ชีวิตที่พอเพียง : 266. วิ่งออกกำลังกายที่ชายหาด


         วันที่ ๖ - ๗ เม.ย. ๕๐ ผมไปร่วมประชุมวางแผนยุทธศาสตร์โครงการ R2R ของศิริราช ช่วงที่ ๒     ที่โรงแรม ลองบีช การ์เด้นท์ รีสอร์ทแอนด์สปา พัทยา      โรงแรมนี้อยู่ก่อนถึงพัทยาเหนือ     ภรรยาบอกว่าเขาเรียกหาดวงศ์อมาตย์     เป็นโรงแรมที่คนต่างชาติมาพักมาก ทั้งฝรั่งและคนจีน     มองจากห้องพักเลขที่ ๑๒๓๗ เห็นชายหาดเป็นอ่าวสวยงามมาก

         ตื่นเช้าขึ้นมา ผมก็ออกไปวิ่งตามความเคยชิน     สัมผัสแรก บอกตัวเองว่าชายหาดสะอาดขึ้นมาก    ผมวิ่งขึ้นเหนือพร้อมกับชื่นชมทิวทัศน์ความงาม     ทั้งในทะเลที่เขากั้นบริเวณให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ     มีป้ายของเมืองพัทยาแนะนำวิธีปฏิบัติตัวเพื่อความปลอดภัย     ผมชื่นชมมากที่บ้านเราพัฒนาบริการสาธารณะขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

         แต่วิ่งไปจนสุดอ่าวทางทิศเหนือ ตรงที่มีโขดหินอยู่     ความรู้สึกชื่นชมของผมก็เหี่ยวลง      เพราะมีลานหินซีเมนต์สร้างล้ำชายหาดเข้ามาอย่างน่าเกลียดมาก      ผมเองคงจะละอายไม่กล้าทำเช่นนั้น ถ้าพื้นที่ชายหาดนั้นเป็นของผม (ซึ่งไม่มีวันเป็นจริง)      ผมดูชื่อตรงป้ายเล็กๆ ที่เขาติดไว้แสดงความเป็นเจ้าของ      เป็นคอนโดมิเนียม แต่ผมลืมชื่อเสียแล้ว     ชื่อออกทำนอง Exclusive Condominium III     ชื่อท้าย คือ Condominium III นั้นจำได้แน่     แต่ตัวหน้าไม่แน่  

         วิ่งกลับไปตามชายหาดไปทางทิศใต้     ก็มีโรงแรมและคอนโดเรียงรายตลอด     ริมชายหาดมีกลุ่มร่มและเสื่อปูใต้ร่ม     ลักษณะน่าจะเป็นบริการนวดที่ชายหาด    ผมชื่นใจที่นวดแผนไทยได้รับการฟื้นฟูส่งเสริม    กลายเป็นอาชีพที่ดี และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้คนจำนวนมาก    แต่ตอนนั้นที่ชายหาดยังไม่มีคน เพราะยังเช้ามืด เพิ่งสว่าง     วิ่งไปจนเกือบสุดทางของอ่าวนี้ก็พบอีกแล้ว     มีรั้วก่อสร้างสีเขียว บริเวณกว้างมาก     บางส่วนสร้างล้ำเข้ามาที่ชายหาดอย่างน่าเกลียด     ผมถามชายหนุ่มนักบริการเรือแก่นักท่องเที่ยวได้ความว่าเป็นบริเวณก่อสร้าง ห้าง เซ็นทรัล

         ผมถ่ายรูปแล้ววิ่งต่อไปพร้อมถามตัวเองว่า     ความละอายอยู่ที่ไหน    ถ้าบริษัทใหญ่ๆ ไม่ละอายที่ตนรุกล้ำที่สาธารณะ    บ้านเมืองของเราในอนาคตจะเป็นอย่างไร     สภาพที่บริษัทใหญ่ๆ คนรวยล้นฟ้า ต่างก็มุ่งแต่ประโยชน์ตน ขาด Social Responsibility  ก็เดาได้ว่าบ้านเมืองของเราจะร่มเย็นเป็นสุขได้ยาก     แม้จะทันสมัย     แม้จะมีความก้าวหน้าทางวัตถุ     แต่สังคมจะตกต่ำทางจิตใจ    สังคมจะร่มเย็นเป็นสุขได้อย่างไร  

