้ป่วยตั้งแต่เช้าจนเย็น....มีเวลาช่วงหลัง 16.30 น.ถึงประมาณ 18.30 น.ซึ่งก็ได้รับความกรุณาจากสามี(เบียดบังเวลาครอบครัว)ที่เธอไม่เร่งเวลากลับบ้าน...ทำให้พอมีเวลาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่พอมี....คืนสู่สังคมบ้างค่ะ...
  • ดิฉันอาจจะเล่าไม่เก่งนัก...แต่อาศัยว่าคิดอย่างไรก็เล่าอย่างนั้น...จึงอาจจะดูห้วนไปบ้างในบางครั้งค่ะ
  • โดยส่วนตัวนั้น...ดิฉันเองพบว่า รพ.ศรีนครินทร์ แพทย์-พยาบาล... ให้ความเป็นกันเองกันดีจริงๆค่ะ...อาจจะเนื่องจากดิฉันอยู่ รพ.นี้ตั้งแต่บางอาจารย์ยังเป็น นศพ....และดิฉันจะให้เกียรติแพทย์ทุกท่านเสมอ...เข้าใจว่าบางครั้งภารกิจ  ความรับผิดชอบก็ทำให้บทบาทท่านต่างไป  จึงต้องช่างสังเกตสักหน่อยเมื่อต้องมีการปฏิสัมพันธ์กัน...
  • ขอบพระคุณอาจารย์ ...ที่นำเรื่องเล่า....ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งกับดิฉันมาเล่าให้ทราบ...สิ่งที่ทำอยู่แม้เป็นเพียงงานที่อยู่เบื้องหลัง..ก็เป็นงานที่ดิฉันภาคภูมิใจกับมันเสมอค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท