ในช่วงเวลา 17 วันที่ผมได้ไปทัศนศึกษาที่ออสเตรเลียถือว่าเป็นช่วงที่มีคุณค่ามากต่อการเติมความรู้และประสบการณ์โดยเฉพาะหมอบ้านนอกอย่างผมที่ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนัก ทำงานกับกระทรวงสาธารณสุขมา 13 ปีก็ยังไม่เคยได้ไปดูงานต่างประเทศโดยกระทรวงสาธารณสุขเลย ที่ได้ไปสองสามครั้งจะเป็นจากหน่วยงานอื่นทุกครั้ง แต่ช่วงเวลาดังกล่าวก็ได้เสียโอกาสในเรื่องสำคัญๆ 3 เรื่องคือไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการประกวด 5 ส ดีเด่นระดับประเทศครั้งที่ 4 ที่โรงพยาบาลเข้ารอบ 5 ทีมสุดท้ายเมื่อ24-25 พฤศจิกายน ไม่ได้เข้าร่วมประชุมกรรมการพัฒนาคุณภาพPCUของกระทรวงเมื่อ 28 พฤศจิกายนที่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับเกียรติให้เป็นกรรมการและไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติเมื่อ1-2 ธันวาคมที่ผ่านมา รวมทั้งไม่ได้อวยพรวันครบรอบ 3 ขวบลูกชายโดยตรงต้องผ่านทางโทรศัพท์
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่เสียโอกาสคือกลับมาถึงในวันที่ 3 กลางคืน ทำให้วันที่ 4 ธันวาคมได้รับฟังพระบรมราโชวาทของพระเจ้าอยู่หัวทางวิทยุและรับชมการถ่ายทอดทางโทรทัศน์เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 78 ชันษาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และได้เข้าร่วมงานพิธีที่จัดทั้งในภาคเช้าและภาคค่ำที่อำเภอบ้านตาก ซึ่งตั้งแต่ผมทำงานมาก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมทุกปีไม่เคยขาด
พระบรมราโชวาทของในหลวงในวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปีจึงเป็นคำสอนของพ่อที่ปวงชนชาวไทยพึงนำไปยึดถือปฏิบัติ ในปีนี้ผมได้รับฟังถึงสองรอบจากวิทยุและจากโทรทัศน์ คำสอนของพระองค์ท่านที่เปรียบเสมือน พ่อของแผ่นดินไทย เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งสำหรับคนไทยทุกคน ผมขอนำบางส่วนของพระบรมราโชวาทมานำเสนอในที่นี้
The king can do no wrong เป็นข้อเตือนใจว่าผู้บริหารทุกคนต้องพร้อมรับฟังคำวิจารณ์ คำติชม เมื่อเป็นคนสาธารณะให้ระวังสายตาคนเศรษฐกิจพอเพียง เน้นย้ำให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างพอดี เหมาะสม รู้จักขวนขวยด้วยตนเอง มองไปในอนาคต ใช้เงินอย่างมีประโยชน์ โดยเฉพาะเงินของแผ่นดินต้องทำให้ประชาชนได้กำไร
แก้มลิงแก้มคน เน้นให้รู้จักระวังคำพูด ถ้าพูดแล้วไม่มีประโยชน์ก็ให้เก็บไว้
พระบรมราโชวาทของในหลวงทุกปี ทุกโอกาสจึงเป็นคำสอนของพ่อที่คนไทยทุกคนพึงตระหนักและนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง