เช้าของวันนี้ อากาศเย็นสบาย ลมโชยพัดแผ่วอ่อนอยู่อย่างไม่ขาดสาย ... ผมตื่นเช้าเหมือนทุกเช้า มานั่งอ่านบันทึกและเตรียมเอกสารบางอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกของงานในเช้าวันใหม่
ระยะทางจากที่พักไปถึงสำนักงานน่าจะไม่เกิน 800 เมตร ...โดยเส้นทางที่ทอดตัวจากที่พักไปสู่สำนักงานก็ประดับด้วยต้นคูนที่ปราศจากช่อดอกใด ๆ เพราะบัดนี้ ดอกคูนทั้งหลายนั้นได้บอกลาฤดูกาล - ร่วงโรยไปแล้วพักใหญ่ ๆ
วันนี้ "เพื่อนชีวิต" ของผมเอ่ยขอติดรถไปด้วยคน โดยเธออ้างว่า เมื่อยขาเหลือเกิน ถีบจักรยานไปทำงานไม่ไหวแล้ว... (ไม่อยากบอกเลยว่า คุณเธอเพิ่งจะถีบวันเดียวเองนะครับ...น้ำหนักยังไม่ลด ก็ถอดใจเสียแล้ว..)
ก็แหงล่ะ.... เจ้านายมาในแผนนี้ มีเรอะ พนักงานขับอย่างผมจะหาญปฏิเสธ เลยต้องรีบลงไปสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำรออยู่เบื้องล่าง
ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากที่จอด ภาพชินตาอันเป็นกิจวัตรในรถก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เธอ... ควักลิปสติกแสนสวยออกมาหนึ่งแท่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองกระจกใบเล็กในรถ และทุกอย่างก็ดำเนินไปเหมือนอย่างที่เคย...และเคยมาแสนนาน
ผมแอบนึกหยิกเธออยู่ในใจอย่างเงียบ ๆ ว่า ทำไมน่ะ ผู้หญิงถึงชอบแต่งสวยในรถซะเหลือเกิน ถ้าแม้นผมจะลองเหยียบเบรคแรง ๆ ขึ้นมาสักหนจะเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้างนะ.... (ใครเคยมีประสบการณ์แล้ว ช่วยกรุณาบอกกล่าวหน่อยนะครับ)
ครั้นขับไปได้สักครู่...
เธอนึกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ หันมายิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มที่ผมไม่ใคร่จะคุ้นเคยนัก พร้อมทั้งเปรยออกมาอย่างนวลนุ่มและเป็นกันเองว่า
"อยากให้ผู้หญิงมารักผมเยอะ ๆ....จังเลย"
พลันนั้น - ภวังค์นั้น ผมงงเป็นไก่ตาแตก นานาความคิดผุดพรายขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น "ผมขี้เหร่ถึงขั้นอาภัพรักแล้วเหรอเนี่ย.. ! หรือพราะบัดนี้เธอคนนี้ได้สิ้นรัก สิ้นเสน่หาผมแล้วหรือไรเล่า ?" ....( และอื่น ๆ อีกมากมายที่ล้วนแล้วแต่ไม่เข้าข้างผมเอาซะเลย)
ผมรวบรวมความกล้าขึ้นอีกครั้ง หันไปสบตาเธอด้วยสายตาเหมือนเมื่อแรกรักและแรกจีบ ! แต่ไม่วายสร้างสถานการณ์ขึ้นมากลบเกลื่อนอย่างเหนือชั้น พร้อมทั้งส่งคำถามถามกลับไปด้วยถ้อยทีที่แฝงน้ำเสียงอันอหังการว่า
"ตกลงให้มีกิ๊กได้แล้วใช่ไหม ?"
เธอยังยิ้มเหมือนเคย และยิ้มด้วยรอยยิ้มเดิมเหมือนเมื่อครู่อย่างไม่ผิดเพี้ยน พร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นและฉะฉาน (คมชัดลึก) ประหนึ่งเตือนสติผมอีกครั้งก่อนจะเตลิดไปไกลว่า ""เปล่าหรอก.. แค่ต้องการให้ผู้หญิงมารัก แต่ไม่ได้หมายถึงให้ไปรักผู้หญิงเหล่านั้น ซะหน่อย ! "
ผมขานรับในใจอย่างเงียบ ๆ ... (กลืนน้ำลายลงคอ) ก็เธอเป็นผู้หญิงใจดี ..แต่โมโหร้ายในเรื่องพรรค์นี้
เอาน่า ..ตอนแรกทำเอาผมตกใจ นึกว่า เธอไม่รักผมเสียแล้ว...
นี่คือความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอกับฉันในเช้าที่สดใสในโลกคนทำงานที่นาน ๆ จะพูดถึงเรื่องพรรค์นี้...