         น้องผู้ชายที่ริมหาดบอกว่า "เขาคงล้อมรั้วตามโฉนดมั้ง"      ซึ่งก็อาจจะจริง     แต่ผมก็เกิดคำถามอีกว่า     แล้วเจ้าหน้าที่กรมที่ดินออกโฉนดอย่างนั้นได้อย่างไร     หรืออาจเป็นเพราะชายหาดมันเคยอยู่ไกลออกไปมาก     แล้วโดนน้ำเซาะเข้ามา     ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามว่ากติกา ที่เรียกว่ากฎหมายที่ดินชายหาดของเราทันสมัยหรือไม่     เป็นกฎหมายที่ให้หรือเอื้อประโยชน์สาธารณะ หรือเอื้อประโยชน์ส่วนบุคคลมากกว่า      ผมอยากให้ชายหาดซึ่งเป็นที่สาธารณะ มีความสวยงาม     ไม่ถูกรุกล้ำเข้ามาเป็นช่วงๆ     ผมมองว่าสภาพที่ชายหาดถูกรุกล้ำเข้ามาเป็นบางช่วง     และช่วงนั้นเป็นสมบัติของคนรวยหรือของบริษัทขนาดใหญ่     เป็นสัญญาณหายนะของสังคมหรือของบ้านเมือง      แสดงว่าคนที่ได้เปรียบอยู่แล้วในสังคม เอาแต่ประโยชน์ตน     ไม่มียางอายในด้านการถูกมองว่าเอาเปรียบสังคม     สังคมที่คนชั้นนำไม่มียางอายจะเป็นอย่างไรในอนาคต เราคงพอเดาออก

          ผมได้วิ่งออกกำลังกายเต็มอิ่ม     และได้คำถามต่อสังคมเต็มอิ่มด้วย     เป็นคำถามเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่าง     "อยู่เย็น เป็นสุข"

                        

        อ่าววงศ์อมาตย์ด้านทิศใต้ ถ่ายจากห้องพักบนโรงแรม

                        

        ชายหาดสะอาด  มุมทิศใต้ของอ่าววงศ์อมาตย์ยามเย็น

                        

อ่าววงศ์อมาตย์ทั้งอ่าว ถ่ายจากสุดอ่าวทางเหนือ  ตรงโขดหินนี้แหละที่คอนโดสร้างล้ำชายหาด

                        

                       คอนโด สร้างลานซีเมนต์ล้ำชายหาด

                        

งามชายหาด คู่กับทรามชายหาด (ทรามชายหาด คือรุกล้ำที่สาธารณะชายหาด)

                        

          อีกหนึ่ง ทรามชายหาด    บริเวณก่อสร้างห้าง เซ็นทรัล

                        

อีกมุมหนึ่ง ของ ทรามชายหาดวงศ์อมาตย์  บรเวณก่อสร้างห้าง เซ็นทรัล

                        

ผมชื่นชมป้ายนี้มาก    และคิดว่าจะยิ่งน่าชื่นชมเมืองพัทยา หากมีป้ายชี้ชวนให้ช่วยกันทำให้ชายหาดสาธารณะมีทิวทัศน์เป็นธรรมชาติ ไม่มีสภาพ ทรามชายหาด

                        

ได้ยลทรายสะอาด หินงาม น้ำใส เป็น งามชายหาด ที่ให้ความสุขที่พอเพียง

วิจารณ์ พานิช
๘ เม.ย. ๕๐

หมายเลขบันทึก: 92888เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2007 15:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ใช่ครับ
   เมื่อ คนที่ได้เปรียบอยู่แล้วในสังคม คิดเอาแต่ประโยชน์ตนอย่างไม่มียางอาย ไม่ใส่ใจคนส่วนใหญ่  ไม่นานเท่าไร ความเดือดร้อนวุ่นวายจะตามมาครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท