เรื่องมันมีอยู่ว่า... เมื่อเช้านี้ด้วยที่ทุกเช้าผมต้องต่ออายุตัวเองด้วยอาหารว่างเป็นประจำ นั่นก็คือกาแฟกับปาท่องโก๋ แต่วันนี้ร้านประจำดันปิดซะนี่... ด้วยความเคยชิน ยังไงต้องหาซื้อให้ได้... เดินเข้าไปในตลาด เดินดุ่ย ๆ ก็ไปเจอร้านปาท่องโก๋อยู่ร้านหนึ่ง อยู่ในซอยลึกมาก....
เป็นร้านเก่า ๆ คนขายเป็นอาแป๊ะแก่ ๆ อายุมาก... แล้ว
ผมก็สั่ง... “ปาท่องโก๋” 10 บาท “ซาลาเปา” 10 บาท ฮ่า ฮ่า... (งงสิครับท่าน ดันสั่งซาลาเปา ก็ไอ้ที่วางคู่กับปาท่องโก๋มันมีรูปร่างเหมือนซาลาเปานี่... ผมก็เรียกซาลาเปาดิ ผิดตรงไหน) สรุปวันนั้นไม่ได้กินซาลาเปาที่ผมว่าหรอก ได้ปาท่องโก๋มา 20 บาทเลย... คือไหน ๆ เขาก็ใส่ถุงให้แล้วไม่อยากไปเปลี่ยนน่ะ...
กลับมาถึงบ้าน... ก็ด้วยความสงสัยอีกเช่นเคย... พอถึงที่ทำงานก็ก็หาข้อมูลเลยด้วยความสงสัยว่า ไอ้ที่วางคู่กลับปาท่องโก๋น่ะมันเรียกอะไรกันแน่...
เจอแล้ว... เจอแล้ว... โอ้ อะไรกันนี่ ไม่น่าเชื่อเลย... ที่มาของปาท่องโก๋
มันมีเรื่องอยู่ว่า......
คนจีนแต้จิ๋วในสมัยก่อน... มักจะขายขนมทอดน้ำมัน อยู่ 2 แบบ คือ “ปาท่องโก๋” ซึ่งทำจากแป้งสาลีก้อนกลม ๆ ส่วนอีกแบบหนึ่งที่เป็นชิ้นยาว ๆ ติดกัน เขาเรียกว่า “อิ๊วจาก๊วย” ต่างหาก... (เอาหละสิงงกันใหญ่) แต่เมื่อคนขายมักขายคู่กันแล้วตะโกนบอกชื่อ อิ๊วจาก๊วยกับปาท่องโก๋ ไปพร้อม ๆ กัน แต่คนได้ยินปาท่องโก๋ชัดกว่า จึงเข้าใจว่าไอ้ที่ขายอยู่น่ะเรียกว่า “ปาท่องโก๋” ทั้งคู่ (และแล้วพี่ไทยเราก็เรียกเพี้ยนตามเคย) แล้วต่อมาขนมที่เป็นก้อนกลม ๆ นั้นขายไม่ค่อยดีก็เลยไม่ค่อยทำกัน... ก็เหลือแต่ขนมที่เป็นชิ้นคู่กัน คนไทยก็ยังเรียกปาท่องโก๋เหมือนเดิม (อิ อิ) และแล้วคนไทยก็เรียกขนมที่เป็นชิ้นคู่กัน ว่า “ปาท่องโก๋” เรื่อยมา....
ยังไม่หมดนะ... แล้วรู้ไหมว่าเจ้า “อิ๊วจาก๊วย” เกิดขึ้นมาเป็นขนมอย่างไร.... คือเรื่องมันมีอยู่ว่า !!!
เมื่อก่อนนั้นในประเทศจีนสมัยก่อน... มีนายทหารชื่อ “งักฮุย” รับราชการในสมัยพระเจ้าเกาจง ว่ากันว่า งักฮุยเป็นทหารที่ซื่อสัตย์ เข้มแข็ง และมีความสามารถในการปราบกบฏมากมาย จึงทำให้เป็นที่รักใคร่ของประชาชนเป็นจำนวนมาก.....
ต่อมางักฮุยได้ยกทัพไปทำสงครามกับพวกกิม ซึ่งเป็นชนชาติที่ร่อนเร่พเนจรอยู่ระหว่างเขตแดนจีนกับเกาหลี เมื่อการสู้รบเกือบจะชนะ อยู่ ๆ พระเจ้าเกาจงก็รับสั่งให้ยกทัพกลับ เพราะมหามนตรีชื่อ “ฉิ่งไขว่” แอบไปสวามิภักดิ์กับพวกกิม คอยยุยงให้พระเจ้าเกาจงยุติสงคราม
เมื่องักฮุยกลับจากสงครามก็ถูกฉิ่งไขว่และพรรคพวกใส่ร้ายป้ายสี หาว่าเป็นกบฏ ในที่สุดงักฮุยก็ถูกจับจองจำ แต่ก็รอดมาได้เพราะไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะไม่เป็นความจริง.... ฉิ่งไขว่จึงบอกให้พัสดีเรือนจำสังหารงักฮุยซะ...
ทันทีเมื่อมีข่าวการตายของ “งักฮุย” ซึ่งเป็นวีรบุรุษของประชาชน ประชาชนชาวจีนจึงโกรธแค้นอย่างหนัก จึงมีการแอบประท้วงด้วยการนำแป้งสาลีมาปั้นเป็นชิ้นสองชิ้นติดกัน และจินตนาการว่าเป็นเนื้อของฉิ่งไขว่และภรรยา แล้วนำมาทอดด้วยน้ำมันร้อน ๆ ของไฟแค้น.... แล้วเรียกอาหารนี้ว่า “อิ๊วจาก๊วย” นั่นเอง...
โอ้... นี่หรือประวัติศาสตร์ “ปาท่องโก๋” พาเล่นซะงงเลย.... แต่ยังไงผมก็คงจะเรียกปาท่องโก๋ตามเดิมแหละ อิ อิ